ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปมากเท่าไหร่ ต้นทุนในการผลิตต่อประสิทธิภาพที่ได้ก็ยิ่งทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงได้เห็นมือถือเล่นเกมออกมาในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ด้วยความแรงของชิปเซ็ตที่สามารถรับมือกับเกมมือถือที่มีกราฟิกพอประมาณได้สบาย ๆ แล้ว รวมถึงจอเองก็มีรีเฟรชเรตที่สูงขึ้น แม้จะเป็นกลุ่มเครื่องราคาไม่สูงมากก็ตาม ในบทความนี้เราจะมาแนะนำมือถือเล่นเกมงบไม่เกิน 6,000 บาท ที่มาพร้อมจอรีเฟรชเรต 90Hz ขึ้นไป แถมด้วยแบตที่อึด รองรับการชาร์จเร็ว เพื่อทำให้สามารถเล่นเกมยาว ๆ ได้ตามต้องการ รวมถึงเป็นมือถือเครื่องแรกให้กับเด็ก ๆ ในบ้านก็ทำได้สบายอีกด้วย
POCO C65
สเปคเครื่องและราคา POCO C65
- ชิป MediaTek Helio G85 พร้อมกราฟิก Mali-G52 MC2
- แรมรอม มีทั้ง 6+128GB และ 8+256GB และใส่ MicroSD เพิ่มได้
- หน้าจอ Dot Drop 6.74” 1600×720 90Hz กระจกหน้าจอ Gorilla Glass
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว PD 18W
- กล้องหลัง 50MP f/1.8 พร้อมเลนส์มาโคร 2MP
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- ใส่ได้ 2 ซิม รองรับ 4G
- Wi-Fi 2.4 และ 5GHz + Bluetooth 5.3
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- ราคาปัจจุบัน POCO C65 รุ่น 6+128GB อยู่ที่ 3,199 บาท รุ่น 8+256GB อยู่ที่ 4,199 บาท
เริ่มต้นด้วยมือถือรุ่นราคาประหยัดยอดนิยมอย่าง POCO C65 ที่ให้มาเป็นชิป MediaTek Helio G85 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับเริ่มต้นสำหรับสายมือถือเล่นเกมราคาย่อมเยา มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สามารถรองรับการเล่นเกมในปัจจุบันได้อย่างค่อนข้างไหลลื่น ด้วยการตั้งค่ากราฟิกในระดับกลาง แล้วเน้นปรับรีเฟรชเรตในเกมให้สูงแทน เพื่อให้ได้ภาพที่ไหลลื่น เหมาะกับจอ 6.74” ที่มีค่ารีเฟรชเรตสูงสุด 90Hz ของเครื่องได้พอดี อีกสเปคที่ส่งผลกับเกมโดยตรงก็คือแรมในเครื่อง ที่ POCO C65 ให้มาเริ่มต้นที่ 6GB แต่ถ้าดูจากราคาเครื่อง หากมีงบ 5,000 บาทก็เลือกรุ่นแรม 8GB รอม 256GB ไปเลยดีกว่า แน่นอนว่าใช้เล่นเกมได้เต็มเหนี่ยวกว่า พื้นที่เก็บข้อมูล พื้นที่ลงเกมก็เยอะกว่าเป็นเท่าตัวด้วย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันขยายแรมแบบเสมือนให้รวมแล้วมีแรมสูงสุดถึง 16GB อีก
ด้านของแบตเตอรี่ก็ให้มา 5000 mAh เพียงพอสำหรับการใช้เล่นเกมระหว่างวันได้สบาย จะติดนิดนึงตรงที่ความสามารถในการชาร์จ ที่แม้ว่า PD 18W จะดูไม่ค่อยสูงมากเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่น ๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน แต่ก็ถือว่าโอเคอยู่ เมื่อเทียบกับสเปคในจุดอื่น ๆ ที่ให้มา ซึ่งจัดว่าครบถ้วนสำหรับใช้เล่นเกม และใช้เป็นมือถือเครื่องหลักได้เลย
Infinix Hot 30 5G
สเปคเครื่องและราคา Infinix Hot 30 5G
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020 พร้อม Mali-G57 MC2
- แรม 8GB รอม 128GB เพิ่ม MicroSD ได้
- หน้าจอ 6.78” IPS 2560×1080 120Hz ค่าสี DCI-P3
- แบตเตอรี่ 6000 mAh ชาร์จเร็ว 18W
- กล้องหลัง 50MP AI f/1.6 + กล้อง depth
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- ใส่ได้สองซิม รองรับ 5G + Wi-Fi AC + Bluetooth 5.0
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- มีไจโรแบบซอฟต์แวร์
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ราคาประมาณ 5,200 บาท
Infinix จัดว่าเป็นแบรนด์ที่เน้นทำตลาดมือถือสเปคดีในราคาคุ้ม ๆ มาอยู่เสมอ ซึ่งถ้าในช่วงงบไม่เกิน 6,000 บาทในช่วงนี้ก็จะมี Infinix Hot 30 5G เป็นมือถือเล่นเกมรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยราคาราวห้าพันต้น ๆ หรืออาจจะได้ต่ำกว่าห้าพันในบางช่วง แต่ได้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020 ที่แม้จะเป็นชิปรุ่นเริ่มต้นในกลุ่มชิปเซ็ตประสิทธิภาพระดับกลาง แต่ก็ได้ความเร็วแรงในระดับที่สามารถรองรับการเล่นเกมทั่วไปได้ดีสมราคา นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 5G อีกด้วย เรียกว่าสามารถใช้งานไปได้อีกยาวแน่นอน จับคู่มาพร้อมกับแรม 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล ลงแอปลงเกม 128GB รองรับการใส่ MicroSD เพิ่มได้อีกสูงสุด 512GB อีกต่างหาก
ฝั่งของแบตเตอรี่แม้ว่าจะยังให้ความสามารถในการชาร์จเร็วที่ 18W อยู่ แต่ก็ได้ความจุมาถึง 6000 mAh ทำให้สามารถเล่นเกมแบบยาว ๆ ได้แบบไม่ต้องกังวลมากนัก โดยเฉพาะถ้าปรับกราฟิกในเกมแบบลดรายละเอียดลงมาซักหน่อย แต่ถ้าอยากจัดเต็มเรื่องรีเฟรชเรตก็ทำได้สบายเลย เพราะจอรองรับได้สูงสุดถึง 120Hz ที่แม้ว่าอาจจะปรับค่าที่ตัวเกมได้ไม่ถึง 120fps แต่ก็เรียกว่าให้มาเหลือ ๆ ใช้งานทั่วไปก็ดูลื่นตา
อีกจุดที่น่าจะทำให้ Infinix Hot 30 5G เครื่องนี้โดนใจในฐานะมือถือเล่นเกมราคาเบา ๆ ก็คือตัวเครื่องจะมี gyroscope (ไจโร) จำลองแบบซอฟต์แวร์มาให้ ทำให้สามารถใช้ในการเล่นเกมที่ต้องอาศัยการโยกหน้าจอได้ เช่นเกมแนวแข่งรถ ในกรณีที่ต้องการปรับให้ใช้การโยกจอซ้ายขวาแทนการโยกพวงมาลัยรถ
Infinix Hot 40 Pro
สเปคเครื่องและราคา Infinix Hot 40 Pro
- ชิป MediaTek Helio G99 พร้อม Mali-G57 MC2
- แรม 8GB รอม 256GB ใส่ MicroSD เพิ่มได้
- หน้าจอ 6.78” IPS 2460×1080 120Hz
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W
- กล้องหลัง 108MP f/1.8 AI + มาโคร 2MP + Depth
- กล้องหน้า 32MP f/2.2
- ใส่ได้สองซิม รองรับ 4G + Wi-Fi AC + Bluetooth
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- มีเซ็นเซอร์ไจโร
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ราคา 5,799 บาท (รีวิว, VDO)
ต่อกันที่ Infiix อีกรุ่นนั่นคือ Hot 40 Pro ที่เป็นหนึ่งในมือถือเล่นเกมราคาสบายกระเป๋ารุ่นสุดร้อนแรงในขณะนี้ ด้วยราคาไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้ชิป MTK Helio G99 ที่ประสิทธิภาพกำลังดีสำหรับการเล่นเกม สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ตัวเครื่องยังให้แรมมา 8GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ที่ทำให้สามารถโหลดเกมมาลงได้แบบไม่ต้องกังวล จะมีก็แต่เรื่องการเชื่อมต่อ cellular ที่จะรองรับสูงสุดแค่ 4G LTE เท่านั้น ไม่สามารถใช้ 5G ได้
ส่วนจุดแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Infinix Hot 30 5G คร่าว ๆ ก็คือ Hot 30 5G จะใช้ 5G ได้ แบตความจุเยอะกว่า แต่ก็จะมีรอมเพียง 128GB ในขณะที่ Hot 40 Pro จะได้รอมมากกว่า กล้องหลังความละเอียดสูงกว่า มีเซ็นเซอร์ไจโรแท้ ๆ และก็ชาร์จเร็วกว่า แลกมากับแบตที่น้อยกว่ากันนิดนึง
ด้านของระบบเสริมก็จะมี XBOOST ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบให้สามารถเล่นเกมได้แบบไม่สะดุด และถ้าใครชอบเล่นเกม Free Fire ก็คงยิ่งถูกใจเข้าไปอีก เพราะ Infinix ได้จับมือกับ Free Fire ในการปลดล็อกประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เพื่อทำให้สามารถเล่นเกม Free Fire ที่ระดับ 90fps ได้แบบลื่น ๆ อีกด้วย บอกเลยว่าถ้าลูก ๆ หลาน ๆ ชอบเล่นเกมนี้อยู่ ซื้อเครื่องนี้ไปคือตอบโจทย์แน่นอน
TECNO Spark 20 Pro
สเปคเครื่องและราคา TECNO Spark 20 Pro
- ชิป MediaTek Helio G99 มี 8 คอร์ พร้อม GPU Mali-G57 MC2
- แรมมีทั้งรุ่น 8GB และ 12GB รอม 256GB
- หน้าจอ 6.78” IPS 2460×1080 120Hz
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 33W
- กล้องหลัง 108MP + มาโคร 2MP
- กล้องหน้า 32MP
- ใส่ได้สองซิม รองรับ 4G + Wi-Fi AC + Bluetooth 5.2
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- มีไจโรแบบซอฟต์แวร์
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ราคารุ่นแรม 12GB อยู่ที่ประมาณ 5,800 บาท
มือถืออีกรุ่นที่จะว่าเป็นญาติของ Infinix ก็ว่าได้ เพราะว่าอยู่ภายใต้เครือบริษัทแม่เดียวกันนั่นก็คือ Tecno Spark 20 Pro แถมสเปคก็ให้มาใกล้เคียงกันด้วยคือใช้ชิป MediaTek Helio G99 แต่จุดที่ Tecno ได้เปรียบคือมีรุ่นแรม 12GB ให้เลือกด้วย ทำให้มีศักยภาพที่สามารถรองรับการเล่นเกมได้ดีกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเล่นเกมพร้อมกับอัดคลิปหรือสตรีมไปด้วย แต่ถ้าเป็นในแง่ของความเร็วในการใช้งานทั่วไปจะไม่ต่างกันมากนัก
แต่มีอยู่หนึ่งจุดที่ Tecno Spark 20 Pro ขาดไปนิดนึงก็คือตัวเครื่องจะให้ไจโรมาเป็นแบบเสมือนที่เกิดจากการจำลองของซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ถ้าเกมที่เล่นไม่ได้จำเป็นต้องใช้งานไจโรแบบแม่น ๆ อย่างพวกเกมแนว MOBA เช่น RoV จุดนี้มองว่าไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้นก็ได้
ส่วนราคา Tecno Spark 20 Pro อันนี้ขอลงแค่เฉพาะรุ่นแรม 12GB แล้วกันนะครับ เพราะก็อยู่ในช่วงงบไม่เกิน 6,000 บาทอยู่แล้ว แถมราคายังสูงกว่ารุ่นแรม 8GB ไม่มากนัก ก็ซื้อเป็นรุ่นแรม 12GB ไปเลยดีกว่า
ZTE nubia Neo 5G
สเปคเครื่องและราคาของ ZTE nubia Neo 5G
- ชิป Unisoc T820 5G พร้อม Mali-G57 MC4
- แรม 8GB รอม 256GB
- หน้าจอ 6.6” AMOLED 2408×1080 120Hz
- แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จเร็ว 22.5W
- กล้องหลัง 50MP f/1.8 + depth 2MP
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- ใช้ได้สองซิม รองรับ 5G + Wi-Fi AC + Bluetooth 5.2
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- มีไจโรแบบซอฟต์แวร์
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,900 บาท
ปิดท้ายด้วย ZTE nubia Neo 5G รุ่นแรกที่แม้ว่าจะออกวางขายมาได้พักหนึ่งแล้ว แต่ด้วยงบ 6,000 บาทก็ยังเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือเล่นเกมราคาไม่แรง ชิปเซ็ตเลือกใช้เป็น Unisoc T820 ที่ประสิทธิภาพจริง ๆ นั้นก็ไม่ต่างจากชิปแบรนด์อื่นที่อยู่ในมือถือช่วงราคานี้มากนัก โดยมีทีเด็ดอื่น ๆ เข้ามาทดแทนให้ อาทิแรมที่ให้มา 8GB เน้น ๆ รอมอีก 256GB รวมถึงยังรองรับ 5G และมีเซ็นเซอร์ไจโรมาให้อีก จึงนับว่าเป็นมือถือที่ครบเครื่องรุ่นหนึ่งในช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาทเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือใช้เล่นเกมก็ตาม
ซึ่งถ้าต้องการซื้อเครื่องนี้ไปใช้เล่นเกมก็บอกเลยว่าตรงสายมาก ๆ เริ่มจากลวดลายบนฝาหลังที่ดูเป็นเกมเมอร์สุด ๆ ส่วนด้านซอฟต์แวร์ก็ต้องบอกว่าจัดเต็มมาก เพราะมี Game Space ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น ไล่ตั้งแต่เรื่องการปรับจูนประสิทธิภาพ CPU/GPU/RAM ให้เหมาะกับการเล่นเกมที่สุด ปรับเสียงให้เหมาะกับการเล่นเกมยิ่งขึ้น มีระบบช่วยล็อกระดับความสว่างหน้าจอให้ไม่เกิดปัญหาจอสว่างขึ้น ๆ ลง ๆ แบบอัตโนมัติตามแสงรอบข้าง เป็นต้น
จะมีนิดนึงก็ตรงแบตเตอรี่ที่ให้มาความจุ 4500 mAh ซึ่งน้อยกว่ารุ่นอื่นในบทความนี้อยู่ซักหน่อย แต่รุ่นนี้ก็จะมีข้อได้เปรียบกว่ารุ่นเหล่านั้นนิดนึงก็ตรงที่สามารถชาร์จเร็วได้สูงสุด 22.5W
ปิดท้าย แนะนำมือถือเล่นเกมงบไม่เกิน 6,000
สำหรับในช่วงงบประมาณ 6,000 บาท ถ้าจะมองหามือถือเล่นเกมซักรุ่น สเปคที่ได้ก็มักจะเป็นกลุ่มชิปเซ็ตระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการเล่นเกม หรือเป็นกลุ่มชิประดับกลางรุ่นเริ่มต้นที่ประสิทธิภาพดีหน่อย แต่อาจจะรองรับการเชื่อมต่อแค่ระดับ 4G เท่านั้น ซึ่งสำหรับในการใช้เล่นเกมออนไลน์บนมือถือ จริง ๆ แล้ว 4G ก็ยังเพียงพออยู่ แถมถ้ายิ่งเป็นการใช้เล่นเกมผ่าน Wi-Fi ก็ยิ่งไม่ใช่ปัญหาเลย
ส่วนหน้าจอก็มักจะได้ที่ 6.7″ ขึ้นไป รีเฟรชเรต 90Hz และ 120Hz พาเนล IPS ซึ่งโดยรวม ๆ แล้วก็สามารถใช้ทั่วไป ใช้เล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เรื่องสีสันกับการสะท้อนแสงก็อาจจะยังเทียบกับรุ่นราคาสูงกว่าได้ไม่เต็มที่นัก ซึ่งก็เป็นไปตามระดับราคาของตัวเครื่องอยู่แล้ว เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่ก็มักจะให้มาในระดับ 5000 mAh ชาร์จเร็วได้เต็มที่สุดก็ 33W แต่ส่วนใหญ่จะมาอยู่ในช่วงประมาณ 20W กันมากกว่า ซึ่งก็เพียงพอกับระดับประสิทธิภาพและการกินไฟของทั้งเครื่องอยู่แล้ว ประกอบกับความจุแบตระดับนี้ ถ้าใช้จริงมันก็พอสำหรับการใช้งานตลอดวัน ใช้เล่นเกมติดกันเป็นชั่วโมงได้อยู่
และก็เรื่องราคา บางรุ่นในบางช่วงเวลา เมื่อค้นหาอาจจะพบในราคาเต็ม หรือราคาที่ยังไม่จัดโปรโมชัน แต่จริง ๆ แล้วหลายรุ่นจะมีจัดลดราคาอยู่เรื่อย ๆ ครับ หรือถ้าหาตามแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็มักจะมีจัดโปรพิเศษช่วงวันเลขเบิ้ล วันกลางเดือน วันเงินเดือนออก หรือสามารถใส่โค้ดลดราคาจนลงมาต่ำกว่า 6,000 บาทได้อยู่บ่อยครั้ง หรืออาจจะมีร้านย่อยที่วางขายอยู่ในราคาย่อมเยากว่าร้าน official ก็ได้นะ