คงต้องยอมรับนะครับว่ากระแสสินค้าของ Apple นี่มันแรงจริงๆ เพราะนาทีไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็จะเจอแต่คำถามที่เกี่ยวข้องกับ iPad 2 ที่ได้ทำการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่อเมริกาในวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นคนที่มี iPad รุ่นแรกอยู่แล้ว แต่ใจนึกอยากจะอัพเกรดให้เป็น iPad 2 หรือใครก็ตามที่ยังไม่เคยใช้แท็บเล็ตมาก่อน แต่เห็นว่าช่วงนี้ iPad รุ่นแรกลดราคาลง ทำให้อยากได้แท็บเล็ตมาครอบครองไว้บ้าง ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาหาคำตอบกัน เกี่ยวการซื้อหา iPad / iPad 2 ว่าอย่างไหนคุ้มกว่ากัน น่าลงทุนหรือเปล่าที่จะถอยมาใช้งานกัน ก่อนหน้านั้นไปลองอ่านรีวิว iPad 2 กันได้ อ่านต่อที่นี่
เทียบกันหมัดต่อหมัด จุดต่อจุด!!!
โดยเราจะมาดูในส่วนของที่เหมือนกันเสียก่อน อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่าขนาดหน้าจอของ iPad / iPad 2 มีขนาดหน้าจอที่เท่ากัน คือ 9.7 นิ้ว รวมไปถึงความละเอียดของจอก็ยังเท่าเดิมที่?1024 x 768 พิกเซล อีกทั้งยังเป็น LED Backlit และพาเนลจอเเบบ IPS เหมือนกัน ที่ทำให้ความคมชัดที่ดีกว่าพาเนลจอแสดงผลเเบบทั่วไป?ซึ่งในส่วนนี้สรุปได้ว่าความสามารถในการแสดงผลยังคงเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้ไม่ใช่ปัจจัยในการเปรียบเทียบมากนัก
ถัดมาคงเป็นในเรื่องของการดีไซน์ออกแบบที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดระหว่าง iPad / iPad 2 คือ 8.8 มม. / 13.4?มม.?แต่ก็ยังคงใช้วัสดุเดิมในการผลิตก็คือ?Aluminium Unibody ที่มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานเช่นเดิม นอกเหนือจากนี้ที่ต่่างกันคือ iPad 2 เบาลงเล็กน้อย และตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง โดยขอบระหว่าจอกับกรอบนั้นเเคบลงกว่าเดิมเมื่อเทียบ iPad รุ่นแรก โดยรวมถึงว่าหน้าตาเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเท่านั้น รวมไปถึง iPad 2 ยังมีทั้งสีดำและสีขาวให้เลือก ซึ่งถือได้ว่าหากใครชอบสีขาวแล้ว คำตอบเดียวที่ได้คงเป็น iPad 2
ต่อมาคงจะเป็นในส่วนของเรื่องกล้องทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ที่มีการเพิ่มเข้ามาใน iPad 2 แต่ก็บอกได้ตรงนี้เลยว่าคุณภาพของกล้องก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ใช้ในการ Facetime เป็นหลักเท่านั้น ซึ่งใครหากคิดว่าซื้อ iPad 2 เพื่อจะได้กล้องดิจิตอลประสิทธิภาพดีเพิ่มขึ้นมาอีกซักตัวแล้ว
บอกได้ตรงนี้เลยครับว่าคิดผิด เพราะฉะนั้นแล้วหากใครที่จะซื้อ iPad 2 เพราะมีกล้องเพิ่มเข้ามาอย่างที่ iPad รุ่นแรกไม่มีแล้วล่ะก็ คงไว้ใช้ Facetime อย่างเดียวก็แล้วกันครับ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ อ่านต่อที่นี่ อีกอย่างนึงที่มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ก็คือลำโพงใน iPad 2 ซึ่งนั่นคงเป็นเพราะตัวลำโพงเองมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นนั่นเองครับ
ที่เปลี่ยนไปจริงๆ คือสเปกที่แรงขึ้น!!!
สำหรับที่ว่าแตกต่างอย่างวัดผลได้จริงๆ คงหนีไม่ผลเรื่องของสเปกที่ iPad 2 ดีกว่า iPad รุ่นแรกเอามากๆ แน่นอนว่าด้วยความที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Apple A5?ที่เป็น Dual Core ความเร็วที่ 900 MHz ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า และชิปกราฟฟิกรุ่นใหม่ล่าสุด คือ PowerVR SGX 543?ที่แรงกว่าเดิมถึง 9 เท่า ทำให้เราสามารถสัมผัสกับความลื่นหรือกราฟฟิก 3D ที่ดีกว่าเดิมได้ทันที
อีกทั้งแรมในตัวที่ให้มายังเป็นรุ่นใหม่ LPDDR2 RAM?ที่มีขนาดถึง 512 MB เทียบเท่ากับ iPad รุ่นแรก ที่ให้มาเพียง 256 MB เท่านั้น เรียกได้ว่าน่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุดใน iPad 2 เลยทีเดียว
ทดสอบด้วยโปรแกรม GLBenchmark 2.0 ที่จะดูถึงเงาของวัตถุ รายละเอียดต่างๆ สีสัน พื้นผิว
ซึ่งผลคะแนนที่ออกมานั้นจะเห็นเลยว่า iPad 2 มีคะแนนที่นำโด่งมากทีเดียว
มาดูกันต่อที่เกมที่กินทรัพยากรสุดๆ อย่าง Infinity Blade?โดยภาพด้านบนจะเป็นภาพที่มีจาก iPad รุ่นแรก
และในภาพนี้จะเป็นภาพจาก iPad 2 ที่เราจะเห็นได้เลยว่ามีรายละเอียดของตัวละคร ฉาก พื้นผิวต่างๆ หรือแม้กระทั้งเงา ที่มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงความคมชัดก็เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย
สุดท้ายกับสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน iPad 2 ก็คือ เซ็นเซอร์ Gyroscope ที่จะมาช่วยเพิ่มความสามารถให้กับการใช้งานของแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยที่จะเห็นได้ชัดเจน คงจะเป็นเรื่องของเกมส์ที่จะเล่นได้อย่างสมจริงและเต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ราคาและขนาดความจุ ยังคงเป็นตัวแปร?
แน่นอนว่านอกเหนือจากคุณสมบัติต่างๆ ที่จะเป็นตัวแปรในการตัดสินใจเลือกซื้อ iPad แล้ว ยังมีในส่วนของราคาและขนาดความจุเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถ้าเราดูจากราคาของ iPad รุ่นแรกตอนนี้ที่ได้ลดราคาหลังจากที่มีการเปิดตัว iPad 2 จะเห็นว่า ราคาเริ่มต้นของตัว iPad WiFi 16GB จะอยู่ที่ 12,900 บาท โดยสังเกตได้ว่าหากเราเลือกที่มีความจุที่สูงขึ้น ราคาจะขยับไปทีละ 3,000 บาท และถ้าเป็นความจุเดียวกันแต่เพิ่ม 3G เข้ามาก็จะมีค่าตัวเพิ่มขึ้นที่ 4,000 บาท
- iPad WiFi 16 GB ~ 15,000 บาท
- iPad WiFi 32 GB ~ 18,000 บาท
- iPad WiFi 64 GB ~ 21,000 บาท
- iPad WiFi + 3G 16 GB ~ 19,000 บาท
- iPad WiFi + 3G 32 GB ~ 22,000 บาท
- iPad WiFi + 3G 64 GB ~ 25,000 บาท
ซึ่งเรามาลองดูกันที่ราคา iPad 2 กันบ้าง จะเห็นว่าเมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้ว ส่วนต่างจะอยู่เพียง 2,000 บาท เท่านั้นเอง เรียกได้ว่าหากจะเทียบกับความคุ้มค่าแล้ว เลือกซื้อ iPad 2 ดูถ้าจะดีกว่า iPad รุ่นแรกเห็นๆ ส่วนในเรื่องของความจุแนะนำให้เลือก ที่ความจุที่สูงที่สุดในงบของเราที่จะซื้อได้ เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสินค้าจาก iPhone / iPod / iPad ไม่สามารถที่จะเพิ่มความจุภายนอกได้ ฉะนั้นแล้วหากความจุที่เราซื้อตั้งแต่ตอนแรกไม่พอเพียงสำหรับการใช้งาน เราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย นอกเสียจากจะขายทิ้ง แล้วไปซื้อตัวใหม่ที่มีขนาดความจุที่มากกว่า
สรุปส่งท้ายสำหรับคนอยากโดน iPad 2 !!!
ปิดท้ายกับการเปรียบ iPad / iPad 2 ว่าคุ้มหรือเปล่าที่จะซื้อ รวมไปถึงคนที่ไม่เคยใช้เเท็บเล็ตที่กำลังจะซื้อ คำตอบที่ได้คงมาจากข้อความทั้งหมดด้านบนแล้วก็คือ iPad 2 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แนะนำเลยว่าถ้าไม่รีบก็ควรรอหน่อยกับ iPad 2 ในไทยที่จะเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้วยเพราะเครื่องหิ้วในตอนนี้ราคาแพงกว่า 2 เท่าตัว อ่านต่อที่นี่ ถึงแม้ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะ iPad 2 จะแอบเลื่อน แต่ดูจากข่าวตอนนี้ก็ไม่น่าส่งผลอะไร อ่านต่อที่นี่ ซึ่งฟันธงเอาไว้เลยว่าราคาที่จะจัดจำหน่ายนั้น เท่ากับราคา iPad รุ่นแรกตอนเปิดตัวอย่างแน่นอน
หรือใครก็ตามที่มี iPad รุ่นแรกอยู่ในมือแล้วก็ตาม ก็แนะนำให้ใช้กันไปก่อน ใจเย็นรอ iPad 2 กันซักนิด แต่กรณีที่พอเพียงแล้วกับประสิทธิภาพใน iPad รุ่นแรก ก็ไม่ต้องไปกังวลอยากได้ iPad 2 มาครอบครองนะครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว?ถ้าเคยเป็นเจ้าของ iPad มาก่อนละก็การอัพเกรดครั้งนี้ของ iPad 2 ก็ไม่ได้เพิ่มมาอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่ได้มาคือความเร็วเเละการใช้งานที่ดีกว่าจากซีพียูเเละเเรมที่มากขึ้น ซึ่งจะรู้สึกได้ ก็ต่อเมื่อเรานำไปใช้แอพพลิเคชั่นที่กินทรัพยากรเท่านั้น และแอพพลิเคชั่นที่ว่ามานั้นส่วนมากจะเป็นเกมส์ 3D ทั้งนั้น
ส่วนคนที่ไม่เคยใช้แท็บเล็ตมาก่อน แต่นาทีนี้อยากได้ขึ้นมา Apple iPad ก็ยังเป็นคำตอบที่ดีี่สุดอยู่ดีครับ เพราะด้วยความที่เป็น iOS 4.3 เวอร์ชั่นล่าสุด จึงมีระบบที่ค่อนข้างจะเสถียร อาการค้างต่างๆ ไม่มีให้เห็น รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นก็จัดอยู่ในคุณภาพดี เพราะผ่านการรับรองจากทาง Apple เอง และมีให้เลือกหลากหลายทุกประเภทการใช้งาน อีกทั้งวัสดุดีไซน์ก็จัดอยู่ในระดับสูง แต่มีราคาที่ไม่แพงกว่าแท็บเล็ตเจ้าอื่นๆ ทำให้นับได้ว่าเป็นตัวเลือกเหมาะสมทึ่สุด ประกอบกับผลสำรวจที่ได้มาว่าอยากได้ iPad 2 มากกว่าแท็บเล็ตเจ้าอื่นๆ อ่านต่อที่นี่ ส่วนจะเลือกเป็น iPad รุ่นแรกเลยก็ได้หากรอไม่ไหว แล้วพอ iPad 2 มาอีกทีค่อยปล่อย iPad รุ่นแรกไปก็ได้ ยังไงราคาสินค้าของ Apple ก็ตกไม่มากอยู่แล้วครับ