แนะนำ 10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทปี 2021 สเปคแรงเล่นเกมได้ลื่นๆ พร้อมได้กล้องสวย

10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทปี 2021 สเปคแรงเล่นเกมได้ลื่นๆ พร้อมได้กล้องสวย

ในช่วงเรทราคามือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทที่ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ถูกจนเกินไป และก็ไม่ได้แพงจนเกินไป แต่ได้ทั้งสเปคเครื่องที่แรง สาทารถเล่นเกมได้สบายๆ และบางรุ่นก็มีกล้องสวยโดดเด่นออกมาเลย ก็มักจะอยู่ในช่วง 4,000-6,000 บาท ที่สามารถจับต้องมือถือสเปคดีๆ ใช้งานได้ครอบคลุมแล้ว ซึ่งในปีนี้ก็มีมือถือจากยี่ห้อต่างๆ ที่ทำราคาออกมาค่อนข้างดีเลย ถ้าไม่ได้นับรวมกับมือถือระดับเรือธง หรือระดับไฮเอนด์ที่มีราคาเกิน 10,000-20,000 บาทไปจนถึงสามหมื่นกลางๆ ก็มีออกมาให้เลือกหลายรุ่นมากๆ แต่ถ้าใครอยากเลือกดูมือถือราคาไม่เกิน 3,000 บาท สามารถกดดูได้ที่นี่เลย ส่วนใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทในปี 2021 ที่เน้นสเปคแรง เล่นเกมได้ลื่นๆ หรือว่าอยากได้กล้องสวยๆ ไว้ถ่ายรูป เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาท แต่มีสเปคครบๆ ให้เลือกกันดูตามความชอบได้เลย ว่าอยากจะเน้นไปที่การใช้งานแบบไหนเป็นหลักพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย

10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทปี 2021 สเปคแรงเล่นเกมได้ลื่นๆ และได้กล้องสวยๆ ไว้ถ่ายรูป

สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาททั้ง 10 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาในปี 2021 นี้ และมีช่วงราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,000-6,000 บาทเท่านั้น เพราะช่วงราคานี้เป็นช่วงเรทราคาที่ถึงระดับ Pro แล้วในบางยี่ห้อ และจะได้มือถือที่สามารถใช้งานทั่วไปได้ดี เล่นเกมก็ไหว หรือจะเน้นถ่ายรูปไปเลยก็มีอยู่หลายรุ่นเหมือนกัน ส่วนยี่ห้อต่างๆ ที่จะมาแนะนำนี้ อาจจะมีบางยี่ห้อที่ไม่ค่อยคุ้นหู แต่ว่ารับรองได้เลยว่าสเปคจัดเต็มมาให้อย่างแน่นอน ทั้งการเล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการถ่ายรูปด้วย ส่วนรุ่นต่างๆ ก็จะเรียงกันไปตามวันที่เปิดตัววางขายออกมา จากรุ่นใหม่ล่าสุดลงไปเรื่อยๆ ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจ และมีสเปคเป็นอย่างไรกันบ้าง

มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทปี 2021

• Infinix Note 10 Pro
• OPPO A16
• vivo Y12A
• POCO M3 Pro 5G
• Redmi Note 10 5G
• OPPO A54
• Samsung Galaxy M12
• OnePlus Nord N100
• realme C25
• Redmi 9T
• ตารางเปรียบเทียบ 10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาท

1. Infinix Note 10 Pro : ราคา 5,999 บาท

มาเริ่มกันที่รุ่นแรกกันก่อนเลย สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทในปี 2021 ที่ตัวนี้ได้มีข่าวออกมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมีการวางขายเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้เอง โดยมือถือของ Infinix หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ แต่ความจริงแล้วมือถือตัวนี้ทำออกมาสำหรับคอเกมโดยเฉพาะเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวชิปหรือการทำงานต่างๆ ของตัวเครื่อง ก็ทำออกมาให้เล่นเกมเป็นหลัก แต่ก็สามารถถ่ายรูปได้สวยๆ เหมือนกันนะ การดีไซน์ของรุ่นนี้จะทำออกมาแบบสวยหรูเลย มีตัวปลดล็อคลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง และปลดล็อคใบหน้าได้แม้ใส่หน้ากากอยู่ หน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD กว้าง 6.95 นิ้วใหญ่มากๆ พร้อมกับมีอัตรา Refresh Rate 90Hz และ 180Hz touch-sensing ช่วยให้การใช้งานหรือเล่นเกมลื่นไหลสุดๆ โดยมาพร้อมกับชิป Helio G90T ที่ทรงพลังกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 120.8% เรียกได้ว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่น่าใช้งานมากเลยทีเดียว

ส่วนกล้องหลังของตัวนี้จะเป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + เลนส์โมโน 2MP และชัดลึกอีก 2MP พร้อม AI จากตัวกล้องที่ทำให้สามารถถ่ายออกมาได้สวยยิ่งขึ้น จะถ่ายตอนกลางคืนก็มี Ultra Night โหมดที่ช่วยให้ถ่ายออกมาได้ครบๆ กับกล้องหน้าที่ความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยๆ พร้อม AI Beautify ที่จับภาพได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง DTS ที่ทำให้เสียงออกมาดีมาก และมีการจับเสียงจากภายในเกมทำให้มีมิติมากขึ้น และยังมี AI ที่ช่วยให้ควบคุมการสัมผัสขณะเล่นเกมให้ดีได้ด้วย แถมแบตก็มีความจุมาให้มากถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 33W เล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวๆ 11 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้เล่นก็อยู่ได้ทั้งวันแน่นอน โดยรวมแล้วเป็นมือถือราคาไม่เกิน 6000 ที่เล่นเกมได้ดี และน่าสนใจมากในราคาเพียง 5,999 บาทเท่านั้นบน Shopee

2. OPPO A16 : ราคา 4,799 บาท

มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทรุ่นต่อมานี้เป็นของ OPPO ที่เพิ่งจะเปิดตัวออกมาได้ไม่นานเหมือนกัน แถมยังมีราคาไม่แพงมากเท่าไหร่ด้วย และก็แน่นอนว่าสเปคก็จะเป็นแบบใช้งานทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นไปทางใดทางหนึ่งมากนัก แต่จะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้แบบทั่วไป เล่นเกมได้หรือจะถ่ายรูปก็ยังพอไหว การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบบางเบากับสีสันแบบแบบเมทัลลิกเงางาม หน้าจอจะเป็น IPS-LCD กว้าง 6.52 นิ้วระดับ HD+ และยังมี Eye-care Display ที่ช่วยถนอมสายตาขณะใช้งานด้วย ส่วนชิปที่ใส่มาให้จะเป็นตัว Helio G35 ที่สามารถเล่นเกมได้ปกติเลย และก็ยังมี System Booster ที่ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมช่วยลดความช้าได้ดีกว่าเดินถึง 18% เลยทีเดียว

มาที่เรื่องของกล้องกันบ้าง อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ไม่ได้เน้นอะไรมากเป็นพิเศษ แต่จะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ทั่วไป รุ่นนี้จึงมีกล้องหลังมาให้ 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + เลนส์ชัดลึก 2MP และมาโคร 2MP พร้อมกับ AI ที่ช่วยให้เก็บภาพได้สวยมากขึ้น มีโหมดที่ช่วยจับคู่สีมาให้เลย และยังมีฟิลเตอร์เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ 8MP กับ AI Beautification ที่ทำให้การเซลฟี่สวยงามเป๊ะดูเป็นธรรมชาติ สุดท้ายคือความจุแบตที่ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 10W ดูหนังฟังเพลงได้ต่อเนื่องมากกว่า 20 ชั่วโมง พร้อมกับมี Optimized Night Charge AI ที่ช่วยคุมความร้อนขณะชาร์จทิ้งเอาไว้ตอนกลางคืนไม่ให้เครื่องร้อนเกินไปอีกด้วย โดยรวมแล้วเป็นรุ่นราคาประหยัดที่สามารถใช้งานได้ครบครันมากเลยทีเดียว ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่

3. vivo Y12A : ราคา 4,499 บาท

มาที่ฝั่งของ vivo กันบ้างที่มีมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทในปี 2021 แบบประหยัดออกมาอยู่เหมือนกัน ซึ่งรุ่นนี้จะเน้นไปทางการเล่นเกมมากกว่าการถ่ายรูปแน่นอน ด้วยชิปและสเปคที่ให้มาก็สามารถรู้ได้เลย การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบโค้งมน มีสีเรียบๆ พร้อมกับปุ่มสแกนนิ้วปลดล็อกด้านข้างที่ปลดล็อคได้เร็วแค่ 0.26 วินาทีเทานั้น หน้าจอจะเป็น IPS-LCD กว้าง 6.51 นิ้วขนาดกำลังดีและเป็นแบบ Halo FullView ความชัดระดับ HD+ แถมยังมีระบบกรองแสงสีฟ้าช่วยถนอมสายตาอีกด้วย ส่วนชิปของรุ่นนี้จะได้ชิป Snapdragon 439 มาช่วยให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหลขึ้นเยอะเลย และยังมี Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยลดการกระตุกและความช้าของเกมได้ดีอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเปิดหลายแอพพร้อมๆ กัน

ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ได้เน้นของจริง เพราะมีมาให้เพียง 2 ตัวเท่านั้นที่ความละเอียด 13MP กับเลนส์โบเก้ 2MP ถ้าถ่ายแบบทั่วไปก็ยังพอไหวอยู่ สำหรับคนที่ไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปมากนัก กล้องหน้ามีความละเอียด 8MP ระดับมาตรฐานพร้อมกับ Face Beauty และ Filters ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ดูดีได้มากขึ้น ส่วนความจุแบตรุ่นนี้ก็ถือว่าอึดเหมือนกันที่ความจุ 5,000 mAh มี AI ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน จึงเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง และยังรองรับระบบ Reverse charging ที่ทำให้การชาร์จแบตนอกสถานที่นั้นทำได้ง่ายๆ เลย โดยรวมแล้วรุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่เน้นเล่นเกมมากกว่าถ่ายรูป หรือว่าจะซื้อมาใช้งานแบบทั่วไปก็ถือว่าทำได้ดีเลยกับมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทของ vivo รุ่นประหยัดรุ่นนี้ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่นี่

4. POCO M3 Pro 5G : ราคา 5,999 บาท

มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทในปี 2021 ที่เน้นเล่นเกมสุดๆ อีกหนึ่งยี่ห้อ นั่นก็คือมือถือของ POCO ที่สายเกมเมอร์ต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน ซึ่งในรุ่นนี้ที่ปล่อยออกมา จะยังไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปมากนัก แต่ไปจัดเต็มที่การเล่นเกมแทน ดีไซน์ของตัวนี้จะเป็นการเล่นสีสันที่มีแสงสะท้อนสวยงาม ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้วขนาดถือว่ากำลังดี เล่นเกมได้เต็มตาแน่นอนพร้อมกับอัตรา Refresh Rate 90Hz ส่วนชิปของรุ่นนี้จะได้เป็นของ Dimensity 700 5G ที่เล่นเกมได้ลื่นๆ แถมยังใช้งาน 5G ได้อีกด้วย โดยรุ่นนี้ได้ทำออกมาวางขายสองรุ่นย่อยคือรุ่น RAM 4GB และ 6GB แนะนำว่าให้ซื้อรุ่นท็อปสุดไปเลย แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 1,000 บาทเท่านั้น

ส่วนเรื่องของกล้องตัวนี้ก็ตามที่บอกไปเลย ว่าในรุ่นนี้จะยังไม่ได้เน้นเรื่องกล้องมาให้มากนัก โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลังอยู่ 3 ตัวมีความละเอียดเลนส์ไวลด์ 48MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP แต่ก็ยังสามารถถ่ายได้ดีทั้งกลางวันหรือกลางคืนด้วยกล้องหลัก ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดที่ 8MP ตามมาตรฐานของมือถือราคานี้ ยังคงถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ ด้วย AI Beautify และ AI portrait นอกจากนี้ยังมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องและ Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ดีขึ้นด้วย สุดท้ายคือแบตที่มีความจุมาให้ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W เล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวๆ หรือใช้งานทั่วไปก็อยู่ได้ทั้งวันอย่างแน่นอน โดยรวมแล้วถือว่าเป็นมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทที่เน้นเล่นเกมในราคาไม่สูงมาก และน่าใช้งานมากเลยทีเดียว สั่งซื้อได้ที่นี่

5. Redmi Note 10 5G : ราคา 5,999 บาท

มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทที่น่าใช้งานในปี 2021 ของ Redmi เป็นมือถือที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมาก ด้วยราคาที่ไม่แรงมากนัก แต่ได้สเปคที่โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โดยในรุ่นนี้จะออกแนวคล้ายๆ กับตัว POCO ด้านบนเลย ทั้งชิปและกล้องที่เน้นไปทางเล่นเกมมากกว่าการถ่ายรูป แต่รุ่นนี้จะได้ RAM และ ROM ที่สูงกกว่าทั้งรุ่นปกติ และตัวท็อปเลย การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบโค้งมนกับสีสันสวยหรู มีหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ AdaptiveSync FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงให้เข้ากับสายตา และยังมีอัตรา Refresh Rate 90Hz กับโหมดอ่านหนังสือที่ช่วยถนอมสายตาด้วย

ส่วนชิปของรุ่นนี้จะเหมือนกับตัวบนคือ Dimensity 700 5G ที่เล่นเกมได้เร็วแรงไม่มีสะดุด และก็แน่นอนว่าสามารถใช้งาน 5G ได้แบบสองซิมด้วย โดยตัวนี้จะมีให้เลือกสองรุ่นคือ RAM 4GB และ 8GB (ราคาต่างกัน 1,000 บาท) ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเก็บภาพในโหมดกลางคืนได้ครบหมด กล้องหน้ามีความละเอียดแบบมาตรฐานที่ 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามแบบทั่วไปเลย ส่วนความจุแบตก็เรียกได้ว่าอึดแน่นอนด้วยความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W เล่นเกมได้ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง ถือว่าเป็นมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานมาก สำหรับคนที่ต้องการความเร็วแรงที่มากขึ้นไปอีกระดับ

6. OPPO A54 : ราคา 5,699 บาท

มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทในปี 2021 ของ OPPO อีกรุ่นกันบ้าง ที่รุ่นนี้ทำออกมาในราคากลางๆ เน้นการใช้งานแบบทั่วไป สามารถเล่นเกมได้ดีหรือจะถ่ายรูปก็พอได้ การดีไซน์ของตัวนี้จะเป็นแบบบางเบา ใช้งานพกพาได้สะดวก มีสแกนนิ้วมือข้างตัวเครื่องมาให้ด้วย และยังกันน้ำได้ในระดับ IPX4 ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD หน้าจอกว้างขนาด 6.51 นิ้วที่เป็น Punch-Hole Screen ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 89.2% ทำให้มองหน้าจอได้เต็มตามากขึ้น มาพร้อมกับชิป Helio P35 ที่ใช้งานทั่วไปได้ดีเยี่ยม จะเล่นเกมก็พอไหวและยังมี RAM ให้ 4GB กับ ROM ถึง 128GB กันเลยทีเดียว

ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้จะมีมาให้อยู่ 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + มาโคร 2MP และโบเก้ 2MP พร้อมกับ AI-enhanced Bokeh ที่ช่วยการถ่ายรูปบุคคลละลายหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะถ่ายตอนกลางวันหรือกลางคืนก็เก็บภาพได้ครบหมด กล้องหน้ารุ่นนี้จะมีความละเอียดถึง 16MP พร้อมกับมี AI ที่ช่วยปรับผิวให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น จะเซลฟี่หรือถ่ายวิดีโอทำคอนเทนต์ก็ทำได้ดีเลยสำหรับรุ่นนี้ สุดท้ายคือแบตที่มีความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W และมีตัวช่วยในการชาร์จตอนกลางคืนให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วถือว่าเป็นมือถือราคากลางๆ ที่สามารถใช้งานได้ครบเลย ทั้งเล่นเกมหรือว่าจะถ่ายรูป แต่ตัวนี้จะเน้นกล้องหน้าเป็นหลักมากกว่ารุ่นอื่นๆ ในเรทราคาเดียวกัน ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่

7. Samsung Galaxy M12 : ราคา 4,799 บาท

มาถึงค่ายใหญ่อย่าง Samsung กันบ้างที่มีมือถือราคาไม่เกิน 6000 และอยู่ในช่วงราคาประหยัดที่ได้สเปคค่อนข้างครบเลย ทั้งการเน้นถ่ายรูปหรือว่าจะเล่นเกมก็ทำได้ดีเลย การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นสีแบบโลหะและลวดลายแบบไมโคร ที่ทำออกมาเป็นลวดลายคล้ายคลื่นสวยงามทีเดียว ส่วนหน้าจอจะเป็น TFT-LCD กว้าง 6.5 นิ้วแบบ Infinity-V Display ระดับ HD+ ไม่ต้องห่วงเรื่องความคมชัดและสีสันเลย ส่วนชิปของรุ่นนี้จะเป็นตัว Exynos 850 ที่สามารถเล่นเกมหรือจะใช้แบบทั่วไปก็ทำได้รวดเร็วเลย แถมรุ่นนี้ยังเพิ่มความจุด้วย microSD สูงสุดถึง 1 TB มาพร้อมความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W ใช้งานได้อย่างยาวนานเต็มวัน และชาร์จกลับมาเต็มได้ไวด้วย

ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าจัดเต็มมาให้เลย โดยเป็นกล้องหลังถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + อัลตร้าไวลด์5MP + มาโคร 2MP และชัดลึกอีก 2MP จะถ่ายมุมแคบหรือมุมกว้างก็เก็บได้ครบถ้วน ถ้าชอบถ่ายรูปบุคคลก็มีเลนส์ที่รองรับด้วย Depth Camera ที่ละลายหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP พร้อมเอฟเฟกต์โบเก้ที่ช่วยให้เซลฟี่ได้ออกมาสวยๆ ซึ่งมือถือของ Samsung รุ่นนี้ที่ทำออกมาเป็นรุ่นที่คุ้มมาก ได้ทั้งการถ่ายรูปและการเล่นเกมในราคาที่แสนจะประหยัด มีราคาไม่ถึง 5000 บาทด้วยซ้ำ ใครที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทอยู่ให้รีบจัดเลย เพราะค่อนข้างเป็นที่นิยม และขายดีมากจนในเว็บหลักเครื่องหมดไปแล้ว

8. OnePlus Nord N100 : ราคา 5,299 บาท

เรียกได้ว่ามาแรงมากๆ กับมือถือของ OnePlus ที่มีรุ่นปล่อยออกมาสร้างความฮือฮาไปในช่วงปลายปีที่แล้ว และมาในปีนี้ก็ยังมีมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทแบบประหยัด ที่ได้สเปคครบๆ ออกมาให้เราได้ใช้งานกันด้วยคือรุ่น OnePlus Nord N100 โดยการดีไซน์ของตัวนี้จะเป็นสีแบบเรียบๆ ที่มีตัวปลดล็อคด้วยลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง มีหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD กว้าง 6.54 นิ้วขนาดใหญ่พอสมควรเลย และยังเป็นแบบ Punch-Hole Display ที่มีจุดกล้องจุดเดียวบนหน้าจอ ทำให้เล่นและมองเห็นได้เต็มจอมากขึ้น พร้อมกับมีอัตรา Refresh Rate 90Hz และยังได้ชิปเป็นตัว Snapdragon 460 ที่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและเร็วแรงแน่นอน จะเน้นเล่นเกมหรือจะใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดีเยี่ยมแน่นอน

มาที่เรื่องของกล้องหลังกันบ้าง ซึ่งในรุ่นนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ถ้าซื้อมาเล่นเกมอันนี้ทำได้อยู่แล้ว รุ่นนี้จะมีกล้องหลังอยู่ 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP มีระบบกันสั่นและมี AI ที่ช่วยให้ถ่ายรูปได้ออกมาดียิ่งขึ้น และสามารถซูมดิจิทัลได้ถึง 6 เท่า ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8MP ตามระดับมาตรฐานที่ถ่ายเซลฟี่ได้ปกติ กับความจุแบตที่มีความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W ใช้ได้ต่อเนื่องยาวๆ ทั้งวันแน่นอน โดยรวมแล้วรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ใช้งานทั่วไปได้ดี หรือจะเน้นเล่นเกมก็พอไหว ในราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก ที่สำคัญคือสีตัวเครื่องมีสีสวยมากๆ กดซื้อได้ที่นี่

9. realme C25 : ราคา 5,499 บาท

มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทปี 2021 ของ realme กันบ้าง ที่รุ่นนี้ทำออกมาในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้สเปคเอาไว้เล่นเกมก็ได้ ถ่ายรูปก็พอไหว ที่สำคัญคือแบตที่ให้มาแบบเยอะจัดเลย การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Geometric Art ที่มีการเล่นสีตรงฝาหลังให้เหมือนกับคลื่นที่สะท้อนแสงวิบวับ มีจุดสแกนลายนิ้วมือที่ฝาหลัง กับหน้าจอที่เป็นแบบ IPS-LCD ขนาด 6.5 นิ้วที่อัตราส่วนหน้าจอ 88.7% ช่วยให้เล่นได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น และเสริมความเร็วแรงมาด้วยชิป Helio G70 กับ RAM 4GB และ ROM 64GB เล่นเกมได้ลื่นๆ หายห่วงแน่นอน

ส่วนกล้องหลังในรุ่นนี้จะเป็นกล้องแบบ 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP + มาโคร 2MP และ B&W 2MP ที่มีโหมด Super Nightscape ช่วยให้การถ่ายตอนกลางคืน สามารถเก็บสีสันและแสงได้ครบทั้งหมดในภาพ หรือจะถ่ายด้วย Ultra Macro เพื่อให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ ก็ทำได้ดีเลย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ แบบทั่วไป ซึ่งรุ่นนี้ถึงแม้ว่าจะมีกล้อง 3 ตัวแต่ก็มีความละเอียดที่สูง ทำให้สามารถถ่ายออกได้ดีเลย สุดท้ายคือแบตที่มหาอึดเลยที่ความจุ 6,000 mAh แถมรองรับ Fast Charging 18W พร้อมกับตัวช่วยในการประหยัดแบตด้วย App Quick Freeze และฟังก์ชั่น Screen Battery Optimization ก็ทำให้เราสามารถใช้งานได้นานมากขึ้นไปอีก ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่

10. Redmi 9T : ราคา 5,299 บาท

ปิดท้ายกันด้วยมือถือราคาไม่เกิน 6000 บาทที่เน้นเล่นเกมเป็นหลัก หรือว่าจะเน้นถ่ายรูปด้วยกล้องสวยๆ ของ Redmi 9T ก็ได้เหมือนกัน และยังมีแบตที่อึดมากๆ อีกด้วย เป็นรุ่นที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว การดีไซน์ของตัวนี้จะเป็นการเล่นสีสัน และมีลวดลายเปล่งประกายออกมาจากตัวกล้องที่ฝาหลังสวยงามเลยทีเดียว พร้อมกับสแกนลายนิ้วมือได้รวดเร็วที่ข้างตัวเครื่อง ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD ความกว้าง 6.53 นิ้วขนาดกำลังดีที่ระดับ FHD+ ส่วนชิปของรุ่นนี้ได้เสริมความเร็วด้วย Snapdragon 662 ที่เล่นเกมได้ลื่นๆ และยังรองรับเสียงความละเอียดสูงอีกด้วย โดยตัวนี้ได้ทำออกมา 2 รุ่นคือ RAM 4GB และ 6GB แนะนำว่าให้ซื้อตัวท็อปเลย เพราะราคาไม่เกิน 6,000 บาทอยู่ดี

ส่วนกล้องของรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย เพราะมีกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัวทึความละเอียด 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP พร้อม AI ที่ช่วยให้การถ่ายรูปทุกกล้องออกมาได้สวยงาม จะถ่ายวิวหรือถ่ายบุคคลก็ถ่ายได้สวยๆ เลย กล้องหน้าจะมีความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่แบบทั่วไปได้สบายๆ ทีเด็ดอยู่ที่ความจุของแบตที่มีความจุถึง 6,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W เปิดสแตนบายได้หลายวัน ถึงแม้ว่าจะเล่นเกมหรือว่าดูหนังอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถอยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นแน่นอน โดยรวมแล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าใช้งานมาก ทั้งราคาที่ไม่แพง กับสเปคที่ใช้งานได้ครบทั้งเล่นเกมและถ่ายรูปแบบนี้

ตารางเปรียบเทียบ 10 มือถือราคาไม่เกิน 6000 บาท

จากตารางด้านบนนี้จะเห็นได้ว่ามือถือราคาไม่เกิน 6000 แต่ละรุ่นก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทางด้านการใช้งาน และความเร็วแรงของตัวเครื่องกันมากกว่า จะมีอยู่เพียงไม่กี่รุ่นที่เน้นเรื่องของการถ่ายรูปมาให้ด้วย อย่างเช่นของ Infinix, Samsung และ Redmi ที่มีกล้องมาให้ถึง 4 ตัวพร้อมกับชิปที่เล่นเกมได้สบายๆ ซึ่งรุ่นพวกนี้ต้องบอกเลยว่าขายดีมากๆ ใครที่กำลังมองหาอยู่ต้องรีบจัดเลย ก่อนที่จะไม่มีขาย ส่วนรุ่นอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปเป็นหลักอย่าง POCO หรือ Redmi Note 10 5G ก็แทนที่ด้วยชิปตัวแรงแทน และบางรุ่นก็มีราคาที่ไม่ถึง 5000 บาทด้วย แต่ได้สเปคไว้ใช้งานแบบคุ้มๆ ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ซื้อมาใช้งานทั่วไป หรือว่าจะเล่นเกมก็คุ้มค่ามากแล้ว ยิ่งถ้าซื้อร่วมกับแพ็กเกจจากค่ายต่างๆ ก็จะยิ่งคุ้มมากขึ้นไปอีก (ดูโปร 499 ทรูพร้อมเครื่องที่นี่) แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากันเรื่อยๆ เลยนะครับ