มาแล้ว!! MacBook Air M2 ดีไซน์ใหม่ทั้งหมดกับ MacBook Pro M2 ชิปตัวแรงประหยัดแบต ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงาน WWDC 2022 ที่จัดโดย Apple เมื่อคืนวันที่ 6 มิ.ย. 2022 ที่ผ่านมาตามเวลาของไทย ซึ่งงาน WWDC 2022 ปีนี้ก็ได้มีการเปิดตัวทั้งระบบ และอุปกรณ์การใช้งานตัวใหม่ออกมาตามที่หลายคนคาดเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระบบของ iOS 16, iPadOS 16, WatchOS 9, MacOS Ventura และ tvOS 16 ที่มีทั้งฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ พร้อมให้อัพเดทกันช่วงปลายปี ไม่แน่ว่าอาจจะปลิ่ยอัพเดทพร้อมๆ กับ iPhone 14 เลยก็เป็นได้ ส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้กันในงานนี้เลยก็คือ การเปิดตัวชิปรุ่นใหม่อย่างชิป M2 ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์การใช้งานสุดเทพทั้ง MacBook Air 2022 ที่มีการดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ทั้งหมดและ MacBook Pro 13 นิ้วที่ใช้ชิป M2 ได้แล้วเช่นกัน ที่สำคัญคือราคาเริ่มต้นของทั้งสองรุ่นนี้ก็ตีคู่กันมาเลย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาบอกกันว่าสเปคของ MacBook Air M2 ที่มีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมดกับ MacBook Pro 13 นิ้ว M2 รุ่นอัพเดทที่มาพร้อมชิปตัวแรง และประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นด้วยในราคาเริ่มต้น 43,900 บาทเท่านั้น
ชิป M2 ที่ยกระดับความเร็วแรง และประหยัดพลังขึ้นอีกขั้น
เริ่มต้นกันด้วยสเปคของชิป M2 กันคร่าวๆ ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ MacBook Air M2 และ MacBook Pro M2 รุ่นใหม่กันก่อน ซึ่งชิปตัวนี้เป็นรุ่นที่สองของชิปตระกูล M ที่ออกแบบมาเพื่อ Mac โดยเฉพาะ พร้อมกับการสร้างด้วยเทคโนโลยีแบบ 5 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 ทำชิปตัวนี้แรงกว่ารุ่นแรกอย่าง M1 เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU เร็วขึ้น 18%, GPU ที่ดีขึ้น 35% และ Neural Engine ที่เร็วขึ้น 40% ส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม 50% พร้อมกับหน่วยความจำรวมที่มีขนาดสูงสุด 24GB และเมื่อทุกอย่างมารวมกัน จึงทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเร่งความเร็วของ ProRes ได้มากขึ้นด้วย
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องจัดการพลังงาน ที่ได้รับการปรับปรุงให้การประมวลผลประหยัดกว่ารุ่นเดิมถึง 18% ไม่ว่าจะใช้งานหลายอย่างซ้อนกันก็ตาม นอกจากนี้ชิป M2 ยังช่วยให้การประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้น 25% เมื่อใช้พลังงานระดับเดียวกับ M1 และเร็วขึ้น 35% เมื่อใช้พลังงานสูงสุดเลยด้วย จึงช่วยให้เครื่องใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน และยังทำงานเงียบกับการระบายความร้อนที่ถึงจะเล่นเกมหนักๆ หรือตัดต่อแต่งไฟล์ภาพ RAW ก็ทำได้สบายๆ
MacBook Air M2 (2022)
มาถึงข้อมูลสเปคของ MacBook Air M2 กันบ้างที่มีการดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ทั้งหมดเลย อย่างแรกก็คือรูปแบบตัวเครื่องที่รุ่นก่อนหน้าตรงฐานจะมีความโค้งขึ้นมา แต่รุ่นนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบเหลี่ยมๆ แทน กับตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด ส่งผลให้ MacBook Air 2022 รุ่นใหม่นี้จะมีความหนากว่าเล็กน้อย (แค่ 0.26 ซม.) แต่ก็แลกมากับน้ำหนักที่เบาขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วยน้ำหนักเพียง 1.24 กก. เท่านั้น ส่วนรูปแบบการใช้งานต่างๆ อย่าง Touch ID กับ Magic Keyboard พร้อมทั้งแทร็คแพด Force Touch ที่เร่งความเร็วตามแรงกดและ Multi-Touch จะยังคงทำได้เหมือนเดิม ซึ่งรุ่นใหม่นี้ก็มีสีใหม่ออกมาถึง 4 สีให้เลือกซื้อกันนั่นก็คือสีมิดไนท์, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
จุดที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดอีกหนึ่งอย่างก็คือเรื่องของหน้าจอ ที่ตัว MacBook Air M2 รุ่นใหม่นี้ได้เปลี่ยนหน้าจอมาใช้เป็นแบบ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้วหน้าจอกว้างกว่าเดิมเพราะลดขอบจอลง แต่ใส่รอยบากที่มีกล้องหน้าเข้ามาแทน พร้อมกับความสว่างหน้าจอได้มากถึง 500 นิตสว่างกว่ารุ่นก่อนหน้า 25% เรียกได้ว่ากว้างและสว่างกว่าทุกรุ่นที่เคยทำออกมา แถมยังรองรับการแสดงสีสันถึง 1 พันล้านสีเลยทีเดียว โดยในรุ่นนี้ไม่มีพัดลมระบายความร้อน แต่ก็หายห่วงไปได้ด้วยชิปอย่าง M2 ที่ทำให้การใช้งานนั้นเงียบและไม่ร้อนเกินไปอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้ MacBook Air 2022 รุ่นใหม่นี้เร็วแรงอย่างน่าเหลือเชื่อก็คือชิป M2 ที่ทำให้ทุกๆ อย่างในการใช้งานของ MacBook Air M2 นั้นดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ด้วยตัว CPU แบบ 8 Core และตัว GPU แบบ 10 Core ที่ทำให้การตัดต่อภาพ หรือว่าสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ได้ไหลลื่น รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอแบบ ProRes ได้ถึงระดับ 4K และ 8K พร้อมแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s และความจำรวมสูงสุดถึง 24GB ส่วนความจุจะมีเหมือนเดิมคือ 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB ถ้าเทียบตามความเร็วของการตัดต่อวิดีโอกับ M1 ก็เร็วกว่าถึง 1.4 เท่าหรือเร็วกว่าตัว Intel ถึง 15 เท่า!
นอกจากนี้ยังมีลำโพง 4 ตัวพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งรองรับ Dolby Atmos และไมค์อีก 3 ตัวที่ตัดเสียงรบกวนและเก็บเสียงได้ชัดเจน รวมไปถึงกล้องหน้าที่ปรับปรุงให้ดีมากขึ้นด้วยกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่า รวมไปถึงแบตที่สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมงสำหรับดูหนัง และใช้ได้ 15 ชั่วโมงสำหรับท่องเว็บแบบไร้สาย ส่วนที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือพอร์ตเชื่อมต่อที่รุ่นนี้มี MagSafe สำหรับชาร์จที่ดึงออกหรือเสียบได้รวดเร็วกับ Thunderbolt 2 พอร์ต และช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.อีก 1 พอร์ต พร้อมกับอะแดปเตอร์ที่รองรับชาร์จไวสูงสุด 67W ชาร์จกลับมา 50% ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น
MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว M2 (2022)
สำหรับตัว MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2022 นี้ตรงส่วนภายนอกหรือว่าการใช้งาน Touch Bar และ Touch ID จะยังคงเป็นเหมือนเดิมกับรุ่นก่อนหน้า แต่รุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย รวมไปถึงหน้าจอที่เป็น Retina ขนาด 13.3 นิ้วเหมือนกันทั้งหมดด้วย โดยจุดที่แตกต่างไปจะเป็นสเปคภายในล้วนๆ เลย ที่ได้ชิปตัวใหม่อย่าง M2 เข้ามาช่วยเสริมให้แรงขึ้นด้วย CPU แบบ 8 Core และ GPU แบบ 10 Core จึงทำให้การทำงานกราฟิก หรือว่าตัดต่อวิดีโอ ProRes ระดับ 4K และ 8K นั้นทรงพลังขึ้นเยอะมาก
อีกทั้งรุ่นใหม่นี้ยังมีหน่วยความจำรวมที่สูงสุดถึง 24GB และมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้รวดเร็ว เมื่อทุกอย่างทำงานพร้อมกันแล้ว จะทำให้รุ่นนี้แรงกว่ารุ่น M1 ในด้านการตัดต่อวิดีโอ 1.4 เท่าหรือเร็วกว่ารุ่นที่เป็น Intel ถึง 6 เท่ารวมไปถึงการแต่งภาพไฟล์ RAW ที่เร็วกว่าเดิม 39% และเล่นเกมได้เร็วแรงกว่าเดิมถึง 39% แถมยังมีการระบายความร้อนที่ดีจาก Active cooling system อีกด้วย ส่วนการใช้งานของแบตจะใช้ได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมงสำหรับเล่นภาพยนตร์ และใช้ท่องเน็ตไร้สายได้ 17 ชั่วโมง
ราคาของ MacBook Air M2 (2022) และ MacBook Pro 13” M2 (2022)
ราคาเริ่มต้นของ MacBook Air M2 (2022) คือ 43,900 บาท ในรุ่น 8GB/ 256GB (ราคานักศึกษา 40,400 บาท) และรุ่น 8GB/ 512GB ราคา 54,900 บาท โดยรุ่นปรับแต่งสูงสุดจะมีราคา 89,900 บาท
ราคาเริ่มต้นของ MacBook Pro 13” M2 (2022) คือ 46,900 บาทในรุ่น 8GB/ 256GB (ราคานักศึกษา 43,900 บาท) และรุ่น 8GB/ 512GB ราคา 53,900 บาท โดยรุ่นปรับแต่งสูงสุดจะมีราคา 88,900 บาท
ในตอนนี้ยังไม่ได้วางขายในไทย และจะมีการวางขาย MacBook Air M2 และ MacBook Pro 13” M2 ในเดือนถัดไปนั่นก็คือเดือนกรกฎาคมปี 2565 นั่นเอง
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ MacBook Air M2 ที่ได้มีการดีไซน์ตัวเครื่อง และสเปคภายในใหม่ทั้งหมดกับ MacBook Pro M2 ที่มาพร้อมชิปตัวแรง แถมยังประหยัดพลังงานได้มากขึ้นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยราคาเริ่มต้นของทั้งสองรุ่นจะอยู่ที่ 43,900 บาทเท่านั้น รอสั่งซื้อได้พร้อมกันในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ได้เลย สำหรับใครที่มองา MacBook ตัวแรงๆ ไว้ใช้งานในปีนี้ก็ต้องบอกว่ามาเหนือใคร และเร็วแรงถูกใจสายตัดต่อและการทำงานด้านกราฟิกอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ในรุ่น MacBook Air M2 ก็มีราคาที่แอบแรงพอตัวเลยถ้าดูจากที่ผ่านๆ มา โดยราคาเกือบจะเท่ากับตัว MacBook Pro 13” อยู่แล้ว แถมถ้าปรับแต่งดีๆ ก็แพงกว่าด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ