เกมมือถือในปัจจุบันนี้ไปไกลมาก ทั้งกราฟิกและเนื้อเรื่อง ซึ่งทำให้ใครหลายๆ คนเสพติดเกมในมือถืออย่างมาก เนื่องจากสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ทว่าในบางสถานที่ก็ไม่อำนวยต่อการเล่นเกมเนื่องจากเกมเหล่านั้นมักจะต้องใช้เน็ตควบคู่ไปด้วย ซึ่งในไทยนั้นถึงแม้ผู้ให้บริการต่างๆ มักบอกว่ามีคลื่นทั่วไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ปริมาณเน็ตที่มีของหลายๆ คนก็มีจำกัดด้วย ดังนั้นการมีเกมออฟไลน์ที่ไม่ต้องใช้เน็ตเล่นเก็บเอาไว้บ้างก็สามารถช่วยแก้เบื่อได้อย่างดี แถมในปัจจุบันนี้เกมออฟไลน์ก็ดีขึ้นเยอะทั้งสนุกแถมยังเล่นเพลินอีกด้วย วันนี้ทีมงาน Specphone เราจะมาแนะนำ 9 เกมออฟไลน์ ไม่ใช้เน็ต 2022 ให้กับเพื่อนๆ กัน
9 เกมออฟไลน์ ไม่ใช้เน็ต 2022
สำหรับเกมออฟไลน์ ไม่ใช้เน็ต 2022 ที่เราเอามาแนะนำนั้นถึงจะมีเกมเก่าๆ ปนอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นเกมที่ยังนับว่าเล่นแก้เบื่อหรือเล่นฆ่าเวลาได้อยู่ แถมหลายๆ เกมตอนนี้ก็สามารถเซฟข้อมุลการเล่นขึ้นคลาวน์ไว้ได้อีกด้วย (แต่ตอนเซฟข้้อมูลก็ต้องใช้เน็ตอยู่ดีละนะ) ทำให้แม้จะเปลี่ยนมือถือใหม่ก็ยังสามารถเล่นต่อเนื่องได้เหมือนเดิมด้วย สำหรับเกมที่เราจะเอามาแนะนำในครั้งนี้นั้นแน่นอนว่าต้องมีให้โหลดทั้งบน Android และ iOS สำหรับคนที่สนใจแล้วไปชมกันได้เลย
1. Angry Birds Journey
เปิดเกมแรกด้วยเกมในตำนานเวอร์ชั่นใหม่อย่าง Angry Birds Journey ซึ่งจะว่าเป็นตัวอัพเกรดจากเกม Angry Birds ดังเดิมให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นก็ได้ ซึ่งลักษณะการเล่นพื้นฐานก็เหมือนเดิมยิงยิงนกไปชนสิ่งก่อสร้าง เพียงแต่เงื่อนไขต่างๆ และความสามารถของนกก็มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร แถมยังมีสกิลและไอเทมที่ช่วยให้การเล่นง่ายขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าอัพเกรดขึ้นมาให้น่าสนใจยิ่งขึ้นพอสมควรเลย สมกับเป็นการกลับมาของเกมในตำนานอย่างแท้จริง
2. CAT & SOUP
ต่อด้วยเกมแนวเล่นง่ายกราฟิกน่ารักอย่างเกม CAT & SOUP ที่จะให้เรามาคอยบริหารจัดการเหล่าแมวๆ ทั้งหลายในการทำซุป โดยในตัวเกมจะมีแมวหลากหลายหน้าที่ที่เราต้องมาคอยบริหารการทำงานเหล่าแมวๆ ในการผลิตของต่างๆ ซึ่งเมื่อผลิตของได้ระดับหนึ่งแล้ว เราสามารถเอาของเหล่านั้นไปแลกซื้อแมวมาเพิ่มได้ สำหรับกราฟิกตัวเกมนั้นจะเป็นแนวน่ารัก ดูเรียบง่าย มองจากมุมมองสูง ตามแบบฉบับเกมจำลองสถานการณ์เลย ซึ่งด้วยการที่มีเหล่าแมวๆ สุดแสนจะน่ารัก ทำให้น่าจะเป็นที่ถูกใจของเหล่าทาสแมวได้เป็นอย่างดี
3. Crossy Road
ต่อกันด้วยเกมชิวๆ ที่เข้าใจง่ายแต่อาจจะทำให้หัวร้อนได้ง่ายอย่าง Crossy Road เกมอายุมาก กราฟิกแบบพิกเซลตัวเหลี่ยมๆ ที่ทำแค่พาตัวละครข้ามถนน แต่จะมองว่ามันง่ายไม่ได้ เพราะในระหว่างข้ามถนนจะมีอุปสรรค์มาขัดขวางมากมาย ซึ่งอุปสรรค์เหล่านี้เองที่จะทำให้เราหัวร้อนกันได้ง่าย ความน่าสนใจของตัวเกมนี้คือตัวละครที่เราจะใช้เล่นนั้นจะมีให้เลือกเป็นร้อยเลย มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน เพียงแต่แบบฟรีนั้นจำเป็นต้องลุ้นโชคเอาเสียมากกว่า (แบบกดกาชา) สำหรับใครที่ชอบเกมที่ต้องชาเล้นตัวเอง อย่างสร้างสถิติใหม่ไปเรื่อยๆ แล้วเกมนี้ก็เป็นเกมที่เหมาะสมใช้ได้เลย
4. My Friend Pedro : Ripe for Revenge
ต่อกันด้วยเกม My Friend Pedro : Ripe for Revenge เกมแนวแอคชั่นเดินยิงระเบิดเถิดเทิง มีอาวุธให้เลือกใช้มากมาย โดยตัวเกมจะเป็นเดินหน้ายิงตะลุยด่าน มุมมองด้านข้าง ซึ่งด้วยตัวกราฟิกที่ไม่ได้สูงนักทำให้สามารถเล่นได้กับมือถือทุกเครื่อง นอกจากนี้ด้วยการที่เป็นเกมแอคชั่นผสมพัซเซิลทำให้ตัวเกมไม่ค่อยน่าเบื่อ เพียงแต่ถ้าเล่นแล้วเคลียดาวได้ไม่ครบแล้วอยากจะกลับไปแก้มือต้องจ่ายเงินซื้อตัวเกมเพื่อให้สามารถย้อยกลับไปเล่นด่านก่อนหน้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากนักเพียงแค่ราวๆ 89 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่อยากเสียเงินก็แค่ต้องเล่นทุกด่านให้ได้ 3 ดาวตั้งแต่แรกเท่านั้นเอง
5. Pokémon Café ReMix
มากันที่เกมจากซีรี่ส์ Pokémon อย่าง Pokémon Café ReMix กันบ้าง ซึ่งเกมนี้ไมไ่ด้ให้เราไปไล่ตี ไล่จับโปเกมอนแต่อย่างใด แต่จะให้เรามาคอยบริหารคาเฟ่ที่มีเหล่าโปเกมอนเป็นพนักงาน แล้วมีเหล่าโปเกมอนและเทรนเนอร์มาใช้บริการ ซึ่งวิธีเล่นออกจะแหวกแนวไปหน่อย เนื่องจากตัวเกมจะให้เราเลือกโปเกมอนแล้วกดลากไปยาวๆ ให้เยอะที่สุด พร้อมทั้งต้องคอยทำภารกิจระหว่างนั้นไปด้วย เรียกได้ว่าถ้าไม่วางแผนก่อนดีๆ ก็จะไม่สามารถแก้ไขใหม่ได้อีก นอกเสียจากว่าจะล้างข้อมูลเกมแล้วเริ่มเล่นใหม่หมด
6. Pro League Soccer
มาที่เกมแนวฟุตบอลกันบ้างกับเกม Pro League Soccer ที่เป็นเกมแนวเตะฟุตบอล กราฟิกไม่สูง ทำให้ถึงแม้มือถือจะไม่แรงก็สามารถเล่นได้ ซึ่งตัวเกมจะมีลีคให้เราลงแข่งมากมาย สามารถปรับแต่งเสื้อทีมได้ตามใจอยาก เรีกยได้ว่าเป็นเกมที่ให้อิสระค่อนข้างสูง แถมด้วยการที่ตัวเกมไม่ได้ใช้สเปคสูง ส่งผลให้เครื่องไม่ร้อนเร็ว ช่วยให้สามารถเล่นเกมได้นานยิ่งขึ้นด้วย
7. Stack Ball – Blast through platforms
มากันที่หนึ่งในเกมมีอายุในระดับหนึ่งแล้วอย่าง Stack Ball ซึ่งตัวเกมนั้นไม่มีอะไรมาก แค่หมุนเสาให้ลูกบอลร่วงลงไปเรื่อยๆ ก็พอ ขอแค่จับจังหวะได้ก็จะสามารถไปต่อได้แบบเรื่อยๆ เลย ซึ่งยิ่งลงต่อเนื่อยได้เรื่อยๆ ก็จะทำให้ได้คะแนนมากยิ่งขึ้นด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ร่วงลงไปเรื่อยๆ ได้อย่างเดียว บางชั้นจะมีสิ่งกีดขาว ทำให้ต้องใช้วิธีเดินไปด้านข้างบ้าง ซึ่งถึงแม้ตัวเกมจะดูไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าได้เล่นแล้วจะติดยาวๆ เลยทีเดียว
8. Subway Surfers
ต่อกันด้วยเกมอายุมากอีกเกมอย่าง Subway Surfers ที่เปิดตัวมานานหลายปีแล้ว และเชื่อว่าวัยรุ่นทุกคนต้องเคยผ่านเกมนี้กันมาแล้วไม่มากก็น้อย ซึ่งตัวเกมที่เราต้องทำก็แค่ควบคุมตัวละครคอยหลบสิ่งกีดขวางต่างๆ เพื่อเก็บคะแนนให้เยอะๆ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีเหรียญและไอเทมให้เก็บ โดยไอเทมต่างๆ จะช่วยให้เราเล่นได้คะแนนมากยิ่งขึ้น ส่วนเหรียญก็เอาไว้ใช้ซื้อตัวละครและบอร์ดรูปแบบต่างๆ เอาไว้ใช้เล่นในตัวเกม ช่วยเพิ่มสีสันในการเล่นยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ถ้ามีการเชื่อมต่อเน็ตก็จะสามารถแข่งคะแนนกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย แต่ถ้าไม่ได้ต่อเน็ตก็ชาเลนจ์ตัวเองไปเรื่อยๆ ก็ได้
9. Where’s Samantha
มากันที่เกมสุดท้ายกันแล้วกับ Where’s Samantha ซึ่งเกมนี้เป็นเกมบน PC แล้วเอามาลงในมือถือ โดยตัวเกมจะให้เราผจญภัยผ่านด่านต่างๆ เพื่อค้นหาตัว Samantha ซึ่งความน่านใจของเกมนี้ก็คือกราฟิกตัวเกมจะเป็นแบบเหมือนทุกอย่างในเกมสร้างขึ้นมาจากเส้นด้านหรือเส้นไหม แถมเรายังสามารถเปลี่ยนสีตัวละครไปตามด่านต่างๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเกมที่แหวกแนวกว่าเกมใดๆ เลย
เกมออฟไลน์ ไม่ใช้เน็ต 2022 ทั้ง 9 เกมที่เราเอามาแนะนำนี้เป็นเกมที่ทางผู้เขียนลองเล่นแล้วมีหลายๆ เกมรู้สึกติดพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นเกมดูดเวลาชีวิตเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าก็อยากให้เล่นแบบถูกที่ถูกเวลา ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เอาไว้เป็นของแก้เบื่อหรือช่วยพักสมองมากกว่า โดยทั้ง 9 เกมนั้นมีหลฃักในการเลือกคือถึงแม้จะเป็นมือถือเก่าหรือมือถือราคาไม่แพงมากก็สามารถเล่นได้ สามารถเล่นได้แม้จะไม่มีเน็ต และต้องไม่เสียเงินด้วย ก็หวังว่าเกมทั้ง 9 ที่เราเอามาแนะนำนี้จะช่วยแก้เบื่อให้เพื่อนๆ ได้บ้าง
บทความที่เกี่ยวข้อง