PUBG คือหนึ่งในเกม Battle Royale เปิดตลาดที่ได้รับความนิยมสูงอีกทั้งยังมีการแข่งแบบโปรลีคอีกด้วย ซึ่ง PUBG นี้ก็มีบนมือถือเช่นกันในชื่อ PUBG Mobile ซึ่งมันก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน และด้วยความที่เป็นเกม Battle Royale ทำให้ต้องใช้พลังในการประมวลผลพอสมควร ทำให้ต้องใช้ชิปประมวลผลที่แรงในระดับหนึ่งถึงจะเล่นได้ วันนี้ทีมงาน Specphone จะมาแนะนำมือถือเล่นเกม PUBG ลื่น ๆ หลากหลายช่วงราคาให้เพื่อน ๆ ได้เอาไปใช้เป็นตัวเลือกกัน โดยจะมีรุ่นไหนบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
- ตั้งค่าเกม PUBG ยังไงให้ลื่น
- มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่เกิน 5,000 บาท
- มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่เกิน 10,000 บาท
- มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่ไม่จำกัด
ตั้งค่าเกม PUBG ยังไงให้ลื่น
ก่อนที่จะไปแนะนำมือถือเล่นเกม PUBG เราขอมาอธิบายถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ของเกม PUBG Mobile กันก่อน โดยวิธรการตั้งค่าให้เล่นได้ลื่น ๆ สามารถทำได้ดังนี้
ตั้งค่าภาพยิ่งต่ำยิ่งดี
จริงอยู่ว่ามือถือในสมัยนี้หากไม่ใช้มือถือรุ่นเริ่มต้นที่เน้นราคาประหยัดจริง ๆ ไม่ว่ารุ่นไหนก็เล่นได้แต่ก็ใช้ว่าจะปรับภาพให้สูงสุดได้ทุกเครื่อง ในที่นี่ที่บอกว่าปรับภาพยิ่งต่ำยิ่งดีไม่ได้หมายความว่าจะต้องปรับให้เป็นต่ำสุดทุกเครื่อง แต่ให้ปรับลงมาถึงจุดที่รู้สึกว่าลื่นจริง ๆ (สำหรับชิประดับเรือธงจริง ๆ ถึงปรับสุดก็ลื่น แต่เครื่องจะร้อนเร็ว แถมแบตก็หมดเร็วด้วย)
เฟรมเรทมีเท่าไหร่เปิดให้สุด
เฟรมเรทคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความลื่นในการเล่น ยิ่งเฟรมเรทสูงก็จะยิ่งเล่นได้ดียิ่งขึ้น เทียบง่าย ๆ มันก็เหมือนกับการเล่นเกมที่ 30 FPS กับ 60 FPS นั้นเอง แต่ก็ต้องระวังเอาไว้ด้วยสำหรับเพื่อน ๆ ที่เล่นนอกบ้านหรือต้องใช้งานมือถือไปตลอดวันอาจจะทำให้แบตเตอรี่หายวับได้ ซึ่งเฟรมเรทนี้สูงวุดที่มือถือจะทำได้คือ Extreme ยกเว้นบางเครื่อง (OnePlus) ที่จะมีโหมด 90 FPS เพิ่มเข้ามาด้วย
เลือกโหมดภาพให้เหมาะกับตัวเอง
ภาพในเกม PUBG เป็นอะไรที่ค่อนข้างหลากหลายเพราะสามารถปรับได้ถึง 3 รูปแบบ ในขณะที่หลาย ๆ เกมไม่มีให้ปรับตรงนี้ โดยรูปแบบของภาพจะมีทั้งหมด 3 รูปแบบคือ Classic, Colorful และ Realistic ซึ่งจุดนี้แนะนำให้ตั้งค่าเป็น Classic เพื่อความลื่นไหลของการเล่นและประหยัดทรัพยากรของเครื่องนั้นเอง
ปิดลบรอยหยักไปซะ
ใครที่เคยเล่นเกม PC น่าจะรู้จักกับเจ้าตัว Anti-Alising หรือ AA กันเป็นอย่างดีซึ่งปกติเวลาที่เราเล่นเกมบน PC แล้วรู้สึกว่ามันไม่ลื่นเราก็มักจะไปปิดตรงส่วนนี้ออกก็จะพบกับความลื่นไหลขึ้นมาทันที ซึ่งการตั้งค่าในส่วนนี้ก็สามารถนำมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้เช่นเดียวกัน
มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่เกิน 5,000 บาท
realme Narzo 30A | POCO M3 | Xiaomi Redmi 9T | |
---|---|---|---|
ขนาด | 164.50 x 75.90 x 9.80 มิลลิเมตร | 162.30 x 77.30 x 9.60 มิลลิเมตร | 162.30 x 77.30 x 9.60 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 205 กรัม | 198 กรัม | 198 กรัม |
หน้าจอ | IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว 1600 x 720 พิกเซล | IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว 2340 x 1080 พิกเซล | IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว 2340 x 1080 พิกเซล |
ชิปประมวลผล | MediaTek Helio G85 | Qualcomm Snapdragon 662 | Qualcomm Snapdragon 662 |
แรม | 4 GB | 4 GB | 4 GB |
หน่วยความจำ | 64 GB | 128 GB | 64 GB |
กล้องหลัง | 13MP f/2.2 (main) 2MP f/2.4 (B/W) | 48 MP f/1.8 (main) 2 MP f/2.4 (macro) 2 MP f/2.4 (depth) | 48 MP f/1.8 (main) 8MP f/2.2 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (macro) 2 MP f/2.4 (depth) |
กล้องหน้า | 8MP f/2.0 | 8MP f/2.1 | 8MP f/2.0 |
แบตเตอรี่ | 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 18W | 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 18W | 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 18W |
ราคา | 4,599 บาท | 4,999 บาท | 4,499 บาท |
1. realme Narzo 30A
สำหรับมือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 5,000 บาทตัวแรกที่ต้องนึกถึงเลยก็คือ realme Narzo 30A มือถือเกมมิ่งราคาประหยัดตัวล่าสุดของ realme ที่ออกมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์งบน้อย ด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio G85 กับแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh ในราคาแค่ 4,599 บาท เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวคุ้มเลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลเล็กน้อย เพราะได้มาแค่ 64GB เท่านั้น โดยสำหรับเกม PUBG Mobile แล้ว ชิปประมวลผล Helio G85 นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สุงสุดที่ HD เฟรมเรท High แต่หากปรับกราฟิกเป็น Smooth จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทเป็น Ultra ได้นั่นเอง
2. Poco M3
อีกตัวหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ POCO M3 มือถือเกมมิ่งตัวคุ้มจาก POCO ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการมือถือดี ๆ ในราคาประหยัด ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 662 หน่วยความจำที่มากถึง 128GB และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh ทำให้สามารถติดตั้งเกมได้เยอะ แถมยังเล่นได้นานอีกด้วย โดยสำหรับเกม PUBG Mobile แล้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 662 นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สุงสุดที่ Balanced เฟรมเรท Medium แต่หากปรับกราฟิกเป็น Smooth จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทเป็น High ได้นั่นเอง
3. Xiaomi Redmi 9T (64GB)
มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทอีกตัวที่น่าสนใจไม่แพ้ realme Narzo 30A เลยก็คือ Xiaomi Redmi 9T มือถือตัวแรงในราคาเบา ๆ ของ Xiaomi ที่อออกมาในราคาที่จับต้องได้ง่ายเพียง 4,499 บาท ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 662 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh ทำให้สามารถเล่นเกมได้หลากหลาย แต่ก็ต้องระวังเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลเล็กน้อย เพราะได้มาแค่ 64GB เท่านั้น โดยสำหรับเกม PUBG Mobile แล้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 662 นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สุงสุดที่ Balanced เฟรมเรท Medium แต่หากปรับกราฟิกเป็น Smooth จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทเป็น High ได้นั่นเอง
สำหรับกลุ่มมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทนี้ โดยส่งนตัวอยากแนะนำให้ปรับกราฟิกเป็น Smooth แล้วเลือกเฟรมเรทที่สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ จะช่วยให้สามารถเล่นได้สบายขึ้น
มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่เกิน 10,000 บาท
OnePlus Nord N10 5G | Realme Narzo 20 Pro | POCO X3 NFC | |
---|---|---|---|
ขนาด | 163.00 x 74.70 x 9.00 มิลลิเมตร | 162.30 x 75.40 x 9.40 มิลลิเมตร | 165.30 x 76.80 x 9.40 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 190 กรัม | 191 กรัม | 215 กรัม |
หน้าจอ | IPS LCD ขนาด 6.49 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz | IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz | IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 690 5G | MediaTek Helio G95 | Qualcomm Snapdragon 732G |
แรม | 6 GB | 8 GB | 6 GB |
หน่วยความจำ | 128 GB | 128 GB | 128 GB |
กล้องหลัง | 64 MP f/1.8 (main) 8 MP f/2.3 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (depth) 2 MP f/2.4 (macro) | 48 MP f/1.8 (main) 8 MP f/2.3 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (depth) 2 MP f/2.4 (macro) | 64 MP f/1.9 (main) 13 MP f/2.2 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (depth) 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องหน้า | 16 MP, f/2.1 | 16 MP, f/2.1 | 20 MP f/2.2 |
แบตเตอรี่ | 4,300 mAh Warp Charge 30T | 4,500 mAh SuperDart Charge 65W | 5,160 mAh ชาร์จเร็ว 33W |
ราคา | 9,990 บาท | 8,499 บาท | 7,999 บาท |
1. OnePlus Nord N10 5G
สำหรับกลุ่มมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาทตัวแรกที่อยากแนะนำเลยก็คือ OnePlus Nord N10 5G ที่เป็นมือถือเปิดตลาดราคาไม่เกิน 10,000 บาทตัวแรกของ OnePlus ซึ่งตัวนี้นับเป็นตัวที่น่าซื้อที่สุดแล้วในกลุ่มราคานี้ เนื่องจาก PUBG Mobile นั้น หากเล่นในมือถือ OnePlus จะสามารถใช้เฟรมเรทสูงระดับ 90Hz ได้นั่นเอง (เมื่อตั้งกราฟิกเป็น Smooth) และด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 690 ทำให้สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดถึง HDR และสามารถเลือกเฟรมเรทได้ถึง Extreme เลยทีเดียว
2. realme Narzo 20 Pro
อีกตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยก็คือ realme Narzo 20 Pro มือถือที่มาพร้อมระบบชาร์จเร็วถึง 65W เป็นมือถือเกมมิ่งที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบเล้นเกมยาว ๆ แถมไม่ชอบชอชาร์จอีกด้วย เพราะเครื่องนี้นอกจากจะชาร์จเร็วแล้วยังสามารถชาร์จไปเล่นไปได้โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมอีกด้วย โดยชิปประมวลผล MediaTek Helio G95 ที่เป็นชิปเกมมิ่งตัวสูงสุดของซีรี่ส์ทำให้สามารถปรับค่ากราฟิกได้สูงสุดที่ HD เฟรมเรท High แต่หากปรับกราฟิกเป็น Smooth ก็จะสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง Ultra เลยทีเดียว
3. POCO X3 NFC
และตัวสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับมือถือเล่นเกมที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท อย่าง POCO X3 NFC มือถือเกมมิ่งที่อัดสเปคมาให้แบบเกินราคาด้วยหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz พร้อมด้วยชิผผระมวลผล Snapdragon 732G และแบตเตอรี่ขนาด 5,160 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 33W ในราคาที่ถูกสุด ๆ แค่ 7,999 บาท ทำให้เป็นหนึ่งในตัวที่น่าซื้อมาก ๆ โดยในเกม PUBG Mobile นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ HD เฟรมเรท High แต่หากปรับกราฟิกเป็น Smooth ก็จะสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง Ultra เลยทีเดียว
มือถือเล่นเกม PUBG ราคาไม่จำกัด
iPhone 12 | ASUS ROG Phone 3 | Samsung Galaxy S21 Ultra 5G | OnePlus 8T 5G | |
---|---|---|---|---|
ขนาด | 146.7 x 71.5 x 7.4 มิลลิเมตร | 171.00 x 78.00 x 9.90 มิลลิเมตร | 165.10 x 75.60 x 8.90 มิลลิเมตร | 160.70 x 74.10 x 8.40 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 164 กรัม | 240 กรัม | 227 กรัม | 188 กรัม |
หน้าจอ | Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว 2532 x 1170 พิกเซล Dolby Vision True-tone Wide color gamut HDR10 | AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 144Hz Touch-Sampling Rate 270Hz HDR10+ | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว 3200 x 1440 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz HDR 10+ รองรับ S Pen | Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz Touch-Sampling Rate 240Hz HDR10+ |
ชิปประมวลผล | Apple A14 Bionic | Qualcomm Snapdragon 865+ | Exynos 2100 | Qualcomm Snapdragon 865 |
แรม | 4 GB | 12 GB | 12 GB / 16 GB | 8GB / 12 GB |
หน่วยความจำ | 64 GB / 128 GB / 256GB | 512 GB | 128 GB / 256 GB / 512 GB | 128 GB / 256 GB |
กล้องหลัง | 12 MP f/1.6 (main) 12 MP f/2.4 (ultrawide) | 64MP f/1.8 (main) 13MP f/2.4 (ultrawide) 5MP f/2.0 (macro) | 108 MP f/1.8 (main) 12 MP f/2.2 (ultrawide) 10 MP f/2.4 (telephoto) 10 MP f/4.9 (periscope telephoto) | 48 MP f/1.7 (main) 16 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (macro) 2 MP f/2.4 (mono) |
กล้องหน้า | 12 MP f/2.2 | 24MP f/2.0 | 40 MP f/2.2 | 16 MP f/2.4 |
แบตเตอรี่ | 2,815 mAh PD 2.0 20W | 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 30W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 25W | 4,500 mAh Warp Charge 65W |
ราคา | 29,900 บาท (64 GB) 31,900 บาท (128 GB) 35,900 บาท (256 GB) | 39,990 บาท | 39,900 บาท (128 GB) 41,900 บาท (256 GB) 45,900 บาท (512 GB) | 24,990 บาท (8/128 GB) 29,990 บาท (12/256 GB) |
1. iPhone 12
หนึ่งในมือถือเล่นเกมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ iPhone เพราะ iPhone คือมือถือที่เล่นเกมแล้วมีความเสถียรมากกว่ามือถือ Android อีกทั้งยังเป็นมือถือที่เหล่าสตรีมเมอร์นิยมใช้กันอย่างมากด้วย โดยในปัจจุบัน iPhone ที่น่าซื้อมาใช้เล่นเกมที่สุดก็คือ iPhone 12 เพราะมันคือ iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A14 Bionic ที่แรงที่สุดในตอนนี้อีกทั้งยังรองรับ 5G ที่ให้ค่า ping น้อยกว่าเดิมด้วย โดยใน PUBG Mobile นั้น iPhone 12 สามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra HD พร้อมเฟรมเรท Ultra เลย แต่หากปรับเป็น Smooth ก็จะสามารถปรับเฟมเรทได้ถึง Extreme เลยทีเดียว (แนะนำให้ปรับ Smooth เพื่อประหยัดแบตเตอรี่นะครับ)
แล้วหากสงสัยว่าทำไมถึงไม่แนะนำเป็น iPhone 12 Pro Max ไปเลย ทั้งได้จอใหญ่กว่าแถมแบตเตอรี่ก็เยอะกว่าด้วย นั่นก็เพราะหากซื้อมาเพื่อเล่นเกมอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องไปใช้ตัวท๊อปก็ได้ เพราะถึงยังไงก็ใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันทั้งหมด สู้ประหยัดเงินส่วนต่างเอาไปซื้ออุปกรณืเสริมหรือเติมเงินเกมสันบสนุนผู้ทำเกมยังจะดีเสียกว่าเลย
2. ASUS ROG Phone 3
หากพูดว่ามือถือเกมมิ่งในปัจจุบัน หลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึงชื่อ ASUS ROG Phone 3 กันแน่นอน ด้วยสเปคแบบจัดเต็มเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมด้วยปุ่มและระบบระบายความร้อนที่พิเศษกว่ามือถือทั่ว ๆ ไป ทำให้สามารถเล่นเกมได้สะดวกสบายกว่าคนอื่น ๆ แย่างแน่นอน ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 865+ พร้อมด้วยหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 144 Hz และมีความเร้วในการตอบสนองต่อการสัมผัสที่สูงถึง 270Hz ทำให้การเล่นเมทำได้ลื่นมือกว่ามือถือตัวอื่น ๆ อีกทั้งด้วยปุ่ม Trigger ยังช่วยให้สามารถเล่นด้วย 4 นิ้วได้โดยไม่ต้องฝึก
3. Samsung Galaxy S21 Ultra 5G
มือถือระดับเรือธงอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มือถือที่มาพร้อมหน้าจอที่สามารถปรับค่ารีเฟรชเรทได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10Hz – 120Hz ช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างสบายตามากขึ้น และด้วยชิปประมวลผล Exynos 2100 ที่อยู่ในเครื่องทำให้สามารถปรับค่ากราฟิกของเกม PUBG ได้สูงถึง HDR HD ทีเฟรมเรท Ultra เลยทีเดียว (หากปรับเป็น Smooth ก็สามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง Extreme เลย) และหากใครที่เป็นคนที่ชอบเล่นแบบต่เนื่องนาน ๆ Galaxy S21 Ultra 5G ตัวนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะตัวเครื่องในรุ่นนี้นั้นสามารถจัดการกับความร้อนได้เป็นอย่างดี แถมความร้อนยังลดลงเร็วด้วย
(จากที่ได้ลองก่อนเล่น PUBG Mobile ได้ลองเล่น RoV มาจนเครื่องร้อนมาก ๆ แล้ว แต่พอเปลี่ยนเล่น PUBG Mobile ต่อเลย ความร้อนกลับค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ปรับกราฟิกเป็น HDR HD อยู่)
4. OnePlus 8T 5G
มือถืออีกตัวที่เหมาะสำหรับคนที่เล่น PUBG Mobile นั่นก็คือ OnePlus 8T (เอาจริง ๆ มือถือของ OnePlus เหมาะจะเอามาเล่น PUBG ทุกเครื่องนั่นแหละ) สำหรับมือถือ OnePlus นั้นมีความพิเศษคือสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง 90Hz เมื่อปรับกราฟิกเป็น Smooth (สูงกว่า Extreme) และด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 865 ยังทำให้สามารถปรับกราฟิกได้สูงถึง Ultra HD อีกด้วย ถึงแม้จะไม่สามารถเลือกค่าเฟรมเรทเองได้ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้เล่นที่กราฟิก Smooth มากกว่า เพราะหากใช้เฟรมเรทที่ 90Hz แล้วจะช่วยให้การเล่นเกมทำได้ลื่นไหลขึ้นนั่นเอง
ทั้ง 10 เครื่องที่ว่ามานี้คือมือถือเล่นเกมที่ทางทีมงาน Specphone มองว่าน่าสนใจ ไม่ว่าจะด้วยสเปคของเครื่องหรือราคาของเครื่องก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเอามาเล่นกับเกม PUBG Mobile แล้ว การเล่นให้ลื่นที่สุดคือเป้าหมายหลัง ๆ ในการเลือกซื้อมือถือเลย ซึ่งมือถือ OnePlus นั้นถือเป็นกรณีพิเศาที่สามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง 90Hz ทำให้ได้เปรียบกว่ามือถืออื่น ๆ (ยกเว้น ROG Phone 3 ที่มีปุ่มพิเศษอะนะ)