10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทช่วงกลางปี 2021 ซื้อยี่ห้อไหนดี
มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทในช่วงกลางปี 2021 จนเกือบจะปลายปีอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงนี้อาจจะมีการเปิดตัวน้อยลง เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้ปีนี้มีมือถือปล่อยออกมาไม่ได้เยอะเท่าปีก่อน แต่ก็ยังมีหลายรุ่นที่ทำออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนมาถึงในปีนี้ และยังคงใช้งานได้เป็นอย่างดีอยู่ ไม่ว่าจะใช้งานปกติทั่วไป สแกนไทยชนะ เป๋าตัง ถุงเงินได้ หรือเอามาถ่ายรูป เล่นเกม ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่มีงบไม่มากนัก และอยากใช้งานมือถือดีๆ มีฟีเจอร์ครบถ้วนสักเครื่อง เราก็ได้รวบรวมและนำมาฝากกันในช่วงกลางปี 2021 นี้ เราก็ยังคงต้องใช้ชีวิตกับการระบาดของไวรัส Covid-19 ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แน่นอนว่าทั้งเศรษฐกิจ และทุกสาขาอาชีพย่อมได้รับผลกระทบตรงนี้ไปด้วย ทำให้หลายๆ คนต้องประหยัดเงินเพื่อใช้กิน และเอาไว้ใช้งานกับของที่จำเป็น สิ่งที่จำเป็นมากๆ ในช่วงนี้อย่างนึงเลยก็คือมือถือสมาร์ทโฟน ที่สามารถสแกนร่วมกับแอปฯ เป๋าตัง ถุงเงิน และสแกนพวกไทยชนะได้ ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป หรือแม่ค้าพ่อค้าที่ต้องการจะสแกนในแอปฯ เพื่อใช้เงินที่รัฐบาลได้ออกเงินช่วยเหลือ ในช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19 นี้ แต่ถ้าจะต้องเสียเงินไปซื้อมือถือราคาแพงๆ ก็จะกลายเป็นการสิ้นเปลืองไปอีก วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท ยี่ห้อไหนดีและรุ่นไหนน่าใช้งานบ้าง ที่สามารถใช้งานได้ไหลลื่น และใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดีในช่วงกลางปี 2021 นี้ที่เปิดตัวออกมาใหม่ และเป็นมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท ไปลองเลือกรุ่นที่ถูกใจกันได้เลย
10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทช่วงต้นปี 2021 ซื้อยี่ห้อไหนดี?
สำหรับ 10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้จะมีอยู่หลายยี่ห้อ และหลายรุ่นแตกต่างกันไป ทั้งยี่ห้อที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วอย่าง Samsung, Huawei, Redmi, Nokia, OPPO, vivo และอาจจะมียี่ห้อที่บางคนก็อาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่มีฟีเจอร์และการใช้งานที่ดี ครบถ้วนทั้งชิปเซ็ตและกล้อง และเราจะใสรุ่นที่เกิน 3000 บาทไปนิดๆ ด้วยเผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มเงินสักหน่อย และอาจจะมีราคาที่ตกลงมาแล้วจากตอนเปิดตัวด้วย เพื่ออัพเกรดเป็นรุ่นที่ดีกว่านี้ได้ ส่วนวิธีการเลือกซื้อแบบคร่าวๆ เลยก็คือต้องดูหน้าจอ ที่มีขนาดเข้ากับความพอดีกับการใช้งานทั่วไป อาจจะไม่ต้องใหญ่มากนักก็ได้ สเปคที่เร็วแรงพร้อมกับการใช้งานในทุกๆ รูปแบบ และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือความจุของแบต ที่จำเป็นต้องใช้งานในชีวิตประจำวันในแต่ละวันได้ มียี่ห้อและรุ่นที่น่าสนใจดังนี้
ตารางเปรียบเทียบสเปค 10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท
| รุ่น\ ข้อมูล | หน้าจอ | ชิปเซ็ต | กล้องหน้า | กล้องหลัง | RAM/ ROM | ความจำภายนอก | แบตเตอรี่ | ราคา |
| Motorola Moto e7i Power | IPS กว้าง 6.51 นิ้ว | Helio G25 | 5MP | 13 + 2MP | 2GB / 32 GB | 512 GB | 5,000 mAh | 2,999 บาท |
| Nokia C10 | IPS-LCD กว้าง 6.52 นิ้ว | Unisoc SC7331E | 5MP | 5MP | 2GB / 16GB | 256 GB | 3,000 mAh | 2,490 บาท |
| realme C11 (2021) | IPS-LCD กว้าง 6.52 นิ้ว | Unisoc SC9863A | 5MP | 8MP | 2GB / 32 GB | 256 GB | 5,000 mAh | 2,999 บาท |
| Redmi 9A | IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว | Helio G25 | 5MP | 13MP | 3GB / 32GB | 512GB | 5,000 mAh | 2,799 บาท |
| Samsung Galaxy A01 Core | TFT PLS LCD กว้าง 5.3 นิ้ว | MT6739WW | 5MP | 8MP | 2GB / 32GB | 512GB | 3,000 mAh | 2,899 บาท |
| Huawei Y5p | IPS-LCD กว้าง 5.45 นิ้ว | Helio P22 | 5MP | 8MP | 2GB / 32 GB | 512GB | 5,020 mAh | 2,999 บาท |
| Nokia 1.4 | IPS-LCD กว้าง 6.51 นิ้ว | Snapdragon 215 | 5MP | 8 + 2MP | 2GB / 32 GB | 128GB | 4,000 mAh | 2,690 บาท |
| Samsung Galaxy M02 | PLS TFT กว้าง 6.5 นิ้ว | MT6739 | 5MP | 13 + 2MP | 2GB / 32 GB | 1TB | 5,000 mAh | 2,799 บาท |
| Wiko Power U10 | IPS กว้าง 6.82 นิ้ว | Helio A25 | 5MP | 13MP | 2GB / 32 GB | 256GB | 5,000 mAh | 2,699 บาท |
| vivo Y1s | IPS-LCD กว้าง 6.22 นิ้ว | Helio P35 | 5MP | 13MP | 2GB / 32 GB | 256GB | 4,030 mAh | 2,999 บาท |
| OPPO A5s | IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้ว | Helio P35 | 8MP | 13 + 2MP | 2GB / 32 GB | 256GB | 4,230 mAh | 3,395 บาท* |
จากการเปรียบเทียบในตาราง จะเห็นได้ว่ามือถือราคาไม่เกิน 3000 แต่ละรุ่นนั้น จะมีสเปคที่ไม่ได้แตกต่างกันออกไปมากนัก ยังคงอยู่ในสเปคที่สามารถใช้งานได้ดีเท่าๆ กัน รวมไปถึงราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกันด้วย นอกจากรุ่นแถมที่เราได้ใส่เพิ่มเข้าไปให้ เผื่อว่าใครจะเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย จะได้รุ่นที่สูงขึ้นไปอีกหน่อย (ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมานานแล้วก็ตาม) ส่วนใครที่จะเลือกใช้ตัวไหน ก็ลองกดลงไปดูสเปคคร่าวๆ และหน้าตาของแต่ละรุ่นกันได้เลย ว่ามีความสวยงามและรายละเอียดสเปคต่างๆ อย่างไรบ้าง
- Motorola Moto e7i Power
- Nokia C10
- realme C11 (2021)
- Redmi 9A
- Samsung Galaxy A01 Core
- Huawei Y5p
- Nokia 1.4
- Samsung Galaxy M02
- Wiko Power U10
- vivo Y1s
- OPPO A5s (แถมให้อีกรุ่น)
1. Motorola Moto e7i Power
มาเริ่มกันที่รุ่นแรกกันก่อนเลย กับมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทรุ่นแรกนี้ ที่เป็นรุ่นจากยี่ห้อ Motorola ซึ่งถ้าใครเคยใช้ในยุคมือถือแรกๆ น่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ซึ่งในรุ่นนี้ ก็ได้ทำสเปคออกมาให้สามารถใช้งานได้ดีเยี่ยมใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสเปคภายใน หรือว่ากล้องที่ให้มา แถมยังได้แบตที่อึดมากๆ ใครที่ต้องการใช้งานทั้งวัน และใช้แบบทั่วไปจนถึงเล่นเกมบอกเลยว่าไม่แพ้รุ่นใหญ่ๆ แน่นอน อย่างแรกคือการดีไซน์ที่ทำออกมาได้สวยเลย จะเป็นแบบพลาสติกมันวาว พร้อมปุ่มสแกนนิ้วมือด้านหลัง และปุ่มข้างที่ใช้งาน Google Assistant ได้เลย ส่วนหน้าจอของตัวนี้ที่เป็นแบบ IPS แบบ HD+ ที่มีความกว้าง 6.51 นิ้วไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป พกพาได้กำลังดีและมีคุณสมบัติกันได้น้ำได้ด้วย ที่สำคัญคือชิปของรุ่นนี้ที่ใส่ Helio G25 มาให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ใช้เล่นเกมไหวแน่นอน
มาที่เรื่องของตัวกล้องกันบ้าง ที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะกล้องหลังของตัวนี้มีมาให้ถึง 2 กล้อง ที่เลนส์ไวลด์ 13MP กับเลนส์มาโครอีก 2MP พร้อมกับ AI ที่ช่วยปรับหน้าให้สวย และช่วยให้การถ่ายนั้นดีมากยิ่งขึ้น จะถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอก็ทำออกมาได้ดี ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้จะมีความละเอียดที่ 5MP ตามแบบมาตรฐาน ถ่ายเซลฟี่ได้สบายๆ สุดท้ายคือแบตเตอรี่ ที่มีความจุมาให้มากถึง 5,000 mAh พร้อมกับการรองรับ Fast Charging 10W อย่างที่บอกไปเลยว่าใช้งานได้เต็มวัน ไม่ต้องกลัวหมดก่อน และถึงแม้จะใกล้หมด ก็ยังชาร์จกลับมาเต็มได้ไวด้วยอีก ใครที่กำลังมองหามือถือใช้งานทั่วไป หรือว่าใช้เล่นเกมพอได้ด้วย รุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าใช้งานมากๆ เลย
- Motorola Moto e7i Power ราคา 2,999 บาท
2. Nokia C10
มาต่อกันที่มือถือราคาสุดประหยัด ที่ทำออกมาให้ใช้แบบทั่วไปอย่างแท้จริง ซึ่งรุ่นนี้มีราคาถูกที่สุดของทั้งหมด 10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทที่เราได้เอามาแนะนำให้ในวันนี้แล้ว รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้แบบทั่วไป ถ่ายรูปได้ปกติ หรือจะใช้สำหรับร้านค้าที่เอาไว้สแกนเป๋าตังก็ได้แน่นอน การดีไซน์ของรุ่นนี้นี้ก็เป็นแบบพลาสติกด้าน ที่จับแล้วไม่มีรอยนิ้วมือ ส่วนกล้องจะอยู่ตรงกลางของเครื่องพอดี ที่สำคัญคือรุ่นนี้ยังเปิดฝาหลังได้แบบสมัยก่อน ที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเมื่อแบตเสื่อมได้ด้วย มาพร้อมกับหน้าจอที่เป็น IPS-LCD ตามแบบมาตรฐานทั่วไป มีความกว้าง 6.52 นิ้วใหญ่ไม่แพ้รุ่นตัวสเปคแรงๆ เลย ส่วนชิปของรุ่นนี้จะเป็น Unisoc SC7331E ที่สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้สบายๆ แต่ถ้าเล่นเกมแนะนำว่าเป็นเกมไม่หนักเครื่องจะดีกว่า ถ้าพวก RoV อาจจะกระตุกได้
ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ทำออกมาให้ใช้งานแบบธรรมดา ที่ไม่ได้จะเน้นการถ่ายรูปให้สวยเด่นไปเลย แต่แค่ใช้งานพอได้เฉยๆ โดยจะเป็นกล้องหลังเพียงตัวเดียว ที่ความละเอียด 5MP มีแฟลชและการค้นหาหน้าเวลาถ่ายรูปมาให้ด้วย ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดเท่ากันคือ 5MP ถ่ายเซลฟี่ได้ปกติ แนะนำว่าถ้าจะถ่ายให้สวยๆ ต้องถ่ายที่มีแสงเยอะหน่อยจะดีกว่า ส่วนแบตนั้น ถึงแม้ว่าจะมีความจุอยู่เพียง 3,000 mAh แต่ด้วยสเปคที่ไม่ได้กินแบตมาก ทำให้รุ่นนี้สามารถอยู่ได้ยาวๆ ทั้งวันอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะใช้ทั้งวันก็ยังไม่หมด เรียกได้ว่ามีความอึดใช้ได้เลยเหมือนกัน ใครที่มองหามือถือราคาถูกๆ ที่ใช้งานแบบทั่วไป ไม่ได้เน้นอะไรมาก รุ่นนี้ใช้งานได้ดีเลย
- Nokia C10 ราคา 2,490 บาท
3. realme C11 (2021)
ต่อเนื่องกันที่มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทรุ่นต่อมา ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาเดือนที่แล้วนี้เองกับมือถือของ realme ในรุ่น C11 ของปี 2021 ที่ได้ปรับเปลี่ยนทั้งสเปคและกล้อง ในราคาประหยัดลงไปอีกหน่อย ทำให้คนที่ต้องการซื้อมือถือในราคาประหยัดในช่วงนี้เข้าถึงได้ด้วย โดยรุ่นนี้การดีไซน์ภายนอกจะคล้ายๆ กับรุ่นปี 2020 เลย ต่างกันแค่กล้องหลังที่ลดสเปคกล้องเหลือเพียงตัวเดียว นอกนั้นก็ยังมีลวดลายสวยงามเหมือนเดิมเป๊ะ หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ IPS-LCD ให้สีสันคมชัดพร้อมกับความกว้าง 6.52 นิ้วตามขนาดมาตรฐานมือถือรุ่นใหม่ๆ เลย ส่วนชิปของตัวนี้ได้เปลี่ยนมาใช้งานของ Unisoc SC9863A ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แรงเท่าตัวเก่า แต่ตัวนี้ก็ยังพอเล่นเกมหรือใช้งานได้เร็วพอสมควรเลยเหมือนกัน
ส่วนกล้องหลังก็ตามที่บอกไปข้างต้นเลย ว่าได้ลดสเปคลงไปเหลือกล้องเพียงตัวเดียวที่ความละเอียด 8MP แล้ว แต่ก็ยังมีโหมดปรับหน้าสวย AI Camera และถ่ายแบบพาโนราม่า ได้อยู่ด้วย ถ้าถ่ายแบบปกติทั่วไป ที่ไม่ได้จะเน้นไปโดยเฉพาะก็ถือว่ายังทำงานได้ดีมาก ถ่ายสแกน QR Code ได้สบายหายห่วงแน่นอน ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 5MP ตามแบบมาตรฐานทั่วไป ที่สามารถ่ายเซลฟี่ได้ปกติ ถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ HD ด้วย รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตความจุ 5,000 mAh เต็มเหนี่ยวกันไปเลยทั้งวัน ใช้กันได้ยาวๆ ถึงแม้ว่าจะใช้หนักจนแบตใกล้หมด ก็ชาร์จกลับมาได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยการรองรับ Fast Charging ถึง 10W หรือจะเปิดโหมด Ultra Saving Mode ที่ช่วยประหยัดขั้นสุดก็ได้ แถมยังมาในราคาเบาๆ ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทด้วย น่าสนใจไม่น้อยเลย
- realme C11 (2021) ราคา 2,999 บาท
4. Redmi 9A
มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทกันเลย กับมือถือของ Redmi ในรุ่น 9A ที่ได้เปิดตัวออกมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว แต่ด้วยสเปคและการใช้งาน ที่ยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีอยู่ จึงทำให้รุ่นนี้ยังคงน่าใช้งานอยู่ด้วยนั่นเอง โดยดีไซน์ของรุ่นนี้จะดูเรียบง่าย แต่ด้านหลังที่ทำมาจากพลาสติกมีความมันวาว สะท้อนแสงเมื่อหันเครื่องไปมา ส่วนหน้าจอเป็น IPS-LCD แบบ HD+ ที่มีความกว้าง 6.53 นิ้ว ที่ถือว่าใหญ่พอสมควรเลย ถ้าเทียบกับทุกรุ่นที่เราได้เอามาแนะนำกัน
แถมยังได้ความแรงชิป Helio G25 สามารถเล่นเกมในระดับที่ไม่ต้องใช้กราฟิกสูงได้ดีเลย เพิ่มความลื่นด้วยหน่วยความจำ 3GB ไม่ต้องห่วงว่าจะสะดุดในการใช้งาน ส่วนในเรื่องของกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 5MP ระดับมาตรฐาน และกลั้องหลัง 13MP ถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ HD ที่สำคัญคือความจุของแบตตัวนี้ ที่มีความจุมากถึง 5,000 mAh ใช้ได้ยาวๆ ทั้งวันไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวันเลย ราคาเปิดตัวของรุ่นนี้คือ 2,799 บาท (ตอนนี้ราคาอาจจะลดลงแล้ว) ซึ่งมือถือในราคาไม่ถึง 3,000 บาท แต่ได้สเปคที่โดดเด่นถึงขนาดนี้ ถือว่าคุ้มมาก
- Redmi 9A ราคา 2,799 บาท
5. Samsung Galaxy A01 Core
มาถึงตัวต่อมากับมือถือราคาไม่เกิน 3000 ของ Samsung กันบ้างในรุ่นเล็กกับซีรีส์ A ตัว A01 Core ที่เป็นรุ่นเล็กจริงๆ ทั้งสเปคและตัวเครื่อง หรือจะบอกว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของการใช้งานสมาร์ทโฟนเลยก็ได้นะ จะซื้อให้คนในครอบครัวใช้งาน หรือว่าจะซื้อเอาไว้สแกนถุงเงิน และแอปฯ เป๋าตังก็ยังพอไหวอยู่ การดีไซน์ภายนอกของรุ่นนี้จะเป็นพลาสติก ที่เป็นพลาสติกมีลายเฉยๆ กับหน้าจอแบบ TFT PLS LCD แบบ HD+ ที่ถือว่ายังมีความชัดใช้งานได้ปกติ และมีความกว้างหน้าจอ 5.3 นิ้ว ขนาดกำลังดีกะทัดรัด ไม่ได้ใหญ่จนถือได้ลำบาก พร้อมกับใส่ชิปเซ็ต Mediatek MT6739WW เข้ามาให้เพิ่ม ทำให้การใช้งานนั้นเป็นไปได้อย่างดี
ซึ่งความจริงแล้วความจำของรุ่นนี้จะมีให้เลือกใช้งานกัน 2 รุ่น แต่แนะนำว่าให้ซื้อตัวท็อป 2GB ไปเลย จะได้ใช้ได้ลื่นยิ่งขึ้น ส่วนกล้องหน้าของรุ่นนี้ จะมีความละเอียดแบบมาตรฐานคือ 5MP และกล้องหลังความละเอียด 8MP ถ้าไม่ได้เน้นถ่ายรูปมากนัก จะใช้สแกนแอปฯ ต่างๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยมเลย ถึงแม้ว่าแบตของรุ่นนี้จะมีความจุ 3,000 mAh แต่ด้วยสเปคที่ไม่ได้กินแบตมากนัก จึงทำให้รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ยาวนานเท่าปกติเลย กับมือถือราคาเปิดตัวที่ 2,899 บาท ก็เป็นมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
- Samsung Galaxy A01 Core ราคา 2,899 บาท (รุ่นตัวสเปคสูงสุด)
6. Huawei Y5p
มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทอีกหนึ่งตัวที่ยังน่าสนใจในช่วงต้นปีนี้ ถึงแม้ว่าจะออกมานานแล้วก็ตาม แถมยังไม่สามารถใช้ GMS ได้ก็ตาม แต่ด้วยสเปคและดีไซน์ที่ทำออกมาได้สวยงาม น่าใช้งานมากๆ จึงทำให้รุ่นนี้ยังน่าสนใจอยู่เหมือนกัน โดยการดีไซน์ภายนอกจะใช้เป็นวัสดุพลาสติกตรงฝาหลัง และมีลวดลายที่สามารถสะท้อนแสงออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว โดยหน้าของรุ่นนี้จะเป็น IPS-LCD ที่ให้ความคมชัด และมีสีสันที่สวยงามใช้ดูหนัง ดูยูทูปได้ปกติเลย ความกว้างของหน้าจอคือ 5.45 ที่ขนาดใหญ่กลางๆ ไม่ถึงกับใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กจนเกินไป
และได้เพิ่มความแรงด้วยชิป Helio P22 เล่นเกมได้ไหลลื่นแน่นอน มาพร้อมกับหน่วยความจำ 2GB ที่เพิ่มความลื่นให้ตัวเครื่องไปอีกขั้น ถึงแม้ว่าจะดูเท่ากับรุ่นอื่นๆ แต่ด้วยชิปที่ให้มานั้น จึงทำให้รุ่นนี้ใช้งานได้เป็นอย่างดีนั่นเอง มาที่เรื่องกล้องกันบ้าง ตัวนี้กล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 5MP และกล้องหลัง 8MP ก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่ได้เน้นตรงด้านการถ่ายรูปมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังใช้สแกนถุงเงิน เป๋าตังได้ปกติเลย สุดท้ายคือแบตที่มีความจุ 3,020 mAh ระดับกลางๆ แต่ใช้ได้ทั้งวันแน่นอน ถ้าไม่ได้ใช้งานหนักจนเกินไป โดยรวมแล้วยังก็ยังเป็นรุ่นที่น่าใช้งานอยู่ดี
- Huawei Y5p ราคา 2,999 บาท
7. Nokia 1.4
มือถือรุ่นต่อมานี้ เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นาน และเริ่มวางขายกับในช่วงเดือนมีนาคมนี้เอง โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อเอาใจคนที่มีงบไม่มากนัก แต่อยากได้สเปคที่พอๆ กับแบรนด์ใหญ่ และสามารถใช้งานได้ดีเยี่ยมทั้งการใช้งานทั่วไป หรือจะเอาไว้เล่นเกมก็พอไหว ถ้าไม่ได้เกมที่กินสเปคมากนัก การดีไซน์ของรุ่นนี้จะออกแนวเรียบง่าย กับสีสันที่เท่ากันไปหมดทั้งฝาหลัง แต่ก็ยังคงความสวยงามอยู่เช่นกัน ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น IPS-LCD ที่มีขนาดความกว้าง 6.51 นิ้ว ถือว่าใหญ่มากนะสำหรับมือถือของ Nokia เรียกได้ว่าจับถนัดเล่นเกมได้เพลินๆ เลย
มาพร้อมกับชิป Snapdragon 215 ที่ทำให้เล่นเกมได้ดีระดับนึงเลย ถ้าไม่ได้เล่นเกมที่ใช้สเปคสูงเกินไป มาที่เรื่องของกล้องกันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้มีกล้องหน้าตามมาตรฐานคือ 5MP แต่จะมาเด่นตรงที่กล้องหลังที่ใส่มาให้ถึง 2 ตัวที่ความละเอียด 8MP + มาโคร 2MP ใช้ถ่ายได้สนุกมากยิ่งขึ้น ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้จะมีความจุอยู่ 4,000 mAh ก็ถือว่าไม่ได้น้อยมากนัก สามารถเปิดสแตนบายรอได้ทั้งวันแน่นอน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่พึ่งออกมาใหม่ จึงเป็นมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทอีกรุ่น ที่น่าสนใจและน่าใช้งานเช่นกัน
- Nokia 1.4 ราคา 2,690 บาท
8. Samsung Galaxy M02
มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทอีกรุ่น ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาในช่วงต้นเดือนมีนาคมปี 2021 ที่ผ่านมานี้เอง และเป็นมือถือของแบรนด์ใหญ่อย่าง Samsung ที่ปล่อยตัวซีรีส์ M รุ่น M02 ให้เราได้ใช้งานกัน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เผื่อใครที่ไม่ชอบหน้าตาของเจ้าตัว A01 จะลองมาใช้ตัวใหม่อย่าง M02 รุ่นนี้ก็ได้ เพราะมีดีไซน์ที่ดูมีเอกลักษณ์และน่าใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่าฝาหลังจะเป็นพลาสติกเหมือนกัน แต่หน้าจอของรุ่นนี้คือทำออกมาได้ใหญ่สะใจคนใช้งานมาก
ด้วยหน้าจอแบบ PLS TFT ที่มีสีสันสวยงาม กับความกว้างหน้าจอขนาด 6.5 นิ้วใช้งานได้อย่างจุใจ ไม่ว่าจะเปิดยูทูปไว้ดู หรือจะเปิดหนังจากทาง Social Media อื่นๆ ก็ได้ ส่วนชิปนั้นจะได้เป็นตัว MT6739 เข้ามาช่วยเสริมแรงให้เครื่องไม่หนืดจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าที่ความละเอียด 5MP และหล้องหลังเทพๆ อีก 2 ตัวที่มีความละเอียด 13MP + เลนส์ชัดลึก 2MP ถ่ายได้ชัดเจนสมใจแน่นอน จะเอาไปสแกนก็ง่ายด้วย ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ รุ่นนี้สามารถเพิ่มความจุได้มากถึง 1TB เลยทีเดียว และความจุแบตอีก 5,000 mAh เล่นได้ยาวทั้งวันไม่ต้องชาร์จเลย
- Samsung Galaxy M02 ราคา 2,799 บาท
9. Wiko Power U10
มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทรุ่นต่อมาเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาเป็นรุ่นใหม่เช่นกัน แต่เปิดตัวออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้วนี้เอง ซึ่งมือถือจากยี่ห้อ Wiko หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่รับรองว่าสเปคมาแน่น ใช้งานได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว แถมเราเคยใส่รุ่น View4 Lite แนะนำมือถือน่าใช้งานไปแล้วด้วย แต่ในรุ่นนี้ที่เป็น Power U10 นั้นต่างออกไปหน่อย โดยการดีไซน์ของตัวเครื่อง จะเป็นพลาสติกที่มีเส้นสายและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามอีกรุ่น ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ IPS ที่มีความคมชัดดีเลย มีความกว้างแบบกว้างสุดๆ
ใครชอบหน้าจอกว้างๆ ต้องรุ่นนี้เลย ที่มีความกว้างมากถึง 6.82 นิ้ว ใหญ่มากที่สุดของรุ่นที่เราได้เอามาแนะนำแล้ว ส่วนชิปเซ็ตจะเป็นตัว Helio A25 ที่เอามาใช้งานร่วมกันได้ไหลลื่นเป็นอย่างดี ใช้งานทั่วไปได้ดีแน่นอน ส่วนกล้องก็ไม่เบาด้วยความละเอียดของกล้องหน้า 5MP ตามมาตรฐาน และกล้องหลัง 13MP ที่ถ่ายได้ชัดเจน สแกนได้ทุกร้าน สุดท้ายคือความมจุของแบตที่มีมมาให้มากถึง 5,000 mAh ใช้งานได้เลยทั้งวัน จะใช้หนักแค่ไหนก็ไม่หมดได้ตลอดวัน แถมราคาของรุ่นนี้ก็ทำออกมาได้ดีจับต้องได้อย่างแน่นอน
- Wiko Power U10 ราคา 2,699 บาท
10. vivo Y1s
มือถือราคาไม่เกิน 3000 รุ่นสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำ สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทตัวนี้ เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ว่าเป็นรุ่นที่ฮอตฮิตมากๆ เพราะสเปคที่น่าใช้งานทั้งภายนอก และสเปคภายใน โดยการดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะเป็นแบบพลาสติก ที่มีการไล่สีจากสีอ่อนลงมาเป็นสีเข้ม ช่วยให้ตัวเครื่องมีความสวยงามโดดเด่นขึ้นมา ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD สีสันสวยงาม และมีความคมชัดทุกการใช้งาน กับความกว้าง 6.22 นิ้วขนาดกำลังดี ไม่ได้ถือว่าเล็กเกินไป แต่ก็ไม่ได้ใหญ่จนถือได้ลำบาก
ส่วนใครจะเอามาเล่นเกมก็ยังพอไหวด้วยชิป Helio P35 ที่เข้ามาเสริมให้เครื่องนี้เล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ถ้าเกมไม่ได้หนักจนเกินไป หรือว่าถ้าปรับต่ำๆ ก็เล่นได้เลย มาที่เรื่องของกล้องกันบ้างที่เหมือนว่าจะไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐานที่มีความละเอียดกล้องหน้า 5MP และกล้องหลัง 13MP พร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถถ่ายพาโนรามา และถ่ายแบบ HDR ได้ด้วย น่าสนใจมากๆ กับมือถือที่ราคาไม่ได้สูงมากนัก ส่วนแบตนั้นจะมีความจุอยู่ที่ 4,030 mAh ก็ถือว่ากำลังดีใช้ได้ปกติทั้งวัน รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ยังน่าใช้งาน และใช้งานได้ดีอยู่จึงไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็ชอบใช้กัน
- Vivo Y1s ราคา 2,999 บาท
11. OPPO A5s
ขอแถมให้อีกรุ่น ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีราคาเกิน 3000 บาทออกมานิดหน่อยในตอนนี้ ที่ร้านค้าออนไลน์ขายกันในราคาไม่เกิน 3,500 แต่ได้เครื่องแท้ด้วยซ้ำ สำหรับใครที่มีงบซื้อมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท และอยากเพิ่มเงินนิดหน่อย เพื่อที่จะได้รุ่นที่เหนือขึ้นไปอีกเยอะเลย โดยรุ่นนี้ได้ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว อย่างฝาหลังที่มีความมันวาว และสีออกเหลือบนิดหน่อยสะท้อนแสงได้สวยงามสุดๆ ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD ที่มีสีสวยงามคมชัดอย่างแน่นอน ขนาดความกว้างของหน้าจอกำลังดีที่ 6.2 นิ้ว ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป
แถมยังได้ชิปเป็น Helio P35 ที่สามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ และถ้าไม่ได้ปรับหน้าจอสูงมากนักก็ยิ่งเล่นได้ดีเลย ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือใครที่เป็นสายถ่ายรูปจะเหมาะมาก เพราะกล้องหลังของรุ่นนี้มี 2 ตัวที่ความละเอียด 13MP + 2MP ถ่ายทั้งคนหรือวิวก็ทำได้ดีเลย พร้อมกับฟีเจอร์อีกหลายหมวดหมู่มาให้เลือกเล่น และกล้องหน้าก็มาแบบเหนืออีกหน่อยด้วยความละเอียด 8MP เซลฟี่ได้ชัดเจน ความจุของแบตรุ่นนี้มีความจุ 4,230 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวันเลย
- OPPO A5s ราคา 3,395 บาท (บนร้านค้าออนไลน์)
เป็นยังไงกันบ้างกับมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท ทั้ง 10 + 1 รุ่นที่เราได้แนะนำกันไป ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีฟีเจอร์ และการดีไซน์ภายนอกที่ต่างกันออกไปอีก อยู่ที่ว่าเราจะชอบแบบไหน ชอบแบบเรียบๆ หรือว่าอยากให้มีสีสันลูกเล่นหน่อย รวมไปถึงใครที่ชอบถ่ายรูป เซลฟี่ หรือมักจะต้องสแกนเป็นประจำ อาจจะเลือกตัวที่กล้องมีความละเอียดสูงหน่อย หรือตัวที่มีกล้อง 2 ตัวก็ได้อย่าง OPPO A5s หรือ Samsung Galaxy M02 ก็พอไหว แต่ถ้าจะเน้นไปที่การเล่นเกม แนะนำว่าให้เลือกตัว Redmi 9A หรือ Motorola Moto e7i Power ที่มีชิปไว้เล่นเกมดีเลย ส่วนใครอยากใช้งานได้ทั่วไปแบบปกติ แต่ใช้งานได้ดี ก็เลือกเป็นมือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทตัวอื่นๆ ในรุ่นราคาประหยัดทั้งหลายที่เราได้แนะนำกันไปได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะเอามาฝากและอัพเดทกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
