วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็น iPhone รุ่นใหม่อันทรงพลังที่มาพร้อมจอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว และจับคู่มากับ Touch ID เพื่อมอบความปลอดภัยระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม มีสีสันสวยงามให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นเพียง 14,900 บาท
iPhone SE มาในดีไซน์แบบกะทัดรัดที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งภายในและภายนอก และเป็น iPhone ที่มีราคาย่อมเยาที่สุด ขับเคลื่อนด้วยชิพ A13 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple และเป็นชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน จึงสามารถรับมือกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดได้ iPhone SE ยังมาพร้อมระบบกล้องเดี่ยวที่ดีที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมา ซึ่งจะนำประโยชน์จากการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์มาสู่สมาร์ทโฟน รวมถึงโหมดภาพถ่ายบุคคล และยังได้รับการออกแบบมาให้ทนฝุ่นและน้ำอีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย iPhone SE
- iPhone SE มีจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีดำ สีขาว และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ลูกค้าจะสามารถซื้อ iPhone SE ได้ที่ apple.com/th, แอพ Apple Store, Apple Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางราย (ราคาอาจแตกต่างกัน)
- Apple TV+ จะให้บริการทางแอพ Apple TV บน iPhone, Apple TV, iPod touch, Mac และแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมถึงทางออนไลน์ที่ (tv.apple.com/th) ในราคา 99 บาทต่อเดือน และสามารถทดลองใช้งานฟรี 7 วัน ลูกค้าที่ซื้อ iPhone SE จะสามารถใช้งาน Apple TV+ ได้ฟรี 1 ปี6
- ผู้ที่ซื้อจาก Apple ทางออนไลน์จะได้รับบริการจัดส่งถึงบ้านฟรีโดยไม่มีการสัมผัสกับผู้รับ
- ลูกค้าสามารถขยายระยะเวลาการรับประกันแบบจำกัดด้วย AppleCare+ และ AppleCare+ ที่ครอบคลุมถึงการโจรกรรมและการสูญหาย และรับสิทธิพิเศษในการติดต่อกับฝ่ายบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
- รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่าย iPhone SE (PRODUCT)RED จะนำไปสมทบทุนในโครงการล่าสุดที่กองทุนโลกก่อตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับ COVID-19 โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่ต้องการชุด PPE, การวินิจฉัยเพื่อการบำบัดรักษา, อุปกรณ์สำหรับห้องปฏิบัติการ, การสื่อสารเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ, การสนับสนุนด้านซัพพลายเชนและอีกมากมาย รวมถึงจะนำไปสมทบทุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับ HIV และโรคเอดส์เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการทดสอบ การให้คำปรึกษา การบำบัดรักษา และการป้องกัน โดยมุ่งเน้นไปที่การยับยั้งการแพร่เชื้อไวรัสจากแม่สู่ทารกในครรภ์
“iPhone SE รุ่นแรกเคยเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้าจำนวนมากที่ชื่นชอบการผสมผสานแบบมีเอกลักษณ์ระหว่างขนาดที่เล็ก ประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์ และราคาที่เอื้อมถึงได้ ส่วน iPhone SE ใหม่ รุ่นที่ 2 นี้ก็สร้างขึ้นบนแนวคิดที่ยอดเยี่ยมแบบเดียวกันและยกระดับทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นไปอีก ซึ่งรวมถึงระบบกล้องเดี่ยวที่ดีที่สุดของเราเพื่อภาพถ่ายและวิดีโอชั้นยอด โดยรุ่นนี้ยังคงมาในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดเช่นเคย” Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว
“iPhone SE มาพร้อมชิพ A13 Bionic ที่มีประสิทธิภาพการทำงานระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม จึงทำให้มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม ถ่ายภาพได้อย่างสวยงามลงตัวด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคลและ HDR อัจฉริยะ บันทึกวิดีโอได้อย่างน่าทึ่งด้วยระบบเสียงสเตอริโอ เล่นเกมและท่องเว็บได้อย่างรวดเร็วทันใจ และมาพร้อมคุณสมบัติความปลอดภัยในตัวระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมอย่างที่ลูกค้าคาดหวังไว้ เราแทบจะรอให้ลูกค้าได้สัมผัสกับ iPhone SE ไม่ไหวแล้ว”
ดีไซน์ยอดนิยมกับจอภาพขนาด 4.7 นิ้ว
iPhone SE ทำมาจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและกระจกอันทนทาน ตัวเครื่องมีสีดำ สีขาว และ (PRODUCT)RED ให้เลือกโดยที่ด้านหน้าจะเป็นสีดำทั้งหมด กระจกด้านหลังมีโลโก้Apple อยู่ตรงกลางและพื้นผิวผ่านกระบวนการลงหมึกถึง 7 ชั้น ทำให้สามารถแสดงเฉดสีและความทึบแสงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความอิ่มสีที่มีมิติยิ่งขึ้นด้วยขอบเครื่องอะลูมิเนียมสีเดียวกับกระจก iPhone SE มีความสามารถในการทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP67 นั่นคือ ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที1
จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว และการแสดงผลแบบ True Tone® จะปรับไวท์บาลานซ์บนหน้าจอให้ตรงกับแสงรอบๆ เพื่อทำให้ประสบการณ์การรับชมมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นเหมือนกำลังดูแผ่นกระดาษจริงๆ จอภาพ Retina HD สีสันสดใสที่รองรับขอบเขตสีกว้างสามารถแสดงสีสันได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังรองรับการเล่น Dolby Vision และ HDR10 อีกด้วย iPhone SE จะใช้การแตะค้างแบบสั่นเพื่อเข้าถึง “การทำงานอย่างเร็ว” อย่างการเล่น Live Photos, ดูตัวอย่างข้อความ, จัดเรียงแอพใหม่ และอีกมากมาย รวมถึงเมนูที่ปรับตามบริบทด้วย
iPhone SE ยังคงมาพร้อมปุ่มโฮมที่คุ้นเคยซึ่งทำมาจากผลึกแซฟไฟร์เพื่อความคงทนและการปกป้องเซ็นเซอร์ ส่วนวงแหวนจากสแตนเลสสตีลมีหน้าที่ตรวจจับลายนิ้วมือของลูกค้าให้กับ Touch ID การใช้Touch ID เป็นทางเลือกที่ง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัยในการป้อนรหัสผ่านเพื่อปลดล็อค iPhone, กรอกรหัสผ่านโดยใช้พวงกุญแจ iCloud, ล็อกอินเข้าสู่แอพ, ยืนยันการซื้อใน App Store® และชำระเงินด้วยApple Pay
ชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนอย่างชิพ A13 Bionic
ชิพ A13 Bionic ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro เป็นชิพที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนและมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เหมาะสำหรับงานทุกประเภทที่ iPhone SE ต้องรับมือ ชิพ A13 Bionic เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพ เล่นเกม และสัมผัสประสบการณ์ความจริงเสริม เพราะไม่ว่าลูกค้าจะทำอะไรก็รวดเร็วลื่นไหลไปหมด
ชิพ A13 Bionic สร้างมาเพื่อการเรียนรู้ของระบบเป็นหลัก โดยมี Neural Engine แบบ 8 คอร์ที่สามารถดำเนินการได้ถึง 5 ล้านล้านรายการต่อวินาทีซึ่งพัฒนามาโดยเฉพาะ ตัวเร่งความเร็วการเรียนรู้ของระบบ 2 ตัวบน CPU และตัวควบคุมการเรียนรู้ของระบบแบบใหม่ที่จะรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพลังงาน เมื่อนำชิพ A13 Bionic และ iOS 13 มารวมกัน ลูกค้าก็จะได้ใช้แอพอัจฉริยะใหม่ๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของระบบและ Core ML ได้
นอกจากสร้างมาให้ประหยัดพลังงานแล้ว ชิพ A13 Bionic ยังช่วยให้ iPhone SE มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย iPhone SE สามารถชาร์จแบบไร้สายด้วยเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi และยังรองรับการชาร์จเร็วอีกด้วย ลูกค้าจึงชาร์จได้ถึง 50% ภายในเวลาเพียง 30 นาที Wi-Fi 6 และ LTE ระดับ Gigabit ช่วยให้การดาวน์โหลดเร็วสุดขีด ซิมคู่และ eSIM เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าได้ใช้งานสองหมายเลขบนอุปกรณ์เครื่องเดียวระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ หรือจะใช้เป็นหมายเลขสำหรับติดต่อธุรกิจก็ได้
ประสบการณ์ใหม่จากกล้องที่ขับเคลื่อนโดยชิพ A13 Bionic
iPhone SE มาพร้อมระบบกล้องเดี่ยวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone นั่นก็คือกล้องไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสงขนาด f/1.8 และการใช้โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพร่วมกับ Neural Engine ของชิพ A13 Bionic เพื่อใช้ประโยชน์จากการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้นอีก ซึ่งรวมถึงโหมดภาพถ่ายบุคคล เอฟเฟ็กต์การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลทั้งหกแบบและการควบคุมระยะชัดลึก5นอกจากนี้ กล้องหน้าของ iPhone SE ยังถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสวยงามน่าทึ่งโดยใช้การเรียนรู้ของระบบและการประเมินความลึกแบบ Monocular อีกด้วย HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นถัดไปที่มาอยู่บน iPhone SE จะตรวจจับสิ่งที่คุณถ่ายและปรับแสงอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น พร้อมถ่ายทอดรายละเอียดในส่วนไฮไลท์และเงามืดอย่างน่าทึ่ง
ส่วนวิดีโอก็เต็มอิ่มสมจริงยิ่งกว่าที่เคยด้วยการบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ และระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวในคุณภาพระดับภาพยนตร์บนกล้องหน้าและหลัง กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ4K สูงสุด 60 fps และช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นบน iPhone SE ยังช่วยถ่ายทอดรายละเอียดในส่วนของไฮไลท์ได้สูงสุด 30 fps นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ประโยชน์จากวิดีโอ QuickTake™ บนกล้องหน้าและกล้องหลังเพื่อบันทึกวิดีโอโดยที่ไม่ต้องออกจากโหมดภาพถ่ายได้อีกด้วย
ลูกค้าสามารถปรับแต่งวิดีโอบนเครื่องได้อย่างครอบคลุมและง่ายดายขึ้นแล้ววันนี้ ด้วยคุณสมบัติอันล้ำสมัยในแอพกล้องและรูปภาพใน iOS 13 รวมถึงเครื่องมือใหม่ๆ อันทรงพลังที่วันนี้สามารถใช้กับการปรับแต่งวิดีโอได้แล้ว
มาพร้อมทุกสิ่งที่ Apple จะให้คุณได้
iPhone SE เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงระบบนิเวศอันแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ บริการ และอุปกรณ์เสริมของ Apple ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากแอพกว่า 2 ล้านแอพใน App Store รวมถึงแอพและประสบการณ์ AR ที่ดีที่สุดจากบริษัทอื่น, เพลิดเพลินกับซีรี่ส์ ภาพยนตร์ และสารคดีที่นักสร้างสรรค์ระดับโลกผลิตขึ้นมาเพื่อเราโดยเฉพาะกับ Apple TV+, สตรีมเพลงของศิลปินโปรดกว่า 60 ล้านเพลงในApple Music®, รวมทั้งจัดเก็บรูปภาพ ไฟล์ และรายชื่อติดต่อไว้บน iCloud ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้บนอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดที่ลูกค้ามี iPhone SE ยังมาพร้อมขั้วต่อ Lightning ที่ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม Lightning® ได้กว่า 25,000 รายการ รวมถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับกล้อง, เสียงและลำโพง, แท่นวาง, CarPlay และอีกมากมาย
iPhone SE สร้างขึ้นด้วยคุณสมบัติความปลอดภัยระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมแบบเดียวกับที่ลูกค้าคาดหวังจาก Apple นั่นก็คือการปกป้องความเป็นส่วนตัวและให้ลูกค้าควบคุมข้อมูลของตนเองได้ตัวอย่างเช่น Touch ID และ Secure Enclave จะปกป้องข้อมูลลายนิ้วมือ, การป้องกันการติดตามอัจฉริยะใน Safari จะป้องกันไม่ให้ผู้โฆษณาติดตามผู้ใช้จากไซต์หนึ่งไปยังอีกไซต์ ในขณะที่แอพรูปภาพก็จะใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อจัดระเบียบรูปภาพบนอุปกรณ์และอีกมากมาย
iOS 13 บน iPhone SE จะมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อ เพราะมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่เหมือนสมาร์ทโฟนไหนๆ และ iOS 13 ยังมีลุคใหม่อันโดดเด่นอย่างโหมดมืด, วิธีลงชื่อเข้าใช้แอพและเว็บไซต์ที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติ “ลงชื่อเข้าด้วย Apple” และประสบการณ์การใช้งานแอพแผนที่แบบใหม่หมดเพื่อการนำทางที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมด้วยคุณสมบัติ”มองไปรอบๆ” ที่จะแสดงภาพระดับถนนอันสวยงาม