Samsung Galaxy A55 5G สมาร์ทโฟนตัวกลางสุดคุ้มรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Samsung มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่มีความหรูหรายิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยสเปคแบบจัดเต็มที่รองรับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าคลาสเรือธง ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาบอกเลยว่ามันเจ๋งในหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลย
สเปคของ Samsung Galaxy A55 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED แบบ Infinity-O, ขนาด 6.6 นิ้ว, ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1000 nits, กระจก Gorilla Glass Victus+
- ชิปประมวลผล : Samsung Exynos 1480
- แรม : 8GB / 12GB
- หน่อยความจำ : 128GB / 256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/108, OIS (wide)
- ตัวที่ 2 : 12MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 5MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 32MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1
- การเชื่อมต่อ :
- 5G
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.3
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint Sensor
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Hall Sensor
- Light Sensor
- Virtual Proximity Sensing
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP67
- ขนาด : 161.1 x 77.4 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก : 213 กรัม
- สี : Awesome Lilac, Awesome Navy, Awesome Iceblue
- ราคา :
- 8GB / 128GB : 13,999 บาท
- 12GB / 256GB : 15,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ในส่วนของดีไซน์นั้นรอบนี้เรียกว่าทาง Samsung เปลี่ยนการออกแบบใหม่ให้ความสวยงามและหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างโลหะกับกระจก ในส่วนของกล้องนั้นจะมาในสภาพเพียวๆ ไม่มีโมดูล มีแค่ขอบเลนส์ที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย
สำหรับสีสันตัวเครื่องนั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Awesome Lilac, Awesome Navy, Awesome Iceblue และสีที่ทางเราได้มารีวิวจะเป็นสี Awesome Iceblue ซึ่งเป็นสีฟ้าแบบพาสเทล ดูละมุน
ในส่วนของหน้าจอนั้นจะใช้เป็นจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O Display ที่มีขนาดหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีอัตรารีเฟรชสูง 120Hz และมีความสว่างมากถึง 1,000 นิต พร้อมด้วยฟีเจอร์ Vision Booster ช่วยเสริมการมองเห็นด้วยการปรับสีและคอนทราสต์ท่ามกลางแสงอาทิตย์ให้เหมาะสมได้ นอกจากนี้ที่ขอบด้านบนในส่วนที่เป็นลำโพงสำหรับใช้สนทนาจะทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่อีกด้วย
สำหรับขอบข้างนั้นจะมีดีไซน์ขอบตัวเครื่องที่มีชื่อว่า Key Island โดยจะเป็นการนูนขอบเครื่องในส่วนบริเวณปุ่มขึ้นเพื่อให้สามารถกดได้ง่ายขึ้นและทำให้สามารถจับเครื่องได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนรอบๆ นั้นปุ่มทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ที่ด้านบนจะมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid และรูไมโครโฟนตัดเสียงอยู่ ส่วนที่ด้านล่างจะมีลำโพง รูไมโครโฟน และพอร์ต USB Type-C อยู่
ระบบปฏิบัติการ
ในส่วนของระบบปฏิบัติการนั้น Galaxy A55 5G จะมาพร้อมกับ One UI 6.1 ตั้งแต่แกะกล่องเลย เพียงแต่ใน One UI 6.1 ของ Galaxy A55 5G นี้จะไม่มี Galaxy AI มาด้วย ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าเสียดาย แต่คาดว่าในอนาคตอาจจะมีอัปเดตมาเพิ่มให้ก็เป็นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ One UI น่าสนใจก็คือการได้อัปเดตเวอร์ชั่นไปอีกยาวๆ 4 ปีและความปลอดภัยอีก 5 ปี ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครให้ได้ ทำให้สามารถใช้งานไปได้ยาวๆ เลย
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องการใช้งานต่างๆ นั้น ขอพูดถึงในเรื่องของการจับถือก่อนเลย โดยในการจับถือนั้นขนาดตัวเครื่องเรียกได้ว่าพอดีมือมาก ไม่ได้ใหญ่หรือเล็กเกินไป แถมด้วยวัสดุตัวเครื่องก็ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนกำลังจับเครื่องระดับเรือธงอยู่เลย แต่สิ่งที่นับว่าเป็นปัญหาเล็กๆ คือขอบตัวเครื่องที่รู้สึกว่ามีความคมเล็กน้อย ทำให้การถือเครื่องเปล่าๆ อาจไม่สบายมือ (อย่างไรเวลาซื้อมาใช้ก็ต้องใส่เคสเลยไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่)
ในด้านความบันเทิงอย่างการเล่นโซเชียลหรือการดูหนัง เรียกได้ว่าสบายหายห่วง ด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้ภาพมีความลื่นตาไม่มีสะดุดตอนเล่นโซเชียล อีกทั้งด้วยลำโพงคู่ทำให้ได้อรรถรสในการดูหนังออกมาดี
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น Galaxy A55 5G นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ซึ่งเอาเข้าจริงสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันสบายๆ เว้นเสียแต่ว่าจะเอาไปเล่นเกมหรือใช้หน้าจอต่อเนื่องนานๆ ก็อาจจะลดเร็วหน่อย ส่วนการชารืจนั้นตัวเครื่องรองรับการชาร์จที่ 25W ซึ่งจากที่เราได้ทดลอชาร์จนั้นเราเริ่มจับเวลาตอนที่แบตเตอรี่เหลือ 1% แบละใช้ชุดชาร์จ 25W ของ Samsung แท้ๆ ใน 10 นาทีแรกนั้นจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 15% และใช้เวลาถึง 43 นาทีกว่าจะได้ 50% ส่วนเวลารวมในการชาร์จทั้งหมดตั้งแต่ 1% – 100% นั้นใช้เวลาไปทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 44 นาที ซึ่งอาจจะดูนานแต่ทว่าตอนที่ชาร์จนั้นตัวเครื่องมีความร้อนสะสมพอสมควร จึงทำให้ระบบป้องกันในตัวเครื่องทำงานโดยการลดกำลังไฟลงนั่นเอง ซึ่งพอชาร์จเสร็จความร้อนที่สะสมไว้ก็หายไปแล้ว แต่ก็แลกกับระยะเวลาชาร์จที่นานขึ้น ส่วนถ้าชาร์จแบบไม่ให้ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมจะใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมง 18 นาทีเท่านั้น
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้น Galaxy A55 5G ที่มาพร้อมชิป Exynos 1480 นั้นบอกเลยว่าสามารถใช้เล่นได้ทุกเกมสบายๆ พร้อมด้วยชุดระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนทำให้ตัวเครื่องมีความร้อนน้อยลงไปเยอะ โดยเกมที่เราเอามาทดลองเล่นนั้นจะมีเกมสามัญที่นิยมเล่นกันอย่าง RoV, PUBG Mobile, Roblox และ Genshin Imapct
ซึ่งตอนแรกที่ลองเล่นนั้นบอกเลยว่ามีเรื่องให้ตกใจใหญ่ๆ 2 เรื่องก็คือเกม RoV นั้นในช่วงแรกไม่สามารถเล่นแบบ 60fps ได้เลย จนตอนหลังมีการอัปเดตเพิ่มเข้ามาทำให้ในปัจจุบันนี้สามารถเล่นแบบ 60fps ได้แล้ว และอีกเรื่องคือเกม Genshin Imapct ที่ถ้าไม่ใช่คลาสเรือธงแล้วแล้วยังไงก็ปรับสุดไม่ได้ แต่ก็เป็นเรื่อวงน่าตกใจเพราะ Galaxy A55 5G นั้นสามารถเล่น Genshin Impact ได้ลื่น แม้จะปรับกราฟิกสุดและเปิด 60fps แล้วก็ตาม ถึงจะแลกมาด้วยความร้อนที่เพิ่มขึ้นเร็วมากแทน บอกเลยว่าใครที่อย่างเล่น Genshin Impact ภาพสวยๆ ลื่นๆ แต่งบไม่ถึงเรือธง Galaxy A55 5G นี่แหละคำตอบ
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นตัว Galaxy A55 5G นั้นจะมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก 50MP ที่เป็นเซ็นเซอร์ IMX906 พร้อมด้วยกันสั่น OIS ให้ภาพที่สวย คมชัด สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคราบถ้วน ต่อให้ถ่ายย้อนแสงหรือตอนแสงน้อยก็ไม่มีปัญหา ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์นั้นจะเป็นกล้องความละเอียด 12MP ที่ให้รายละเอียดได้ครบถ้วน สีสันคมเข้ม ส่วนกล้องตัวสุดท้ายจะเป็นกล้องมาโครความละเอียด 5MP และกล้องหน้าที่มีความละเอียด 32MP เหมือนรุ่นก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ว้าวของเครื่องนี้เลยก็คือการบันทึกวิดีโอ ซึ่งถึงการบันทึกจะสุดที่ 4K 30fps แต่ที่น่าสนใจคือกล้องอัลตร้าไวด์เองก็สามารถบันทึกวิดีโอที่ 4K 30fps ได้ด้วยเช่นกัน สายถ่ายวิดีโอน่าจะชอบกันพอสมควรเลย
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy A55 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นบอกเลยว่า Samsung Galaxy A55 5G สมกับที่เป็นตัวคุ้มที่สุดของ Samsung ความสามารถต่างๆ เรียกได้ว่าเกินค่าตัวมาก ถึงจะใช้ชิป Exynos ที่หลายๆ คนไม่ค่อยชอบ แต่ชิป Exynos 1480 ใน Galaxy A55 5G นี้เป็นรุ่นใหม่ที่ทำออกมาดีมากเลยทีเดียว ใครที่กำลังหาสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลางๆ แต่ทำได้ทุกอย่างไม่ต่างจากเรือธงหรือสายคอนเทนต์ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้คงต้องตัวนี้เท่านั้นเลยครับ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังได้มาตราฐานกันน้ำ IP67 อีกด้วยจะเอาไปลุยสักหน่อยก็สบายเลย สำหรับคนที่สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อได้ที่ samsung.com/th หรือจะไปลองจับตาม Samsung Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ก่อนก็ได้นะ
จุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องดูหรูหรามาก มีการใช้โลหะและกระจกเป็นวัสดุ
- ชิป Exynos 1480 รองรับการใช้งานหนักๆ ได้สบาย เล่นเกมโหดๆ ได้ด้วย
- มีตัวเลือกแรม 12GB รอ 256GB ให้เลือกด้วย
- กล้องทุกตัวรองรับการถ่าบวิดีโอ 4K
- กันน้ำ IP67
- ได้อัปเดตยาวถึง 5 ปี
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ (หนักกว่า Galaxy S24 / S24+ อีก)
- ขอบหน้าจอมีความหนาพอสมควร
- ชิป Exynos ถึงตอนนี้จะแรงแต่ในอนาคตก็ไม่แน่ต้องรอพิสูจน์กันในระยะยาว