นับตั้งแต่ที่ข่าวลือเรื่องหน้าตาของ iPhone 11 Pro หลุดออกมา ก็ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับกล้องหลังที่มีเลนส์กล้อง 3 ตัวอยู่ภายในโมดูลรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ แต่ดันกลายเป็นการออกแบบของจริงที่ Apple นำมาใช้กับตัวเครื่องในปีนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครชื่นชอบในการออกแบบใหม่นี้ อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องเวลาเครื่องตกอีกด้วย ซึ่งแต่เดิมทุกคนจะคุ้นเคยแบบเดียวกับที่ทำใน iPhone X เมื่อสองปีก่อน ปรากฎว่า Apple มีเหตุผลเบื้องหลังในการวางเซ็นเซอร์แบบนี้ โดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยงข้องอะไรกับการใช้ประโยชน์จากพื้นที่วางให้มากที่สุด
ในสมาร์ทโฟน Android เองก็มีการใช้เลนส์สามหรือสี่เลนส์เหมือนกัน แต่มาในสภาพแนวตั้ง, แนวนอน หรือทรงสี่เหลี่ยม อย่างเช่น Huawei P20 Pro, P30 Pro, Mate 20 Pro, Galaxy S10 และ Galaxy Note 10
ทว่า Apple ก็ได้แหวกแนวโดยการวางเลนส์กล้องแบบซิกแซกแทน ซึ่งการวางแบบใหม่นี้ทำให้เกิดล้อเลียนหรือกลายเป็นมีมบนโลกโซเชียงไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาด้วยว่ากล้อง iPhone 11 Pro นี้ทำให้บางคนเกิดโรค trypophobia(โรคกลัวรู) อีกด้วย
สำหรับสาเหตุที่ iPhone 11 Pro วางเลนส์กล้องแบบนี้ ทางเว็บ Mashable ได้อธิบายเอาไว้ว่า
” เนื่องด้วยซอร์ฟแวร์ภายในของ Apple ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของกล้องทำให้กล้องของ iPhone 11 Pro มีความแตกต่างจากสมาร์ทโฟน Android อีกทั้งยังช่วยให้การซูมที่ใช้งานกล้องทั้งสามตัวมีความไหลลื่นขึ้น ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใดในระหว่างทำการสับเปลี่ยนกล้อง
ด้วยเหตุนี้กล้องหลังทั้งสามตัวของ iPhone 11 Pro ที่ถูกปรับให้เข้ากับการทำงานนี้นั้น เวลาซูมเข้า-ออก นั้นไม่จำเป็นต้องขยับเครื่องเพื่อจัดองค์ประกอบใหม่แต่อย่างใด ไม่เหมือนกับสมาร์ทโฟน Android ที่ต้องขยับไปทางซ้าย-ขวา เพื่อทำการจัดองค์ประกอบใหม่ อาจริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องเล็กมาก แต่ถ้าหากจริงจังกับการถ่ายภาพแล้วถือเป็นปัญหาใหญ่พอควรเลย ”
นอกเหนือจากการอธิบายเกี่ยวกับการออกแบบโมดูลกล้อง iPhone 11 Pro แล้วนั้นยังได้มีการพูดถึงเกี่ยวกับการรีวิวตัวเครื่องและการนำไปเปรียบเทียบกับ Android อีกด้วย แถมยังมีข่าวลือที่บอกว่า reverse wireless charging นั้นไม่สามารถใช้งานได้ และจะยังไม่เปิดให้ใช้งานถึงแม้ว่าจะมีการอัพเดตในอนาคตแล้วก็ตาม ซึ่งได้มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
” คนใกล้ชิดได้บอกเอาไว้ว่านั่นไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ Apple ใส่เข้าไป อีกทั้งการแกะเครื่องออกมาดูก็ทำให้หาต่ำแหน่งแผ่นทองแดงไม่ได้อยู่ดี แถมเจ้าหน้าที่ระดับสูงยังบอกให้ปฏิเสธพวกข่าวลือทั้งหมดอีกด้วย ”
ที่มา : bgr