ถึงเเม้ว่าปีนี้จะไม่มี iPhone 5 มาเปิดตัวอย่างที่หลายๆ คนว่ากัน ข่าวลือต่างๆ ที่เราเห็นก่อนหน้านี้ก็คงเรียกว่า อนาถกันไป ;P ส่วนตัวก็ iPhone 4 ก็คงขายได้ต่อไปเเบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ เพราะความ wow มันไม่ค่อยได้ผลเเล้ว การต่อคิวอะไรก็คงหายากขึ้นเพราะสินค้าเริ่มอิ่มตัวเเล้ว นอกเรื่องไปไกล ในงานครั้งนี้พระเอกใหม่อยู่ที่ iOS 5 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่าง บางอย่างก็ได้มาจากเเรงบันดาลใจของ Android บางอย่างก็ได้มาจาก BlackBerry เอ๊ะยังไงกันนี่ ยังไงเราไปดูฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีใน iOS 5 กันเลยดีกว่าครับ
1.Notification Center
ใครที่ใช้ iPhone หรือ iPad คงรู้ถึงความน่ารำคาญของระบบเเจ้งเตือนที่เป็น Pop up โผล่มาเวลามีข้อความ อีเมล์ หรือการเเจ้งเตือนใหม่ๆ ที่โผล่ขึ้นมาเเบบไม่รู้จักกาละเทศะเป็นอย่างดี ซึ่งปัญหานี้ก็เป็นที่สรรเสริญมานาน ทาง Apple ก็คงหาวิธีเเจ้งเตือนใหม่เเบบเจ๋งๆ ไม่ได้ เลยได้เเรงบันดาลใจจาก Android โดยการเเจ้งเตือนเเบบใหม่นี้เมื่อมีอะไรเเจ้งเข้ามาจะปรากฏบนมุมบนของจอ จากนั้นอีกสักเเปปมันจะหายไปเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้เเล้วเรายังสามารถลากจอจากบนลงล่างเพื่อดูรายการเเจ้งเตือนได้ ช่างเหมือนของ Android มากมาย
นอกจากนี้เเล้ว หน้าจอล็อกสกรีน ก็จะมีรายการเเจ้งเตือนขึ้นมาให้อัพเดทกันได้ด้วยเช่นกัน ก็ถือเป็นการอัพเดทที่สะดวกขึ้นมากๆ สำหรับคนใช้ iOS ครับ
2. iMessage
หนึ่งในครอบครัวตระกูล i ที่เพิ่มเข้ามา ถ้าให้พูดเเบบตัดจบเลยคือมันก็เหมือน BlackBerry Messenger ที่ทำให้เครื่องที่ใช้ iOS คือ iPhone, iPad เเละ iPod Touch เหมือนกันสามารถส่งข้อความ รูปภาพ วีดีโอ คอนเเทค หรือเเม้กระทั่งสถานที่หากันได้ผ่าน 3G เเละ Wi-Fi (จริงๆ ก็น่าจะผ่าน EDGE ได้ด้วยเเต่ยังไม่กล้ายืนยัน กลัวหน้าเเตกเผื่อศาสดาให้ใช้เเต่ 3G เท่านั้น) จริงๆ Android เองก็มีเเต่ไม่ถูกผลักดันเท่าไหร่ก็คือตัว Google Talk เลยกลายเป็นฟังชั่นที่มี เเต่ไม่มีใครใช้ไปโดยปริยาย เเต่ก็น่าจะทำให้สาวๆ สายเเชทในบ้านเรามาใช้ iPhone เเทน BlackBerry กันได้ง่ายขึ้น เเล้ว BlackBerry Messenger ในไทยจะตายหรือไม่ iMessage จะกลายเป็นเเอพเเชทยอดนิยมตัวถัดไปหรือเปล่า อันนี้ต้องดูกันต่อไปครับ
ส่วนเรื่องการขอเป็นเพื่อนหรือยืนยันตัวตนเพื่อการใช้งานต่างๆ ยังไม่มีรายละเอียดออกมา จะใช้อีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ก็ต้องอดใจรอกันอีกนิดครับ
3.Newsstand
สำหรับคนที่คุ้นเคยกับ iBook นั้น เจ้าตัวนี้ก็ไม่ต่างกันเเต่เปลี่ยนจากหนังสือ มาเป็นนิตยสารหรือหนังสือพมิพ์เท่านั้น โดยถ้าเราสมัครสมาชิกนิตยสารหรือสิ่งพิมพ์นั้นๆ เมื่อมีฉบับใหม่ออกมาก็จับอัพเดทผ่าน Background โดยอัตโนมัติ ทุกอย่างที่เราซื้อในหมวดนี้จะเข้ามาใน Newsstand ทั้งหมด ซึ่งก็ตรงตามชื่อของมันคือเเผงหนังสือพิมพ์ครับ เข้าใจคิดจริงๆ ชื่อนี้ ขอคารวะทั้งไอเดียเเละเเนวคิด เรื่อง Digital Media นี้ยังไม่มีเจ้าไหนสู้ iOs ได้จริงจัง
4. Reminder
หลายๆครั้งที่เราจดลิสเอาไว้? เเละเเอพโน้ตเองไม่สามารถใช้งานได้ดีนักเพราะบางอย่างนั้นถูกกำหนดไว้ด้วยเดดไลน์หรือวันที่เราต้องการจะทำกิจกรรมนั้นๆ Reminder เป็นการกลบจุดอ่อนของ Calendar ที่เอาไว้ใช้ในการนัดหมายต่างๆ มากกว่า ซึ่งเจ้า Reminder นี้เราสามารถทำได้ทั้ง List เช่น รายการสิ่งที่ต้องทำโดยไม่ถูกกำหนดด้วยวันที่ เเละ Date คือรายการที่กำหนดที่ต้องทำด้วยวันที่นั้นๆ เเละด้วยความเหนือมากกว่านั้นคือ สามารถเเจ้งเตือนตามสถานที่ได้ เช่น เมื่อเราไปถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตเเล้วให้เเจ้งเตือนว่าอย่าลืมซื้อของเข้าบ้าน เป็นต้น ทำมาเอาใจขา Productivity จริงๆ ^^
5. Twitter Intregration
เเต่เดิมนั้นเวลาจะทำอะไรเกี่ยวกับทวิตเตอร์ทำต้องผ่านเเอพของ Twitter Client เท่านั้น เเต่ตอนนี้ Twitter ได้พูกรวมเข้ามาในตัว iOS 5 เเล้ว ดังนั้นเราสามารถทวีตได้ผ่าน Safari, ถ่ายรูปเสร็จเเล้วก็ทวีต หรือเเม้กระทั่ง Contact ตอนนี้ก็รวม Twitter account มาให้ด้วยเเล้ว ทำให้เราสามารถทวีตหาคนใน Contact ได้เลยทันทีโดยไม่ต้องงมหาชื่อ Twitter account อีกต่อไป
6. Camera Improvement
เป็นการปรับปรุงเเอพของกล้องให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยอย่างเเรกคือสามารถกดเข้าโหมดกล้องได้เลยผ่านหน้าจอล็อกสกรีน เเละใช้ปุ่มเพิ่มเสียงเป็นปุ่มชัตเตอร์ได้เเล้ว เเทนที่จะต้องไปทัชหน้าจอที่เป็นปุ่มชัตเตอร์เเทน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถเเท็บที่หน้าจอเพื่อทำการ Autofocus จุดนั้นๆ เเละ Pinch to Zoom เพื่อซูมเข้าซูมออกเวลาถ่ายกล้องได้อีกด้วย
7. Photo Enhancement
ในเเอพ Photo นั้นได้เพิ่มฟีเจอร์การปรับเเต่งรูปภาพขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการลดภาพตาเเดงที่มาจากการถ่ายรูป รวมไปถึงการปรับเเต่งรูปถ่ายให้สีมีความอิ่มตัวมากขึ้น รวมไปถึงการตัดเเละหมุนรูปภาพเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้บ่อยๆ
8. Safari Reader
โหมดใหม่ใน Safari โดยเราสามารถเซฟเพจเก็บเอาไว้ในลิสเพื่ออ่านต่อในภายหลังได้ โดยเมื่ออ่านในโหมดนี้เเล้วจะเปลี่ยนเลย์เอาท์ใหม่เหลือเพียงรูปภาพเเละตัวหนังสือเพื่อให้เหมาะกับการอ่านบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น? เเทนที่จะเป็นเว็บเพจหรือโมบายไซท์เเบบเดิม
9. PC Free
ก่อนหน้านี้เวลาจะทำอะไรก็ต้องทำผ่าน iTunes ทั้งหมด ไม่ว่าจะเปิดเครื่องครั้งเเรกก็ต้อง activation ผ่าน itunes เสียก่อน เเต่คราวนี้เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรผ่าน PC ให้วุ่นวายอีกต่อไป เเละการดาวโหลดตัวอัพเดทนั้น เราไม่จำเป็นต้องดาวโหลดตัวอัพเดททั้งหมดอีกต่อไป โดยเราจะดาวโหลดเฉพาะส่วนที่เพิ่มมาเท่านั้น เช่น การอัพเกรดจาก 4.3.3 ไปเป็น 4.4.4 อาจจะดาวโหลดเพิ่มเเค่ 5 MB ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องดาวโหลดตัวติดตั้งทั้งหมดเป็นร้อยเม็ก นอกจากนี้ที่เยี่ยมที่สุดคือเราสามารถทำ Wi-Fi Sync กับ iTunes โดยอัตโนมัติเมื่อทำการชาร์จเเบตเตอรี่
ส่วนเครื่องที่สนับสนุน iOS 5 มีดังนี้ครับ
- iPhone 3GS
- iPhone 4
- iPad
- iPad 2
- iPod Touch Gen 3
- iPod Touch Gen 4
ส่วนใครที่เห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เเล้วสนใจอยากลองใช้เเล้วละก็ ตัวเต็มน่าจะออกให้ใช้ได้ในเดือนกรกฎาคมปีนี้เเน่นอนครับ อดใจรอกันอีกนิด หรือยังไงก็ชมวีดีโอ iOS5 ยั่วน้ำลายกันไปก่อน ก็ได้นะครับ : )