Honor เป็นอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ที่เข้ามาลุยตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย Honor 7c รุ่นที่จะมารีวิวให้อ่านกันนี้จัดเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก แต่สเปคและฟีเจอร์นั้นไม่เล็กเลยครับ เพราะให้ทุกอย่างที่สมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ 18:9 ตามสมัยนิยม, กล้องหลังคู่ที่ถ่ายโบเก้ได้ ที่สำคัญคือเปิดราคามาเพียง 5,290 บาทเท่านั้น จัดเป็นราคาที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นสะเทือนได้เลย
สเปค Honor 7c
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440×720 พิกเซล อัตราส่วน 18:9
- CPU Snapdragon 450 octa-core
- GPU Adreno 506
- RAM 3 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ microSD Card
- รองรับสองซิมการ์ด ถาดซิมแบบ 3 Slot (2 Nano Sim + MicroSD Card)
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รัน Android 8.0 Oreo ครอบด้วย EMUI 8.0
- มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
- แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh
- ราคา 5,290 บาท
Design/ การออกแบบ
Honor 7c มาพร้อมกับหน้าจออัตราส่วน 18:9 ซึ่งเป็นอัตราส่วนหน้าจอที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน ข้อดีของหน้าจอดังกล่าวคือทำให้สามารถใส่หน้าจอขนาดใหญ่ไว้ในตัวเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก อย่างหน้าจอของ Honor 7c มีขนาดใหญ่ถึง 5.99 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องเทียบเท่าสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้ว (อัตราส่วน 16:9) เท่านั้น
หน้าจอของ Honor 7c แสดงผลได้ถึง 16.7 ล้านสี ความละเอียดระดับ HD+ มีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 268 ppi
วัสดุตัวเครื่องของ Honor 7c เห็นเป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาแบบนี้ แต่วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะ ไม่ได้ใช้พลาสติกที่ทำให้เหมือนโลหะนะครับ จุดนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Honor 7c เลยก็ว่าได้ ด้านสัมผัสตัวเครื่องก็ทำออกมาได้ดี น้ำหนักเบา ทำให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก แม้จะมีหน้าจอขนาดใหญ่เกือบ 6 นิ้วก็ตาม
ถาดใส่ซิมใช้เป็นถาดซิมแบบ 3 Slot สามารถใส่ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด พร้อมกับใส่ MicroSD Card ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างซิม 2 กับ MicroSD Card เหมือนถาดซิมแบบ Hybrid Slot
พอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้อย่างครบครัน ทั้งพอร์ตชาร์จไฟ/ เชื่อมต่อที่เป็นพอร์ตแบบ Micro USB, พอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง รองรับการเชื่อมต่อ OTG จะใช้งานร่วมกับแฟลชไดรฟ์ หรือสาย USB OTG ได้ด้วย
ด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ หรือจะใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้าเพื่อความสะดวกก็ได้เช่นกัน
Software/ ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 8.0 Oreo อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงใช้ EMUI เช่นเดียวกับ Huawei นั่นก็เพราะว่า Honor จัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ภายใต้ Huawei Group จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีกลิ่นอายของ Huawei อยู่มากทีเดียว
EMUI 8.0 จัดเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย หน้าตาของ UI ไม่ซับซ้อน มีการตัดหน้า App Drawer ออกไป ทำให้ทุกแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดเพิ่มเติมจากเดิมจะอยู่ในหน้า Home ทั้งหมด ส่วนการปัดหน้าจอจากบนลงล่างก็เป็นการเรียกหน้า Toggle Switch สำหรับเปิด – ปิดฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น Wi-Fi, Mobile Data, Bluetooth และอื่น ๆ
ฟีเจอร์เด่น ๆ ก็มีให้เลือกใช้หลากหลายฟีเจอร์ เพราะฉะนั้นในบทความนี้ผมจะยกมาเพียงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อย่างแรกเลยก็คือการเปิดใช้งาน 2 แอปพลิเคชันพร้อมกัน จะดู Youtube พร้อมกับเช็คอีเมล์ หรือเปิดดูภาพถ่ายพร้อมกับเล่น Facebook ก็สามารถทำได้ รวมถึงการจับภาพหน้าจอแบบรูด 3 นิ้ว ก็เป็นฟีเจอร์ที่ได้ใช้งานจริง และสะดวกกว่าการกดปุ่ม Power + ลดเสียงเยอะเลยครับ
Camera/ กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังใช้เป็นกล้องหลังแบบคู่ ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล มีแฟลช LED ติดมาให้ 1 ดวง ซอฟท์แวร์กล้องเป็นแบบเดียวกับสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นกลาง การใช้งานไม่มีอะไรซับซ้อน ปัดไปทางด้านขวาเป็นการตั้งค่า ปัดมาทางด้านซ้ายเป็นโหมดต่าง ๆ ของกล้อง
ข้อดีของการใส่กล้องคู่คือทำให้การถ่ายโหมด Wide Aperture หรือโหมดโบเก้มีความเนียน สามารถปรับระดับความละลายของฉากหลังได้หลายระดับ เป็นการจำลองค่ารูรับแสงตั้งแต่ f/0.95 (ละลายมาก) ไปจนถึง f/16 (ชัดทั้งภาพ) และยังมีโหมดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Beauty, HDR, Good Food (โหมดอาหารน่าอร่อย) เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชจากหน้าจอที่สามารถปรับระดับความแรงได้ ส่วนตัวผมมองว่าแฟลชจากการเร่งแสงหน้าจอช่วยในการเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีกว่า เพราะแสงแฟลชที่ออกมาไม่แข็งเท่ากับแฟลช LED บนสมาร์ทโฟนบางรุ่น และนอกจากแสงแฟลชหน้าจอจะช่วยในการเซลฟี่ในที่แสงน้อยแล้ว ในสภาพแสงปกติก็สามารถยิงแฟลชเพื่อช่วยให้ใบหน้าสว่างขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
Performance/ ประสิทธิภาพ
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 450 เป็นชิปเซ็ตอินเตอร์แบรนด์ สามารถเล่นเกมได้แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประมาณ 5,000 บาท ให้ Ram มาที่ 3 GB และความจุ 32 GB เพียงพอต่อการใช้งานในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้จบ แนะนำให้หา MicroSD Card ความจุสัก 32 GB ขึ้นไปมาเก็บภาพถ่าย, วีดีโอจะดีที่สุดครับ
ทดสอบเล่นเกมกับเกมยอดนิยมอย่าง ROV (ปิด HD) สามารถเล่นได้นิ่ง ๆ ที่ 30 fps จะมีข้อสังเกตก็ตอนที่โหลดแมปอาจจะหน่วงเล็กน้อย แต่เมื่อเข้าแผนที่มาแล้วก็เล่นได้ลื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแนะนำให้เล่นเกมตอนที่แบตเตอรี่เหลือมากกว่า 30% นะครับ CPU จะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนการใช้งานทั่วไป เล่น Facebook, LINE, ดู Youtube ตรงนี้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรับชมคอนเท้นได้อย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน
ด้านการจัดการพลังงาน มีแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ใช้งานได้ยาว ๆ หมดวันโดยที่ไม่ต้องพึ่ง Powerbank ด้วยความที่เลือกใช้ชิปประมวลผลรุ่นประหยัดพลังงานอย่าง Snapdragon 450 และหน้าจอความละเอียด HD+ อย่างไรก็ตามหากเล่นเกมบ่อย หรือใช้งานเปิดหน้าจออย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะต้องมีการเติมไฟระหว่างวัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์อยู่แล้ว
Overall/ สรุปภาพรวม
สำหรับ Honor 7c สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กจาก Honor หนึ่งในแบรนด์ภายใต้ Huawei Group กับราคา 5,290 บาท จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ควรมองข้ามในช่วงราคาประมาณ 5,000 บาทเลยครับ ด้วยสเปค และฟีเจอร์ที่ให้มาแบบจัดเต็มสมราคา (ในบางฟีเจอร์ถือว่าเกินราคาด้วยซ้ำไป) กล้องหลังคู่ถ่ายโบเก้ได้แบบเนียน ๆ หรือจะเป็นสเปคที่สามารถใช้งานทั่วไปรวมถึงเล่นเกมได้ดีกว่าคู่แข่งในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องศูนย์บริการ Honor ใช้ศูนย์บริการเดียวกันกับ Huawei ซึ่งมีศูนย์บริการครอบคลุมหลายพื้นที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องบริการหลังการขายแบบแบรนด์เล็ก ๆ ด้วยครับ