
สำหรับคนที่มีแผนจะเปลี่ยนไอโฟนใหม่ไม่ว่าจะเป็นสาวก Apple เองหรือชาว Android ย้ายมา Apple เองก็ดี หลังจากที่ซื้อไอโฟนเครื่องใหม่แล้วก็จำเป็นจะต้องหาอุปกรณ์เสริมมาใช้ควบคู่กัน ซึ่งสำหรับสาวกไอโฟนคงไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรมากมาย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกครั้งหลังจากที่อัพเกรดไอโฟนทุกครั้ง แต่สำหรับชาว Android ที่พึ่งย้ายมาบางคนอาจจะไม่รู้ว่าอุปกรณ์เสริมไอโฟนที่ควรมีนั้นมีอะไรบ้างวันนี้เราเลยจะมาแนะนำอุปกรณ์เสริมไอโฟนให้กับเพื่อน ๆ กันว่าควรจะต้องมีอะไรบ้าง
1. เคสที่รองรับ MagSafe

สิ่งแรกเลยที่จะต้องมีซึ่งขาดไปไม่ได้เลยก็คือเคส ซึ่งเคสที่จะเลือกซื้อนั้นควรจะรองรับการชาร์จแบบไร้สายหรือ MagSafe ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานความสามารถของตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่ โดยเคสแบรนด์ดัง ๆ ต่าง ๆ ก็ได้วางขายเคสอยู่หลากหลายรูปแบบ แต่บางแบบก็ไม่รองรับ MagSafe ทำให้ต้องพิจารณาเรามีความคิดที่จะใช้งานการชาร์จแบบไร้สายไหม ถ้ามีความคิดบ้างหรืออยากเผื่อเอาไว้ก็ควรจะเลือกหาเคสที่รองรับ MagSafe ด้วยจะดีที่สุด โดยเราได้เคยทำบทความแนะนำเอาไว้แล้วสามารถเข้าไปดูได้เลย – 10 แบรนด์เคส iPhone 12 กันกระแทก ดีไซน์สวย รองรับชาร์จไร้สาย
2. แท่นชาร์จ MagSafe

ไหน ๆ ไอโฟนรุ่นใหม่ทุกรุ่นก็รองรับ MagSafe แล้ว ก็ควรจะมีแท่นชาร์จไร้สาย MagSafe Charger ไปใช้งานคู่กันด้วย ซึ่งเจ้าแท่นชาร์จไร้สาย MagSafe Charger นี้ยังใช้เป็นแท่นชาร์จไร้สายให้กับ iPhone รุ่นก่อนหน้าที่รองรับการชาร์จไร้สาย รวมถึงพวก AirPods ได้ด้วย ส่วนปลายสายจะเป็นแบบ USB-C สามารถนำไปใช้กับอะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C ทั่วไปได้เลย
3. อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C 20W

ใน iPhone 12 นั้น Apple ไม่ได้ให้อะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ในกล่องเนื่องจาก Apple มองว่าผู้ใช้สามารถนำอะแดปเตอร์ที่ตนเองมีอยู่แล้วมาใช้ได้เลย แต่สำหรับผู้ใช้ใหม่หรือคนที่อัพเกรดจาก iPhone รุ่นเก่ามาย่อมต้องไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จที่เหมาะสมแน่ ๆ ซึ่ง Apple ก็ได้ทำการวางขายอะแดปเตอร์ชาร์จที่รองรับการข่ายไฟได้สุงสุดถึง 20W เอาไว้ให้แล้วในราคา 690 บาท แต่หากใครที่มองว่ามันยังแพงไปก็สามารถไปหาอะแดปเตอร์ชาร์จของ Third Party อย่าง ZMI หรือ Aukey เป็นต้นมาใช้แทนกันได้ ซึ่งพวกนี้จะได้ราคาที่ถูกกว่าอย่างแน่นอน
4. หูฟัง EarPods หัว Lightning หรือหูฟังไร้สาย

อุปกรณ์อีกชิ้นที่ Apple ไม่ได้ใส่เข้ามาในกล่อง ซึ่งหูฟัง EarPods หัว Lightning นี้ก็ไม่ได้ราคาแพงมาก (690 บาทเท่านั้น) จะซื้อเพิ่มก็ได้หรือจะซื้อเป็น AirPods แทนเลยก็ได้ ซึ่งหูฟังไร้สาย AirPods ของ Apple นั้นจะมีจุดเด่นอยู่ที่เสียงแบบกลาง ๆ แถมไมโครโฟนก็รับเสียงได้ดีอีกด้วย (แต่ราคาก็พอสมควร) หรือจะไปหาซื้อหูฟังไร้สายยี่ห้ออื่นมาใช้ก็ได้เช่นกัน เพื่อความสะดวกและสบายกระเป๋าของทุก ๆ คน
5. สายแปลงจาก Lightning เป็นช่อง 3.5 มม.

สำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้งาน iPhone 12 ร่วมกับหูฟัง หรืออุปกรณ์ที่ใช้แจ็คเสียงแบบ 3.5 มม. นี่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ควรมีติดกระเป๋าไว้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็น่าจะเป็นที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เนื่องจาก Apple ได้วางขายมาตั้งแต่ตอนเปิดตัว iPhone 7 ที่เป็น iPhone รุ่นแรกที่ถูกตัดช่อง 3.5 มม. ออก โดยจะวางขายในราคา 390 บาทเท่านั้น
สรุปอุปกรณ์เสริมไอโฟนที่จำเป็นจริง ๆ มีอะไรบ้าง
อุปกรณ์เสริมไอโฟนที่ควรจะต้องซื้อให้ได้ก่อนเป็นอย่างแรกเลยก็คือเคสและอะแดปเตอร์ชาร์จ 20W เนื่องด้วยเคสสามารถช่วยปกป้องไอโฟนเครื่องใหม่ของเราได้ (รวมถึงปกป้องมือเราด้วย) เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุบังเอิญทำเครื่องหลุดมือตอนไหน ส่วนอะแดปเตอร์ชาร์จก็จำเป็นเพราะหากไม่มีแล้วเราจะชาร์จมือถือเราได้อย่างไร (ยกเว้นคนที่มีอะแดปปเตอร์ระบบ PD อยู่แล้ว) 2 สิ่งนี้คือของที่ต้องซื้อมาพร้อม ๆ หหรือหลังจากซื้อเครื่องมาทันที
ส่วนอีกสิ่งที่จะซื้อตอนไหนก็ได้ก็คือหูฟัง เพราะเดี๋ยวนี้หูฟังแบบไร้สายก็มีให้เลือกมากมาย ราคาก็แสนถูก จะซื้อมาใช้ไปยาว ๆ หรือจะเอามาใช้แทนชั่วคราวจนกว่า AirPods จะลดราคาถึงจุดที่พอใจก่อนก็ยังได้ แต่หากเพื่อน ๆ เป็นคนประเภทใช้งานหูฟังแบบต่อสายแล้วการซื้อหัวแปลงมาก็ไม่ใช่เรื่องแย่ เพราะจะช่วยให้เราเอาหูฟังยี่ห้อไหนมาใช้ร่วมกันก็ได้นั่นเอง