หนึ่งในโทรศัพท์มือถือที่น่าจดจำ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี 2015 ที่ผ่านมาก็คงจะหนีไม่พ้น ASUS Zenfone 2 เห็นได้จากกระแสที่มีมาตั้งแต่เปิดตัว (ต้นปี 2015) และก็มีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวตามมาเรื่อยๆ ทั้งปี โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ไม่ว่า ASUS จะซอยรุ่น ASUS Zenfone 2 ถี่มากแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ASUS Zenfone 2 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับคนที่ต้องการมือถือสเปคคุ้มค่า ราคาไม่แพงอยู่ดี
และในบทความนี้ผมก็จะพาไปรู้จักกับ ASUS Zenfone 2 ทุกรุ่นเท่าที่มีขายในประเทศไทย พร้อมกับให้คะแนนความน่าซื้อ ณ ตอนนี้ โดยคะแนนเต็มจะอยู่ที่ 5 คะแนนครับ
ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB
Zenfone 2 รุ่นแรกที่ ASUS วางจำหน่ายก่อนเลยก็คือ ASUS Zenfone 2 รหัส ZE551ML Ram 4 GB สนนราคาอยู่ที่ 11,990 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าที่ได้รับแล้วก็ถือว่าคุ้มกับเงิน 11,990 บาทครับ เพราะได้มือถือหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้ว Full HD ที่มาพร้อมกับ Ram 4 GB รุ่นแรกๆ ของโลก CPU รุ่นท็อปจาก Intel รวมถึงความจุ 64 GB และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล เอาง่ายๆ คือภาพรวมดูดีมากเมื่อเทียบกับมือถือยี่ห้ออื่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ASUS Zenfone 2 ZE551ML จึงได้รับความนิยมมาก ณ ตอนนั้น มีให้จองกี่เครื่องก็หมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน
- สเปค ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ZE551ML
- สเปค ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB Exclusive
- รีวิว ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ZE551ML
หลังจากนั้นไม่นาน ASUS ก็ได้ทำการซอยรุ่น ASUS Zenfone 2 ZE551ML เข้าไปอีก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ ASUS Zenfone 2 ZE551ML ความจุ 32 GB ที่มีขายเฉพาะ Dtac สนนราคา 9,990 บาท และ ASUS Zenfone 2 ZE551ML ความจุ 16 GB (ลด CPU เป็น Intel Atom Z3560 ความเร็ว 1.83 GHz) ที่ขายแบบ Exclusive บน ASUS Online Store ในราคา 8,990 บาท
สำหรับคะแนนความน่าซื้อของ ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ZE551ML ณ ตอนนี้ผมให้อยู่ที่ 3.5 คะแนนครับ (ถ้ายังหาของได้อยู่นะ) ส่วนเหตุผลก็ให้เลื่อนไปดูที่ ASUS Zenfone 2 Deluxe ได้เลย
ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB
อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กับ ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ก็คือรุ่นทางเลือกอย่าง ASUS Zenfone 2 รหัส ZE550ML กับ ZE500CL โดยทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับ Ram 2 GB กับซีพียูที่แรงไม่เท่ารุ่น ZE551ML Ram 4 GB แต่ในแง่ของการใช้งานโดยรวมก็ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ดีไม่แพ้รุ่น Ram 4 GB เพราะถึงแม้จะลด CPU ลด Ram ลงไป แต่ด้วยหน้าจอที่เป็นความละเอียด HD ทำให้ไม่กินแบตเตอรี่และสเปคมากเท่าตัวท็อป ส่วนกล้อง, ซอฟท์แวร์อะไรเหล่านี้จะเหมือนกับ ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ทุกประการ
- สเปค ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB ZE550ML
- สเปค ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB ZE500CL
- รีวิว ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB ZE550ML
อ้อ!! ผมลืมไปอีกอย่าง ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB จะถูกตัด NFC ออกไปด้วย แต่ก็แลกมากับราคาที่ถูกกว่าตัวท็อปพอสมควร โดย ASUS Zenfone 2 ZE550ML จะมีราคาอยู่ที่ 6,990 บาท และ ASUS Zenfone 2 ZE500CL จะมีราคาอยู่ที่ 5,990 บาท
คะแนนความน่าซื้อของ ASUS Zenfone 2 Ram 2 GB ทั้งโมเดล ZE550ML และ ZE500CL ผมแนะนำว่าอย่าซื้อครับ เพราะน่าจะหาซื้อไม่ได้แล้ว ฮาาา แนะนำให้เลื่อนลงไปดู ASUS Zenfone 2 Laser ดีกว่า
ASUS Zenfone 2 Deluxe
สำหรับ ASUS Zenfone 2 Deluxe นั้น ถ้าผมจำไม่ผิดจะวางจำหน่ายในช่วง Q3 ปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง เข้าใจว่า ASUS คงมองให้เป็นตัวแทนของ ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB อย่างแน่นอน เพราะสเปคด้านในนั้นเหมือนกับ ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB ทุกอย่าง แต่ ASUS Zenfone 2 Deluxe จะใช้ฝาหลังที่มีดีไซน์แบบ Crystal Cut ให้ความรู้สึกหรูหรา และไฮไลท์สำคัญของรุ่นนี้อยู่ที่ความจุภายในที่มหาศาลถึง 128 GB มากกว่า ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB รุ่นแรกถึง 2 เท่า ในราคาที่แพงกว่าเดิม 1,000 บาทเท่านั้น
โดยราคาของ ASUS Zenfone 2 Deluxe จะอยู่ที่ 12,990 บาท จัดเป็นมือถือที่ให้สเปคมาเต็มมากๆ และยังไม่พอ ช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ASUS ก็ได้ปล่อยตัวโหดที่สุดในซีรี่ส์ ASUS Zenfone 2 ออกมา ซึ่งก็คือ ASUS Zenfone 2 Deluxe Special Edition (ชื่อจะยาวไปไหน) มือถือ Zenfone 2 ที่ให้ความจุมามากที่สุดถึง 256 GB แบ่งเป็นความจุในตัวเครื่อง 128 GB และใส่ MicroSD Card แบบ Class 10 ความจุ 128 GB มาให้อีกในตัว (ราคา MicroSD Card 128 GB Class 10 ประมาณ 2,300 บาท)
แต่ราคาของ ASUS Zenfone 2 Deluxe Special Edition นั้นแพงกว่า ASUS Zenfone 2 Deluxe เพียง 2,000 บาทเท่านั้น และนอกจากจะได้ MicroSD Card 128 GB แล้ว ยังได้ฝาหลังลายเคฟล่าร์แถมมาให้ในกล่องอีกด้วย ภาพรวมถือว่าโอเคนะ กับเงินที่เพิ่มมา 2,000 บาท
ความน่าซื้อของ ASUS Zenfone 2 Deluxe ทั้งรุ่นปกติและรุ่น Special Edition ผมให้คะแนนที่ 4.5 คะแนนครับ สเปคแบบนี้ ในราคาแบบนี้ น่าจะมีแค่ ASUS เท่านั้นแหละครับที่กล้าขาย
ASUS Zenfone Selfie
เห็นชื่อรุ่นของ Zenfone 2 รุ่นนี้ก็รู้ได้เลยว่ากล้องหน้ามาเต็มแน่นอน เพราะออกตัวตั้งแต่ชื่อ ASUS Zenfone Selfie กันเลยทีเดียว โดย ASUS Zenfone Selfie เผยโฉมครั้งแรกในงาน Computex 2015 ที่ไต้หวันครับ มีจุดเด่นอยู่ที่กล้องหน้า และกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่ากัน แถมยังมีแฟลช Dual Tone ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แถมกล้องหลังยังมาพร้อมกับระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัสอีกด้วย
ส่วนสเปคของ ASUS Zenfone Selfie ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก ASUS Zenfone 2 รุ่นแรกพอสมควร ทั้งในเรื่องของ Ram ที่ลดมาเหลือ 3 GB (ก็ยังเยอะอยู่ดี) กับ CPU ที่เปลี่ยนมาใช้ของ Qualcomm ในรุ่น Snapdragon 615 ความแรงแน่นอนว่าสู้ Intel Atom Z3580 ไม่ได้ แต่ในเรื่องของการใช้งานทั่วไปบอกเลยว่าสบายๆ ครับ (ระบบปฏิบัติการเป็นแบบ 64 Bit ด้วย) และนอกจากสเปคข้างในที่แตกต่างแล้ว สีสันของ ASUS Zenfone Selfie ก็มาในโทนสีสดใส พาสเทล ฟรุ้งฟริ้งๆ เช่นสีชมพู และสีฟ้า เป็นต้น น่าจะถูกใจสาวๆ เลยล่ะ สนนราคาของ ASUS Zenfone Selfie จะอยู่ที่ 8,990 บาทเท่านั้น
ระดับความน่าซื้อของ ASUS Zenfone Selfie สำหรับผมให้คะแนนที่ 4 คะแนนครับ แต่ถ้าใครเน้นถ่ายรูปด้วยมือถือเป็นหลัก ไม่เน้นเล่นเกม รุ่นนี้ก็น่าจะตอบโจทย์แบบ 5 คะแนนไปเลย
ASUS Zenfone 2 Laser
ถ้าถามผมว่ามือถือรุ่นไหนเป็น ASUS Zenfone 2 Killer ผมตอบได้เลยครับว่า ASUS Zenfone 2 Laser นี่แหละ ตัวคิลเลอร์ที่ออกมาฆ่า ASUS Zenfone 2 ชัดๆ เพราะรุ่นนี้แหละคือ ASUS Zenfone ของจริง เนื่องจากรุ่นก่อนๆ นี้ เช่น ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB, Zenfone Selfie จะเปิดราคามาแพงกว่าตอน ASUS Zenfone 4, ASUS Zenfone 5 และ ASUS Zenfone 6 พอสมควร แต่ ASUS Zenfone 2 Laser นั้น มีราคาเริ่มต้นที่ 5,090 บาทเท่านั้น
โดย ASUS Zenfone 2 Laser จะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ ASUS Zenfone 2 Laser ZE500KL หน้าจอ 5 นิ้ว ราคา 5,090 บาท และ ASUS Zenfone 2 Laser ZE550KL หน้าจอ 5.5 นิ้ว ราคา 5,990 บาท มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัสที่กล้องหลัง ซึ่งปกติเราจะเห็นระบบ Laser Autofocus ในมือถือราคาแพงๆ ราคาหมื่นบาทขึ้นไป แต่ ASUS ก็จับมาใส่ในมือถือราคา 5,000 บาทซะอย่างนั้น
ระดับความน่าซื้อของ ASUS Zenfone 2 Laser ทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 5 นิ้ว หรือหน้าจอ 5.5 นิ้ว ผมให้คะแนนที่ 4 คะแนนเช่นกันครับ ติดที่ CPU ยังไม่แรงเท่าไหร่ แต่รับรองว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น การเล่นอินเทอร์เน็ต, เล่นโซเชียล ถ่ายรูป อัพรูป และเล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ แน่นอน
ASUS Zenfone Go
สำหรับ ASUS Zenfone Go จะเป็นมือถือน้องเล็กสุดในซีรี่ส์ ASUS Zenfone 2 กับราคาค่าตัวที่ 4,290 บาท สเปคที่ได้ก็ตามราคาครับ CPU ใช้ของ MediaTek ส่วน Ram ให้มาที่ 2 GB ส่วนตัวผมรู้สึกเหมือน ASUS จับ ASUS Zenfone 5 มาปรับแต่งนิดหน่อยแล้ววางขายเท่านั้นเอง
ตัดบทให้คะแนนเลยก็แล้วกัน สำหรับความน่าซื้อของ ASUS Zenfone Go ผมให้ที่ 3 คะแนนครับ ถ้างบประมาณไม่ได้จำกัดจริงๆ กัดฟันไปเล่น ASUS Zenfone 2 Laser ZE500KL ที่ราคา 5,090 บาทดีกว่า เพราะราคาห่างกันแค่ 800 บาทเท่านั้นเอง
ASUS Zenfone Max
รุ่นสุดท้ายในบทความนี้ และเป็นรุ่นที่กำลังจะวางขายในเร็วๆ นี้อย่าง ASUS Zenfone Max (ZC550KL) ก็ถือเป็น ASUS Zenfone 2 รุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมาก กับราคาเปิดตัวที่ 6,490 บาท จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้อยู่ที่แบตเตอรี่เลยครับ ใครที่ชอบมือถือแบตอึด นานๆ ชาร์จไฟทีนึง และไม่ชอบพก Powerbank รุ่นนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน กับแบตเตอรี่ภายในตัวเครื่องที่ให้มามากถึง 5000 mAh (นีมือถือหรือ Powerbank)
สเปค ASUS Zenfone Max (ZC550KL)
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว 720 x 1280 กระจก Corning Gorilla Glass 3
- ชิปเซต : Qualcomm Snapdragon 410 ความเร็ว 1GHz quad-core
- Ram 2 GB
- ความจุ 16 GB เพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้สูงสุด 64 GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ laser auto-focus
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/ g/ n, Bluetooth 4.0
- รองรับ 2 ซิม micro sim (4G LTE / 3G / GSM)
- มีวิทยุ FM
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh แบบ Li-Po (ถอดเปลี่ยนไม่ได้)
- รอรับสายได้นาน 914 ชั่วโมง, สนทนาได้นาน 38 ชั่วโมง
- ขนาด : 156 x 77.5 มม. หนา 10.5 มม.
- หนัก 202 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี (ดำ และ ขาว)
ดูจากสเปคแล้วก็คล้ายกับ ASUS Zenfone 2 Laser เลยครับ แต่ดีไซน์ของ ASUS Zenfone Max จะแตกต่างไปจากASUS Zenfone 2 รุ่นอื่น คือมีการย้ายปุ่มปรับระดับเสียงไปไว้ด้านข้าง ตัวเครื่องสีขาวก็จะขาวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็คล้ายกับ ASUS Zenfone Laser เช่น ระบบ Laser Auto-focus แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่เคลมว่าใช้งานได้นานถึง 4 วัน
การที่มีแบตเตอรี่ในตัว ความจุเยอะขนาดนี้ จึงทำให้ ASUS Zenfone Max สามารถใช้ชาร์จไฟให้มือถือรุ่นอื่นได้ ผ่านสาย USB OTG (มีแถมมาให้ในกล่อง) โดยราคาของ ASUS Zenfone Max จะอยู่ที่ 6,490 บาทครับ คาดว่าคงหาซื้อได้ในช่วงงาน Thailand Mobile Expo 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี่แหละ
คะแนนความน่าซื้อของ ASUS Zenfone Max ส่วนตัวผมยังไม่ได้ลองเล่นเครื่อง ก็ขอให้คะแนนไว้ที่ 3.5 คะแนนก่อนแล้วกัน ได้แบตเตอรี่มาเยอะมากก็จริง แต่เดี๋ยวนี้ Powerbank ก็หาซื้อได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือปุ่มปรับระดับเสียงที่ถูกย้ายมาด้านข้างเนี่ย น่าจะทำให้ใช้งานได้สะดวกน้อยกว่า ASUS Zenfone 2 Laser พอสมควร