เปรียบเทียบ iPhone 14 vs 13 Pro รุ่นใหม่ตัวธรรมดากับตัวเก่ารุ่นโปรที่จอใหญ่เท่ากัน ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2022
หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ออกมาเมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย. 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งรุ่นที่เปิดตัวออกมาก็เป็นไปตามคาดทั้ง 4 รุ่นคือ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max (ดูสรุปสเปคทุกรุ่นที่นี่) แน่นอนว่าเมื่อรุ่นใหม่ออกมาแล้ว รุ่นเก่าๆ ที่เคยวางขายบนหน้าเว็บและศูนย์บริการจาก Apple ก็ถูกปลดออกไปอยู่พอสมควร หนึ่งในนั้นก็คือรุ่น iPhone 13 Pro ที่ถูกแทนด้วย iPhone 14 Series แทน ทำให้รุ่นก่อนหน้าในรุ่นโปรนั้นหาซื้อยากขึ้น และอาจจะต้องหันมามอง iPhone 14 หรือ iPhone 14 Pro แทนเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่คิดอยู่ว่าควรจะรอซื้อรุ่นใหม่ หรือว่าจะมองหารุ่นก่อนหน้าในรุ่นโปรดี วันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปคให้ว่า iPhone 14 vs 13 Pro รุ่นใหม่ที่เป็นรุ่นธรรมดา กับรุ่นเก่าที่เป็นตัวโปรมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน และควรซื้อรุ่นไหนดีกว่ากันในปี 2022 (ดูเปรียบเทียบ iPhone 14 Pro กับ 13 Pro ที่นี่)
เปรียบเทียบสเปค iPhone 14 vs 13 Pro
- เปรียบเทียบดีไซน์ตัวเครื่อง
- เปรียบเทียบรูปแบบหน้าจอ
- เปรียบเทียบชิปประมวลผล
- เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบแบตเตอรี่ และราคาล่าสุด
- สรุป
ดีไซน์ตัวเครื่องคล้ายกัน ต่างกันที่คุณภาพ
เริ่มที่การดีไซน์ตัวเครื่องของ iPhone 14 vs 13 Pro กันก่อนเลย ที่ถึงแม้ทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นตัวธรรมดากับรุ่นโปรก็ตาม แต่ว่าขนาดของตัวเครื่องก็แทบจะไม่มีความต่างกันเลย ถ้าเทียบจากขนาดของตัวเครื่อง และขนาดหน้าจอ รวมไปถึงรูปแบบรอยบากบนหน้าจอที่มีเหมือนกันด้วย แต่รุ่นโปรจะมีน้ำหนักมากกว่า และจุดที่ต่างกันแบบเห็นได้ชัดที่สุดก็คือโมดูลกล้องหลังที่ iPhone 14 นั้นมีกล้องเพียงสองตัว แต่ว่า iPhone 13 Pro นั้นมีถึง 3 ตัว อีกทั้งวัสดุตัวเครื่องของ iPhone 14 ก็เป็นอะลูมิเนียมที่ด้านหน้าและหลังเป็นกระจก ส่วนรุ่น iPhone 3 Pro นั้นตัวเครื่องเป็นสแตนเลสสตีลและด้านหลังเป็นกระจกแบบผิวด้าน นอกนั้นหน้าจอก็เป็นแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแรงเหมือนกัน อีกอย่างที่ต่างกันก็คือสีของตัวเครื่องที่ถึงแม้ว่าจะมีให้เลือก 5 สีเหมือนกัน แต่ก็มีเฉดสีที่แตกต่างกันมากทีเดียว
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 14 iPhone 13 Pro ขนาด 146.7×71.5×7.8 มม. 146.7×71.5×7.65 มม. น้ำหนัก 172 กรัม 203 กรัม สี มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, แดง, ฟ้า เซียร์ร่าบลู, กราไฟต์, ทอง, เงิน ,เขียวอัลไพน์
หน้าจอต่างกันที่ความไหลลื่น
อย่างที่บอกกันไปและสามารถเห็นได้ชัดๆ เลยก็คือระหว่าง iPhone 14 vs 13 Pro นี้ถึงแม้ว่าจะมีรอยบาก (Notch) สำหรับกล้องหน้าที่เหมือนกันอยู่ และก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เหมือนกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ Super Retina XDR แบบ OLED ขนาดความกว้าง 6.1 นิ้ว ที่มีการแสดงผลแบบ True Tone และมีความสว่างหน้าจอสูงสุดเท่ากันที่ 1,200 นิตก็ตาม เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังมีจุดต่างที่สำคัญนั่นก็คือ iPhone 13 Pro จะมีเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับอัตรา Refresh Rate ได้ตั้งแต่ 10Hz-120Hz เพื่อประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ไหลลื่นกว่าอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือว่าเล่นโซเชียลต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 เหมือนกันด้วย
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 14 iPhone 13 Pro หน้าจอ Super Retina XDR
OLEDSuper Retina XDR
LTPO OLEDขนาด 6.1 นิ้ว 6.1 นิ้ว Refresh Rate 60Hz ProMotion 120Hz รูกล้องหน้า รอยบาก (Notch) รอยบาก (Notch)
ชิปตัวเดียวกัน แต่มีฟีเจอร์ที่รุ่นใหม่ล้ำกว่า
มาที่ประสิทธิภาพการใช้งานระหว่าง iPhone 14 vs 13 Pro กันบ้างที่สองรุ่นนี้มีสิ่งที่เหมือนกันหลักๆ เลยก็คือตัวชิปประมวลผลที่ใช้ชิป A15 Bionic ด้วย CPU แบบ 6-core และ GPU แบบ 5-core พร้อมทั้งมี Neural Engine แบบ 16-core ที่เป็นตัวเดียวกันเลยก็ว่าได้ แต่ว่ารุ่นใหม่อย่าง iPhone 14 นั้นได้มีการปรับปรุงดีไซน์ด้านในของชิป ทำให้ควบคุมความร้อนได้ดีกว่าใช้งานได้นานขึ้นด้วย ที่สำคัญก็คือรุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Car Crash Detection หรือการตรวจจับการชนกันของรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุด้วยไจโรแบบช่วงไดนามิกสูง และเซ็นเซอร์แบบแรง g สูง โดยจะมีการแจ้งฉุกเฉินให้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อทั้งสองรุ่นนี้สามารถใช้ 5G, WiFi6 รวมทั้งรองรับ Dolby Atmos เหมือนกัน
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 14 iPhone 13 Pro ชิป A15 Bionic
(ปรับปรุงใหม่)A15 Bionic RAM 6GB 6GB ROM 128GB, 256GB, 512GB 128GB, 256GB, 512GB, 1TB ฟีเจอร์ใหม่ Car Crash Detection –
กล้องที่มีดีต่างกันคนละแบบ
จุดสำคัญอีกหนึ่งอย่างระหว่าง iPhone 14 vs 13 Pro ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องกล้อง ที่เป็นจุดต่างหลักของทั้งสองรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยความต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของทั้งสองรุ่น แต่ว่าก็ยังมีดีที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการใช้งานกล้องแบบไหนมากกว่ากัน โดยรุ่นใหม่อย่าง iPhone 14 นั้นมีกล้องคู่กล้องหลักและอัลตร้าไวด์ที่ความละเอียด 12MP ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้สามารถถ่ายได้ในที่แสงน้อยดีขึ้น 2-2.5 เท่า เพราะมีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นและมี Photonic Engine ใหม่ที่ช่วยรวมพิกเซลและทำให้ภาพมีสีสันดูสมจริงมากขึ้น และมีแฟลช True Tone ที่สว่างขึ้นพร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคลที่เบลอได้ทั้งฉากหน้าและหลัง รวมไปถึงกล้องหน้า TrueDepth ที่มีออโต้โฟกัสและรูรับแสงที่กว้างขึ้น ถ่ายได้ทั้งเดี่ยวและรูปหมู่พร้อมโฟกัสพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีโหมดแอ็คชั่นที่ถ่ายวิดีโอได้นิ่งสุดๆ พร้อมกับโหมดภาพยนตร์ระดับ 4K อีกด้วย
ส่วนรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 13 Pro นั้นจะมีกล้องหลังอยู่สามตัวที่เป็นกล้องหลัก อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้ความละเอียด 12MP พร้อมสแกนเนอร์ LiDAR ซูมแบบออปติคัล 6 เท่ากับแฟลชที่มีคุณสมบัติสโลว์ซิงค์ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ถ่ายบุคคลในโหมดกลางคืน ถ่ายมาโครได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอพร้อมรองรับ Apple ProRAW และบันทึกวิดีโอแบบ ProRes แต่ไม่มี Photonic Engine และยังถ่ายโหมดภาพยนตร์ได้เพียง 1080p ที่ 30 fps เท่านั้น แต่ว่าสามารถถ่ายแบบ ProRes สูงสุด 4K เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังไม่มีโหมดแอ็คชั่นที่ถ่ายได้นิ่งๆ เหมือนรุ่นใหม่ ส่วนกล้องหน้า TrueDepth ยังคงมีรูรับแสงที่มีขนาด ƒ/2.2 และยังไม่มีออโต้โฟกัสด้วย
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 14 iPhone 13 Pro กล้องหน้า TrueDepth 12MP
(ƒ/1.9), AFTrueDepth 12MP
(ƒ/2.2)กล้องหลัง 12MP +12MP
โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์12MP+ 12MP+ 12MP
โหมดภาพยนตร์, สแกนเนอร์ LiDAR,
Apple ProRAWวิดีโอ โหมดภาพยนตร์ระดับ 4K โหมดภาพยนตร์ 1080p,
ProRes สูงสุด 4K
แบตเตอรี่ และราคาล่าสุดที่ยังห่างกันเยอะ
ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่และความอึดในการใช้งานระหว่าง iPhone 14 vs 13 Pro ที่ต้องบอกว่ามีความใกล้เคียงกันพอสมควร แต่ว่ารุ่น iPhone 13 Pro นั้นใช้งานได้นานกว่าเล็กน้อยในบางอย่างคือเล่นวิดีโอได้สูงสุด 22 ชั่วโมง (iPhone 14 ได้ 20 ชม.) ดูผ่านสตรีมได้สูงสุด 20 ชั่วโมง (iPhone 14 ได้ 16 ชม.) แต่ว่า iPhone 14 รุ่นใหม่ก็ฟังเพลงได้ยาวนานกว่าสูงสุด 80 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่นก่อนหน้าทำได้เพียง 75 ชม. เท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีพอร์ตที่เป็น Lightning รองรับชาร์จเร็ว 20W และ MagSafe 15W เหมือนกันด้วย ส่วนราคาของทั้งสองรุ่น เนื่องจาก iPhone 13 Pro ถูกปลดลงจากหน้าเว็บ Apple แล้ว เราจึงขอนำราคาล่าสุดจากทาง AIS ที่เป็นเครื่องเปล่ามาแทน แน่นอนว่าไม่ได้มีครบทุกความจุด้วย ดูได้จากตารางด้านล่างได้เลย
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 14 iPhone 13 Pro ราคา 128GB : 32,900 บาท
256GB : 36,900 บาท
512GB : 45,900 บาท128GB: 37,000 บาท
256GB: 41,000 บาท
512GB: 46,500 บาท
1TB: 54,000 บาท
**iPhone 14 สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2022 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป และเริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย. 2022 นี้ สามารถสั่งจองได้ที่นี่**
สรุปว่าซื้อรุ่นไหนดี?
จากการที่เราได้ลองเปรียบเทียบสเปคระหว่าง iPhone 14 vs 13 Pro ทั้งรุ่นใหม่ล่าสุดและรุ่นเก่าที่เป็นตัวโปรกันไปแบบจุดต่อจุด ก็สามารถบอกได้ว่าทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นและจุดดีที่น่าใช่งานทั้งคู่ด้วยขนาดตัวเครื่องที่แทบจะเท่ากันเลย ต่างกันแค่วัสดุที่รุ่นโปรทนทานกว่าเท่านั้น ส่วนหน้าจอถ้าใครชอบความไหลลื่นมากกว่าแนะนำว่า iPhone 13 Pro จะดีกว่าในด้านนี้อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีกล้องที่ถ่ายได้หลากหลายและคมชัดกว่าด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีฟีเจอร์ใหม่เหมือน iPhone 14 แต่ถ้าใครไม่ได้เน้นถ่ายรูปเป็นหลัก และใช้ถ่ายทั่วไปก็ซื้อ iPhone 14 มาถ่ายได้สวยเหมือนกันทั้งหน้าและหลัง ส่วนในด้านประสิทธิภาพนั้นก็มความคล้ายกันมาก ต่างแค่ฟีเจอร์ Car Crash Detection และรุ่นใหม่คุมความร้อนได้ดีกว่า รวมไปถึงแบตและราคาที่ถึงแม้ว่า iPhone 13 Pro จะไม่มีขายจาก Apple แล้ว แต่จากศูนย์บริการและตัวแทนจะหน่ายก็ยังมีราคาที่ห่างกันเยอะมากทีเดียว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือจะหาซื้อยากกว่ารุ่นใหม่แน่นอน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของตัวเองและงบในการซื้อของตัวเราเองเป็นหลักด้วยเช่นกัน
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล iPhone 14 vs 13 Pro ทั้งหมดจาก Apple