สวัสดีครับ?แน่นอนว่าสำหรับคอ Facebook ขา Chat ที่มี iPhone อยู่ในมือแล้วนั้น คงจะขาดการเชื่อมต่อออนไลน์ไม่ได้ เพราะต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการอัพเดทสถานะหรือสนทนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการใช้อินเตอร์เน็ตนั้น ต้องอาศัย EDGE / WiFi หรือแม้กระทั้ง 3G และที่รู้กันคือ เมื่อเราเปิดใช้งานการเชื่อมต่อเหล่านั้น ตัว iPhone เอง ก็จะสิ้นเปลืองการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้นกว่าการ Standby ปกติ
จึงเกิดคำถามที่หลายๆ คน ก็ต่างสงสัยว่า “iPhone เปิด Edge / WiFi หรือ 3G อย่างไหน กินแบตเตอรี่มากกว่ากัน!!!” บอกตรงนี้ได้เลยว่า 3G กินแบตเตอรี่ สิ้นเปลืองพลังงานกว่าเห็นๆ (แถมตัวเครื่อง iPhone ยังร้อนจี๋อีกด้วย – -a) เมื่อเทียบการเปิดใช้งาน EDGE และ WiFi เพื่อเล่นอินเตอร์เน็ตออนไลน์ ซึ่งจากการใช้งานจริงและแอพพลิเคชั่น Boost Magic เรียกได้ว่าการ “เปิดใช้งาน 3G นั้น ทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างฮวบฮาบ ก๊อกแตก คิดว่าแบตเตอรี่เสื่อมกันเลยทีเดียว (ฮา)”
ในแอพพลิเคชั่นนี้ยังได้มีการแสดงสถานะอัตราการใช้พลังงานอื่นๆ บอกจากการใช้ WiFi หรือ 3G ด้วยนะครับ
แต่สำหรับการ “เปิด EDGE และ WiFi เพื่อเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วนั้น” หลายๆ คนคงคิดว่าการเปิด WiFi คงจะเปลืองแบตเตอรี่มากกว่าการใช้งาน EDGE ซึ่งความจริงแล้วนั้น “EDGE กินแบตเตอรี่มากกว่า WiFi เสียอีก” จากการทดสอบของทีมงาน SpecPhone.com ของเรา ที่ทดสอบการใช้งาน iPhone 4 เป็น iOS 4.2.1 ในหนึ่งชั่วโมงที่มีการเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาว่าใครใช้พลังงานมากกว่ากัน โดยเริ่มที่ iPhone มีแบตเตอรี่ที่เต็ม 100% และมีการควบคุมความสว่างหน้าจอที่เท่ากัน รวมไปถึงตัวแปรอื่นๆ ที่เท่าเทียมกัน
ก็ได้ผลมาว่าเปิด EDGE เล่นอินเตอร์เน็ต / Facebook / เช็คอีเมลล์ / ดู Youtube ภายใน 1 ชั่วโมง พลังงานลดลงเหลือ 85% ส่วนการเปิด WiFi นั้น ลดลงเหลือ 90% เท่านั้น จึงทำให้สรุปได้ว่า Edge เมื่อใช้งานจริงๆ แล้ว เปลืองแบตเตอรี่มากกว่า WiFi เสียอีก
ซึ่งจากหลักการทำงานของโมดูลรับส่ง ด้วยตัวรับส่งสัญญาณ WiFi มันมีกำลังส่งที่ต่ำกว่า GSM / GPRS / EDGE มาก สำหรับการรับส่งสัญญาณที่เป็น EDGE ถึงจะใช้ตัวรับส่งชุดเดียวกับ GSM ก็ตาม แต่มันมีการส่งข้อมูลที่ต่อเนื่องมากกว่ามาก เลยส่งผลให้ใช้แบตเตอรี่ค่อนข้างเร็ว?ส่วนเรื่องกำลังส่งของ EDGE/GPRS/GSM ระยะทางมันรับส่งได้ถึง 10 กิโลเมตรด้วยกัน หรือกำลังส่งประมาณ 2W ที่ 900MHz และ 1W ที่ 1800MHz ซึ่งการกินไฟของWiFi มันกินไม่ถึง 50-500 mW เลยด้วยซ้ำ ที่ 2400MHz อีกทั้งระยะทางมันรับส่งได้เพียงแค่ 100 เมตร ในที่โล่งและ 50 เมตร ในตึกอาคาร “เพราะฉะนั้น WiFi มันกินไฟต่างกันอย่างน้อยๆ ก็ 4 เท่าแล้ว เมื่อเทียบกับ EDGE ครับ”
นอกเหนือจากนี้การที่ iPhone ของเราบริโภคแบตเตอรี่เกินไปแล้วนั้น ยังเป็นเรื่องของพฤติกรรมการที่เราเปิดการใช้งานในส่วนของ การทัชกรีนหน้าจอบ่อยๆ / ความสว่างหน้าจอมากเกินความจำเป็น / เปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้งานค้างไว้ / เปิด Push Mail หรือเปิดระบบการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นต่างๆ เอาไว้ รวมไปถึงการทำงานของ Location Sevices ในแอพพลิเคชั่นทิ้งเอาไว้ เป็นต้น สำหรับถ้าใครอยากบริหารแบตเตอรี่การใช้งานใน iPhone ให้คุ้มค่า ตามไปอ่านต่อในบทความนี้ได้ครับ
สุดท้ายทาง SpecPhone.com แนะนำว่า ถ้าเลือกที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็ให้เลือกไปที่ WiFi เป็นหลักครับ เหมือนอย่างที่ตัวของ iPhone เอง จะเลือก WiFi เป็นอย่างแรกในการเชื่อมต่อเช่นกัน สังเกตได้จากเหมือนเราเปิดใช้งานทั้ง WiFi กับ 3G พร้อมๆ กัน iPhone เมื่อค้นหาเครือข่าย WiFi เจอ ก็จะเด้งมาให้เราเลือกเชื่อมต่อทันทีครับ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าการเชื่อมต่อ 3G อาจจะใช้พลังงานน้อยกว่านี้ก็เป็นไปได้ครับ SpecPhone.com