หากพูดถึงชื่อ Gionee (จี-โอ-นี่) น้อยคนนักที่จะรู้จักแบรนด์นี้ และอาจจะคิดว่ายังไม่คุ้นอยู่บ้าง โดย Gionee เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายดีมากในประเทศจีน และมาถึงวันนี้ก็ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่า เป็นน้องใหม่ในตลาดบ้านเราก็ว่าได้ครับ โดยทาง Gionee ได้ทำการส่งสมาร์ทโฟนเข้ามาหลายรุ่นด้วยกัน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงรุ่น Gionee A1 Lite ที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ว่าแล้วเราไปดูกันดีกว่า ว่าจะมีทีเด็ดอะไรบ้าง
สเปค Gionee A1 Lite
- หน้าจอ IPS 5.3 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 กระจกขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass 3
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6753 Octa-Core 1.3GHz
- GPU Mali T720
- Ram 3GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB (รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB)
- กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหน้า ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/2.0
- ขนาดตัวเครื่อง 150.5 x 74.4 x 8.0 มม.
- นํ้าหนัก 161.3 กรัม
- Android 7.0 ครอบทับด้วย Amigo 4.0
- Wi-Fi Dual Band, Bluetooth 4.2 , VoLTE, VoWiFi
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- มี 3 สีให้เลือก สีแดง สีดำ สีทอง
- ราคา 7990 บาท
ภายในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง Gionee A1 Lite, ที่ชาร์จแบบ 5V-2A, สาย Micro USB, หูฟัง 3.5, คู่มือภาษาไทย, เคส TPU แบบใส, ฟิล์มกันรอย และเข็มจิ้มซิม
ข้อดี
– Hardware มีคุณภาพดี
– งานประกอบดีเกินราคา
– ใช้งาน 3G/4G LTE ได้อย่างไร้ปัญหา
– ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot
– ภาพถ่ายกล้องหน้า และกลัองหลังสว่างมาก
ข้อสังเกตุ
– Software ยังดึงเอาประสิทธิภาพของ Hardware ออกมาได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก
– ต้องปรับตัวในการใช้งาน Software พอสมควร
– หน้าจอเมนูตั้งค่า บางเมนูอยู่ลึกเกินไป
– ตัวปรับแสงหน้าจออัตโนมัติยังทำงานช้าบ้าง
บทสรุป
BEST PRICE
Design
การออกแบบของ Gionee A1 Lite จะออกเรียบ ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด HD กระจกหน้าจอแบบ 2.5D มีความโค้งเล็กๆ บริเวณมุมกระจก สีสันของหน้าจอ จัดว่าให้สีสันที่สบายตา และมีมุมมองที่ดี
ด้านบนของหน้าจอประกอบไปด้วย LED Flash, ลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โดยที่ตัว LED Flash กล้องหน้าจะสามารถใช้เป็นไฟแจ้งเตือนข้อความเข้า หรือสายเข้าก็ได้ครับ
ด้านล่างของหน้าจอประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่ม Home, ปุ่ม Back ซึ่งทั้งหมดเป็นปุ่มแบบสัมผัส
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ช่องหูฟัง 3.5, ไมโครโฟน และพอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB
ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ปุ่ม Power และด้านซ้ายของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot
ด้านหลังของ Gionee A1 Lite ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Dual-LED Flash และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถัดลงมาอีกนิดจะพบกับลำโพงหลักของตัวเครื่อง และโลโก้ Gionee
ตัวลำโพงที่อยู่บริเวณนี้ก็ทำให้เวลาเราวางเครื่องแล้วเปิดเพลง เสียงที่ออกมาจะออกมาไม่เต็มที่ แต่เวลาเกมทำได้ดีเพราะไม่มีอะไรมาบัง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือยังไม่เร็ว และแม่นยำเท่าไหร่ ยังมีอาการมึนอยู่บ้างครับ
ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโลหะ ที่เวลาจับให้ความรู้สึกที่ดีมาก โดย Gionee A1 Lite จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh และมีนํ้าหนัก 161.3 กรัม ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้หนักมาก สามารถถือใช้งานเป็นเวลานานได้สบายๆ งานประกอบของ Gionee A1 Lite เรียกได้ว่าทำได้ดีสมราคา
ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 5.3 นิ้ว ทำให้จับถือได้กระชับ และไม่ใหญ่จนเกินไป ยอมรับเลยว่าเล่น ROV ได้ถนัดมาก สำหรับใครที่คิดว่าหน้าจอ 5.5 นิ้วมันใหญ่จนเกินไป ลองมองหน้าจอ 5.3 นิ้วไว้ก็น่าสนใจครับ
Software
Gionee A1 Lite มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 7.0 ครอบทับด้วย Amigo 4.0 หน้าตาของ UI จะเรียบ ๆ สีสันไม่ฉูดฉาดมากนัก คล้าย ๆ กับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนเจ้าอื่น UI ของ Gionee A1 Lite จะไม่มีตัว App Drawer(เมนูหลัก) มาด้วยทำให้แอปพลิเคชันที่เราติดตั้งจะแสดงอยู่บนหน้าจอหลักทั้งหมด
ตัวแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ตอนแรกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ทำให้อาจจะดูรกไปสักหน่อย ผมเข้าใจว่าเนื่องจากต้องผลิตขายในประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้วตัว Software ที่ติดตั้งมาให้จะมีความใกล้เคียงกัน แต่รุ่นที่ขายทั่วโลกนั้นจะมี Play Store มาให้ครับ
ตัวหน้าจอล็อกของ Gionee A1 Lite จะมีหน้าตาที่ต่างออกไปจากที่เราคุ้นเคย เรียกได้ว่าทำให้ผมไม่คุ้นเลยก็ว่าได้ โดยหน้าตาจะคล้ายๆ Magazine ที่เลื่อนซ้าย หรือขวาได้ และมีข้อความสั้น ๆ ให้เราอ่านด้วยเล็กน้อย โดยเราสามารถกดถูกใจรูปภาพ หรือกดแชร์ให้เพื่อนดูก็ได้ และภาพจะเปลี่ยนไปทุกวันไม่ซ้ำกัน
ตัวหน้าจอล็อกจะให้ความรู้สึกที่วินเทจอย่างบอกไม่ถูก หรือเพราะสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นได้เปลี่ยนการออกแบบไปเป็นแบบ Flat Design ไปหมดแล้ว พอมาเจอ Gionee A1 Lite เลยรู้สึกว่ามันแปลกก็ว่าได้ ส่วนตัวสิ่งอยากได้เพิ่มจะเป็นเรื่องของนาฬิกาที่อยากให้ใหญ่กว่านี้สักนิดนึง จะทำให้ดูเวลาง่ายขึ้นมาก
เนื่องจากเป็น Android 7.0 จึงรองรับฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอได้สองหน้าจอ แต่เมื่อใช้งานพบว่ามีบางแอปพลิเคชันไม่สามารถแบ่งหน้าจอได้
ตัวซอฟต์แวร์รู้สึกว่ายังไม่ลื่นไหลมากเท่าที่มันควรจะเป็น ยังมีอาการสะอึกอยู่บ้าง ส่งผลให้แอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการตัวนี้ทำงานได้ไม่ลื่นไปด้วย ในส่วนนี้คงต้องรอการแก้ไขจากผู้ผลิตกันก่อนครับ
สิ่งที่ยังรู้สึกว่ายังหงุดหงิดใจอยู่คงจะเป็นเรื่องของการที่มักจะมีโฆษณาซ่อนอยู่ในแอพที่ติดเครื่องมา ซึ่งเนื้อหามันไม่ค่อยเกี่ยวกับเราเท่าไหร่ แต่จะเหมาะกับในประเทศจีนมากกว่า ในส่วนนี้ผมแนะนำว่าแอพไหนถ้าไม่ใช้ ลบทิ้งไปก็ได้ครับ
Camera
Gionee A1 Lite มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับโหมด Beauty, พาโนรามา, โหมดกลางคืน, โหมดโปร,โหมดสโลว์โมชัน และรองรับ HDR Auto ด้วย เรียกได้ว่าอัดมาให้เยอะใช้ได้เลยทีเดียวครับ
โดยผมได้นำ Gionee A1 Lite ไปทดสอบถ่ายภาพด้วยกล้องหลังในโหมด Auto เป็นหลัก พบว่าการถ่ายรูปในสภาพแสงปกติทำได้ดี ตัวกล้องทำงานเร็ว แต่ถ้าจะถ่ายเน้นไปที่อะไรสักอย่างควรจะกดโฟกัสเองด้วย เพื่อให้ได้ความคมของภาพที่เพิ่มขึ้นมาก ถ้าหยิบมาถ่ายแบบรีบ ๆ ภาพที่ได้จะยับพอสมควรเลย เรียกได้ว่าหาความคมชัดไม่เจอ ไม่ต้องพูดถึงภาพถ่ายตอนกลางคืนเรียกได้ว่า มันเบลอไปหมด ขนาดใช้โหมดกลางคืนช่วยแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นครับ
ตัวคอนทราสของภาพบางทีก็ทำงานดีมาก บางทีก็เพี้ยน ดังนั้นผมขอสรุปง่าย ๆ ว่ากล้องหลังไม่ได้เป็นจุดเด่น ธรรมดาๆ พอถ่ายได้ ตามราคาของมัน
ตัวกล้องวิดีโอรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 1080p และมีตัวกันสั่นมาให้ด้วย จากที่ลองใช้ดูพบว่าทำงานได้ดี
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
กล้องหน้าของ Gionee A1 Lite มาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซล LED Flash มาพร้อมกับโหมด Beauty และโหมดเซลฟี่กลุ่ม
จากที่นำไปใช้งานพบว่า ถ่ายภาพได้สว่างมาก จนทำให้หน้าเราเนียนขึ้นมาระดับหนึ่ง คือแทบไม่ต้องเปิดโหมด Beauty เลยก็ว่าได้ แต่บางคนอาจจะมองว่ามันแสงเวอร์ไปสักเล็กน้อย
โหมด Beauty จะเป็นโหมดที่ช่วยลบริ้วรอยบนหน้าเรา ทำให้หน้าเราเนียนขึ้น อย่างที่ผมได้บอกไปว่ากล้องตัวนี้มันสว่างมาก ทำให้ไม่ต้องปรับในส่วนนี้มากนัก แต่การแสดงผลแบบ Real-Time ยังรู้สึกว่าช้าไปบ้าง ต้องถ่ายออกมาก่อนถึงจะรู้ว่าจะได้ภาพแบบไหน และตอนบันทึกภาพในโหมด Beauty ยังมีจังหวะรอประมวลผลภาพอยู่บ้าง ทำให้เราต้องถือกล้องให้นิ่งนานกว่าปกติสักเล็กน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
สิ่งหนึ่งที่ผมได้ค้นพบหลังจากใช้งานไปได้ระยะหนึ่งคือ ไม่ว่าจะกล้องหน้าหรือกล้องหลังของ Gionee A1 Lite สิ่งที่เหมือนกันคือ Shutter Speed ที่ค่อนข้างช้า ทำให้รูปที่เราถ่ายมักจะเบลอ ถ้าไม่ตรงจังหวะของมัน หรือจังหวะรีบถ่าย
สิ่งที่ผมว่าควรนำไปแก้ไขเพิ่มเติมคือตัว UI ที่นำโหมดกล้องหน้า กับกล้องหลังมารวมกัน ทำให้เราอาจจะสับสนได้บ้างครับ
Performance
Gionee A1 Lite มาพร้อมกับชิปประมวลผล MediaTek MT6753 Octa-Core 1.3GHz และ Ram 3GB จากสเปคที่ให้มาเรียกได้ว่าก็กลาง ๆ ไม่ได้แรงอะไรมากมาย แต่แลกมาด้วยการจัดการพลังงานที่ดี และความร้อนที่ไม่มากครับ
ทดสอบเล่นเกม ROV ทุกอย่างปรับสุด ปิดโหมด HD และปิดโหมดเฟรมแรทสูง พบว่าเล่นได้ลื่นไหล มีอาการ Frame Drop น้อยมาก ตอน All 5 VS. 5 ไม่ค่อยกระตุกเท่าไหร่(คือมีกระตุกบ้างตอนสกิลมันจัดจริงๆ) แต่ตอนเข้าเกมกับหน้าเมนูในเกมยังกระตุกอยู่ ดังนั้นผมว่าไม่เหมาะสำหรับคนที่จะเอาไปเล่นเกมแบบจริงจัง ส่วนคะแนน AnTuTu อยู่ที่ประมาณ 30,000 กลาง ๆ
การใช้งาน Social Network ทำได้ดี ตอนเลื่อน Feed ไม่มีอาการกระตุก แต่พอกดเข้าไปดูรูปเท่านั้นแหละครับ สะอึกอย่างจัง จนบางทีทำเครื่องค้างไปเลยก็มี ตัว RAM ที่ให้มาถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ทดลองสลับแอพไปมาพบว่าไม่มีการโหลดใหม่เท่าไหร่นัก
หน้าจอความละเอียด HD ที่ให้มา สำหรับสเปคนี้แล้วเรียกได้ว่าสมดุลกันดีไม่เป็นการกินแรง CPU มากจนเกินไป สำหรับใครที่เคยใช้หน้าจอความละเอียดที่สูงกว่านี้มาแล้วในตอนแรกอาจจะยังไม่ชินตาสักเท่าไหร่นัก แต่พอใช้ไปนาน ๆ แล้วจะไม่รู้สึกว่าหน้าจอ HD มันแย่กว่า Full HD เท่าไหร่ ฟิลลิ่งการทัชสกรีน ทำได้ดีมาก ไม่มีอาการกระตุก หรือเพี้ยนแต่อย่างใด
ระบบเสียงที่ให้มาก็อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ไม่ได้เด่นอะไรมากมาย เรียกได้ว่ามีให้ฟังไม่ทำขัดใจแต่อย่างใด เซ็นเซอร์ที่ให้มา เรียกได้ว่ามี Gyroscope มาให้แต่อย่าไปคาดหวังคุณภาพกับมันมาก
แบตเตอรี่ที่ให้มาความจุ 4000mAh จากการใช้งานพบว่าอึดใช้ได้ โดยผมได้นำไปใช้งานหนึ่งวันโดยไม่ชาร์จ และใช้งานปกติตามเรื่องตามราวของผม เล่น Facebook ฟังเพลง เข้าเว็บไซต์ เล่น ROV บ้าง พบว่าผ่านไปหนึ่งวัน แบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 30-40 % ถือว่าเยอะใช้ได้เลย อยู่ครบวันแน่นอน สำหรับใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตอึดละก็ Gionee A1 Lite ตอบโจทย์คุณแน่นอน
ที่ชาร์จที่ให้มาเป็นแบบ อะแดปเตอร์ 5V – 2.0A ไม่ได้มีระบบชาร์จเร็วมาให้ ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ใช้เวลานานพอสมควรเลย แบตเตอรี่ของ Gionee A1 Lite ในช่วงแรก ๆ มันจะมึน ๆ หน่อย ต้องหลังจากชาร์จไปสัก 2-3 ครั้งมันก็จะเข้าที่ครับ