Snapdragon ทั้ง 5 ซีรี่ส์มีอะไรบ้าง เทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้วต่างกันตรงไหน

ชิปประมวลผล Snapdragon คือชิปประมวลผลสำหรับมือถือที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะมีอยู่ในมือถือหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งชิป Snapdragom เป็นชิปของทาง Qualcomm ที่ขึ้นชื่อว่ามี GPU หรือที่เราเรียกว่าการ์ดจอแรงที่สุด ด้วย GPU Adreno ที่ Cualcomm ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งในฝั่งของ Android ยังถือเป็นชิปที่ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากที่สุดด้วย

ในปัจจุบันตัวชิปนั้นได้มีการแยกย่อยออกเป็นหลายระดับ โดยจะแย่งเป็นซีรี่ส์จากหมายเลขตัวแรก ที่ยิ่งเลขเยอะก็จะยิ่งแรง ซึ่งในปัจจุบันมีซีรี่ส์ 2, 4, 6, 7 และ 8 แบ่งแยกย่อยได้ตามระดับมือถือโดยซีรี่ส์ 8 จะอยู่ในระดับเรือธงเท่านั้น ซีรี่ส์ 6 และ 7 จะอยู่ในมือถือระดับกลาง ซึ่งในปัจจุบันใช้ในมือถือที่มีราคาตั้งแต่ 5,000 – 15,000 บาท ส่วนซีรี่ส์ 4 จะอยู่ในมือถือราคาประหยัด และซีรี่ส์ 2 จะอยู่ในมือถือระดับเริ่มต้นรวมถึงมือถือประเภทฟีเจอร์โฟนด้วย

ทีนี้เราจะมาดูกันว่าชิปแต่ละตัวจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ซึ่งในที่นี้เราจะพูดถึงรุ่นล่าสุดที่วางขายในไทยแล้วเท่านั้น

Snapdragon ซีรี่ส์ 8

ซีรี่ส์ 8 เป็นชิปโมบายที่มี CPU แบบ Multi-Core ที่เพิ่มความสามารถในการประมวลผลและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างถึงที่สุด ซึ่งในปัจจุบันชิปซีรี่ส์ 8 นั้นเป็นรุ่น 865+ แต่ในที่นี้จะพูดถึง 865 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ตัวชิปเป็นชิประดับเรือธงที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และถูกนำมาใช้ในมือถือเรือธงรุ่นปัจจุบัน โดยตัวชิปใช้สถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ Kyro 585 และ GPU Adreno 650 รุ่นใหม่ทำให้ตัวชิปมีความแรงมากขึ้นแถมประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังมาพร้อม AI Engine รุ่นที่ 5 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นและโมเด็ม X55 ที่รองรับ 5G ทุกมาตราฐานด้วย

ในด้านการถ่ายรูปมี Qualcomm Spectra™ 480 ISP ที่ช่วยให้สามารถถ่ายวีดีโอคุณภาพระดับมืออาชีพในความเร็วระดับ Gigapixel อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 64MP นอกจากนี้ด้วย Qualcomm Snapdragon Elite Gaming ที่ช่วยให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมแบบ Desktop ในมือถือ อีกทั้งยังช่วยให้แบตเตอรี่มีความยืดหยุ่นสามารถเล่นเกมได้ตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการรองรับ 5G ด้วยโมเด็ม X55 5G ทําให้มีความเร็วที่สูงสุดถึง 7.5 Gbps และรองรับความถี่ทุกคลื่นอย่าง 5G mmWave, sub-6, TDD และ FDD, รองรับทั้ง SA และ NSA ด้วยการรองรับ Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ในโมเด็ม X55 ทำให้สามารถขายได้ทั่วโลก

ในปัจจุบันมือถือที่ใช้ชิป 865 และมีวางขายในไทยจะมีดังนี้

• OnePlus 8 / 8 Pro
• OPPO Find X2 / X2 Pro
• POCO F2 Pro
• realme X50 Pro 5G
• Xiaomi Mi 10

Snapdragon ซีรี่ส์ 7

ซีรี่ส์ 7 เป็นชิปโมบายระดับกลางที่มีฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยม มาพร้อม Qualcomm Artificial Intelligence Engine (AIE) และฟีเจอร์การถ่ายภาพระดับโปร โดยตัวล่าสุดที่ Qualcomm เปิดตัวมาคือ 768G 5G แต่ทว่าที่วางขายอยู่ในตลาดในปัจจุบันคือ 765G 5G ซึ่งในที่นี้เราจะมาพูดถึงกัน

ตัวชิปรวมเอาเทคโนโลยี 5G และ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม รวมถึงการเล่นเกมด้วยความเร็วระดับกิกะบิต และมี Qualcomm Snapdragon Elite Gaming ที่ช่วยสนับสนุนให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ตลอดวัน

อีกทั้งยังมาพร้อม Modem-RF X52 5G และ Artificial Intelligence Engine (AIE) รุ่นที่ 5 ที่ทำงานควบคู่ให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานและการการเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประสิทธิภาพการทํางานจะถูกปรับขึ้นด้วย Qualcomm Kryo 475 ส่วน GPU Adreno 620 ช่วยให้การแสดงผลกราฟิกได้เร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Quick Charge AI Technology ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแแบตเตอรี่ได้นานสูงสุดอีก 200 วัน ด้วยเทคโนโลยี Qualcomm Quick Charge 4+

ในปัจจุบันมือถือที่ใช้ชิป 765G และมีวางขายในไทยจะมีดังนี้

• OnePlus Nord
• realme X50 5G

Snapdragon ซีรี่ส์ 6

ซีรี่ส์ 6 เป็นชิปที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยจะมอบประสบการ์ในการใช้งานบนมือถือที่เหนือกว่ารูปแบบทั่วไป ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในมือถือ, แท๊บเล็ต ไปจนถึงในรถยนต์เลยทีเดียว โดยตัวล่าสุดของซีรี่ส์ 6 คือ 690 5G แต่ที่ขายอยู่ในไทยตัวล่าสุดนั้นเป็น 675 ซึ่งในที่นี้เราจะมาพูดถึงกัน

ตัวชิปมาพร้อมความสามารถในการเล่นเกมที่โดดเด่น, กล้องถ่ายภาพที่มาพร้อมฟีเจอร์ขั้นเทพ, มี AI ที่ฉลาดและทรงพลัง ด้วย CPU Kyro 460 ที่โดดเด่น มีประสิทธิภสพและความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ด้วย GPU Adreno 612 ทำให้ทุกช่วงเวลาบนหน้าจอมีชีวิตชีวามากขึ้น

โมดูลกล้อง ISP Qualcomm Spectra 250L ได้รับการออกแบบเพื่อการจับรายละเอียดของภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจในสีสดใสสมจริง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นเช่น การรองรับระบบกล้องสามตัวสําหรับการถ่ายภาพภาพกว้างสุด ๆ หรือการซูม 5x ที่เป็นการซูมแบบออฟติคัล, โหมด Portrait, และการถ่ายแบบ slo-mo ที่ 480 เฟรมต่อวินาที

โมเด็ม X12 LTE นั้นด้วยการเชื่อมต่อแบบใหม่นี้ทำให้แม้จะอยู่ในที่สัญญาณแออัด ตัวโมเด็มก็สามารถทำความเร็วดาวน์โหลดได้สูงถึง 600Mbps และสามารถทำความเร็วในการอัพโหลดได้สูงถึง 150Mbps

ในปัจจุบันมือถือที่ใช้ชิป 675 และมีวางขายในไทยจะมีดังนี้

• Samsung Galaxy A70
• vivo V15 Pro
• vivo V17 / V17 Pro

Snapdragon ซีรี่ส์ 4

ซีรี่ส์ 4 เป็นชิปที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รองรับกับมือถือและอุปกรณ์ IoT ยอดนิยมทั้งหลาย รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม พร้อมด้วยเทคโนโลยีกล้องที่ทันสมัย ซึ่งซีรี่ส์ 4 ตัวล่าสุดคือ 460 ซึ่งในไทยตัวล่าสุดที่ใช้คือ vivo Y20 ที่พึ่งเปิดตัวและเป็นตัวเดียวในตอนนี้ด้วย

ตัวชิปมาพร้อม Qualcomm FastConnect 6100 ที่รวมเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในการเชื่อมต่อ ซึ่งความสามารถนี้ช่วยให้สามารถใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งทั้งท่องเว็บและเกล่นเกมไปพร้อม ๆ กันได้

เป็นตัวแรกของซีรี่ส์ที่มี Qualcomm AI Engine รุ่นที่ 3 มาพร้อมในตัว ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้งานได้ง่าายมากขึ้นเพื่อตอนสนองความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่านก่อนแล้วมีประสิทธิภาพของ CPU เพิ่มขึ้นถึง 70% และมีประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้นถึง 60% อีกทั้งยังรองรับ WiFi 6 ด้วย

นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบและมีสีสันที่สดใสขึ้นทั้งในสภาวะทั่งไปแล้วแสงน้อยด้วย Qualcomm Spectra 340 ISP นอกจากนี้ยังมี GNSS แบบคลื่นความถี่คู่ทีี่ช่วยให้การจับสัญญาณ GPS มีความแม่นยำมากขึ้นต่อให้อยู่ในพื้นที่สัญญาณหนาแน่นก็ตาม

ในปัจจุบันมือถือที่ใช้ชิป 460 และมีวางขายในไทยจะมีดังนี้

• vivo Y20

Snapdragon ซีรี่ส์ 2

ซีรี่ส์ 2 เป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าผู้ผลิตที่มีเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่งบน้อย เพื่อให้สามารถผลิตมือถือในราคาไม่แพงได้ โดยจนถึงตอนนี้ซีรี่ส์ 2 นี้ออกมาแล้วทั้งหมด 3 รุ่นคือ 205, 212 และ 215 แค่ถึงอย่างนั้นมือถือที่ใช้ชิปซีรี่ส์ 2 นี้ก็นับว่าน้อยเอาการ จากที่เห็นหลัก ๆ จะเป็น Nokia ซะส่วนมาก และจะไม่ใช้สมาร์ทโฟนด้วยแต่เป็นฟีเจอร์โฟนหรือที่เรา ๆ เรียกกันว่ามือถือปุ่มกดนั่นเอง

ในที่นี้เราจะพูดถึง 215 กัน โดยตัวชิปเป็นชิปแบบ 64 bits ที่มาพร้อม Dual ISP ทำให้รองรับกล้อง 2 ตัวทั้ง Optical Zoom และ Depth Sensor (ด้วยซอร์ฟแวร์) นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวีดีโอได้ถึง Full HD 1080p ด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Qualcomm Hexagon DSP ที่ช่วยให้ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย

ในปัจจุบันมือถือที่ใช้ชิปซีรี่ส์ 2 นั้นแทบจะหากไม่ได้แล้ว ซึ่งรุ่นก่อนหน้าที่เป็น 210 ตัวล่าสุดที่ขายคือ Wiko Robby 2 ที่ตอนนี้เลิกขายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือจะสรุปง่าย ๆ ว่าชิปซีรี่ส์ 2 นั้นไม่มีขายในไทยก็ได้

เทียบสเปค Snapdragon 865 กับ 855+

สำหรับ 855+ นั้นหากดูจากข้อมูลสเปคในหน้าเว็บ Official แล้ว ตัวชิปนั้นรองรับ 5G แถมยังรองรับ WiFi 6 ด้วย แต่ทว่านั่นคือต้องมีการติดตั้งชิปโมเด็มเพื่อเข้าไปอีก แต่เครื่องที่เอามาขายในไทยแต่เดิมนั้นไม่ได้ใส่โมเด็ม 5G เข้ามาด้วย ยกเว้น vivo Nex 3 5G ที่ทาง Truemove H เอาเข้ามาขาย นับเป็นรุ่นเดียวในไทยที่ใช้ชิป 855+ แล้วรองรับ 5G ด้วย

จากตารางในหัวข้อ CPU Clock จะเห็นว่าความเร็วสูงสุดที่ 865 ทำได้นั้นจะน้อยกว่า 855+ เล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เป็นเพราะ 855+ นั้นเป็นรุ่น Overclock ของ 855 ซึ่งถ้าจะเทียบกันที่ Clock Speed แล้วต้องไปแข่งกับ 865+ แทน แต่ด้วย CPU Core และ GPU ที่เป็นรุ่นใหม่ ช่วยให้การจัดการพลังงาน รวมไปถึงการแสดงผลกราฟิกนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เทียบสเปค Snapdragon 765G กับ 730G

ในส่วนของซีรี่ส์ 7 อย่าง 765G และ 730G นั้นนอกจากจะเปลี่ยนไปใช้ CPU Core และ GPU รุ่นใหม่แล้วยังมีการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมการผลิตจาก 8nm ไปเป็น 7nm ซึ่งตรงนี้ช่วยให้ตัวชิปมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลงด้วย