ในช่วงปลายเดือนนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาของงาน Thailand Mobile Expo กันอีกครั้ง ซึ่งในงานรอบนี้ก็คาดว่าจะมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ มาให้เลือกซื้อกันพอสมควร หนึ่งในนั้นก็คือ vivo Y17 ที่เรารีวิวในบทความนี้นี่เอง
สำหรับสเปคของที่น่าสนใจก็มีดังนี้
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 มี 8 คอร์ มาพร้อมชิปกราฟิก PowerVR GE8320
- แรม 4 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB รองรับ MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
- หน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว อัตราส่วน 19.3:9 ความละเอียดระดับ HD+ (1544 x 720)
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 13MP f/2.2
- กล้องเลนส์ไวด์ 8MP f/2.2
- กล้องเลนส์ depth 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 20MP f/2.0
- รองรับ 2 ซิม
- Android 9.0 ครอบด้วย FunTouch OS 9
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- ระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
- พอร์ตชาร์จแบบ Micro USB
- ราคา 6,999 บาท
vivo Y17 จัดเป็นมือถือรุ่นราคาไม่แรงที่มีจุดเด่นน่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว ไล่ตั้งแต่แรมที่ได้มาถึง 4 GB กล้องหลัง 3 ตัวแบบที่มีให้ใช้ทั้งเลนส์ปกติ และยังมีเลนส์อัลตร้าไวด์ที่สามารถเก็บภาพได้มุมกว้างกว่าปกติอีกด้วย ด้านของแบตก็อัดมาให้ถึง 5000 mAh ที่นอกจากจะทำให้ใช้งานได้นานแล้ว ยังมีระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine มาให้อีก เรียกว่าเป็นมือถือราคาเบา ๆ ที่ให้ฟีเจอร์มาคุ้มเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ดีไซน์ หน้าตาของ vivo Y17
หน้ากล่องนอกเหนือจากชื่อรุ่น Y17 ขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังแปะฟีเจอร์เด่นมาให้สังเกตได้ง่ายมาก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ 5000 mAh แรม 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB ส่วนด้านหลังก็มีเรื่องของกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมการประมวลผลด้วย AI และระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine ดังนั้นคงไม่ต้องกลัวว่าจะหยิบผิดแน่นอน
ส่วนอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่องได้แก่
- เคสซิลิโคนใสแบบนิ่ม
- ฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB จ่ายไฟได้ 5V 2A / 9V 2A
- สาย Micro USB
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- เอกสารคู่มือและการรับประกัน
ทั้งนี้ ไม่มีแถมหูฟังมาให้นะครับ แต่ก็สามารถใช้หูฟังทั่วไปได้เลย เพราะตัวเครื่องมีช่อง 3.5 มม. ตามปกติ
ตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือด้วยการใช้จอขนาด 6.35 นิ้วแบบเกือบเต็ม ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป ใช้การวางกล้องหลังอยู่ตรงกึ่งกลางด้านบนของจอ โดยจะมีติ่งรูปหยดน้ำลงมาเล็กน้อย ไม่ได้เกะกะสายตาในระหว่างการใช้งานเท่าไหร่ครับ ส่วนขอบจอด้านล่างก็จะหนากว่าอีก 3 ด้านที่เหลือเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวผมว่าดีสำหรับการเล่นเกมในแนวนอน เพราะมันยังพอเป็นพื้นที่สำหรับพักนิ้วหัวแม่มือได้อยู่บ้าง
จุดที่ vivo Y17 ออกแบบมาได้แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบันก็คือหน้าจอ เนื่องจากเมื่อจับเครื่องจริง ๆ หรือมองจากด้านข้าง ก็จะทราบว่าจอไม่ได้วางติดกับปลายส่วนโค้งของขอบเครื่องโดยตรง แต่จะมีขอบพลาสติกยกขึ้นมาอีกชั้นก่อน ซึ่งในภาพรีวิวตัวเครื่องส่วนด้านข้างก็จะสังเกตเห็นได้ชัดครับ ทำให้เวลาจับถือเครื่องอาจจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากสมาร์ทโฟนในปัจจุบันอยู่นิดหน่อย แต่ถ้าใส่เคสที่แถมมาในกล่องก็หมดปัญหา เพราะตัวเคสมันคลุมไว้ทั้งหมด แถมยังมีขอบมาช่วยป้องกันขอบจอได้อีกต่างหาก
ส่วนพวกเซ็นเซอร์วัดแสง เซ็นเซอร์วัดระยะห่างต่าง ๆ ก็จะรวมอยู่ในติ่งนี้ทั้งหมดเลย ด้านของลำโพงสนทนาก็จะไปหลบอยู่ที่ขอบด้านบนสุด ให้เสียงอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ไม่สามารถใช้เป็นลำโพงที่สองเพื่อสร้างระบบเสียงสเตอริโอในการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้นะครับ เสียงจากพวกมีเดียต่าง ๆ จะออกจากช่องลำโพงหลักที่อยู่ขอบล่างของเครื่องทั้งหมด
คุณภาพการแสดงผลบนหน้าจอที่ใช้จอความละเอียดระดับ HD+ นั้นก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดี ภาพสวย เนียน สีสันอาจจะไม่จัดจ้านมากนัก แต่ก็ได้มุมมองภาพที่กว้างในแบบฉบับของจอ IPS อยู่เช่นเคย ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติก็ทำหน้าที่ได้ดี
ด้านหลังจะใช้การไล่เฉดสีจากบนลงล่าง โดยเครื่องที่ทางเราได้รับมารีวิวจะเป็นสีฟ้า Mineral Blue ซึ่งด้านบนจะเป็นสีฟ้า ไล่ลงมาด้านล่างซึ่งสีจริง ๆ แล้วจะเป็นสีดำนะครับ แต่ตอนที่ถ่ายนั้นเป็นการถ่ายในที่มีแสงส่องเข้ามา เลยดูติดเหลือบสีม่วงมาด้วย ก็สวยไปอีกแบบเหมือนกัน ส่วนด้านนอกก็ครอบทับด้วยกระจก ทำให้ฝาหลังสะท้อนแสงได้อย่างมีความโดดเด่น
กล้องหลังทั้ง 3 ตัวถูกจัดวางไว้ที่แถบซ้ายบนของเครื่อง ถัดลงมาเล็กน้อยก็เป็นแฟลช LED ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็อยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถแตะปลายนิ้วชี้ลงไปได้พอดี ความเร็วในการตอบสนองและความแม่นยำก็ทำได้ดีมาก ๆ แตะปุ๊บติดปั๊บ
ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่อง ตามสเปคระบุไว้ว่า 190.5 กรัม ซึ่งก็จัดว่าไม่เบาเหมือนกันสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน แต่เมื่อพิจารณาจากแบตในตัวเครื่องที่ให้มาถึง 5000 mAh ก็พอเข้าใจได้เลยครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนทั้งวัน การพกมือถือ + powerbank น้ำหนักรวมกันคงจะเกิน 200 กรัมแน่นอน แต่ vivo Y17 ให้แบตความจุสูงมาก ๆ มา แถมสเปคก็ไม่ได้กินไฟสูง จึงทำให้ใช้งานได้นาน เรียกได้ว่าพกเครื่องเดียวอยู่ แทบไม่ต้องหิ้ว powerbank ไปด้วยเลยก็ยังไหว
ถ้ามองที่เนื้อของฝาหลังให้ ก็จะเห็นว่าข้างในนั้นมีเส้นสีดำเฉียงอยู่ด้วย ช่วยเพิ่มความสวยงามในยามที่สะท้อนแสงได้เป็นอย่างดีเลย
ขอบด้านบนนั้นไม่มีพอร์ตใด ๆ อยู่เลย ต่างจากด้านล่างที่มีทั้งช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ช่อง Micro USB และก็ลำโพงหลักของเครื่อง
ฝั่งขวาก็จะมีแถบปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และก็ปุ่ม power ส่วนฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิมครับ
โดยถาดใส่ซิมก็จะเป็นแบบ 2+1 คือมีช่องใส่นาโนซิม 2 ช่อง รองรับ 4G VoLTE พร้อมกันทั้งสองช่อง แล้วก็ช่อง MicroSD ที่รองรับได้สูงสุด 256 GB เมื่อรวมกับความจุเครื่อง 64 GB ก็เท่ากับว่าคุณสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลรวมได้สูงสุดตามสเปคคือ 320 GB แบบที่ยังสามารถใส่ 2 ซิมได้อีกต่างหาก
สำหรับเคสซิลิโคนใสที่แถมมาในกล่องก็เป็นซิลิโคนที่เนื้อหนาดีใช้ได้ครับ ไม่ได้นิ่มย้วย แต่ก็ไม่ได้แข็งเกินจนใส่เข้าหรือถอดออกลำบาก นอกจากนี้ยังมีฝาปิดช่อง Micro USB ให้อีกด้วย
ซอฟต์แวร์ของ vivo Y17
vivo Y17 มาพร้อมกับ Android 9.0 ที่ครอบมาด้วยอินเตอร์เฟส Funtouch OS 9 ที่ได้รับการปรับแต่งมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย แอปที่ติดตั้งทั้งหมดจะอยู่บนหน้าโฮมเลย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Funtouch OS จาก vivo มายาวนาน แอปติดเครื่องนอกเหนือจากแอปของ Google ก็มีให้มาพอสมควร เช่น แอปปฏิทิน แอปช่วยจัดการระบบ แอปจัดการไฟล์ แอปสำหรับการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่อง แอปจดบันทึก เป็นต้น
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน ตามสเปคนั้นให้มา 64 GB เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งานครั้งแรก จะเหลือให้ใช้อีกราว ๆ 51 GB ซึ่งเพียงพอกับการใช้งาน การเล่นเกมทั่ว ๆ ไป
ส่วนใครที่ต้องการซื้อมาดูหนังบน Netflix ก็อาจจะได้ภาพที่ความคมชัดไม่ถึงระดับ HD นะครับ เพราะผ่านการรับรอง Widevine ที่ระดับ L3 เท่านั้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ vivo Y17
ทีนี้มาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจกันบ้างครับ
ฟีเจอร์แรกก็คือการชาร์จเร็วแบบ Dual-Engine ที่สามารถใช้งานได้โดยใช้อะแดปเตอร์ที่ให้มาในกล่อง ส่วนสายชาร์จ ก็แนะนำว่าควรใช้สายจากในกล่องเช่นกันครับ เพราะสายที่ให้มานั้นมีความหนา น่าจะมีความทนทานระดับนึงเลย แต่ถ้าฉุกเฉินจริง ๆ ก็สามารถใช้สาย Micro USB อื่นในการชาร์จเร็วได้เช่นกัน (แต่ไม่รับประกันเรื่องประสิทธิภาพในการชาร์จนะ)
ส่วนความเร็วในการชาร์จ เท่าที่ผมลองเก็บข้อมูลเป็นช่วง ๆ ดู ได้ผลดังนี้
- เริ่มชาร์จตอนที่แบตเตอรี่เหลือ 11%
- ใช้เวลาประมาณ 35 นาที แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 40%
- แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 81% หลังใช้เวลาชาร์จไปทั้งหมดเกือบ ๆ 90 นาที
- แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 96% หลังใช้เวลาชาร์จไปทั้งหมดเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง
รวม ๆ แล้ว ถือว่าระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine สามารถทำได้ดีเลยทีเดียวครับ เมื่อมองว่าตัวเครื่องมีแบตถึง 5000 mAh แต่ก็สามารถชาร์จแบตจนเต็มได้ภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ หรือถ้าต้องการชาร์จแบบด่วน ๆ ก็ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แต่สามารถชาร์จแบตขึ้นมาได้ราว 30% ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการใช้งานต่อได้สบาย
ส่วนแบต 5000 mAh นั้นก็หายห่วงครับ ใช้งานจนหมดวัน แบตยังเหลือข้ามไปใช้อีกวันได้สบาย เล่นเกมได้นานมากกกกกก
ฟังก์ชันตัวช่วยสำหรับการเล่นเกมมาในชื่อของ Game Cube ครับ โดยเมนูปรับแต่งจะซ่อนอยู่ในเมนูการตั้งค่าของเครื่อง ซึ่งที่จริงแล้ว Game Cube มันจะตรวจจับเกม และเพิ่มเข้ามาในนี้ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มเกมเองเลย
แต่จากที่ผมลองใช้งานในระหว่างการรีวิว พบว่าเกมดังอย่าง PUBG Mobile นั้นไม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในเกม Game Cube ให้อัตโนมัติครับ ทำให้ผมต้องเพิ่มเอง ซึ่งก็ไม่ได้ยากนัก แค่กดปุ่ม + แล้วเลือกเกมที่ต้องการเพิ่มเข้ามาได้เลย
ส่วนความสามารถของ Game Cube ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกมได้ก็เช่น การปิดระบบแจ้งเตือน การบล็อกสายโทรเข้า รวมถึงยังมีระบบที่ช่วยให้เกมยังเล่นอยู่ในขณะที่ปิดจอได้ด้วย ซึ่งระบบนี้เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องเปิดหน้าจอทิ้งไว้อย่างพวก Pokemon Go มาก ๆ
ส่วนพวกปุ่มเปิดปิดฟังก์ชันบางอย่าง เช่น การเชื่อมต่อ WiFi, GPS, หรือการใช้งาน 4G จะรวมอยู่ใน Shortcut center ซึ่งมีวิธีเปิดขึ้นมาได้ด้วยการปาดนิ้วจากขอบจอล่างขึ้นมา (คล้ายกับใน iOS) ต่างจาก Android ทั่วไปที่จะรวมอยู่กับแถบแจ้งเตือนซึ่งเปิดขึ้นมาได้ด้วยการปาดจากขอบจอด้านบนลงมา ซึ่งแฟน ๆ มือถือ vivo น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
กล้องถ่ายรูปของ vivo Y17
vivo Y17 มาพร้อมกล้องหลังถึง 3 ตัว ถ้าอิงจากภาพด้านบนนี้ ก็แบ่งได้เป็น
- ซ้ายสุด: กล้อง depth 2 ล้านพิกเซล
- กลาง: กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล
- ขวาสุด: กล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล
โดยตัวของกล้อง depth ก็จะไว้ช่วยเสริมประสิทธิภาพในด้านการเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมดรูรับแสง ส่วนการถ่ายภาพด้วยเลนส์ไวด์นั้น ก็สามารถเลือกปรับโหมดได้จากแอปกล้องเช่นกันครับ
ภาพทางซ้ายคือภาพจากเลนส์กล้องหลัก ส่วนภาพขวามาจากเลนส์อัลตร้าไวด์ในเครื่อง ซึ่งให้มุมมองของภาพที่กว้างกว่าปกติ ส่วนสีสันก็จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ถ้าพูดถึงในภาพรวมแล้ว ภาพที่ได้จากเลนส์อัลตร้าไวด์จะให้สีสันที่สดใสกว่ากล้องหลักอยู่นิดหน่อย เหมาะกับการใช้ถ่ายวิว แต่ถ้าไปถ่ายย้อนแสงจ้า ๆ อันนี้ HDR ก็เอาไม่อยู่เหมือนกันครับ ภาพอาจจะติดมืดบ้างในบางสถานการณ์
อีกข้อจำกัดหนึ่งของเลนส์อัลตร้าไวด์ คือระยะโฟกัสที่อาจจะค่อนข้างไกลหน่อย จึงเหมาะกับการใช้ถ่ายวิว ถ่ายวัตถุหรือตัวแบบที่ค่อนข้างอยู่ห่างจากกล้องซักหน่อย
ส่วนภาพถ่ายทั่วไปที่ได้จากกล้องก็อยู่ในระดับมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันครับ สีสันไม่จัดจ้านเกินไป การตัดขอบเบลอก็ทำได้ค่อนข้างดี สำหรับตัวอย่างภาพก็ชมได้จากด้านล่างนี้เลย
ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน vivo Y17
vivo Y17 เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 ที่เป็นชิป 8 คอร์ระดับกลางเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ได้รับการผลิตที่สถาปัตยกรรมระดับ 12nm ซึ่งทำให้มีการใช้พลังงานที่ลดลงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้าอย่าง Helio P30 ทำงานร่วมกับแรม 4 GB ให้คะแนนในการทดสอบประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่พอเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมด้วยกราฟิกที่ไม่สูงมากได้สบาย
ส่วนการใช้งาน 4G จากที่ผมลองได้ซิมทรู พบว่าไม่สามารถใช้งาน CA ได้ครับ
ในการเล่นเกม PUBG Mobile เมื่อเปิดเกมมาครั้งแรก ตัวเกมแนะนำการตั้งค่ากราฟิกให้อยู่ในระดับแรกสุดเลย เพื่อความลื่นไหลของภาพ ส่วนในตอนที่เล่นจริง กราฟิกในเกมที่เหมาะสมก็จะอยู่ที่ระดับ Smooth (เกมไม่ยอมให้ปรับสูงกว่านี้) และค่าเฟรมเรตอยู่ในระดับ Medium ซึ่งก็สามารถเล่นได้จนจบแมตช์ ไม่ได้มีอาการแล็กจนน่ารำคาญ อาจพบบางช่วงที่เฟรมเรตสะดุดบ้างเล็กน้อยครับ แต่เป็นแค่นิดเดียวจริง ๆ
ส่วนเกม RoV ก็สามารถปรับกราฟิกระดับสูงสุดได้สบาย แต่ไม่สามารถเปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้นะครับ ในการเล่นจริง เฟรมเรตที่ได้ก็จะอยู่ในช่วง 27-30 fps
ปิดท้ายด้วยเกมรถแข่งยอดฮิตในตอนนี้อย่าง Speed Drifters ที่ก็สามารถเล่นบน vivo Y17 ได้อย่างไหลลื่น ด้วยกราฟิกระดับสูง เปิดโหมดเฟรมเรตสูงและการแสดงภาพแบบ HD ระหว่างเล่นก็ไม่พบอาการกระตุกแต่อย่างใด ดริฟท์ได้ลื่น ๆ เลย
Overall
vivo Y17 ถือเป็นอีกหนึ่งมือถือรุ่นใหม่สุดคุ้มในช่วงนี้ได้สบาย ด้วยราคาที่เปิดมา 6,999 บาท แต่ได้ชิป 8 คอร์ แรม 4 GB เมม 64 GB จอใหญ่ แบต 5000 mAh มีฟังก์ชันชาร์จเร็ว ส่วนกล้องหลังก็ให้มาถึง 3 ตัว ที่ให้คุณภาพสมราคา พร้อมเลนส์อัลตร้าไวด์ที่ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับการถ่ายภาพบนมือถือ โดยไม่ต้องใช้เลนส์เสริมที่มักจะเข้ามาลดคุณภาพของรูปถ่ายลง
หากคุณกำลังมองหามือถือราคาไม่ถึงหมื่น มาใช้งานคุ้ม ๆ ซักเครื่อง vivo Y17 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจประจำงาน TME 2019 รอบปลายเดือนนี้อยู่เหมือนกันครับ