เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นตัวท็อปทั้งคู่ สเปคต่างกันแค่ไหน

เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นตัวท็อปทั้งคู่ สเปคต่างกันแค่ไหน

จากการเปิดตัว Samsung Galaxy S24 Ultra ไปเมื่อช่วงต้นปี 2024 ตอนนี้ก็ถึงคราวของฝั่ง Apple ที่ล่าสุดก็ได้เปิดตัว iPhone 16 ออกมาครบแล้วทั้ง 4 รุ่นและพร้อมวางขายในวันที่ 20 กันยายน 2024 นี้แล้ว แน่นอนว่ารุ่นท็อปของซีรีส์นี้ก็คือ iPhone 16 Pro Max ที่ได้อัพเกรดสเปคในหลายๆ ด้านตั้งแต่หน้าจอ ชิปประมวลผล กล้อง และอื่นๆ ที่ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตัวท็อปของทั้งสองแบรนด์หลักที่ทำออกมาห่างกันต้นปีกับปลายปีจะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra ว่าทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันมากน้อยแค่ไหนไปดูกันเลย

• เปรียบเทียบรูปแบบดีไซน์ตัวเครื่อง
• เปรียบเทียบหน้าจอ
• เปรียบเทียบชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
• เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
• เปรียบเทียบแบตเตอรี่และราคา

สรุป iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นไหนเหมาะกับใคร

ไทเทเนียมเหมือนกัน แต่มีดีต่างกัน

เริ่มต้นการเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra กันด้วยดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ซึ่งทั้งสอรุ่นนี้มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม และกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 ทั้งคู่ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกันแล้ว โดยตัว iPhone 16 Pro Max นั้นยังคงมีดีไซน์เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่มีขอบเครื่องโค้งมนใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมเกรด 5 มีพื้นผิวด้านความทนทานสูง ส่วนโครงสร้างภายในควบคุมความร้อนด้วยอะลูมิเนียมและกระจกด้านหลังให้กระจายความร้อนได้ดีขึ้น ส่งผลให้รุ่นนี้มีน้ำหนักที่เบากว่า อีกทั้งยังบางกว่า นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Action และ Camera Control ใหม่ด้วย

ส่วนทางด้านของ Samsung Galaxy S24 Ultra ที่มีตัวเครื่องเป็นไทเทเนียมเหมือนกัน แต่การออกแบบตัวเครื่องจะมีขอบโค้งและบน-ล่างแบนแบบผิวด้าน ส่วนตัวเครื่องนั้นจะมีขนาดใหญ่และหนากว่า รวมไปถึงน้ำหนักที่มากกว่าด้วย ส่วนปุ่มด้านข้างนั้นยังคงเป็นปุ่ม Power และปุ่มเปิด-ปิดเสียงเหมือนเดิม พร้อมกับเลนส์กล้องหลังแบบฝังไปกับตัวเครื่อง ที่สำคัญก็คือมีปากกา S-Pen อยู่ในตัวพร้อมให้จดบันทึก หรือว่าขีดเขียนได้ทันทีที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสีให้เลือกเยอะกว่าด้วยในตอนนี้

จอใหญ่เจอจอใหญ่กว่าเข้าแล้ว

เปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra กันที่จุดสำคัญอีกหนึ่งจุดนั่นก็คือหน้าจอจากเดิมที่ Galaxy S24 Ultra นั้นมีจอที่ใหญ่กว่ามาเสมอ ล่าสุดในตอนนี้ iPhone 16 Pro Max ก็ได้ทำหน้าจอให้กว้างกว่าเดิมและกว้างกว่าแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีหน้าจอแบบเดิมที่เป็น Super Retina XDR แบบ OLED แต่ก็กว้างถึง 6.9 นิ้วพร้อมรองรับ ProMotion 120Hz และ Dynamic Island และยังแข็งแกร่งด้วย Ceramic Shield เจเนอเรชั่นล่าสุดที่แกร่งกว่าเดิม 2 เท่ากับขอบจอที่บางที่สุดของ iPhone แล้ว

ส่วน Samsung Galaxy S24 Ultra นั้นมีหน้าจอแบนเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด Quad HD+ ขนาดกว้าง 6.8 นิ้วรองรับ Refresh Rate 1-120Hz และปากกา S Pen ที่มีอยู่ในตัว และยังมีฟีเจอร์ Visual Booster ที่ช่วยเพิ่มแสงได้มากขึ้นกับ Adaptive Color Tone ที่ปรับสีตามสภาพรอบข้างได้ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Armor9 ที่สำคัญก็คือรุ่นนี้มีความสว่างได้มากถึง 2,600nits ซึ่งทำได้ดีกว่า iPhone 16 Pro Max ที่สว่างสูงสุดได้เพียง 2,000nits อีกด้วย

ชิปเร็วแรงเล่นเกมได้ดีทั้งคู่ แถมมี AI เหมือนกันด้วย

สำหรับการเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra จุดต่อมานี้ก็เป็นเรื่องการทำงานและความเร็วแรงที่รุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 Pro Max นั้นก็ได้อัพเกรดมาด้วยชิป A18 Pro ที่ทั้งเร็วและประหยัดพลังงาน ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าก็ทำได้ดีกว่าถึง 15% รวมไปถึงภาพกราฟิกของ GPU ที่ทำได้ดีขึ้น 20% พอร์ตเกมระดับ AAA ขึ้นมาเล่นได้สบายๆ ให้ภาพสมจริงอีกขั้นด้วยเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์เร็วขึ้น 2 เท่าแถมต่อ Gaming Controller เล่นได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อ WiFi7 ที่เร็วแรงกว่า มาพร้อมการทำงานร่วมกับ Apple Intelligence ได้ทั้งการพิสูจน์อักษรข้อความ, การสรุปเนื้อหาจากการบันทึกเสียง, สร้าง Image Playground, Genmoji, ลบวัตถุหรือลบคนออกจากรูป และ Siri ที่ทำงานง่ายขึ้นด้วยคำสั่งเสียง

ทางด้านของ Samsung Galaxy S24 Ultra ที่ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาก่อน แต่ก็ยังได้ชิปตัวเรือธงสุดแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ที่ปรับปรุงมาโดยเฉพาะ กับ RAM 12GB ที่มากกว่า ทำให้ทั้งการใช้งานนั้นเร็วแรง ภาพและการประมวลผลของ GPU, NPU แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 41%  และยังมี Vapor Chamber ที่ระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่าเดิม รองรับ Ray Tracing ที่ให้แสงและเงาสมจริง ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้สามารถต่อได้เพียง WiFi6E แต่ก็มี Galaxy AI ที่เข้ามาช่วยในด้านต่างๆ ทั้งการถ่ายรูป, ลบคนหรือวัตถุออก, การบันทึกและสรุปข้อมูลจากเสียง หรือจากบทความยาวๆ, ปรับแต่งภาพ, Chat Assist, ค้นหาจากรูปด้วยการวงเพียงครั้งเดียว และการแปลภาษาจากการโทร หรือพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ด้วย

กล้องระดับเทพชนเทพ

อีกหนึ่งจุดของการเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra ที่สำคัญเลยก็คือเรื่องชองกล้องที่ทั้งสองรุ่นนี้มีดีต่างกันออกไปเลย โดยรุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 Pro นั้นมีกล้องหน้าเป็น TrueDepth 12MP เหมือนเดิม แต่ทว่ากล้องหลังก็ได้อัพเกรดมาใหม่คือกล้องอัลตร้าไวด์ 48MP ที่สามารถรวมพิกเซลได้เหมือนกล้องหลัก 48MP ถ่ายได้ทั้งมุมกว้างและมาโคร และอีกเลนส์คือเทเลโฟโต้ 12MP ที่สามารถซูมได้ 5x พร้อมสไตล์ถ่ายภาพที่เลือกได้ก่อนหรือหลังถ่าย

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือไมโครโฟนที่ปรับมาใหม่มี 4 ตัวสามารถเลือกเก็บเสียงตอนถ่ายวิดีโอได้หลายแบบทั้งแบบปกติ, ภายในเฟรม, สตูดิโอ หรือภาพยนตร์ โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K@120fps แล้ว ทำให้การถ่ายปกติหรือสโลว์โมชั้นออกมาได้สวยงาม หรือจะถ่ายแบบ Cinematic Mode ก็สามารถทำ Music Video ออกมาได้อย่างโปร และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือปุ่ม Camera Control ใหม่ที่ใช้งานได้หลากหลายเช่น กดเข้าแอพกล้องและถ่ายรูปหรือวิดีโอได้เลย, กดเบาๆ ดูตัวอย่างซูมและเลื่อนเข้าออกเพื่อซูมได้ด้วย หรือจะกดตั้งค่าการถ่ายรูปก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านปุ่มเดียว

ทางด้านของ Samsung Galaxy S24 Ultra ก็มีดีที่ตัวกล้องเช่นกัน โดยมีกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัวความละเอียดหลัก 200M มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่ซูมได้ 2x กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และ Telephoto 10MP ซูมได้ 3x กับอีกหนึ่งตัวที่เป็น Telephoto 50MP ซูมได้ 5x และซูมในเซ็นเซอร์ได้ 10x รวมไปถึงการซูมแบบ Space Zoom ได้ถึง 100x ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็อยู่ที่การซูมด้วย Quad Tele Zoom ถ่ายซูมแค่ไหนก็มีกันสั่นและถ่ายออกมาได้เป๊ะ

การถ่ายรูปปกติหรือถ่าย Portrait ก็ทำออกมาได้เนียนเป็นธรรมชาติ และแน่นอนว่าการถ่ายวิดีโอก็ทำได้ไปถึงขั้น 8K@30fps แล้ว นอกจากนี้ยังมี AI ที่คอยช่วยทำให้การถ่ายภาพนั้นเร็วและมีประสิทธิภาพในการซูมสูง หรือจะถ่ายทำแบบสโลว์โมชั่นด้วย Instant Slow-mo ก็ได้ทุกเวลาที่ต้องการ ไม่ต้องกลัวว่าสภาพแสงจะเป็นแบบไหนเพราะมี ProVisual Engine ที่ทำให้การถ่ายภาพในตอนกลางคืนชัดเจนทุกรายละเอียด ส่วนกล้องหน้านั้นมี 12MP เช่นกัน

แบตอึดใช้งานได้ยาวนาน พร้อมราคาที่ต่างกัน

ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra ในส่วนของแบตเตอรี่ โดยรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Pro Max นั้นยังไม่ได้เผยความจุของแบตออกมาเหมือนเดิม บอกแค่เพียงว่าอึดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้สามารถดูวิดีโอต่อเนื่องได้สูงสุด 33 ชั่วโมง และฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 105 ชั่วโมง รองรับ MagSafe ใหม่ชาร์จได้ไวขึ้นเป็น 25W ชาร์จ 0-50% ได้ใน 30 นาทีหรือชาร์จแบบมีสายได้ 30W หรือสูงกว่า ส่วนของ Samsung Galaxy S24 Ultra นั้นมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไวถึง 45W สามารถดูวิดีโอได้ต่อเนื่องสูงสุด 30 ชม. และเล่นเน็ตต่อเนื่องได้สูงสุด 28 ชม. ตลอดทั้งวันเช่นกัน ส่วนราคาตอนนี้ห่างกันอยู่พอสมควร เนื่องจากมีการลดราคาจากตอนเปิดตัวต้นปีไปแล้วดังนี้

• iPhone 16 Pro Max
• Samsung Galaxy S24 Ultra

สรุป iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นไหนเหมาะกับใคร

จากการเปรียบเทียบ iPhone 16 Pro Max vs Samsung Galaxy S24 Ultra แบบจุดต่อจุดก็จะพอเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นนี้มีดีต่างกันไปคนละแบบ ถ้าไม่นับรวมว่าใครเป็นสาวกของค่ายไหนและยึดเพียงการใช้งานเป็นหลัก โดยรุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 Pro Max นั้นเหมาะกับคนที่อยากได้มือถือหน้าจอใหญ่ มีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ให้เล่นเยอะ ทั้งปุ่ม Action ที่กดเข้าเมนูลัดได้รวดเร็ว หรือว่าจะเน้นเรื่องการถ่ายรูปที่กดปุ่ม Camera Control ก็ถ่ายได้เลยทันที อีกทั้งยังเหมาะกับสายถ่ายรูปบุคคลหรือการถ่ายในระดับโปร รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอที่สามารถ่ายทำหนังหรือ MV เพลงได้แบบง่ายๆ นอกจากการถ่ายรูปแล้วการเล่นเกมก็ไม่น้อยหน้า เพราะสามารถเล่นเกมระดับ AAA ที่พอร์ตลงมาเล่นได้สบายๆ ดังนั้นเกมทั่วไปสำหรับมือถือก็ไม่ใช่ปัญหา

ส่วนรุ่น Samsung Galaxy S24 Ultra อันนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปได้เหมือนกัน แต่จะเน้นไปที่เรื่องของการซูมเป็นหลัก ซึ่งการถ่ายภาพทั่วไป หรือถ่ายบุคคลนั้นทำได้อย่างดีอยู่แล้ว แต่ถ้ารวมการซูมและ AI ที่ปรับมาเพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะก็ยิ่งทำให้การถ่ายรูปมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเหมือนกัน รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอที่ทำได้ชัดขั้นสุดไปถึง 8K แล้ว นอกจากการถ่ายรูปแล้วเรื่องเล่นเกมก็ทำได้ดีและไหลลื่นทุกเกมแน่นอนอยู่แล้ว โดยตอนนี้ก็สามารถใช้งาน Galaxy AI ได้เลย เพราะ Apple Intelligence อาจได้ใช้ปีหน้า และยังเหมาะกับคนที่อยากใช้ปากกา S Pen ที่เอาไว้จดบันทึกขีดเขียนทำงานได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย