ในงาน HUAWEI Flagship Product Launch 2022 นอกจากจะเปิดตัว HUAWEI Mate Xs 2 แล้ว ยังมีสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจอีกรุ่นเปิดตัวในงาน ได้แก่ HUAWEI P50 ที่จะมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยรุ่นนี้จากที่ได้ทดลองใช้งานมาสักพัก ผมว่ามันเป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป และด้วยค่าตัว 26,990 บาท ผมว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีเลยสำหรับคนที่อยากได้ HUAWEI P50 Pro แต่มีงบประมาณจำกัด
สเปค HUAWEI P50
- หน้าจอ OLED True-Chroma Display ขนาด 6.5 นิ้ว รีเฟรชเรต 90 Hz
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 888 รองรับ 4G
- RAM 8 GB
- ความจุในตัวเครื่อง 256 GB รองรับการเพิ่มความจุด้วย NM Card
- กล้องหลัง 3 ตัวแบบ True-Chroma ขนาด 50 ล้านพิกเซล (หลัก) (f/1.8) + 13 ล้านพิกเซล (Ultrawide) (f/2.2) + 12 ล้านพิกเซล (Telephoto แบบ Periscope ,5x Hybrid Zoom, 50x Digital Zoom) (f/3.4 มีกันสั่น OIS) รองรับ HUAWEI XD Optics ในโมดูลกล้องที่ดีไซน์แบบ Dual-Matrix
- กล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- แบตเตอรี่ขนาด 4,100 mAh
- ชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W
- ได้รับมาตรฐานกันน้ำ IP68
- วัสดุฝาหลังเป็นโพลิเมอร์
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 12 + HMS
- มาในสีดำ Golden Black และสีทอง Cocoa Gold
- ราคา 26,990 บาท
Design – การออกแบบ
HUAWEI P50 มาในดีไซน์รูปแบบเดียวกับรุ่นพี่อย่าง HUAWEI P50 Pro สังเกตได้จากโมดูลกล้องหลังที่เป็นแบบ Dual-Matrix Camera Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้อง TLR (Twin Lens Reflex) ส่วนดีไซน์ด้านหน้า รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว OLED True-Chroma Display อัตรารีเฟรชหน้าจอ 90Hz และเป็นหน้าจอแบบแบน Flat OLED เหมาะกับการเล่นเกมมากกว่า HUAWEI P50 Pro ที่เป็นหน้าจอโค้ง
สำหรับสีของตัวเครื่อง HUAWEI P50 ที่อยู่ในรีวิว จะเป็นสี Cocoa Gold แม้จะใช้ชื่อเดียวกับสีของ HUAWEI P50 Pro แต่ก็มีความแตกต่างในเรื่องของ Texture ฝาหลัง โดย HUAWEI P50 – Cocoa Gold จะมีสัมผัสผิวฝาหลังเป็นแบบด้าน แตกต่างจากรุ่นโปรที่ฝาหลังเป็นแบบเงา รวมถึงวัสดุของฝาหลังที่เป็นโพลิเมอร์ แม้จะไม่พรีเมียมเท่ารุ่นโปร แต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวมที่เบากว่าพอสมควร
หน้าจอของ HUAWEI P50 ถือว่าใส่สเปคมาให้แบบจัดเต็ม เพราะรุ่นนี้ได้หน้าจอแบบ OLED True-Chroma Display แสดงสีสันได้ 1.07 พันล้านสี ความละเอียด Full HD+ แม้ว่าอัตรารีเฟรชหน้าจอจะเป็นแบบ 90Hz แต่ก็ได้อัตราการตอบสนองหน้าจอ (Sampling Rate) สูงถึง 300Hz แบบเดียวกับในรุ่นโปร อีกทั้งยังได้ PWM Dimming 1440Hz ที่ช่วยลดอาการปวดตา ทำให้ใช้สมาร์ตโฟนได้สบายตามากขึ้นในที่แสงน้อย ว่ากันตามตรง สำหรับหน้าจอของ HUAWEI P50 เมื่อเทียบกับรุ่นโปร จะแตกต่างกันเพียงอัตรารีเฟรชหน้าจอ แล้วก็ประเภทของหน้าจอที่ไม่ใช่หน้าจอแบบโค้งเท่านั้น
ลำโพง HUAWEI P50 รุ่นนี้ได้เป็นลำโพงคู่สเตอริโอ วางตำแหน่งบริเวณขอบด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง ส่วนถาดใส่ซิมการ์ดที่อยู่บริเวณด้านล่าง รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot (2 nano SIM + 1 NM Card) และพอร์ตชาร์จเป็นแบบ USB Type-C รองรับระบบชาร์จเร็ว 66W HUAWEI SuperCharge
โดยรวมในด้านการดีไซน์ของ HUAWEI P50 รุ่นนี้ผมว่าได้อะไรที่คล้าย ๆ กับรุ่นโปรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Dual-Matrix Camera Design, หน้าจอ OLED True-Chroma Display แต่มีน้ำหนักเครื่องเบากว่า เพราะใช้ฝาหลังโพลิเมอร์ และยังได้หน้าจอแบบ Flat OLED ที่น่าจะถูกใจเกมเมอร์มากกว่าหน้าจอโค้ง
Camera – กล้องถ่ายภาพ
HUAWEI P50 มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว วางบนโมดูลกล้องแบบ Dual-Matrix อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์นี้ โดยกล้องทั้ง 3 ตัวจะประกอบไปด้วยกล้องหลัก 50MP True-Chroma (โหมดสี, รูรับแสง f/1.8 ), กล้อง 13MP Ultra-Wide (รูรับแสง f/2.2), กล้องซูม 12MP Telephoto (รูรับแสง f/3.4, OIS), รองรับ AF และยังรองรับการถ่ายมาโครที่ระยะใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตร ภาพรวมของระยะในการถ่ายภาพด้วย HUAWEI P50 ครอบคลุมทั้งระยะมุมกว้าง ไปจนถึงระยะเทเลโฟโต้ หากเทียบกับเลนส์กล้องถ่ายภาพจะมีระยะอยู่ที่ระหว่าง 16 – 125 มิลลิเมตร ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP
อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริง ผมยังไม่ค่อยประทับใจระยะที่เป็นค่ามาตรฐานของแอปพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพเท่าไรนัก เพราะจากระยะปกติ 1x หากทำการกดเลื่อนไปยังระยะซูม จะเป็นการซูม 5 เท่าทันที เนื่องจากเลนส์ซูม หรือเลนส์เทเลโฟโต้ที่ติดตั้งมาใน HUAWEI P50 เป็นกล้องแบบ Periscope ซึ่งระยะการซูมที่ 5 เท่า ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ระยะที่คนปกติทั่วไปใช้งานครับ เพราะส่วนมากเรามักจะซูมกันที่ระยะ 2 – 3 เท่ามากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า HUAWEI P50 ซูมที่ระยะ 2 เท่าไม่ได้นะครับ มันซูมได้ แต่ต้องไปเลื่อนเอาเองในแอปกล้อง ไม่สามารถกดเปลี่ยนระยะเพื่อให้ซูม 2 เท่าได้
นอกจากนี้ HUAWEI P50 ยังมีการใช้ HUAWEI XD Optic ที่มาพร้อมกับ HUAWEI XD Fusion Pro image engine ในระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งหัวเว่ยเองเคลมว่ามันสามารถเก็บแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์ปกติทั่วไปหลายเท่าตัว เมื่อรวมกับระบบ AI จึงทำให้สามารถจับภาพรูปแบบและพื้นผิวได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น และในเรื่องของสีสันภาพถ่ายมีการใช้ เทคโนโลยี True-Chroma Image Engine ช่วยในเรื่องความแม่นยำของสี จากที่ลองถ่ายภาพหลาย ๆ สถานการณ์ ผมว่ากล้องหลังของ HUAWEI P50 ให้สีที่แม่นยำว่าเซ็นเซอร์ RYYB ของรุ่นก่อนหน้าพอสมควรเลย
ด้านการถ่ายวิดีโอ HUAWEI P50 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ทั้งกล้องหน้า, กล้องหลัง และมีโหมดกันสั่น Steady Shot รองรับวิดีโอความละเอียด 1080p 30fps (เฉพาะกล้องหลัง)
ในการถ่ายภาพด้วย HUAWEI P50 โดยรวมผมค่อนข้างประทับใจเรื่องการเก็บรายละเอียดของภาพถ่าย ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ความคมชัด ความง่ายในการถ่าย ความแม่นยำในการโฟกัสอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ สำหรับกล้องสมาร์ตโฟน มีโหมดโปรไฟล์สี LEICA แบบต่าง ๆ ให้เลือกใช้ เอาเป็นว่าหากต้องการสมาร์ตโฟนที่ถ่ายภาพดี ๆ สักเครื่อง ผมว่า HUAWEI P50 เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ
Performance – ประสิทธิภาพ
HUAWEI P50 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 พร้อมกับ RAM 8GB และความจุภายในตัวเครื่อง 256GB แม้จะเป็นชิปอดีตตัวท็อป แต่พูดกันตามตรง ผมว่า Snapdragon 888 กับแอปพลิเคชั่น รวมถึงเกมในยุคปัจจุบัน หรือต่อให้เป็นเกมในอีก 1 – 2 ปีข้างหน้า ผมว่าชิปรุ่นนี้ก็ยังคงเล่นเกมได้สบาย ๆ ครับ เรื่องประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้
แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตหลักของ HUAWEI P50 เลยก็คือเรื่องการเชื่อมต่อ แม้ว่ารุ่นนี้จะรองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่อไร้สายเทคโนโลยีค่อนข้างใหม่ แต่ในการเชื่อมต่อ Cellular รุ่นนี้จะรองรับเพียงแค่การเชื่อมต่อ 4G และ 4G+ เท่านั้น ไม่สามารถใช้งาน 5G ได้ จากประเด็นที่หลายคนทราบกันดี ตรงส่วนนี้ผมถือว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายสำหรับ HUAWEI P50 ครับ
ส่วนเรื่องการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บน HUAWEI P50 ผมยังยืนยันว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นได้แทบจะไม่ต่างจากสมาร์ตโฟน Android ปกติทั่วไป เพียงแต่จะมีบางฟังก์ชั่นของแอปบางตัวที่ไม่สามารถใช้งานได้ หากมีการเรียก Google Service แต่ถ้าเป็นพวกแอปพลิเคชั่นหลัก ๆ อย่างแอปธนาคาร, โซเชี่ยลมีเดีย (Facebook, LINE และอื่น ๆ) สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถดาวน์โหลดแอปผ่านทาง HUAWEI AppStore รวมถึงบรรดา 3rd Party App เช่น APKPure หรือจะค้นหาผ่านทาง Petal Search ก็ได้เช่นกัน
Battery – แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน
HUAWEI P50 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,100mAh เป็นความจุแบตเตอรี่ที่ผมมองว่าไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป จากที่ได้ใช้งานตอนเขียนรีวิว HUAWEI P50 ผมว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่แบตเตอรี่อึดทีเดียวครับ ต้องชมการจัดการพลังงานของ EMUI 12 ที่จัดการพวกแอปพลิเคชั่นที่ทำงานเบื้องหลังได้ดี แบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานหมดวันได้สบาย ๆ แม้จะมีการเล่นเกมระหว่างวันด้วยก็ตาม
ด้านระบบการชาร์จไฟ HUAWEI P50 รองรับระบบชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W ใช้เวลาชาร์จไฟจนเต็ม 100% ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ถือว่าชาร์จได้อย่างรวดเร็วเอามาก ๆ แต่จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์ กับสายชาร์จที่รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W เท่านั้นครับ แล้วก็ตัวอะแดปเตอร์มีน้ำหนักพอประมาณอยู่เหมือนกัน
สรุปภาพรวม รีวิว HUAWEI P50
ภาพรวมสำหรับ HUAWEI P50 กับค่าตัวที่ประหยัดไปจากรุ่นโปร 7,000 บาท ผมมองว่าเป็นราคาส่วนต่างที่รับได้เลย หากไม่ได้ต้องการถ่ายภาพซูมไกลมาก ๆ เน้นใช้งานระยะปกติ – อัลตร้าไวด์ หรือถ้าต้องการซูมจริง ๆ รุ่นนี้ก็ไม่ได้ซูมได้น้อยหน้าใครเหมือนกัน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็ได้ชิปเซ็ตอดีตเรือธงอย่าง Snapdragon 888 + RAM 8GB รองรับการเล่นเกมได้หลากหลายเกม แต่หลัก ๆ ก็คือเน้นในเรื่องการถ่ายภาพล่ะครับ เอาเป็นว่าใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน เน้นภาพสวย ถ่ายง่าย ผมว่า HUAWEI P50 ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีเลยทีเดียว
HUAWEI P50 จะวางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท มาในสีดำ Golden Black และ สีทอง Cocao Gold พร้อมพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ผ่านทาง HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI