10 มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นและราคาไม่เกิน 5000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS True dtac คุ้มมากบอกเลย
ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนในยุคนี้ การพัฒนาตัวเครื่องมาให้ใช้งาน 5G ได้นั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่เท่าไหร่แล้ว สำหรับรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังทยอยเปิดตัวออกมา ไม่เพียงแต่จะเป็นมือถือของ Android อย่างเดียวเท่านั้น แต่รุ่นเล็กหรือรุ่นเริ่มต้นของ Apple ในตอนนี้ก็สามารถใช้งาน 5G ได้แล้วเช่นกัน สิ่งที่หนึ่งที่ต้องยอมรับสำหรับมือถือ 5G ก็คือถ้าเป็นรุ่นระดับเรือธง ก็มักจะมีราคาที่สูงลิ่วขึ้นไปเลย แต่ถ้าเป็นรุ่นระดับกลางๆ ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีการลดสเปคภายในอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกล้อง หรือส่วนประกอบอื่นๆ ที่จะไม่ได้เหมือนกับตัว 4G ในรุ่นเดียวกัน (ไม่รวมรุ่นโปร หรือรุ่นทำแยกที่มีอยู่แล้ว) และแน่นอนว่ามือถือระดับกลางที่ใช้งาน 5G ได้ ก็จะมีราคาอยู่ที่ประมาณแตะหมื่นไปจนถึงหมื่นกว่าบาทกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ 5G ในราคาเบาๆ เราแนะนำว่าให้ซื้อมือถือร่วมกับแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H หรือ dtac ที่ได้มีการลดราคามือถือ เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจต่างๆ ที่ค่ายกำหนด ก็จะได้มือถือที่มีราคาถูกลงกว่าเดิมเยอะมาก และยังได้โปรเน็ต 5G ดีๆ มาใช้งานร่วมด้วย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 10 มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H หรือ dtac ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
- 5 มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H, dtac
- 5 มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H, dtac
10 มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H, dtac
สำหรับมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทที่เราจะมาแนะนำทั้ง 10 รุ่นในวันนี้ เราจะขอแบ่งรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 5,000 บาทไว้ 5 รุ่นกับรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาทอีก 5 รุ่น โดยราคาของทุกรุ่นนั้นจะเป็นราคาเครื่อง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจากค่ายใดค่ายหนึ่งจากทั้ง 3 ค่ายคือ AIS, Truemove H หรือ dtac และเราจะหาราคาเครื่องที่มีราคาถูกที่สุดจากทุกค่ายมาแนะนำเลย ที่สำคัญก็คือเครื่องที่มีการลดราคาเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจเหล่านี้ จะต้องดูเงื่อนไขและโปรโมชั่นที่แต่ละค่ายกำหนดด้วย ส่วนใหญ่แล้วเมื่อลดราคาเครื่องลงไปเยอะ ก็จะมีราคาแพ็กเกจที่ต้องจ่ายต่อเดือนในราคาที่สูงตามไปด้วยนั่นเอง พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย
5 มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H, dtac
1. Samsung Galaxy A53 5G: ราคาเริ่มต้น 6,490 บาท
เริ่มต้นกันด้วยมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นรุ่นแรกกันก่อนเลย ที่รุ่นนี้ก็เป็นมือถือจาก Samsung ที่เปิดตัวออกมาใหม่ล่าสุดเลยด้วย แถมยังมีราคาเปิดตัวเบาๆ ที่ 14,499 บาทเท่านั้น ที่มีการดีไซน์โมดูลกล้องหลังเป็นแบบ Ambient Edge ดูสวยงามเข้ากับฝาหลังมากขึ้น ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วพร้อมกับอัตรา Refresh Rate 120Hz ทำให้ได้สีสันคมชัดและยังเล่นได้แบบไหลลื่นอีกด้วย แน่นอนว่ารุ่นนี้รองรับการใช้งาน 5G และเสริมความแรงด้วยชิป Exynos 1280 รุ่นใหม่ที่เร็วถึง 2.4GHz, 2GHz ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้จะมี 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP ที่มีกันสั่น OIS อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP จะถ่ายมุมไหนก็สวยได้ดั่งใจ และยังได้กล้องหน้ามาเซลฟี่แบบชัดๆ ที่ความละเอียด 32MP เล่นได้ยาวนานทั้งวันเพราะแบตอึด 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน (ดูสเปคเต็มที่นี่) ส่วนค่ายที่มีราคาเครื่องถูกที่สุดก็คือ dtac ที่เริ่มต้นเพียง 6,490 บาทเท่านั้น ในขณะที่ AIS และ Truemove H จะมีราคาเริ่มต้นเท่ากันคือ 7,489 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
2. iPhone SE (รุ่นที่ 3): ราคาเริ่มต้น 6,200 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นที่มาทางฝั่งของ Apple กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เปิดตัวออกมาล่าสุดในราคาเริ่มต้น 15,900 บาท ที่เป็นรุ่นเล็กสเปคแรง เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานมือถือ iOS ที่มีราคาประหยัดคุ้มค่า ด้วยหน้าจอที่เป็นแบบ Retina HD แบบ LCD กว้าง 4.7 นิ้วพร้อมกับการดีไซน์สุดคลาสสิคที่ยังมี Touch ID อยู่บนตัวเครื่อง แต่ได้อัดความแรงด้วยชิป Apple A15 Bionic แบบเดียวกับ iPhone 13 เลยด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้ด้วยความเร็วไหลลื่น และใช้งาน 5G ได้เรียบร้อยเหมือนกับรุ่นใหญ่เลย แต่รุ่นนี้จะมีแบตที่ค่อนข้างหมดเร็วนิดหน่อย จึงอาจจะต้องซื้ออะแดปเตอร์ 20W มาช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้นด้วย ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้องตัวเดียวที่ความละเอียด 12MP และกล้องหน้า 7MP ถ่ายได้แบบ HDR อัจฉริยะ 4 และ Deep Fusion พร้อมฟีเจอร์ “สไตล์ภาพถ่าย” ได้แบบสวยงามสุดๆ ส่วนราคาเริ่มต้นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจของ dtac จะมีราคาถูกที่สุดที่ 6,200 บาท ส่วน AIS จะเริ่มต้นที่ 6,900 บาท และ Truemove H เริ่มต้นที่ 6,899 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
3. realme 9 Pro+: ราคาเริ่มต้น 6,490 บาท
มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจรุ่นต่อมานี้ เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาในเดือนมีนาคมนี้เช่นเดียวกัน มีราคาปกติอยู่ที่ 12,999 บาท โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มีความเบาบาง และเน้นความเร็วแรงพร้อมหน้าจอที่มีสีสันคมชัด ด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED กว้าง 6.4 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย และยังได้ความแรงจากชิป Dimensity 920 5G ที่สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นพร้อมการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม ส่วนกล้องหลังจะมีอยู่ 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP และชัดลึก 2MP ที่มีกันสั่น OIS ของ Sony IMX766 ช่วยให้การถ่ายรูปนั้นดีขึ้น สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ที่เซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมีแบต 4,500 mAh รองรับ SuperDart Charge 60W ชาร์จกลับมาเต็มได้ไวมากๆ ราคาเครื่องเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก dtac จะเริ่มต้นที่ 6,490 บาท และของ Truemove H ที่ต่างกันนิดหน่อยที่ราคาเริ่มต้น 6,499 บาทเท่านั้น ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ Truemove H, dtac
4. OPPO Reno7 Z 5G: ราคาเริ่มต้น 5,290 บาท
มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจอีกหนึ่งรุ่น ที่ได้เปิดตัวออกมาใหม่ล่าสุดในเดือนนี้เช่นกัน โดยรุ่นนี้จะมีราคาปกติ 12,990 บาท การดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นนี้ทำออกมาได้สวยมากจริงๆ แถมกล้องหลังยังมีแสง Dual Orbit Lights รอบเลนส์เพิ่มความสวยมากขึ้นไปอีก หน้าจอจะเป็นแบบAMOLED กว้าง 6.4 นิ้วดูหนังหรือเล่นเกมคมชัด มาพร้อมกับชิป Snapdragon 695 5G ที่เล่นได้แบบไม่มีสะดุด กับกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 64MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ที่พร้อมให้ถ่ายได้ทุกสถานการณ์ ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 16MP ที่ถ่ายได้ระดับ HDR และยังมี AI ช่วยให้เซลฟี่ได้ดีมากขึ้นด้วย ไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดไวด้วยความจุ 4,500 mAh รองรับ SuperVOOC 33W ที่ชาร์จกลับมาเต็มได้ในเวลาเพียง 63 นาทีเท่านั้น รุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นจาก dtac ที่ 5,290 บาท ส่วนของ Truemove H และ AIS มีราคาเริ่มต้นเท่ากันที่ 6,290 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
5. vivo V23 5G: ราคาเริ่มต้น 7,490 บาท
ปิดท้ายด้วยมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก vivo ที่มีราคาปกติ 17,999 บาท และเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ครบทุกด้าน เหมาะกับสายเซลฟี่ที่สุดแล้ว โดยจะมีหน้าจอที่เป็นแบบ AMOLED ระดับ HDR 10+ กว้าง 6.44 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้แบบลื่นๆ อีกทั้งยังได้ความแรงของชิป Dimensity 920 5G กับความจำ RAM มากถึง 12GB หายห่วงเรื่องเล่นเกมหรือการใช้งานไปได้เลย ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายได้ครอบคลุมทุกมุม จุดเด่นของรุ่นนี้คือกล้องหน้า 2 ตัวที่ความละเอียดหลักมากถึง 50MP และตัวรองอีก 8MP สายเซลฟี่หรือทำคอนเทนต์ต้องไม่พลาดเลยสำหรับรุ่นนี้ สุดท้ายคือความจุแบต 4,200 mAh รองรับ Fast Charging 44W มีราคาเริ่มต้นจาก dtac ที่ 7,490 บาท Truemove H เริ่มที่ 8,989 บาท และของ AIS เริ่มที่ 9,989 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
5 มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H, dtac
1. realme 9 Pro: ราคาเริ่มต้น 3,490 บาท
มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นและไม่เกิน 5,000 บาทรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งในซีรีส์ 9 Pro ของ realme ที่มีดีไซน์คล้ายๆ กัน แต่ว่ารุ่นนี้จะมีหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD กว้าง 6.6 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz ไถหน้าจอได้สมูธกว่า และมีความแรงของชิป Snapdragon 695 รองรับการใช้งาน 5G และเล่นได้แบบไหลลื่นทุกการใช้งาน ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายรูปได้สวยงามเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมุมไหนหรือช่วงเวลาใดก็ถ่ายได้ดีมาก กล้องหน้าจะมีความละเอียด 16MP เหมือนกัน แต่รุ่นนี้มีแบตอึดจัดที่ 5,000 mAh รองรับ Dart Charge 33W ใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน มีราคาเริ่มต้นจาก dtac ที่ 3,490 บาทและจาก Truemove H เริ่มต้นที่ 3,499 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ Truemove H, dtac
2. Redmi Note 11 Pro 5G: ราคาเริ่มต้น 3,490 บาท
มาทางฝั่งของมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจของ Redmi กันบ้างที่รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งรุ่นที่ไม่ธรรมดาเลย ทั้งหน้าจอที่เป็นแบบ Super AMOLED ระดับ HDR 10 กว้างมากถึง 6.67 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz และยังมีความแรงของ Snapdragon 695 5G เป็นตัวชูโรงให้รุ่นนี้เล่นเกมได้สบายๆ ไม่เพียงแต่มีสเปคชิปที่แรง เรื่องการถ่ายรูปก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าคนอื่นๆ ด้วยกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายได้ชัดเหนือใครในหลายๆ มุมมอง ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจหายห่วง อีกทั้งยังมีแบตอึดมากๆ ที่ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 67W รุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นจาก dtac 3,490 บาทและจาก Truemove H เริ่มที่ 4,489 บาท แต่ว่าของ AIS จะเกินมาหน่อยเริ่มที่ 5,190 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
3. vivo Y76 5G: ราคาเริ่มต้น 2,499 บาท
มือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจรุ่นต่อมา เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว แต่สเปคก็ยังคงใช้งานได้ดีและมีราคาประหยัด ด้วยหน้าจอที่เป็นแบบ IPS LCD กว้าง 6.58 นิ้ว ยังได้เสริมความแรงมาด้วยชิป Dimensity 700 5G ที่ใช้งาน 5G ได้ พร้อมกับฟีเจอร์ Extended RAM ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิ RAM ได้อีก 4GB (จาก 8GB) ส่วนกล้องหลังจะมี 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ที่มีโหมดถ่ายกลางคืน และฟีเจอร์กันสั่นช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งมากขึ้น กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP พร้อม AI ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามมากยิ่งขึ้น กับโหมดลูกเล่นอีกเยอะมาก ส่วนแบตมีความจุ 4,100 mAh รองรับ FlashCharge 44W รุ่นนี้มีราคาจาก Truemove H เริ่มต้นที่ 2,499 บาท ส่วน dtac เริ่มต้นที่ 3,490 และ AIS เริ่มที่ 3,989 บาทเท่านั้น ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
4. vivo V23e 5G: ราคาเริ่มต้น 2,989 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจของ vivo อีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานมาก ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังเหมาะกับคนที่ชอบเซลฟี่เป็นอย่างมาก หน้าจอรุ่นนี้จะเป็นแบบ AMOLED กว้าง 6.44 นิ้วพร้อมกับชิปประมวลผล Dimensity 810 เล่นเกมหรือว่าจะใช้งานทั่วไปก็ทำได้แบบสบายๆ ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP คล้ายกับรุ่นด้านบน แต่รุ่นนี้สามารถถ่ายรายละเอียดและมุมมองได้ดีกว่า รวมไปถึงกล้องหน้าตัวเด็ดที่มีความละเอียดถึง 44MP เซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ สวยทุกมุมมองและทุกเวลา แถมยังโฟกัสตาขณะเซลฟี่ทำหน้าชัดหลังเบลอได้แบบเนียนๆ ส่วนแบตมีความจุที่ 4,050 mAh รองรับ Fast Charging 44W ชาร์จกลับมา 69% ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น รุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นจาก Truemove H ที่ 2,989 บาท ส่วนของ dtac เริ่มที่ 3,790 บาทและจาก AIS เริ่มที่ 4,289 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ AIS, Truemove H, dtac
5. INFINIX Zero 5G: ราคาเริ่มต้น 1,999 บาท
ปิดท้ายกันด้วยมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทสุดประหยัดรุ่นนี้ ที่เป็นมือถือ 5G รุ่นแรกของ INFINIX เลยด้วย แถมยังมีสเปคที่จัดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่เป็นแบบ IPS LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz เล่นเกมหรือดูหนังได้เต็มตาด้วยหน้าจอที่ใหญ่มากๆ รุ่นนี้ยังได้ชิป Dimensity 900 5G มาเสริมความแรงพร้อมกับฟีเจอร์ Extended RAM เพิ่มประสิทธิ RAM ได้อีก 3GB (จาก 8GB) ใช้งานได้ไม่มีสะดุด ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP เทเลโฟโต้ 13MP และชัดลึก 2MP ซูมได้มากถึง 30 เท่าและยังเห็นรายละเอียดชัดเจนอยู่ ถ่ายเวลาไหนก็เก็บรายละเอียดได้ครบ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP พร้อม AI ที่ช่วยให้เซลฟี่ได้สวยทุกเวลา และยังมีแบตอึดที่ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 33W เล่นเกมได้ยาวๆ เพราะมีระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม ราคาเริ่มต้นจาก Truemove H คือ 1,999 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่ Truemove H
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่น และไม่เกิน 5,000 บาทเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจจาก AIS, Truemove H และ dtac ทั้งหมด 10 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยแต่ละรุ่นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมือถือระดับกลางๆ ที่ราคาปกติก็อยู่เพียงหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น แต่ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจก็จะยิ่งคุ้มขึ้นไปอีก เพราะจะได้ทั้งราคาตัวเครื่องที่ลดแบบสุดโหด และยังได้ใช้แพ็กเกจ 5G mมีความเร็วแรงจากค่ายต่างๆ อีกด้วย ใครที่อยากลองใช้งานบนความเร็ว 5G ถ้าไม่ได้มีแพ็กเกจที่ใช้อยู่แล้ว ก็แนะนำว่าให้ซื้อพร้อมแพ็กเกจไปเลยจะคุ้มที่สุดแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขทั้งหมดก่อนสั่งซื้อด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ