หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Samsung ในปีนี้ก็คือการยุบไลน์ผลิตภัณฑ์มือถือซีรีส์ J ของตนเอง ให้เหลือเพียงซีรีส์ A อย่างเดียว ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยลดความสับสนให้กับผู้ใช้ได้ดี เลยทำให้เราได้เห็นมือถือซีรีส์ A มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แบ่งตามระดับของสเปคและราคา อย่างในรุ่นที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้คือ Samsung Galaxy A30 ก็เป็นมือถืออีกรุ่นที่มีค่าตัวอยู่ในช่วง 5,000 – 10,000 บาทที่น่าสนใจ และเข้ามาอยู่ในกลุ่มตลาดที่มีการแข่งขันจากแบรนด์จีนอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าจะเป็นตลาดที่ Samsung เคยเพลี่ยงพล้ำมา แต่การกลับมาด้วย A30 ในครั้งนี้ นับว่าน่าสนใจ และมาพร้อมกับสเปคที่สู้ได้ดีกว่าเดิมอยู่เหมือนกัน
สำหรับสเปค Samsung Galaxy A30 ที่สำคัญก็ตามนี้ครับ
- ชิปประมวลผล Exynos 7904 (8 คอร์ ความเร็ว 1.8, 1.6 GHz) พร้อมชิปกราฟิก Mali-G71 MP2
- แรม 4 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 512 GB
- หน้าจอ Infinity-U Display พาเนล Super AMOLED ขนาด 6.4″ ความละเอียดระดับ FHD+ (2340 x 1080)
- กล้องหลังคู่ พร้อมการประมวลผลจาก AI
- กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล f/1.7
- กล้องเลนส์ไวด์ 5 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
- ถาดซิมแบบนาโนซิม 2 ซิม + MicroSD
- สแตนด์บาย 4G VoLTE พร้อมกันทั้งสองซิม
- Android 9.0
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- พอร์ตชาร์จแบบ USB-C รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 15W
- น้ำหนักเครื่อง 165 กรัม
- ราคา 7,290 บาท
สเปคโดยรวมก็จัดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ด้วยชิประดับกลางรุ่นใหม่ แรมและพื้นที่เก็บข้อมูลที่ให้มาอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกันได้ ส่วนฝั่งของกล้องก็ได้กล้องหลังที่เป็นเลนส์ ultra wide มาด้วย ช่วยขยายมุมมองของการถ่ายภาพได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะตรงใจกับหลาย ๆ คนมากกว่าการใส่เลนส์ depth มา ส่วนถาดใส่ซิมก็ให้มา 3 ช่องครบแบบไม่ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมคู่ หรือใส่ซิม+MicroSD ปิดท้ายด้วยแบตความจุสูง และพอร์ตชาร์จที่ให้ USB-C มาเลย ต่างจากมือถือในช่วงราคาใกล้เคียงกันหลาย ๆ รุ่นจากแบรนด์อื่นที่ยังให้ Micro USB มาอยู่เลยก็มี
ดังนั้น หากพิจารณาจากสเปค ก็ต้องบอกว่า Samsung Galaxy A30 เป็นมือถือรุ่นราคาไม่ถึงหมื่นที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้มือถือมาใช้งานแบบคล่อง ๆ ตัวซักเครื่องนึง
ดีไซน์ หน้าตาของ Samsung Galaxy A30
หน้าจอแบบ Infinity-U นับว่ากลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานการออกแบบของ Samsung ในยุคหลังไปแล้ว หลัก ๆ เลยก็คือการเลือกใช้หน้าจอแบบเกือบเต็มเครื่อง เว้นคางไว้หน่อย และก็มีติ่งกล้องหน้าที่เป็นรูปตัว U อยู่ตรงกลาง ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้ก็ทำให้สามารถบรรจุจอขนาดถึง 6.4 นิ้วได้ โดยที่ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป เทียบกันแล้ว ตัวเครื่องของ A30 มีขนาดไล่เลี่ยกันกับ Google Pixel 2 XL ที่ผมใช้อยู่เลย (Pixel 2 XL หน้าจอ 6 นิ้ว แต่มีขอบจอบนล่าง)
คุณภาพหน้าจอก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของแบรนด์ผู้ผลิตที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ในด้านเทคโนโลยีการผลิตจอ ด้วยการเลือกใช้พาเนลแบบ Super AMOLED ที่หาคู่แข่งที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันในช่วงราคานี้ได้ยากจริง ๆ สีดำเป็นดำ ส่วนสีสันและ contrast นั้นถือว่าสดดี แต่อาจจะไม่ถึงระดับเดียวกับรุ่นท็อปที่ดูจัดจ้านกว่าเล็กน้อย มุมมองของภาพก็กว้าง ส่วนการใช้งานกลางแจ้งก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน
ความรู้สึกในการจับถือ จัดว่าทำได้ดีงามมาก ทั้งในด้านของความบางและความเบา ประกอบกับฝาหลังที่มีการออกแบบให้มีความโค้งตรงขอบแต่ละด้าน ช่วยให้สามารถจับเครื่องได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น
ฝาหลังเลือกใช้กระจกช่วยเพิ่มความเรียบหรูให้กับตัวเครื่อง วางกล้องหลังคู่และแฟลช LED เอาไว้ตรงมุมซ้ายบน โดยกล้องตัวบนคือกล้องเลนส์ ultra wide ส่วนตัวล่างคือกล้องหลัก ถัดมาตรงกลางคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่วางไว้ตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ช่วยตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างก็จะมีทั้งช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. ตรงกลางเป็น USB-C ถัดมาก็เป็นช่องรับเสียงของไมค์สนทนาและช่องลำโพง
ส่วนฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิม ด้านขวามีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็มีมาตามมาตรฐานครับ ได้แก่
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ จ่ายไฟได้ 5V 2A และ 9V 1.67A (15W)
- สาย USB-C
- หูฟัง
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- เคสซิลิโคนใส
- เอกสาร คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ซึ่งเคสที่แถมมาในกล่องก็ทำมาได้ดีครับ เป็นซิลิโคนที่ไม่แข็ง ไม่ย้วยจนเกินไป ขอบสูงกว่าผิวจอเล็กน้อย รวม ๆ แล้วถือว่ามีคุณภาพดี สามารถใช้งานได้แบบแทบไม่ต้องหาเคสใหม่เลย
ซอฟต์แวร์ของ Samsung Galaxy A30
Samsung Galaxy A30 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อม One UI เวอร์ชัน 1.1 ทำให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวม การจัดเรียงเมนู ไอคอนแอปต่าง ๆ มีความใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่ ๆ ซึ่งจัดว่าเป็นลันเชอร์ที่ทำมาได้ดี ลงตัว การใช้งานทั่วไปไหลลื่นดีมาก ถือว่าฝั่ง Samsung ทำ One UI ออกมาได้ดีจริง ๆ ส่วนแพตช์ความปลอดภัยของตัว Android ณ วันที่รีวิว (ช่วงกลางเดือนเมษายน) จะอยู่ที่ของเดือนมีนาคม 2019 เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าล่าสุดมาก ๆ สำหรับในตอนนี้เลย
ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลของตัวเครื่องที่ให้มาตามสเปค 64 GB นั้น จะเหลือให้ใช้งานจริงตอนเปิดเครื่องครั้งแรกประมาณ 50 GB แนะนำว่าควรหา MicroSD ความเร็วสูงหน่อย ความจุซัก 64 GB ขึ้นไปมาใช้เก็บรูปภาพ วิดีโอจะดีที่สุดครับ จะได้เหลือพื้นที่เก็บข้อมูลของตัวเครื่องไว้ลงแอป ลงเกมอย่างเดียว
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy A30
ด้านของฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็อาจจะมีไม่มากนักครับ เนื่องจากเป็นรุ่นที่ทำออกมาสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้น หรือมีฟีเจอร์พิเศษอะไร เน้นที่ความคุ้มค่าด้านสเปคต่อราคาซะมากกว่า แต่ถ้าในมุมมองของผมเองก็ยกให้เรื่องกล้องเป็นฟีเจอร์เด่นแล้วกัน ด้วยการที่มีทั้งเลนส์ปกติและเลนส์ไวด์มาให้ใช้ มีระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพ อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพที่แทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นใหญ่เลย ทำให้ลูกเล่นในการใช้งานกล้องมีค่อนข้างหลากหลาย ให้ประสบการณ์ที่ดีตามสไตล์ของ Samsung ทั้ง ๆ ที่ราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 7,290 บาทเท่านั้น
กล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy A30
อย่างที่กล่าวไปแล้วทั้งส่วนของสเปคและฟีเจอร์เด่นว่ากล้องหลังมาด้วยกัน 2 ตัว เป็นเลนส์ปกติกับเลนส์ ultra wide ซึ่งนับว่าเป็นการจับคู่ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายวิว ถ่ายภาพมุมกว้าง ๆ อันกลายเป็นเทรนด์ของมือถือในยุคนี้กันไปแล้ว ที่มักใส่เลนส์ ultra wide ที่มุมรับภาพกว้างกว่าเลนส์กล้องมือถือปกติที่ใช้กันมา
แม้เลนส์กล้องหลังที่สองจะเป็นเลนส์ ultra wide ก็ตาม แต่ก็ยังมีโหมดกล้องอย่าง Live focus ที่ช่วยถ่ายภาพวัตถุชัด-หลังเบลอได้อยู่เช่นเคย แต่จากที่ผมใช้งานมา ตัวระบบจะยึดใบหน้าคนเป็นหลัก จึงจะสามารถประมวลผลภาพเพื่อเบลอฉากหลังได้ ต่างจากโหมด Live focus ในเครื่องรุ่นที่ใช้การจับคู่กล้องระหว่างเลนส์ปกติ+เลนส์ depth ที่จะยืดหยุ่นกับการใช้งานมากกว่า
นอกจากนี้ โหมดอื่น ๆ เช่น โหมด Pro โหมด Panorama รวมถึง AR Emoji ก็ยังมีให้ใช้งานเช่นเคย สำหรับระบบ AI ช่วยประมวลผล จะใช้สัญลักษณ์รูป galaxy สีฟ้าเป็นปุ่มสำหรับเปิด/ปิดการทำงาน โดยใช้ชื่อเรียกว่า Scene optimizer
ส่วนไฮไลท์หลักอย่างเลนส์ ultra wide นั้น ในสถานการณ์ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยมุมรับภาพที่กว้างถึง 123 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพได้กว้างขึ้น พร้อมกับความบิดเบี้ยวของขอบภาพ (distortion) ตามสไตล์ของเลนส์ ultra wide อีกทั้งยังสามารถใช้เลนส์ ultra wide กับการถ่ายวิดีโอได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการใช้เลนส์ ultra wide ก็จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น
- ขณะใช้เลนส์ ultra wide จะไม่สามารถถ่ายรูปโดยใช้แฟลชได้ และไม่สามารถแตะเลือกจุดโฟกัสและจุดวัดแสงได้
- เมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด Pro, Live focus และ Panorama จะไม่สามารถใช้เลนส์ ultra wide ได้
ด้านของคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้จากเลนส์ ultra wide นั้น ตามสเปคเลยก็คือตัวภาพจะมีความละเอียดเพียงแค่ 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น ใช้สำหรับอัพโหลดลง Facebook Instagram หรือโซเชียลอื่น ๆ ได้สบาย แต่ถ้าลองมาซูมดูรายละเอียดภาพ ก็จะพบว่าเนื้อไฟล์จะไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ มี noise พอสมควรเมื่อถ่ายในที่มีแสงน้อย การเก็บไฮไลท์ของแสงก็จะไม่เนียนเท่ากับเลนส์ของกล้องหลัก รวมถึงถ้าหากถ่ายรูปในสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลกับการประมวลผล white balance ได้ เช่น ถ่ายรูปต้นไม้ ใบไม้กลางแจ้งด้วยเลนส์ ultra wide ก็อาจจะได้รูปที่ติดโทนสีน้ำเงินเล็กน้อย ซึ่งคงต้องมาแก้ white balance ของภาพกันภายหลังอีกทีนึง
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง สามารถชมได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้เลยครับ
ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน Samsung Galaxy A30
ด้วยการที่ Samsung Galaxy A30 มาพร้อมกับสเปคความแรงระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป จึงทำให้คะแนนผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปต่าง ๆ ออกมาดูเหมือนจะไม่ค่อยแรงนัก แต่ถ้าพูดถึงความรู้สึกระหว่างการใช้งาน ก็ต้องบอกว่ามีความไหลลื่นในระดับที่น่าพอใจ เปิด/ปิด/สลับแอปได้รวดเร็วในระดับที่สมาร์ทโฟนในยุค 2019 ควรทำได้ ดังนั้นหากคุณต้องการมือถือราคาไม่แพงมาใช้งานในชีวิตประจำวันซักเครื่อง หรือจะใช้เป็นเครื่องรองก็เป็นทางเลือกที่โอเคเลย จอใหญ่ คมชัดสบายตา ความเร็วในการทำงานก็เหมาะสม เท่าที่ผมลองใช้งานมาในระหว่างการรีวิวก็ไม่พบปัญหาหนัก ๆ อะไร
แบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 4000 mAh ก็ตอบโจทย์ของผู้ที่ต้องการมือถือแบตอึดได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะนอกจากแบตจะมีความจุสูงแล้ว สเปคเครื่องเองก็ไม่ได้กินแบตมากนัก ยิ่งถ้าหากปรับไปใช้ wallpaper โทนสีดำ ร่วมกับการใช้งานแอปแบบ dark mode (ถ้ามี) ก็จะยิ่งประหยัดแบตได้ยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจาก Samsung Galaxy A30 ใช้จอแบบ Super AMOLED ที่จะกินไฟน้อยกว่าหากแสดงผลเป็นสีดำ ส่วนในการใช้งานรูปแบบปกติ เปิดแอปโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเว็บ ต่อเน็ต 4G ก็สามารถใช้งานเครื่องได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล
ส่วนการเล่นเกม Mali-G71 ที่อยู่ใน Exynos 7904 ก็ถือว่าทำได้น่าพอใจ อย่างที่ผมทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟิกได้ถึงระดับ HD เฟรมเรต High แต่พอเล่นไปซักพักก็จะมีอาการภาพกระตุกอยู่บ้าง ผมเลยปรับกราฟิกลงมาเหลือ Balanced แต่คงปรับเฟรมเรตไว้ที่ระดับ High เท่าเดิม พบว่าเกมไหลลื่นจนแทบไม่มีอาการกระตุกแล้ว
ส่วนในเกม RoV ก็สามารถปรับกราฟิกสูงสุด พร้อมเปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้ด้วย โดยระหว่างเล่น เฟรมเรตของตัวเกมจะวิ่งอยู่ในช่วง 54-60 fps และไม่พบอาการกระตุกแต่อย่างใด
Overall
Samsung Galaxy A30 นับเป็นการกลับมารุกตลาดมือถือราคาไม่เกินหมื่นที่น่าสนใจของ Samsung จากแต่เดิมเคยเป็นที่ยืนของ Samsung Galaxy J มาก่อน แน่นอนว่าการกลับมาโดยเปลี่ยนชื่อซีรีส์เป็น A ให้หมด นอกเหนือจากจะได้อิมเมจที่ดูดีขึ้นแล้ว เทคโนโลยี ฟีเจอร์ ลูกเล่นต่าง ๆ ก็เรียกได้ว่าทำมาได้สมราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านของสเปคที่รอบนี้ Samsung จัดมาให้ A30 มีสเปคไม่น้อยหน้าคู่แข่งในช่วงราคาใกล้เคียงกัน แถมยังเลือกใช้จอแบบ Super AMOLED ที่เป็นจุดเด่นของตนเองมาสู้อีกด้วย เลยทำให้ Samsung Galaxy A30 เป็นมือถืออีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหามือถือราคาไม่แรงมาใช้งานทั่วไปซักเครื่อง
ส่วนกล้องคู่ที่ใช้เลนส์ ultra wide นั้น ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับฟังก์ชันกล้องได้ดี แม้จะมีจุดที่ตก ๆ หล่น ๆ ไปบ้างในแง่ของการทำงาน แต่ก็ต้องถือว่าทำงานได้สมราคาค่าตัวระดับหนึ่งเลย