หนึ่งในสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่คุ้มค่าที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ HUAWEI Y7 Pro 2018 รุ่นเล็กสเปคแน่น ๆ ของทาง HUAWEI ที่ปีนี้ดุเหลือเกินครับ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นเล็กเช่นนี้ แต่ละรุ่นที่เปิดตัวเปิดราคามาเนี่ย ทำเอาคู่แข่งหนาว ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียว โดย HUAWEI Y7 Pro 2018 เปิดราคามาเพียง 4,990 บาท ให้เป็นเจ้าของกันได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคือสเปคเนี่ย ท้าชนกับพวกราคา 6 – 7 พันบาทยี่ห้ออื่นได้สบาย ๆ
สเปค HUAWEI Y7 Pro 2018
- หน้าจอ HUAWEI FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 ความเร็ว 1.4 GHz
- Ram 3 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
- ถาดซิมแบบ 3 Slot (Dual Sim + Micro SD Card)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Toning Flash
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 base on Android 8.0 Oreo
- มีระบบ Face Unlock ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh
- มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Black, Blue และ Gold
- ราคา 4,990 บาท
Camera/ กล้องถ่ายภาพ
ถึงแม้ว่าจะเปิดราคามาเพียง 4,990 บาท แต่กล้องหลังของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นกล้องคู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัด – หลังเบลอ (Wide Aperture) และสามารถทำการ Refocus หรือการเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพได้ รวมถึง Portrait Mode (ปรับ Beauty ได้ 10 ระดับ)
โหมดกล้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่โหมด Document scan เหมาะมากกับน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษาที่ชอบถ่าย Powerpoint เวลาอาจารย์สอน โดยโหมดดังกล่าวจะทำการ Crop เฉพาะบริเวณที่เป็นตัวหนังสือ พร้อมกับจัดตรงให้ แม้ว่าจะถ่ายจากมุมข้าง ๆ ก็ตาม และนอกจากจะถ่าย Powerpoint ได้แล้ว ยังสามารถใช้แทนการสแกนเอกสารได้เลยเช่นกันครับ
Good Food หรือโหมดอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งโหมดที่มีใน HUAWEI Y7 Pro 2018 ชื่อของโหมดนี้ก็บอกชัดเจนแล้วว่าออกแบบมาสำหรับการถ่ายอาหารโดยเฉพาะ ภาพถ่ายอาหารจากโหมด Good Food จะมีการแต่งสีให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ด้านการถ่ายวีดีโอรองรับการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p @30 fps และสามารถถ่ายวีดีโอไปพร้อม ๆ กับการเปิด Portrait Mode หรือโหมดหน้าสวยได้ แต่จะสามารถเลือกความละเอียดได้เพียง HD 720p เท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่าย Portrait Mode ได้เช่นกัน โดยการถ่ายภาพด้วย Portrait Mode จะปรับความสวยงามของใบหน้าได้ถึง 10 ระดับ และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Perfect Selfie ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกระดับความสวยงามในแบบที่ชอบ หรือแบบที่เหมาะกับตัวเองได้ โดยการตั้งค่า Perfect Selfie จะถูกใช้ใน Portrait Mode ทุกครั้ง
ทีเด็ดอีกอย่างของกล้องหน้า คือติดแฟลช Selfie Toning Flash หรือแฟลชแบบ Soft light ที่นอกจากจะช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถใช้ในการถ่ายเซลฟี่ในแสงปกติ แทนการจัดแสงได้ด้วย
การถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหน้า สามารถบันทึกวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p และทำงานร่วมกับ Portrait Mode ได้เช่นกัน แต่จะล็อกความละเอียดไว้ที่ HD 720p
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
Design/ การออกแบบ
สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่มาพร้อมกับดีไซน์อันโดดเด่น ทันสมัยด้วยการเลือกใช้หน้าจอ HUAWEI FullView Display อัตราส่วน 18:9 มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.99 นิ้ว ใหญ่เต็มตา ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องพอ ๆ กับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้วปกติทั่วไป
ข้อดีของการเลือกใช้หน้าจอ HUAWEI FullView Display 18:9 คือสามารถรับชมคอนเท้นได้เต็มตากว่าหน้าจอแบบ 16:9 ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยในแนวตั้ง เช่นการเปิดหน้าเว็บ, เล่น Facebook หน้าจอจะแสดงผลได้มากกว่า ถ้าเทียบเป็นโพส Facebook ก็สามารถแสดงผลได้มากกว่าอย่างน้อย 1 โพส
การรับชมคอนเท้นในแนวนอน เช่น การรับชมวีดีโอ หรือรับชม Youtube ประเภทภาพยนตร์ หน้าจอแบบ FullView Display ก็สามารถรับชมได้เต็มตามากกว่า มีขอบดำเหลือน้อยกว่า ส่วนการเล่นเกม ณ ปัจจุบัน เกมบนสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ออกแบบมาให้รองรับหน้าจอ 18:9 แทบจะทุกเกมแล้ว เกมยอดนิยมอย่าง ROV ตอนนี้ก็เล่นบนหน้าจอ 18:9 ได้แบบเต็มจอ และมีพื้นที่แสดงผลมากกว่าหน้าจอแบบ 16:9 อย่างเห็นได้ชัด
การออกแบบส่วนตัวผมมองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์ออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งการเลือกใช้วัสดุ ที่ไม่ได้เป็นโลหะ แต่ก็ให้ความหรูหราเกินราคา โดยเฉพาะบริเวณขอบด้านข้างที่เป็นผิวสัมผัสแบบเงา มองผ่าน ๆ เหมือนใช้วัสดุเป็นสแตนเลส เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ
ถาดซิมเป็นถาดซิมแบบ 3 Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Nano Sim และสามารถใส่ Micro SD Card เพิ่มได้อีก ไม่ต้องเลือกระหว่างซิม 2 กับ MicroSD Card เหมือนอย่างถาดซิมแบบ Hybrid Slot
ส่วนฝาหลัง แม้จะใช้วัสดุเป็นพลาสติก แต่ก็มีงานประกอบที่แน่นหนา, แข็งแรง ไม่มีการยวบเมื่อกดฝาหลัง ตัวเครื่องรีวิวที่ได้รับมาเป็นตัวเครื่องสีทอง รายละเอียดด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องหลังคู่ พร้อมแฟลช LED, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และโลโก้ HUAWEI บริเวณด้านล่าง
Feature/ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
แม้จะเป็นรุ่นเล็กที่ราคาไม่ถึง 5,000 บาท แต่ฟีเจอร์นั้นมีมาให้ใช้ไม่แพ้พวกรุ่นราคาแพง ๆ เลยครับ แต่ที่ผมมองว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ก็คงเป็นการจับภาพหน้าจอ และการแบ่ง 2 หน้าจอพร้อมกัน เพราะเป็นฟีเจอร์ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมาร์ทโฟนที่จะทำเช่นนี้ได้ต้องราคา 10,000 บาทขึ้นไป
การจับภาพหน้าจอ
ตามปกติ การจับภาพหน้าจอบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยจะใช้การกดปุ่ม Power กับปุ่มลดระดับเสียงพร้อมกัน แต่สำหรับ HUAWEI Y7 Pro 2018 นอกจากการจับภาพหน้าจอแบบปกติแล้ว ยังสามารถใช้การรูด 3 นิ้ว ลงบนหน้าจอในการจับภาพหน้าจอได้ด้วย ทำให้การจับภาพหน้าจอทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับการตั้งค่า ให้เข้าไปที่ Setting > Smart assistance > Motion control > Three-finger screenshot
แบ่ง 2 หน้าจอ (Split screen)
ด้วยหน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display อัตราส่วน 18:9 ทำให้การแบ่งหน้าจอของ HUAWEI Y7 Pro 2018 เป็นแบบ 1:1 ซึ่งแสดงผลได้ดี และเหมาะกับการแบ่ง 2 หน้าจอมากกว่าอัตราส่วน 16:9 โดยการแบ่งหน้าจอก็ง่ายมาก เพียงกดปุ่ม Recent Apps ค้างไว้ แล้วก็เลือกแอปพลิเคชันที่ 2 ได้ทันที
ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า – Face Unlock
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งาน HUAWEI Y7 Pro 2018 สะดวกยิ่งขึ้น คือการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า หรือ Face Unlock ที่ใช้กล้องหน้าในการปลดล็อก ไม่จำเป็นต้องใส่รหัส และสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้รวดเร็วทีเดียว
Performance/ ประสิทธิภาพ ความแรง
ประสิทธิภาพของ HUAWEI Y7 Pro 2018 ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 ชิปเซ็ตแบบ octa-core ความเร็ว 1.4 GHz กับ Ram 3 GB และความจุ 32 GB เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว 4,990 บาท ถือว่าเป็นสเปคที่คุ้มค่ามาก ด้วยตัวชิปเซ็ตที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานตัวยอดนิยม รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันได้หลากหลาย และเพียงพอที่จะใช้ในการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟน (ต้องปรับตั้งค่าให้เหมาะสม)
ด้านการจัดการพลังงาน HUAWEI Y7 Pro 2018 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 3,000 mAh และด้วยชิปประมวลผลที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานอย่าง Snapdragon 430 กับหน้าจอความละเอียด HD+ ส่งผลให้การจัดการพลังงานของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม สามารถใช้งานได้ยาว ๆ โดยที่ไม่ต้อง Powerbank หรือชาร์จไฟระหว่างวันครับ ตอนที่ผมทดสอบ HUAWEI Y7 Pro 2018 ได้ทำการเปิด 4G ไว้ตลอด มีสลับมาเชื่อมต่อ WiFi ขณะที่อยู่ออฟฟิศ ถ่ายรูป และเล่นเกม กับโซเชียลมีเดีย รวมถึงเช็คอีเมล์อยู่ตลอด ยังเหลือแบตเตอรี่ไว้ให้ดู Youtube ระหว่างเดินทางกลับบ้านได้สบาย ๆ
จุดเด่น
- สเปคดี คุ้มค่า ทำราคาออกมาได้น่าประทับใจ
- งานประกอบดี ตัวเครื่องน้ำหนักเบา จับถือสะดวก
- ชิปเซ็ต Snapdragon 430 ประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี
- แบตเตอรี่ 3,000 mAh ใช้งานยาว ๆ
- ใส่ได้ 2 ซิม แล้วยังใส่ MicroSD ได้อีก
- กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล ถ่ายโหมด Wide Aperture ได้
- คุณภาพของรูปถ่ายอยู่ในเกณฑ์ที่ประทับใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน หรือราคาสูงกว่า
- มาพร้อมระบบสแกนใบหน้า ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ช่องทางจำหน่าย
HUAWEI Y7 Pro 2018 มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black) สีน้ำเงิน (Blue) และสีทอง (Gold) โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือหาซื้อได้ที่ หัวเว่ย แบรนด์ช้อป และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สนนราคาอยู่ที่ 4,990 บาทเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ไม่ควรพลาด สำหรับ HUAWEI Y7 Pro 2018 รุ่นนี้!!