LiDAR ฟีเจอร์กล้องของผู้ใช้ iPhone นั้นมีวิธีการใช้งานที่น่าสนใจอยู่มากมาย คุณเคยใช้เจ้า LiDAR หรือไม่? ถ้าคำตอบคือไม่วันนี้เรามาลองดูการใช้งาน 6 วิธีการใช้งาน LiDAR เบื้องต้นที่กคุณควรรู้
LiDAR เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของกล้องอันใหม่ของ iPhone ซึ่งจะมีความคล้ายกันกับ ToF ของทาง Android(ทุกท่านสามารถกลับไปดูความแตกต่างของ ToF และ LiDAR ได้จากบทความ “ToF vs. LiDAR 2 ฟีเจอร์บนกล้องแตกต่างกันอย่างไร“) ด้วยความที่ LiDAR ณ ปัจจุบันนี้เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Apple ที่สามารถหาเจอได้จาก iPhone รุ่นใหม่ๆ หรือ iPad รุ่นท๊อปเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ไม่มากนักที่จะได้มีโอกาสใช้มันอย่างเป็นทางการ
สำหรับผู้ใช้ iPhone ที่จะสามารถใช้ฟีเจอร์ LiDAR ได้นั้นจะต้องเป็นเวอร์ชัน iPhone 12 Pro ขึ้นไป(และจะต้องเป็นเวอร์ชัน Pro ขึ้นไปเท่านั้นด้วย) อย่างหนึ่งที่ทาง Apple อาจจะพลาดไปนั้นก็คือคำอธิบายการใช้งาน LiDAR ของทาง Apple เองนั้นมีอยู่ค่อนข้างจะน้อยเอามากๆ ทำให้ผู้ใช้งานหลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าจะสามารถใช้งาน LiDAR เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไรบ้าง
หากท่านเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ไม่รู้ว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไรได้บ้าง เราขอแนะนำให้ท่านอ่านบทความนี้เพื่อที่จะได้ดูกันว่าท่านจะใช้งานอย่างไร หากพร้อมแล้วล่ะก็ติดตามกันไดัเลย
- LiDAR คืออะไร?
- ใช้เพื่อให้การถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น
- ใช้เพื่อให้การวัดที่แม่นยำ
- ใช้เพื่อให้เกม AR ที่สมจริง
- ใช้เพื่อให้ทดสอบการตกแต่งบ้านของคุณ
- ใช้เพื่อให้การสแกนโมเดล 3 มิติ
- ใช้เพื่อให้การสร้างโลก VR
LiDAR คืออะไร?
LiDAR แตกต่างจากเทคโนโลยีอย่าง RADAR โดย LiDAR ย่อมาจาก “การตรวจจับและกำหนดระยะแสง(light detection and ranging)” โดยสรุปแล้วก็คือ LiDAR นั้นจะเกี่ยวข้องกับการยิงเลเซอร์ที่มองไม่เห็นเข้าไปในสภาพแวดล้อมของคุณ จากนั้นเซ็นเซอร์ LiDAR จะใช้ข้อมูลจากเลเซอร์เพื่อตรวจจับข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างของวัตถุและระยะห่างจากคุณ
LiDAR ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงการบิน, ดาวเทียมและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง แต่เทคโนโลยี LiDAR เข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2020 ด้วย iPhone Pro และ iPad ของ Apple ตั้งแต่นั้นมา iPhone และ iPad รุ่น Pro ทุกรุ่น รวมถึง iPhone 15 Pro ก็มีเซ็นเซอร์ LiDAR ในตัว
น่าเสียดายที่ไม่มีโทรศัพท์ Android รุ่นใดที่มีเซ็นเซอร์ LiDAR ในตัวในขณะนี้ อย่างไรก็ตามมีสมาร์ทโฟน Android บางรุ่นใช้เซ็นเซอร์ Time-of-Flight (ToF) แทน ซึ่งมันมีฟังก์ชันที่คล้ายกัน(ToF vs. LiDAR 2 ฟีเจอร์บนกล้องแตกต่างกันอย่างไร)
ใช้เพื่อให้การถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น
iPhone ถ่ายภาพได้ดีมาหลายปีแล้ว หลายๆ คนชอบใช้ iPhone ในการถ่ายภาพเพราะถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูง, มีรายละเอียดและสีที่แม่นยำ แต่สิ่งหนึ่งที่สมาร์ทโฟนโดยทั่วไปต้องดิ้นรนคือการถ่ายภาพในที่แสงน้อย
โชคดีที่ iPhone 12 Pro และ Pro รุ่นใหม่ๆ สามารถใช้ LiDAR เพื่อตรวจจับว่าผู้คนหรือวัตถุอยู่ไกลแค่ไหน จากนั้นมันจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อทำการปรับโฟกัสแบบอัตโนมัติได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ในความเป็นจริง Apple อ้างว่า iPhone ที่มี LiDAR สามารถโฟกัสได้เร็วขึ้นถึงหกเท่าแม้ในสภาพแสงน้อย
โฟกัสอัตโนมัติที่เร็วขึ้นบนกล้อง iPhone ของคุณหมายความว่ารูปภาพของคุณจะมีรายละเอียดมากขึ้นและเบลอน้อยลง แม้ว่าคุณจะไม่มีแสงที่ดีที่สุดก็ตาม
ใช้เพื่อให้การวัดที่แม่นยำ
วิธีที่ง่ายที่สุดแต่มีคุณค่ามากที่สุดวิธีหนึ่งในการใช้เซ็นเซอร์ LiDAR บน iPhone ของคุณคือการวัดโดยไม่ต้องใช้ไม้บรรทัด
มีแอป LiDAR ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ iPhone และ iPad แต่หนึ่งในแอปที่ดีที่สุดคือแอพในตัวที่เรียกว่า Measure ซึ่งใช้กล้อง iPhone ของคุณเพื่อประมาณการวัด
iPhone ที่ติดตั้ง LiDAR สามารถตรวจจับข้อมูลที่มีความแม่นยำสูงเกี่ยวกับขนาดวัตถุขนาดใหญ่และระยะห่างจากกัน นั่นทำให้ iPhone สร้างการวัดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ดังนั้น หากคุณกำลังทำงานในโครงการปรับปรุงบ้านแบบ DIY หรือต้องการดูว่าโซฟาตัวใหม่นี้จะพอดีกับทางเข้าประตูของคุณหรือไม่ LiDAR ก็สามารถช่วยคุณได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ทำตามคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับการใช้แอป Measure บน iPhone ของคุณเพื่อเริ่มการวัดสิ่งต่างๆ ด้วยโทรศัพท์ของคุณ
ใช้เพื่อให้เกม AR ที่สมจริง
ในปี 2016 เราได้เห็น Pokémon Go ครองโลกอย่างพายุ เกมดังกล่าวใช้เทคโนโลยี AR เพื่อนำโปเกมอนเสมือนจริงไปยังสถานที่ในโลกแห่งความเป็นจริง Pokémon Go ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผู้คนมากมายเกี่ยวกับความเป็นจริงเสริม(AR) แต่ตอนนี้ด้วย LiDAR คุณสามารถยกระดับการเล่นเกม AR ขึ้นไปอีกระดับได้
เกมอย่าง RC Club ใช้เซ็นเซอร์ LiDAR ของ iPhone เพื่อสแกนสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการเล่นแบบเสมือนจริง ไม่เหมือนกับเกม AR ส่วนใหญ่ LiDAR ช่วยให้เกมสร้างโลกเสมือนจริงที่มีรายละเอียดเหมือนจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ มันทำโดยพิจารณาจากภูมิประเทศ, ความสูงและกฏทางด้านฟิสิกส์ ซึ่งช่วยให้วัตถุเสมือนโต้ตอบกับโลกแห่งความเป็นจริงบนหน้าจอได้
อย่างไรก็ตามเรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเกมบนมือถือที่รองรับ LiDAR และหลายๆ คนยังคงรู้สึกเหมือนมันเป็นการที่ใช้งานเพื่อทำการสาธิตเทคโนโลยีมากกว่าที่จะใช้เล่นเกมแบบจริงๆ จังๆ เราคงได้แต่คาดว่าจะเห็นเกม AR ใช้ประโยชน์จาก LiDAR มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
Download: RC Club for iOS (Free, in-app purchases available)
ใช้เพื่อให้ทดสอบการตกแต่งบ้านของคุณ
เชื่อว่าหลายๆ ท่านอาจจะมีประสบการณ์ในการย้ายบ้านหรือย้ายคอนโดมาแล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปในสมัยก่อนนั้น การปรับปรุงบ้านครั้งใหญ่ต้องใช้จินตนาการ, การวางแผนและโชคเป็นอย่างมาก(ที่ต้องใช้โชคเพราะคุณต้องคำนวณพื้นที่ที่จะวางของต่างๆ ให้เข้ามุมตรงจุดต่างๆ เป็นอย่างดี หากซื้อตู้ที่มีขนาดผิดไป 1-2 เซนติเมตรคุณก็อาจจะวางตู้ไปในจุดที่คุณต้องการไม่ได้เลย นั่นย่อมเป็นปัญหาใหญ่ที่คุณคงไม่อยากเจออย่างแน่นอน) โชคดีที่ LiDAR ช่วยให้คุณเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงและสำรวจแนวคิดต่างๆ จาก iPhone ของคุณได้โดยไม่ต้องคาดเดาอีกต่อไป
แอปอย่าง Room Planner ซึ่งเป็นหนึ่งแอปที่น่าใช้งานเนื่องจากมันใช้ประโยชน์จาก LiDAR เพื่อวางเฟอร์นิเจอร์เสมือนจริงและแบบจำลองของตกแต่งบ้านในบ้านของคุณโดยตรง ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถดูได้อย่างชัดเจนว่าเฟอร์นิเจอร์ใหม่จะดูและเข้ากับบ้านของคุณอย่างไรก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ
เนื่องจาก LiDAR สามารถคำนวณขนาดและระยะทางได้อย่างแม่นยำ โมเดลเฟอร์นิเจอร์เสมือนจริงจึงพอดีกับบ้านของคุณเหมือนกับของจริง LiDAR สามารถทำให้การตกแต่ง(หรือการตกแต่งใหม่) บ้านของคุณง่ายกว่าที่เคย
Download: Room Planner for iOS (Subscription required)
ใช้เพื่อให้การสแกนโมเดล 3 มิติ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์และเกมระดับ AAA บางเรื่องได้ใช้ประโยชน์จากการสแกน 3 มิติหรือการวัดด้วยภาพถ่าย เทคโนโลยีนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสแกนวัตถุในชีวิตจริงและนำวัตถุเหล่านั้นเข้าสู่โลกเสมือนจริงได้ แต่ด้วย LiDAR ตอนนี้คุณสามารถใช้เทคนิคเดียวกันกับมืออาชีพในโครงการของคุณเองได้แล้ว
การพยายามสร้างโมเดล 3 มิติของวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยมืออาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานมาก อย่างไรก็ตาม แอปอย่าง RealityScan จาก Epic Games ให้คุณใช้กล้องของ iPhone และเซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อต่อโมเดล 3 มิติเข้าด้วยกันได้ทันที จากนั้นคุณสามารถถ่ายโอนโมเดลนั้นไปยังโปรเจ็กต์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว
การใช้พลังของเครื่องสแกน LiDAR บน iPhone เพื่อสแกนโมเดล 3 มิติโดยละเอียดสามารถช่วยคุณประหยัดเวลาในการพัฒนาหลายชั่วโมงและประหยัดเงินได้มาก ดังนั้นหากคุณสนใจในการพัฒนาเกมหรือการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ LiDAR สามารถเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และขั้นตอนการทำงานของคุณได้อย่างมาก
Download: RealityScan for iOS (Free)
ใช้เพื่อให้การสร้างโลก VR
LiDAR มีความเป็นเลิศสำหรับการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถใช้ LiDAR เพื่อสร้างพื้นที่เสมือน(โลก VR)ทั้งหมดได้
คุณสามารถใช้ LiDAR เพื่อสร้างสำเนาเสมือนจริงของสถานที่ในชีวิตจริงได้ คุณสามารถสร้างแผนที่ 2 มิติของห้องของคุณ หรือแม้แต่สร้างแผนที่โลก 3 มิติทั้งหมดได้ ตามความคิดสร้างสรรไม่มีที่สิ้นสุด
LiDAR สามารถช่วยคุณเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกจริงได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังขายบ้านหรือต้องการเช่า คุณสามารถใช้ LiDAR เพื่อสร้างบ้านเป็นโมเดล 3 มิติได้ นั่นทำให้ผู้ผู้ที่สนใจจะซื้อบ้านของคุณสามารถทำการทัวร์ชมบ้าน VR เสมือนจริงก่อนที่จะทำการเยี่ยมชมในชีวิตจริง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นโอกาสทางด้านธุรกิจที่คุณสามารถนำมาดัดแปลงให้ดียิ่งขึ้นได้
นอกจากนี้คุณยังสามารถจับคู่เทคโนโลยีนี้กับชุดหูฟัง AR/VR เช่น Apple Vision Pro เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น