iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหม 2022 คำถามนี่น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนอยากรู้ เพราะ iPhone 11 ในเวลานี้นั้นราคาลงมาพอสมควรแล้ว แถมราคามือสองก็ลงมาไม่เกิน 15,000 บาทแล้วด้วย ช่วยเพิ่มความน่าซื้อยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทีนี้ก็จะเกิดความคิดว่าซื้อมาแล้วจะใช้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน เนื่องจาก iPhone 11 เป็นมือถือ 4G ที่เปิดตัวมา 2 ปีแล้ว และตอนนี้โลกเราก็เริ่มเข้าสู่ยุค 5G กันแล้วด้วย วันนี้เราก็เลยจะมาวิเคราห์กันว่าตกลงแล้ว iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหมในปี 2022 นี้
iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหม 2022
สำหรับ iPhone 11 นั้นคือ iPhone รุ่นเก่าที่ยังมีขายอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งนอกจากราคามือ 1 จะลงมาต่ำกว่า 20,000 บาทแล้ว ราคามือถือก็ยังถือว่าพอสมควรอยู่ โดยจากเท่าที่สังเกตมาราคาจะอยู่ในช่วง 12,000 บาท ถึงราวๆ 15,999 บาท ซึ่งก็นับว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมากเลยเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้ ถึงแม้จะต้องเช็คให้ลฃะเอียดกว่าปกติเสียหน่อยก็ตาม ซึ่งก่อนเราจะมาวิเคราะห์กันว่า iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหม เราไปย้อนดูสเปคของ iPhone 11 กันก่อนดีกว่า
สเปคของ iPhone 11
- หน้าจอ : Liquid Retina (IPS-LCD), ขนาด 6.1 นิ้ว, ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล (HD)
- ชิปประมวลผล : Apple A13 Bionic (7nm+)
- แรม / ความจุ :
- 4GB / 64GB
- 4GB / 128GB
- 4GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 12 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2 : 12 MP, f/2.4, 120˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 3,110 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว PD 2.0 ขนาด 18W, รองรับระบบชาร์จไร้สายมาตราฐาน Qi
- ระบบปฏิบัติการ : iOS 15.4 (อัพเดตล่าสุด)
- การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE-A
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.0
- GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS
- NFC
- Lightning
- เซ็นเซอร์ :
- FaceID
- Accelerometer
- Proximity
- Gyroscope
- Barometer
- กันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
- วัสดุ : กระจกหน้า-หลัง Gorilla Glass, Aluminum Frame
- ขนาด : 150.9 x 75.7 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก : 194 กรัม
- สี : ขาว, ดำ, ม่วง, เขียว, เหลือง, (PRODUCT)RED
- ราคา :
- 4GB / 64GB : 24,900 บาท (ราคาเปิดตัว) | 19,500 บาท (ราคาปัจจุบัน)
- 4GB / 128GB : 26,900 บาท (ราคาเปิดตัว) | 21,500 บาท (ราคาปัจจุบัน)
- 4GB / 256GB : 30,900 บาท (ราคาเปิดตัว) | ไม่มีขายแล้ว
หน้าจอของ iPhone 11
สิ่งแรกทืี่เราจะพูดถึงกันเลยก็คือหน้าจอของ iPhone 11 ซึ่งเป้นหน้าจอแบบ IPS-LCD ที่มีความละเอียดระดับ HD ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องอื่นๆ ในเรทราคาเดียวกันแล้วนับว่าแพ้ไปเยอะเลย เนื่องจากมือถือในเรทราคาเดียวกันในฝั่ง Android นั้นทุกเครื่องใช้หน้าจอเป็น AMOLED ความละเอียด Full-HD+ กันหมดแล้ว แต่ทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่ทาง iPhone 11 ทำออกมาได้ดีก็คือการตอบสนองการสัมผัสซึ่งทาง iPhone จะมีความติดมือมากกว่าทางฝั่ง Android ซึ่งที่เป้นเช่นนั้นเนื่องจาก iPhone แทบทุกรุ่นจะมาพร้อมกับค่าอัตราการตอบสนองต่กการสัมผัสที่สูงถึง 120Hz ในขณะที่ทางฝั่ง Android จะเป็น 60Hz (ยกเว้นบางรุ่นที่ให้มาสูงกว่า 60Hz)
นอกจากนี้เมื่อเอามาเทียบกับ iPhone ด้วยกันเองแล้วตอนนี้ก็มีแค่ iPhone SE และ iPhone 11 เท่านั้นที่ยังใช้หน้าจอ IPS-LCD อยู่ สส่วนรุ่นอื่นๆ อย่าง iPhone 12 หรือ iPhone 13 นั้นทุกรุ่นใช้หน้าจอ OLED หมดแล้วนั่นเอง ซึางเมื่อเทียบทั้งสีสันและความคมชัดแล้วก็แพ้ขาดจริงๆ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่เพิ่มมากขึ้นพอสมควร ดังนั้นถ้าพูดถึงเรื่องหน้าจอแล้วไม่ได้แคร์เรื่องความคมชัดมากนัก หน้าจอของ iPhone 11 ก็ยังเอามาใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร
ชิปประมวลผลของ iPhone 11
มาต่อกันที่ชิปประมวลผลกันบ้าง ซึ่งชิปประมวลผลของ iPhone 11 คือชิป Apple A13 Bionic ซึ่งถ้าถามถึงความแรงแล้วต้องบอกเลยว่าในด้านความแรงของ A13 Bionic นั้นยังสามารถใช้สู้กับมือถือที่มีขายอยู่ในปัจจุบันได้หมดแถมชนะเกือบทุกรุ่นในเรทราคาเดียวกันด้วย ซึ่งถ้าเอามาใช้เล่นเกมนั้นต้องบอกเลยว่ายังแรงพอที่จะเอามาใช้เล่นเกมในปัจจุบันนี้ได้ทุกเกมไม่เว้นแม้แต่ Genshin Impact ที่กินสเปคแบบสุดๆ แต่สิ่งที่ iPhone 11 จะด้อยกว่ามือถือทุกรุ่นในปัจจุบันก็คือชิป A13 Bionic นั้นเป็นชิป 4G ในขณะที่ iPhone ทุกเครื่องในปัจจุบัน รวมถึง Android ทุกเครื่องในเรทราคาเีดยวกันนั้น ตอนนี้เป็นชิป 5G หมดแล้ว เรียกได้ว่านี่น่าจะเป็นข้อเสียเปรียบข้อเดียวของ iPhone 11 ในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้
กล้องของ iPhone 11
ในด้านของการถ่ายรูปนั้น iPhone 11 มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวเป็นกล้องหลักและกล้องมุมกว้างพิเศษ ซึ่งมีความละเอียดอยู่ที่ 12 Mp เหมือนกันทั้งคู่ อีกทั้งกล้องหน้ายังมีความละเอียด 12 MP เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าพูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วเรียกได้ว่าเกินพอเลย สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K 60fps ได้ทุกเลนส์ เกินพอแล้วต่อการใช้งาน แต่ถ้าจะมีจุดอ่อนหน่อยก็คือเมื่อเทียบกับ iPhone 12 และ iPhone 13 แล้วตัว iPhone 11 จะไม่มี Depp Fusion ที่จะช่วยการวัดระยะและมิติของภาพให้แม่นยำ ซึ่งจะส่งผลให้การละลายหลังทำได้แย่กว่าเล็กน้อย แถมยังส่งผลให้ไม่สามารถใช้งาน FaceID ขณะใส่หน้ากากได้อีกด้วย
สรุป iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหม 2022
สรุปแล้ว iPhone 11 ยังน่าใช้อยู่ไหมในปี 2022 ในที่นี้ต้องถามเพื่อนๆ ก่อนว่าต้องการ 5G ไหม ถ้าไม่ได้สนใจ 5G มากนัก iPhone 11 ก็นับว่าเป็นเครื่องที่น่าสนใจ ขนาดตัวเครื่องกำลังดี ชิปประมวลผลก็ยังใช้ได้อีกนาน แถมราคามือสองที่เรียกได้ว่าเข้าถึงได้ง่ายจัดๆ แต่สิ่งที่ต้องแลกมากับ iPhone 11 ก็คือหน้าจอที่มีความละเอียดต่ำ และไม่สามารถปลดล็อคเครื่องขณะใส่หน้ากากได้ ซึ่งสำหรับคนที่สนใจเครื่องมือสองก็จำเป็นต้องเช็คอะไรหลายๆ อย่างก่อนที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง แต่ถ้าไม่ชอบเครื่องมือสอง บนเว็บ apple.co.th ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน ถึงจะมีให้เลือกเพียงแค่รุ่น 64GB และ 128GB ก็ตาม สำหรับคนที่ต้องการรุ่น 256GB แล้วคุณมีทางเลือกเดียวคือหาซื้อมือสองเอาเท่านั้น ซึ่ง iPhone 11 รุ่น 256GB นั้นนับว่าหาได้ค่อนข้างยากพอสมควร ดังนั้นเราแนะนำว่าถ้าจะซื้อ iPhone 11 ให้เลือกซื้อรุ่น 128GB ก็พอแล้ว ถ้าคิดว่าพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอก็สามารถซื้อ iCloud มาเพิ่มได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง