Samsung Galaxy Tab S8 Ultra แท็บเล็ตตัวใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาแท็บเล็ตตอนนี้ที่ 14.6 นิ้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมชิปประมวลผลสุดแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 และแบตเตอรี่ที่เยอะจัดๆ ถึง 11,200 mAh อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่แทบจะไม่ใช่แท็บแล็ตแล้ว ซึ่งหลังจากที่ได้ลองเอาไปใช้งานมาระยะหนึ่ง เราจะมาเล่าให้ฟังว่าการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง
สเปคของ Samsung Galaxy Tab S8 Ultra
- หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 14.6 นิ้ว, ความละเอียด 2960 x 1848 พิกเซล (WQXGA+), Refresh Rate 120Hz, รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+, กระจก Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
- แรม : 8GB
- ความจุ : 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 13 MP, f/2.0, AF (wide)
- ตัวที่ 2: 6 MP, f/2.2 (ultrawide)
- กล้องหน้า :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/2.2 (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.4 (ultrawide)
- แบตเตอรี่ : 11,200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุด 45W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย OneUI 4.1
- การเชื่อมต่อ :
- Wi-Fi 6E
- 5G
- Bluetooth 5.2
- GPS
- USB Type-C 3.2
- Magnetic Connector
- Wireless Samsung DeX
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint
- Accelerometer
- Gyroscope
- Proximity
- Compass
- ขนาด : 326.4 x 208.6 x 5.5 มม.
- น้ำหนัก :
- Wi-Fi : 726 กรัม
- 5G : 728 กรัม
- สี : Graphite
- ราคา :
- Wi-Fi : 38,900 บาท
- 5G : 45,900 บาท
หน้าสเปคเต็ม (Wi-Fi) / หน้าสเปคเต็ม (5G)
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว แถมมี Refresh Rate สูงถึง 120Hz
- ได้ชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1
- กล้องถ่ายภาพเกินกว่าความเป็นแท็บเล็ต แถมยังมีกล้อง Ultrawide ด้วย
- รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดถึง 45W
- รองรับ 5G
- S Pen ตอบสนองเร็ว ใช้งานได้หลากหลาย
- ตัวเครื่องบางแค่ 5.5 มม. เท่านั้น
ข้อสังเกต
- ได้หน้าจอเป็น Super AMOLED กับราคาค่าตัวในช่วง 40,000 บาท (งบไปลงกับขนาดหน้าจอแทน)
- ด้วยการที่หน้าจอไม่ใช่ Adaptive Display ทำให้ถ้าตั้งค่า Refresh Rate 120Hz ตลอดเวลาจะส่งผลให้ค่อนข้างเปลืองแบตเตอรี่
- มีแรมแค่ 8GB
- มีความจุให้เลือกเพียง 128GB ถึงจะเพิ่ม microSD Card ได้อีกก็ตาม
- ถ้าจะเอามาถือเล่นเกมจะค่อนข้างเมื่อยมือพอสมควร
ดีไซน์ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy Tab S8 Ultra
สำหรับดีไซน์ของ Galaxy Tab S8 Ultra นั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 14.6 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ WQXGA+ พร้อมด้วย Refresh Rate 120Hz ซึ่งครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ถึงแม้จะไม่ใช้กระจกที่แกร่งมากนัก แต่ก็นับว่าแข็งแกร่งพอจะช่วยปกป้องหน้าจอจากรอยต่างๆ ได้ สำหรับกล้องหน้านั้นจะอยู่ใน Notch ที่วางอยู่บริเวณขอบจอแนวนอน โดยภายในจะมีกล้องอยู่ 2 ตัว
สำหรับด้านหลังตัวเครื่องนั้นจะมาแบบเรียบๆ แต่ให้ความหรูหราด้วยวัสดุแบบโลหะ ที่มุมด้านบนฝั่งขวาจะมีโมดูลกล้องและไฟแฟลชแบบ LED อยู่ โดยจะมีแถบดำลากจากโมดูลกล้องขนาดไปตามขอบเครืทท่อง บริเวณนี้คือจุดชาร์จปากกา S Pen นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีข้อความสลักไว้ที่ขอบด้านล่างของเครื่องไว้ด้วยว่าตัวเครื่องนี้มีระบบเสียงที่ปรับแต่งโดย AKG
ที่ขอบด้านบนของตัวเครื่องจะมีปุ่มเปิด-ปิด, ปุ่มปรับระดับเสียง, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิมอยู่ โดยในช่องนี้ถ้าเป็นรุ่น Wi-Fi จะใส่ได้แค่ microSD Card อย่างเดียว แต่ถ้าเป็นรุ่น 5G ที่ด้านหลังถาดจะเอาไว้ใส่ซิม เรียกได้ว่าเป็นถาดแบบ Dual-slot แบบประหยัดเนื้อที่นั่นเอง
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมี Connector สำหรับเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด
ที่ขอบฝั่งขวาของตัวเครื่อง (เมื่อหันหน้าจอเข้าหาตัว) จะมีลำโพง 2 ตัวที่ริมขอบ และมีพอร์ต USB Tupe-C อยู่ตรงกลาง
ที่ขอบด้านซ้าย (เมื่อหันหน้าจอเข้าหาตัว) จะมีลำโพงอีก 2 ตัว และไมโครโฟนอยู่
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ Galaxy Tab S8 Ultra นั้นเป็น OneUI 4.1 ที่พัฒนาขึ้นมาบน Android 12 ซึ่งหน้าตาพื้นฐานจะไม่ได้แตกต่าไปจาก OneUI ปกติเท่าไร แต่ทว่าใน OneUI ที่ถูกเอามาใช้ในแท็บเล็ตนี้ได้มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับอัตราส่วนหน้าจอที่ใหญ่ของแท็บเล็ตได้อย่างลงตัว ไม่ได้ดูโล่งจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าธีมของหน้าจอได้ค่อนข้างหลากหลายกว่าเดิมอีกด้วย
การใช้งานต่างๆ
การใช้งานทั่วไป : ดูหนัง, เล่นโซเชียล ฯลฯ
ในด้านการใช้งานนั้นด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันที่สวยสด กับหน้าจอแบบ 120Hz ช่วยให้การเล่นโวเชียลและดูหนังทำได้อย่างลื่นไหล และคมชัด เพียงแต่ด้วยการที่หน้าจอไม่ใช้ Adaptive Display ที่สามารถปรับค่า Refresh Rate ได้อัตโนมัติตามการใช้งาน ส่งผลให้แบตเตอรี่ลดค่อนข้างเร็วกว่า ซึ่งในกรณีนี้ถ้าคิดว่าไม่ลำบากเกินไปก็ให้ปรับหน้าจอเป็น 60Hz ตลอดเวลา แล้วพอจะใช้งานหนักๆ อย่างการทำงานหรือเล่นเกมแล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็น 120Hz จะดีกว่า
การใช้ทำงาน
ในด้านการใช้ทำงานนั้นเราได้ทดลองโดยการหิ้วเครื่องออกไปเขียนงานที่ร้านกาแฟ โดยเปิดหน้าจอแบบ 120Hz ใช้งาน 5G เปิด 3 หน้าจอ ต่อคีย์บอร์ดและหูฟังแบบบลูธูทตลอดเวลา (ถ้าได้ Samsung Smart Keyboard มาจะดีกว่านี้) ซึ่งอย่างแรกที่ต้องยอมรับเลยก็คือด้วยหน้าจอที่ใหญ่มากๆ ถึง 14.6 นิ้ว ช่วยให้การแบ่งหน้าจอดุไม่เล็กจนเกินไป มีความสบายตามากกว่ารุ่นก่อนๆ เสียอีก อีกอย่างก็คือการบริโภคแบตเตอรี่นั้นเรียกได้ว่ากลางๆ เนื่องจากมีการใช้งานหลายๆ อย่างพร้อมกันตลอดเวลา แต่ด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่เยอะมากๆ ก็ช่วยพยุงให้พ้นวันได้สบาย
Dex Mode อีกสิ่งที่มาในอุปกรณ์ระดับเรือธงของ Samsung แทบทุกเครื่อง เป็นโหมดที่จะเปลี่ยนให้อุปกรณืเครื่องนั้นทำงานแบบ PC ได้ ซึ่งในมือถือจะต้องต่อจอเพิ่มถึงจะใช้งานแบบ PC ได้ แต่สำหรับใน Galaxy Tab สามารถเปิด Dex Mode ได้เลย แถมด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 14.6 นิ้วของ Galaxy Tab S8 Ultra ยังช่วยให้ไม่ต้องไปหาจอเพิ่มก็สามารถใช้งานได้แบบสบายๆ เรียกได้ว่าถ้าต่อคีย์บอร์ดและเปิด Dex Mode แล้ว Galaxy Tab S8 Ultra ก็สามารถกลายเป็นโน๊ตบุ๊คระบบ Android ได้สบายๆ เลย
S Pen
สำหรับปากกา S Pen ของ Galaxy Tab S8 Series นั้นจะมาพร้มกับตัวเครื่องเลย ซึ่งก็ช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะ แถมปากกา S Pen ที่มาพร้อมกับ Galaxy Tab S8 Ultra ยังเป็น S Pen รุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย ซึ่งนอกจากค่าความหน่วงจะน้อยมากๆ แล้วยังสามารถใช้ AAir Command ได้ แถมยังสามารถใช้ร่วมกับแอปฯวาดรูปและแอปฯตัดต่อต่างๆ ได้อย่างลงตัว
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยการที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 แล้ว เรียกได้ว่าหายห่วงเลย สามารถเล่นเกมได้ทุกเกม บนคุณภาพระดับสูงสุด ถึงแม้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 จะยังมีปัญหาเรื่องความร้อนอยู่บ้าง แต่ด้วยบิดีที่เป็นโลหะและความบางแค่ 5.5 มม. ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ค่อนข้างเน็ว แถมจุดรวมความร้อนก็อยู่แถวๆ โมดูลกล้องซึ่งค่อนข้างไกลจากจุดจับเครื่องพอสมควร ส่งผลให้ความร้อนไม่ส่งมาถึงมือเวลาเล่นเกม ถึงแม้ความร้อนจะมาไม่ถึงมือ แต่ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 14.6 นิ้วก็ทำให้เมื่อยมือสุดๆ แทน ซึ่งด้วยเกมที่เอามาลองทั้ง RoV, PUBG New State และ Genshin Impact นั้นเกม PUBG New State และ Genshin Imapct นั้นเล่นได้ค่อนข้างง่าย ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ทำให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ ได้ ส่วนที่อาจจะเป็นปัญหาหน้่อยก็คือเกม RoV รวมถึงเกมที่ไม่สามารถปรับการวางตำแหน่งของปุ่มได้ ซึ่งเกมเหล่านี้จะทำให้การจับถือระหว่างเล่นค่อนข้างลำบาก ทำให้เมื่อยมือเร็วมากๆ
การถ่ายภาพ
ในด้านการถ่ายภาพนั้น Galaxy Tab S8 Ultra มาพร้อทกล้องหลังและกล้องหน้าอย่างละ 2 ตัวซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง ultrawide เหมือนๆ กัน โดยกล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 13 MP และกล้อง ultrawide ความละเอียด 6 MP ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 12 MP ทั้งกล้องหลักและกล้อง ultrawide เพียงแต่ในกล้องหน้านี้จะมีความน่าสนใจตรงที่มีระบบ Auto Framing ที่สามารถขยายมุมมองในการถ่ายวิดีโอหรือวิดีโอคอลพร้อมกับโฟกัสไปในตัว ซึ่งจากที่ได้ไปลองถ่ายมานั้นต้องรองรับเลยว่ากล้องที่ให้มานั้นไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายในสภาพแสงไหนก็ตาม แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ต้องบอกเอาไว้ก่องว่า ในตอนที่ยกเปิดกล้องมาถ่ายเลยนั้นก่อนจะกดถ่ายต้องให้เวลาเครื่องโฟกัสแปปหนึ่งภาพถึงจะคมชัด นอกจากนี้ถึงแม้ตัวเครื่องจะมไ่มีกล้องซูม แต่การซูมแบบ Digital ขนาด 10 เท่านั้นก็ทำออกมาได้คมชัดใช้ได้เลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่าย
แบตเตอรี่
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นด้วยขนาดที่มากถึง 11,200 mAh นั้นทำให้การใช้งานสามารถยาวนานเกินวันได้สบายๆ แถมด้วยระบบชาร์จที่รองรับความเร็วสูงถึง 45W ยังช่วยร่นเวลาชาร์จให้สั้นลงได้ โดยจากที่ได้หิ้วไปลองใช้นอกสถานที่พร้อมทั้งนั่งทำงานตามปกติแล้ว ก็ต้องอึ้งเล็กน้อย เนื่องจากแบตเตอรี่หายไป 50% ใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง ในสภาพที่เปิดหน้าอจแบบ 120Hz ไว้ตลอดเวลา มีการใช้งานเน็ต 5G ตลอด มีการเปิดใช้งาน 3 แอปฯ พร้อมกันแบบ Multi Windows และมีการเชื่อมต่อบลูธูท 2 อุปกรณ์ตลอด และหลังจากนั้นเมื่อกลับบ้านมาก็เอามานั่งเล่นเกมต่อ รวมๆ เวลาหลังจากถอดสายชาร์จก็ 11 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งนับได้ว่าถึกสุดๆ แถมเมื่อชาร์จร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 25W แล้ว หลังเริ่มชาร์จจากตอนที่แบตเตอรี่เหลือ 18% ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 47 นาทีถึงจะเต็ม ซึ่งนับว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับปริมาณแบตเตอรี่ที่มี
หากสงสัยว่าทำไมไม่ใช้อะแดปเตอร์ขนาด 45W ในการชาร์จนั่นก็เพราะมีการทดสอบออกมาจากหลายๆ สื่อแล้วว่าอะแดปเตอร์ขนาด 45W ใช้เวลาน้อยกว่าอะแดปเตอร์ชาร์จ 25W แค่ไม่กี่นาที ซึ่งด้วยการที่อะแดปเตอร์ขนาด 25W มีราคาที่ถูกกว่า แต่ใช้เวลาชาร์จต่างกันไม่กี่นาที ทำให้มีความน่าสนใจมากกว่านั่นเอง
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy Tab S8 Ultra
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy Tab S8 Ultra จากการที่ได้เอาไปลองใช้มาระยะหนึ่งนั้น ต้องบอกเลยว่า Galaxy Tab S8 Ultra นั้นเป็นแท็บเล็ตที่เกือบจะไม่ใช่แแท็บเล็ตแล้ว เพราะหน้าจอที่ใหญ่มากๆ ถึง 14.6 นิ้ว ทำให้การถือใช้งานเรียกได้ว่าลำบากพอสมควร แต่ด้วยการที่น้ำหนักไม่เยอะมากนัก ก็ทำให้พกพาได้ง่ายกว่าโน๊ตบุ๊คพอสมควร และยิ่งถ้าใช้มือถือ Samsung ควบคู่ไปด้วยแล้ว ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าถามว่า Galaxy Tab S8 Ultra นี้เหมาะกับใครหรือการใช้งานแบบไหนนั้น ต้องบอกเลยว่า Galaxy Tab S8 Ultra เหมาะกับคนที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แต่ไม่อยากพกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไป หรือไม่ก็คนที่หาเงินได้จากอุปกรณ์พอพาอย่างวาดรูปขายหรือทำคอนเทนต์ลงโซเชียลต่างๆ เพราะทั้งความแรงที่มีและปากกา S Pen ช่วยให้สามารถทำได้ทุกอย่างเลย ถึงแม้จะราคาสูงไปนิด โดยเริ่มต้นที่ 38,900 บาทสำหรับรุ่น Wi-Fi และ 46,900 บาทสำหรับรุ่น 5G แต่ก็คุ้มค่าที่จะจ่ายแล้ว
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ samsung.com/th ได้เลยนะครับ โดยจะมีการแบ่งเป็นรุ่น Wi-Fi และรุ่น 5G