ในช่วงราวๆ เที่ยงคืนนี้ (คืนที่ 9 ล่วงเข้าวันที่ 10 มีนาคม) Apple ก็จะจัดงานอีเว้นท์ของตนเองในชื่อว่า Spring Forward ที่เป็นงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บางส่วน และเผยให้เห็นถึงแนวทางในปีนี้ของ Apple แบบคร่าวๆ ซึ่งไฮไลท์ก็คงจะไปอยู่ที่การเปิดตัว Apple Watch อย่างเป็นทางการ และมีแววว่าเราน่าจะได้เห็นอย่างอื่นกันอีก เรามาดูกันครับ ว่าเราน่าจะได้เห็นอะไรจากในงานนี้บ้าง
Apple Watch
รายการนี้ก็แน่นอนล่ะครับ เพราะนี่ก็เป็นไปตามกำหนดของ Apple อยู่แล้วว่าจะมีการเปิดตัว Apple Watch อย่างเป็นทางการอีกรอบในช่วงไตรมาสแรกของปี ซึ่งในงานครั้งนี้ ดูแล้วก็น่าจะเป็นการโชว์ฟีเจอร์เพิ่มเติมว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง พัฒนาจากการเปิดตัวรอบแรกไปอย่างไร และที่สำคัญ เราน่าจะได้เห็นราคาแบบแน่นอนของแต่ละรุ่น แต่ละซีรี่ส์ พร้อมกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกด้วย (ไม่แน่ อาจจะเปิดจองหลังงานเลยก็เป็นได้)
ซึ่งในด้านราคา Apple Watch นั้น เราคงทราบๆ กันอยู่แล้วว่ารุ่นเริ่มต้นสุด จะเปิดราคามาที่ $349 หรือประมาณ 12,000 บาท แต่ในรุ่นอื่นๆ เรายังไม่ทราบกันเลย โดยรุ่นที่น่าจะมีคนเล็งไว้มากสุด น่าจะเป็นตัว Apple Watch Steel ที่ทำมาจากสแตนเลสสตีล ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยราคาว่าจะเริ่มต้นที่เท่าไหร่ แต่ก็มีการคาดเดาไว้บ้างเหมือนกันครับ ที่น่าสนใจคือความเห็นจาก John Gruber บล็อกเกอร์สาย Apple ชื่อดังในต่างประเทศ ให้ความเห็นไว้ว่า Apple Watch Steel น่าจะเปิดราคาเริ่มที่ราวๆ $500 หรือประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป ด้วยความที่มันพรีเมียมกว่ารุ่นปกติ ในด้านของวัสดุและเนื้องาน ส่วนในรุ่น Collection น่าจะเริ่มที่ $749 หรือราวๆ 24,000 บาท ส่วนรุ่นที่ทำจากทองคำ อันนี้ราคาคงจะโดดไปถึง $7500 หรือกว่า 240,000 บาทเลยทีเดียว
แต่ยังไง ขอให้แบตมันอึดขึ้นกว่าตามในข่าวที่มีออกมาแล้วกันนะ
เปอร์เซ็นต์ที่จะมาในคืนนี้: 100%
iPad Pro 12.9″ และ iPad mini 4
สำหรับ iPad Pro หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว อันนี้เราได้เห็นข่าวลือของมันมาเป็นปีๆ แล้ว ที่ว่าจะมาก็ไม่มาซะที อาจจะเนื่องด้วยกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า iPad ปกติที่มีขายกันอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการสั่งวัตถุดิบและชิ้นส่วนก็ต้องเป็นของล็อตใหม่แทบทั้งหมด เราจึงยังไม่ได้เจอ iPad Pro เสียที โดยอันที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวมาอยู่ตลอดครับ ว่า Apple น่าจะเปิดตัว iPad Pro ในงานคืนนี้ด้วย แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่า iPad Pro จะยังคงเป็นปริศนาต่อไป เมื่อข่าวลือในช่วงสองสามวันมานี้ค่อนข้างหนาหูมากว่า Apple จะเลื่อนการเปิดตัว iPad Pro ออกไปเป็นช่วงเดือนตุลาคมแทน ซึ่งเป็นช่วงที่ Apple ใช้เปิดตัว iPad เป็นประจำอยู่แล้ว
ส่วน iPad อีกรุ่นที่เราอาจจะได้เห็นโผล่มาเซอร์ไพรส์ในคืนนี้ก็คือ iPad mini 4 ที่จะมองว่ามันคือ iPad mini 3 ที่ทำเสร็จแล้วก็ได้ครับ เมื่อมีรายงานล่าสุด ซึ่งมาจากแหล่งที่ให้ข่าวค่อนข้างตรง ว่า Apple เตรียมจะเปิดตัว iPad mini 4 ที่เน้นอัพเกรดสเปคขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล Apple A8 (ตัวเดียวกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus) ชิปไวเลสรองรับการเชื่อมต่อมาตรฐาน 802.11ac ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าครบเครื่องกว่า iPad mini 3 พอสมควรแล้ว แต่ถ้ามันมาจริง ก็ต้องบอกว่า iPad mini 3 มันมีอายุอยู่ในตลาดสั้นมากๆ เลยนะเนี่ย อันนี้คงต้องรอลุ้นล่ะครับ
เปอร์เซ็นต์ที่จะมาในคืนนี้: 30%
MacBook Air และ MacBook Pro (Retina) 13″ รุ่นอัพเดตสเปค
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าจะได้เห็นรุ่นอัพเดตสเปครายปีตามมาเช่นกันครับ ทั้ง MacBook Air 11 นิ้ว, 13 นิ้ว และ MacBook Pro with Retina Display 13″ ที่ทั้งสามรุ่นต่างมีข่าวเรื่อง Apple ปรับสต็อก จากแต่เดิมสามารถเครื่องรุ่นปกติ (ไม่มีการปรับสเปคตอนสั่ง) ที่สามารถสั่งแล้วรอรับเครื่องได้เลย เพราะมีเครื่องอยู่ในสต็อกอยู่แล้ว กลายเป็นต้องรอเครื่องอย่างน้อย 1 วันทำการ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า Apple กำลังค่อยๆ ปรับลดเครื่องทั้งสามในสต็อก เพื่อเตรียมรับเครื่องรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในคืนนี้หรือเปล่า และถ้าไม่มาคืนนี้ ก็รอดูกันอีกทีช่วงกลางปีได้เลย รับรองมีแน่นอน
สำหรับการปรับสเปคครั้งนี้ ก็ดูแล้วคงไม่มีอะไรมากไปกว่าการปรับมาใช้ CPU Intel รุ่นใหม่ล่าสุดล่ะครับ สินค้ารุ่นรองลงมาก็เป็นแบบนี้ล่ะนะ
เปอร์เซ็นต์ที่จะมาในคืนนี้: 40%
MacBook Air with Retina Display 12″
นี่ก็เป็นอีกสินค้าที่มีข่าวลือกันมายาวนานพอสมควรครับ กับการจับจอความละเอียดระดับ Retina Display มาใส่ใน MacBook Air และปรับลดขนาดหน้าจอลงมาเหลือ 12 นิ้ว ถึงขั้นพบรูปหลุดฝาหลังจอออกมาแล้วก็มี ซึ่งอันนี้คงต้องมาดูครับว่าจะออกมาเป็นอย่างไร กับ MacBook Air รุ่นแรกที่จะมาพร้อมจอ Retina Display ว่าจะใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขนาดไหน จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ตามปกติแล้วสินค้ารุ่นแรกมักจะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนอยู่บ้างเหมือนกัน
ทั้งนี้ ถึงจะมีงานเปิดตัวในคืนนี้ก็จริง แต่ก็มีข่าวว่า Apple อาจจะเริ่มวางขายจริงได้ก็ช่วงไตรมาสสองเลย (ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป) เพราะยังไม่สามารถผลิตได้ทัน
เปอร์เซ็นต์ที่จะมาในคืนนี้: 40%
iOS 8.2
อีกสิ่งที่น่าจะออกมาพร้อมๆ กับ Apple Watch ก็คือ iOS เวอร์ชันใหม่ ที่เพิ่มฟีเจอร์การทำงานร่วมกับ Apple Watch เข้ามา และก็คงมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ แก้บั๊กไปตามเรื่อง โดยคาดว่าน่าจะเปิดให้อัพเดตได้หลังงานจบเลยครับ หรืออย่างช้าก็คงเป็นคืนวันพรุ่งนี้
เปอร์เซ็นต์ที่จะมาในคืนนี้: 90%