เทรนด์เรื่องการดูแลสุขภาพกับการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ ดูจะกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น จากการที่เราได้เห็นผลิตภัณฑ์แนวสายรัดข้อมือ อุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือที่ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายออกมาวางจำหน่ายมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นตลาดใหม่ขึ้นมา นั่นคือตลาดของอุปกรณ์สวมใส่ (wearable device) และแน่นอนว่าขาใหญ่ในวงการไอทีอย่าง Acer ก็ต้องเข้ามาร่วมด้วย โดยการส่งผลิตภัณฑ์รุ่นแรกออกมา นั่นคือ?Acer Liquid Leap?ที่ทาง SpecPhone เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้ครับ จะเป็นอย่างไร ใช้งานอะไรได้บ้าง มาชมกันในรีวิวได้เลย
ข้อมูลทั่วไปของ Acer Liquid Leap
- วัสดุหลักเป็นพลาสติก
- มีหน้าจอ OLED แบบสัมผัสขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 128 x 32
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 กับทั้ง Android และ iOS
- สามารถนับก้าวเดิน, วัดระยะทาง, คำนวณแคลอรี่ที่เสียไปและตรวจจับการนอนได้
- ใช้เป็นรีโมทควบคุมการเล่นเพลงบนมือถือได้
- สามารถสั่นและแสดงข้อความแจ้งเตือนจากมือถือได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 7 วัน
- ราคา 2,990 บาท
- ข้อมูล Acer Liquid Leap
จุดเด่นที่ชัดสุดของ Acer Liquid Leap ก็คือการที่มีจอสัมผัสแบบ OLED มาให้ในตัว เพราะปกติพวกสายรัดข้อมือในช่วงราคานี้ มักจะไม่มีจอมาให้ จะแสดงผลได้ก็แต่บนสมาร์ทโฟนที่ทำการเชื่อมต่อเข้ากับสายรัดแล้วเท่านั้น ตรงนี้เลยทำให้ Acer Liquid Leap ได้เปรียบคู่แข่งหลายๆ รายในตลาดมากทีเดียว ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็ถือว่าใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวเดิน นับระยะทางที่เดินได้ ตรวจจับการนอน เป็นต้น
นี่ก็เป็นหน้าจอปกติสำหรับแสดงเวลา ที่จะแสดงหลังจากผู้ใช้เปิดหน้าจอขึ้นมา โดยการจะเปิดให้หน้าจอ Acer Liquid Leap แสดงผลก็สามารถทำได้ด้วยการใช้นิ้วแตะทาบลงไปบนหน้าจอ หน้าจอก็จะติดขึ้นมา (ตามทฤษฎี) แต่จากที่ผมใช้งานจริงมา ปรากฏว่ามันติดบ้างไม่ติดบ้างครับ และก็ไปพบวิธีเปิดหน้าจอแบบใหม่เข้าโดยบังเอิญ นั่นคือการใช้นิ้วตบลงไปบนสันด้านข้างตัวโมดูลจอ (ถ้าจากในภาพข้างบน ก็เป็นด้านที่อยู่ชิดข้อมือ) คราวนี้กลายเป็นว่าหน้าจอติดขึ้นมาง่ายกว่าการใช้นิ้วแตะบนหน้าจอซะอีก เอาเป็นว่าใครซื้อไปใช้งานก็ลองดูนะ
สำหรับการแสดงผลบนจอ OLED ของ Acer Liquid Leap ก็ทำได้ค่อนข้างโอเคดี ดูแล้วจะนึกถึงหน้าจอเครื่องเล่น MP3 ที่บูมๆ เมื่อซักหลายปีก่อนหน้านี้ สามารถใช้งานได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ถ้าเจอแดดจัดๆ ก็อาจจะต้องใช้มือป้องหน้าจอเพื่อดูข้อมูลซักหน่อย เพราะกระจกหน้าจอมันสะท้อนแสงพอสมควรครับ เมื่อเปิดจอขึ้นมาครั้งแรก ก็จะเป็นการแสดงเวลาก่อน จากนั้นเราก็สามารถปาดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อดูข้อมูลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวเดิน, ระยะทางที่เดิน, แคลอรี่ที่เผาผลาญไปได้เลย
ส่วนเรื่องการสวมใส่ใช้งานนั้น Acer Liquid Leap ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใส่ใช้งานได้ทั้งแขนซ้ายและแขนขวาตามที่ถนัดเลย โดยสามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอได้ว่าจะให้พลิกไปด้านไหน เพื่อให้เหมาะกับการใส่ข้างขวา/ซ้าย กลับหัวกลับหางในแนวนอนกันได้ สำหรับการแสดงข้อมูลต่างๆ จะใช้การแสดงผลในแนวนอน ส่วนการแสดงเพื่อเลือกโหมดที่จะใช้งาน จะใช้เป็นแนวตั้ง
ก็ตามภาพชุดนี้เลยครับ โหมดการใช้งานหลักๆ ก็เช่น
- โหมดแสดงจำนวนก้าวเดิน/ระยะทางเดิน
- โหมดแสดงระยะเวลาการนอนหลับ
- โหมดแสดงข้อความแจ้งเตือนจากมือถือที่เชื่อมต่อกับ Leap อยู่
- กลับหน้าแรก (หน้าแสดงข้อมูลทั้งหลาย)
- โหมดสำหรับตั้งค่าการใช้งาน Leap เช่น การพลิกจอ การรีเซ็ต
- โหมดควบคุมแอพฟังเพลงของมือถือที่ใช้งานอยู่ ทำให้สามารถสั่งหยุดเพลง เปลี่ยนเพลงได้จาก Leap เลย
ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ เชื่อว่าก็กินขาดสายรัดข้อมือรุ่นอื่นๆ ในตลาดที่อยู่ในช่วงราคานี้ไปแล้วครับ ไหนจะมีหน้าจอให้อ่านข้อมูลได้ทันทีแบบไม่ต้องควักมือถือมาเปิดแอพดู มีแจ้งเตือนอะไรเข้ามาก็อ่านได้เลย แถมยังเปลี่ยนเพลงได้ในตัวเลยอีก เหมาะมากกับผู้ที่วิ่งออกกำลังกาย หรือเดินหนักๆ แบบไม่อยากควักมือถือขึ้นมาบ่อยๆ
ดูตัวอย่างหน้าจอแสดงผลของ Acer Liquid Leap กันหน่อยครับ อย่างอันแรกก็จะเป็นปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของตัว Leap โดยจากที่ลองใช้งานมา ก็สามารถใช้งานได้ร่วมๆ 1 สัปดาห์จริงๆ ส่วนการชาร์จนั้นก็ต้องใช้แท่นชาร์จที่ออกแบบมาเฉพาะของ Acer Liquid Leap เอง เสียบเข้ากับสาย Micro USB (มีแถมมาให้) ภาพที่สองก็เป็นตัวเลขแสดงจำนวนก้าวเดิน ส่วนภาพที่สามก็เป็นระยะทางทั้งหมดที่เดินได้โดยประมาณ หน่วยเป็นกิโลเมตรครับ โดยเรื่องของความแม่นยำในการนับก้าวเดินนั้น ก็ถือว่าแม่นยำพอสมควรอยู่นะ
ส่วนถ้าเวลามีการแจ้งเตือน (notification) ขึ้นในมือถือที่เชื่อมต่อ Bluetooth กับ Leap อยู่ ตัว Acer Liquid Leap ก็จะมีการสั่นพร้อมแสดงข้อความแจ้งเตือนขึ้นในแทบจะทันทีที่มีการเตือนในมือถือเลย ประมาณว่าเสียงมือถือดัง ที่ Leap ก็สั่นแทบจะพร้อมๆ กันเลยทีเดียว โดยเมื่อมีการเตือน หน้าจอจะติดขึ้นมาพร้อมแสดงข้อความแจ้งเตือนให้เลื่อนอ่านได้สะดวก โดยสามารถแจ้งเตือนได้ทุกแอพที่ขึ้น notification ในมือถือเลย เช่น อีเมล, Facebook, สายเข้า เป็นต้น แต่ไม่สามารถกดตอบกลับ กดรับสายได้นะ ได้แค่แสดงให้เห็นอย่างเดียวว่ามีอะไรแจ้งเตือนเข้ามา ถ้าจะตอบกลับ ก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาอยู่ดี
สำหรับภาษาที่แสดงบนจอ Acer Liquid Leap นั้น น่าเสียดายที่ไม่สามารถแสดงเป็นภาษาไทยได้ ถ้ามีข้อความภาษาไทยเข้ามา ก็จะแสดงผลเป็นตัวเหลี่ยมๆ ไปซะ
หลังจากผ่านส่วนของฮาร์ดแวร์ไปแล้ว มาดูในส่วนซอฟต์แวร์แอพพลิเคชันที่ใช้ร่วมกับ Acer Liquid Leap กันบ้างครับ นั่นก็คือแอพ Acer Leap Manager ที่มีให้โหลดทั้งบน Android Play Store และ iOS App Store ได้ฟรีๆ
เมื่อเปิดมาใช้งานครั้งแรก ก็จะพบกับหน้าจอให้ตั้งค่าเพื่อเชื่อมต่อมือถือเข้ากับ Liquid Leap ครับ ก็ทำตามขั้นตอนเลย อันดับแรกคือทำการชาร์จไฟเข้าไปซักเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของ Leap ไม่หมด และพร้อมเชื่อมต่อเข้าใช้งาน โดยถ้าหากเป็นการใช้งานครั้งแรก หน้าจอของ Leap ก็จะมีตัวเลขขึ้นมา 4 ตัว จำเลขนี้ไว้ให้ดีนะ
จัดการเปิด Bluetooth ที่มือถือ (เปิดมาก่อนหน้านี้ก็จะดีมาก) แล้วทำการจับคู่เชื่อมต่อ ซึ่งในระหว่างนี้ ตัวแอพจะถามเลขรหัส 4 ตัวด้วย ก็ให้เอารหัสที่ได้จากจอของ Leap เข้าไปใส่ครับ จากนั้นก็รอซักพัก การเชื่อมต่อก็จะเสร็จสมบูรณ์ โดยในระหว่างที่ผมใช้งาน ตัวแอพตรวจพบด้วยว่ามีการอัพเดตเฟิร์มแวร์ของ Acer Liquid Leap แล้วก็ทำการอัพเดตให้อัตโนมัติเลย
ทีนี้มาดูหน้าตาแอพ Leap Manager ระหว่างการใช้งานกันบ้าง ดูแล้วก็จะมีการแบ่งหมวดหมู่ของข้อมูลแต่ละประเภทให้สามารถดูได้ง่าย แยกเป็นสีๆ ซึ่งถ้ากดเข้าไปดูที่แต่ละหัวข้อ ก็จะมีกราฟแสดงเปรียบเทียบสถิติของแต่ละวันมาให้ดู เสียดายที่ไม่มีการแสดงรายละเอียดย่อยๆ เพราะมันสามารถบอกได้เฉพาะจำนวนที่มีการตรวจจับเท่านั้น ดังนั้นใครที่ต้องการข้อมูลที่ละเอียดจนถึงขั้นมาวิเคราะห์การใช้ชีวิต การเดิน การนอนได้ อาจจะลำบากซักหน่อยนะครับ
ส่วนถ้ากดเข้าไปดูที่ช่อง Leap ก็จะเป็นการแสดงข้อมูลและการตั้งค่าของ Liquid Leap ว่าจะให้แจ้งเตือนอะไรบ้าง แบตเตอรี่เหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์
สรุปปิดท้ายรีวิว Acer Liquid Leap
ในยุคที่สิ่งของรอบตัวเราเริ่มเชื่อมต่อกันได้ ทำให้เราได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพออกมาเยอะขึ้น เช่นเดียวกับที่ Acer ส่ง Acer Liquid Leap เข้ามาในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ครั้งนี้ ก็นับว่าเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับการเดิน การนอน การใช้ชีวิตทั่วๆ ไป แถมยังพ่วงฟีเจอร์น่าใช้งานมาอีก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเป็นอุปกรณ์แจ้งเตือนให้กับมือถือ เป็นอุปกรณ์ควบคุมแอพฟังเพลง และที่สำคัญคือมันมีจอแสดงผลในตัว ซึ่งถือว่ามาเหนือกว่าคู่แข่งในช่วงราคาไม่เกิน 3,000 บาทมากๆ เพราะส่วนใหญ่สินค้าประเภทนี้ในช่วงราคาเริ่มต้น มักจะไม่มีจอมาให้ ทำให้การใช้งานต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนเป็นหลัก แต่ Acer Liquid Leap มีจอมาให้ จึงใช้งานได้สะดวกกว่ากันมาก
แต่ทั้งนี้ Acer Liquid Leap ก็ยังมีจุดที่น่าพัฒนาต่ออยู่เหมือนกัน ก็คือเรื่องความละเอียดของข้อมูล เพราะข้อมูลที่ได้จาก Leap นี้ยังไม่ละเอียดมากนัก เป็นการบอกแค่คร่าวๆ เท่านั้น ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะ Acer ยังใหม่กับในตลาดนี้อยู่ จึงอาจจะต้องใช้เวลาพัฒนากันอีกซักหน่อย แต่ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย กับเงิน 2,990 บาทกับตัว Acer Liquid Leap ก็ต้องบอกว่าคุ้มแล้วครับ ราคานี้ แต่ได้สเปค ได้ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ และสะดวกกับการใช้งานจริงๆ นั่นเอง