รีวิว Samsung Galaxy Watch3 นาฬิกาที่ไม่ใช่นาฬิกาธรรมดา แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่จัดการชีวิตและสุขภาพ กับฟังก์ชั่นที่พบได้เฉพาะ Galaxy Watch3 ไม่ว่าจะเป็น Full-range Blood Pressure Monitoring, ECG Monitoring และ SpO2 Monitoring ที่มีในสมาร์ทวอทช์ครั้งแรกของโลก ฟังก์ชั่นตรวจวัดสุขภาพมาตรฐานไม่ว่าจะเป็น Stress Tracker, Sleep Score, Women’s Health Monitor และ Fall Detection การวิเคราะห์การออกกำลังกายด้วย Exercise Analysis รวมไปถึง Fitness Program ที่ช่วยให้ออกกำลังกายง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณชีวิตง่ายยิ่งขึ้น เพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Galaxy เพื่อใช้โทรศัพท์ ตอบข้อความ ทำลิสท์แจ้งเตือน หรือฟังเพลง จนแทบไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้อีกต่อไป
รีวิว Samsung Galaxy Watch3 – Design
เครื่องรีวิว Samsung Galaxy Watch3 เป็นตัวเรือนขนาด 45mm รองรับ 4G-LTE หรือเป็นตัวรองรับ eSim ภายในกล่องประกอบไปด้วยคู่มือการใช้งานเริ่มต้นทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ, Warranty Card หรือบัตรรับประกันสินค้า, สายชาร์ตแบบแม่เหล็ก ซึ่งตรงนี้มีมาให้แต่สายเท่านั้น ไม่ได้แถม Adapter มาให้ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ น่าจะมี Adapter กันอยู่แล้ว หรือ สามารถชาร์ตไฟกับ Power Bank ก็ยังได้ และชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในกล่องเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Galaxy Watch3 ที่มาพร้อมกับสายหนังแท้สีดำ เข้ากับตัวเรือนสีดำเป็นอย่างดี
ตัวเรือนของรุ่นนี้ เป็นหน้าปัดแบบกลม ดีไซน์หรูหราสุดคลาสสิก เสริมข้อมือให้โดดเด่นสะดุดตา สามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและไม่เป็นทางการ ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสหรือไทเทเนียม ให้ความรู้สึกพรีเมียม และบางเบาลงกว่าเดิม พร้อมกับสายหนังแท้คุณภาพสูง และสายโลหะสำหรับรุ่นไทเทเนียม ประกอบไปด้วยปุ่มจำนวน 2 ปุ่ม ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งขวาของตัวเรือน โดยเรียงกันระหว่างบนและล่าง
โดยปุ่มด้านบนนั้นถูกสลักข้อความ Galaxy Watch ตัวเล็ก ๆ อยู่ แฝงความเรียบหรูอยู่ภายในปุ่ม ซึ่งปุ่มนี้ ทำหน้าที่เปรียบเสมือนปุ่ม Home บน Smartphone ของเรา เวลาเราเข้าใช้งานเมนูหรือโหมดต่าง ๆ เมื่อกดนี้ ก็จะกลับมาสู่หน้าแรกของนาฬิกาทันที และปุ่มสุดท้ายที่อยู่ตำแหน่งด้านล่างขวา มีขีดสีดแดงตรงขอบปุ่มด้านนอก ปุ่มนี้ใช้ทำหน้าที่กดเรียกเมนูหรือแอพต่าง ๆ และเมื่อกดค้าง ก็จะมีเมนูปิดเครื่อง หรือ รีสตาร์ทเครื่องอีกด้วย
มาต่อกันที่ตัวเรือนด้านบนจะมีตัวเลขบอกนาทีไว้โดยรอบ และมีขอบวงแหวนล้อมรอบตัวเรือนไว้ ซึ่งในส่วนนี้สามารถบิดหมุนเพื่อเปลี่ยนหน้าต่างเมนูบนจอ Watch3 หรือใช้ในการหมุนเพื่อเลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้ ด้านหลังประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ อีกทั้งยังรองรับการชาร์ตแบบไร้สายอีกด้วย
สายนาฬิกา Galaxy Watch3 ให้มาเป็นสายหนังแท้ สามารถถอดได้แบบเดียวกับนาฬิกาทั่วไป โดยการเลื่อนสลักล็อกทั้งตอนถอดออกและใส่เข้า ทนน้ำ ทนเหงื่อ แต่แนะนำว่า สายหนังแท้ราคาค่อนข้างสูงนิดนึง ถ้าหากเป็นไปได้ อาจลองหาซื้อสายซิลิโคนมาใส่แทนก็จะรู้สึกกระชับและมั่นใจกับการโดนน้ำโดนเหงื่อมากกว่าสายหนัง
อย่างที่ได้บอกไปว่า เครื่องรีวิว Samsung Galaxy Watch3 รองรับสัญญาณ LTE จาก eSim ซึ่งประโยชน์ของการที่รองรับ eSim นั้น สามารถรับสาย โทรออก แม้เราจะไม่ได้พก Smartphone ก็ตาม อีกทั้งยังช่วยให้ GPS ที่อยู่ใน Watch3 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำขึ้น ใครที่ใช้ระบบเครือข่าย AIS อยู่ เมื่อเชื่อมต่อ Watch3 เข้ากับ Smartphone เรียบร้อยแล้ว จะสามารถตั้งค่า eSim ได้เลยทันที
โดยผู้ที่ใช้งาน eSim ครั้งแรกนั้น ทาง AIS มีโปรโมชั่นใช้บริการฟรี 3 เดือน และหลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 199 บาท (ค่าบริการยังไม่รวม Vat7%) หากใครใช้งานไปแล้วใกล้ครบ 3 เดือน สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อครับ
หลังจากที่ตั้งค่าเชื่อมต่อระหว่าง Watch3 และ Smartphone แล้ว สามารถตั้งค่าต่างๆของ Watch3 ได้จากแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable ได้เลยครับ ที่สำคัญคือ Smartphone ต้องเป็น Samsung นะครับ ถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งรุ่นอื่นก็ใช้ได้ แต่ฟังค์ชั่นการควบคุมต่างๆ จะมีอยู่บน Smartphone Samsung เท่านั้น ซึ่งในแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable นั้น สามารถตั้งค่าทั้งหมดของ Watch3 ได้เลย โดยที่ไม่ต้องนั่งจิ้มหน้าจอของ Watch3 แม้แต่น้อย รวมไปถึงการเลือกหน้าปัดนาฬิกา ก็สามารถทำได้ง่ายๆเช่นกัน ปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอได้มากถึง 40 แบบ หรือหากใครอยากหาซื้อหน้าปัดนาฬิกาเพิ่มเติมอีก 80,000 รูปแบบบน Galaxy Store หรือจะสร้างหน้าปัดของตัวคุณเองก็ทำได้เช่นกัน ก็สามารถเลือกหาได้ภายในแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable ตัวเดียวจบเลยครับ
Battery – แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน
จากที่ได้ลองใช้มาเป็นเวลา 1 เดือน เริ่มจากในส่วนของ Battery นั้น ใช้เวลาชาร์ตไม่เกิน 1 ชั่วโมง คือเต็ม 100% เมื่อชาร์ตเสร็จ จะมีสถานะการแจ้งเตือนของ Battery ว่าเราจะสามารถใช้ Watch3 นี้ได้นานกี่วัน ซึ่งจากที่ทดลองใช้ Battery สามารถอยู่ได้เกือบครบตามที่แจ้งเตือนมา คือ 2 วันกับ 9 ชั่วโมง คือใช้จริงก็ได้อยู่ที่ 2 วันพอดี เช้าจรดเย็น โดยที่ยังมี Battery เหลือพอที่จะไม่ดับ แต่ถ้าหากวันไหนใส่ออกกำลังกายที่ต้องจับ GPS และ Heart rate เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง ก็จะทำให้สูบ Battery เล็กน้อย อย่างเช่นการปั่นจักรยานเป็นต้น
Feature – ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Smart Reply ตอบข้อความได้ง่ายขึ้นกับระบบตอบกลับอัจฉริยะที่จะวิเคราะห์ข้อความที่ส่งมาพร้อมกับแนะนำคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับข้อความนั้นๆ และสามารถแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อความในระบบตอบกลับในรูปแบบของตัวเองได้ และมี Bitmoji สร้างสติกเกอร์ที่เพิ่มอรรถรสในบทสนทนามากยิ่งขึ้น
มาถึงเรื่องการออกกำลังกายกันบ้าง เจ้า Galaxy Watch3 สามารถตั้งค่าการออกกำลังกายได้จากตัว Smart Watch ได้เลย โดยเลือกที่ Exercise Analysis แล้วเข้าไปเลือกโปรแกรมที่เราจะออกกำลังกายได้เลย ซึ่งจะวิเคราะห์คุณภาพการออกกำลังกายด้วยฟังก์ชั่น Exercise Analysis ที่ช่วยปรับปรุงการออกกำลังกายและป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย
โดยข้อมูลทั้งหมดที่ Galaxy Watch3 เก็บเอาไว้ สามารถดูย้อนหลังได้ทั้งหมดในแอพพิลเคชั่น Samsung Health ทั้งหมด เก็บไว้ทุกอย่างเท่าที่ Smart Watch เรือนนึงจะทำได้ อีกทั้งยังบันทึกข้อมูลลงไปใน Account Samsung ที่เราสมัครไว้อีกด้วย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องกังวลใจว่า จะเปลี่ยน Smartphone ใหม่สักกี่ครั้ง (ต้องเป็น Samsung เท่านั้นนะ) ข้อมูลของเราก็ยังคงเก็บไว้อยู่ใน Samsung Account อย่างปลอดภัย
การออกกำลังการตามตัวอย่าง คือ เลือกโปรแกรมการปั่นจักรยานแบบ Outdoor ซึ่งเจ้า Watch3 ก็ทำการเก็บข้อมูลเส้นทางได้อย่างแม่นยำ โดยที่ไม่ต้องพก Smartphone เลย ความเร็วในการปั่น ระยะทางที่ใช้ในการปั่น จำนวนรอบค่อนข้างตรง สังเกตุได้จากรูปแรก เส้นทางของการปั่น ไม่มีกระโดดซ้ายขวา หรือลัดไปไหนแม้แต่น้อย เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมก็เข้าไปดูข้อมูลของเราทั้งหมดได้เลยใน Samsung Health
Fitness Program ออกกำลังกายที่บ้านให้สนุกกับ Instructor สอนออกกำลังกายที่คุณทำตามได้เองมากกว่า 120 โปรแกรม เพียงแค่เชื่อมมือถือของคุณเข้ากับทีวี จากนั้นก็เลือกโปรแกรมการออกกำลังกายได้เลย โดยแต่ละโปรแกรมการออกกำลังกายนั้น จะมีจำนวน Set ของการออกกำลังกายแตกต่างกันออกไป ซึ่งในแต่ละท่าก็จะมีคำแนะนำในการออกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพตามโปรแกรมที่เราเลือกไว้
การเชื่อมต่อ Smartphone เข้ากับ SmartTV นั้นก็ไม่ได้ยากอะไร แค่เปิดทีวีแล้วเลือกคลิปออกกำลังกายที่ต้องการ จากนั้นก็ทำการ Mirror หน้าจอหรือถ้าที่บ้านใครใช้ SmartTV ของ Samsung ก็ยิ่งง่ายเข้าไปอีก โดยเลือกที่โหมด SmartView ที่อยู่บน Smartphone แค่นี้ทั้งภาพแและเสียงของคลิปสอนออกกำลังกายที่เราเลือกไว้ก็แสดงผลให้ทันที อีกทั้งข้อดีคือ มีเสียงพูดภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นคลิปสอนจากต่างประเทศก็ตาม
อย่างที่บอกไปว่า Watch3 มีทั้งรุ่น wifi และ LTE ซึ่งทั้ง 2 รุ่น สามารถควบคุมการรับสาย หรือ โทรออกได้ แต่จะต่างไปตรงที่ รุ่น wifi นั้น ต้องมี Smartphone เชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา ส่วนรุ่นที่เป็น LTE นั้น สามารถ ควบคุมการรับ หรือ โทรออกได้โดยไม่ต้องมี Smartphone แต่อย่างใด
เพิ่มความสะดวกได้มากในกรณีที่ เราออกกำลังกาย ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้พกหรือวาง Smartphone ไว้ใกล้ตัว รวมไปถึงการลืม Smartphone ไว้ที่บ้าน ก็สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถฟังเพลง เชื่อมต่อกับหูฟัง Truewireless ผ่านแอพพลิเคชั่น Spotifly ฟังเพลงโดยไม่ต้องพก Smartphone ได้อีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องใช้ Spotifly แบบ Premium เท่านั้น ถึงจะสามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้
อีก 1 โปรแกรมที่ Watch3 ให้ความสำคัญ และใส่มาด้วย ก็คือ Health Monitoring เช็กสุขภาพของคุณอย่างละเอียด โดยเป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกของโลกที่สามารถวัดความดันโลหิตทั้ง Systolic/Diastolic การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งสามารถวัดค่าที่บ่งบอกสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น อัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด คุณภาพในการนอนหลับ หรือแม้แต่รอบเดือนของสาวๆด้วย
หรือแม้กระทั่งการใส่นั่งทำงาน ก็จะมีการแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะๆ ให้เราลุกเดิน หรือขยับร่างกาย เนื่องจากบางครั้ง โดยเฉพาะคนทำงานออฟิศที่ต้องทำงานนั่งโต๊ะ โรคออฟฟิศซินโดมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกันเยอะมากๆ การมีตัวช่วยในการแจ้งเตือนให้เราลุกไปยืดเส้นยืดสาย ก็จะทำให้เราผ่อนคลายจากงานที่ทำได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องบอกเลยว่า Watch3 เหมาะสำหรับทั้งผู้ชาย – ผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงวัยทำงานที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง
อีกสิ่งหนึ่งจะไม่พูดถึงไม่ได้ คือระบบ Tracking การเคลื่อนไหวร่างกาย เจ้า Watch3 ก็สามารถตรวจจับได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งการเดิน การวิ่ง การปั่นจักรยาน จากที่ใช้งานมาระบบค่อนข้างแม่นยำมาก ๆ โดยเฉพาะการเดินติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเราหยุดเดิน ก็จะหยุดการทำงาน และสรุปข้อมูลการเดินให้ทันที
แต่จะมีการตรวจจับที่ Galaxy Watch3 อาจจะแยกแยะไม่ได้เต็ม 100% นั่นคือการแยกแยะระหว่างการปั่นจักรยานกับการขี่มอเตอร์ไซค์ เนื่องจาก Galaxy Watch3 จะตรวจจับจากท่าทางของแขนที่จับกับแฮนด์จักรยาน และความเร็วที่เกิดขึ้น หากเราขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วไม่เกิน 40-50 km/h หรือขี่มอเตอร์ไซค์ตอนรถติด ๆ ก็จะทำการ Tracking ให้ทันทีในรูปแบบการปั่นจักรยานกลางแจ้ง แต่ในส่วนนี้สำหรับคนที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องแคลอรี่ที่เผาผลาญไปนั้น ไม่ต้องเป็นกังวลแต่อย่างใด เพราะในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น สามารถลบออกได้นั่นเองครับ
สเปค Samsung Galaxy Watch3
| วัสดุ | – ตัวเรือนสแตนเลส สายหนังแท้ หรือตัวเรือนไทเทเนียม สายโลหะ |
| ขนาดและน้ำหนัก | – สแตนเลส 41 มิลลิเมตร: 41×46.2×11.1 มม. หนัก 48.2 กรัม – สแตนเลส 45 มิลลิเมตร: 45×46.2×11.1 มม. หนัก 53.8 กรัม – ไทเทเนียม 45 มิลลิเมตร: 45×46.2×11.1 มม. หนัก 43 กรัม |
| หน้าจอ | – 1.2 นิ้ว (41มิลลิเมตร) หรือ 1.4 นิ้ว(45มิลลิเมตร) – 360×360 Super AMOLED, Full Color, Always-on Display – Corning Gorilla Glass DX |
| แบตเตอรี่ | – 247 mAh (41มิลลิเมตร) หรือ 340 mAh(45มิลลิเมตร) – รองรับการชาร์จแบบไร้สาย |
| หน่วยประมวลผล | – Exynos 9110 Dual-Core 1.15GHz |
| ระบบปฏิบัติการ | – Wearable OS 5.5 (Tizen-Based) |
| หน่วยความจำ | – RAM 1GB with ROM 8GB |
| การเชื่อมต่อ | – LTE*, Bluetooth 5.0, Wi-Fi (b/g/n), NFC, GPS/GLONASS/Beidou/Galileo *เฉพาะรุ่น Bluetooth + LTE |
| เซ็นเซอร์ | – Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Light Sensor, Optical Heart Rate Sensor, Electrical Heart Rate Sensor |
| ความทนทาน | – กันละอองน้ำตามมาตรฐาน IP68 – ทนน้ำลึกสูงสุดที่ 5 ATM – ทนต่อแรงสั่นสะเทือนตามมาตรฐาน MIL-STD 810G |
| อุปกรณ์ที่รองรับ | – Android 5.0 ขึ้นไป พร้อมกับ RAM อย่างน้อย 1.5GB – iOS 9.0 ขึ้นไป หร้อมกับ iPhone5 หรือสูงกว่า |
Samsung Galaxy Watch3 มีจำหน่ายด้วยกันถึง 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
Galaxy Watch3 41mm
- Bluetooth ราคา 14,900 บาท
- Bluetooth + LTE ราคา 17,900 บาท
Galaxy Watch3 45mm
- Bluetooth ราคา 15,900 บาท
- Bluetooth + LTE ราคา 18,900 บาท
ทั้งสองรุ่นมีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze, Mystic Silver, Mystic Black
และรุ่นพิเศษ Galaxy Watch3 45mm Titanium Edition ราคา 23,900 บาท มีเฉพาะสี Mystic Black
