หลังจากศาลเกาหลีใต้เพิ่งตัดสินให้ทั้ง Apple และ Samsung ผิดทั้งคู่ไปเมื่อวันก่อน ในที่สุดผลการตัดสินของศาลแคลิฟอร์เนียในคดี Samsung Apple ที่หลายๆ คนรออยู่ก็ออกมาแล้ว โดยผลออกมาคือ Samsung แพ้คดีให้กับ Apple ตามคำตัดสินของศาลดังต่อไปนี้
- Samsung ละเมิดสิทธิบัตรเรื่อง Bounce-Back ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่นของ Samsung เอง
- Samsung ละเมิดสิทธิบัตรเรื่อง Pinch-to-Zoom รวมไปถึงเรื่องการควบคุมการใช้งานแบบมัลติทัชในอุปกรณ์เกือบทั้งหมดที่มีในการฟ้องร้อง ยกเว้นสามรุ่นคือ Samsung Galaxy Ace, Samsung Intercept และ Samsung Replenish
- Samsung ละเมิดสิทธิบัตรเรื่องการใช้งานแบบ Tap-to-Zoom ในอุปกรณ์บางรุ่น ยกเว้น Samsung Captivate (Galaxy S จาก AT&T), Samsung Galaxy Indulge, Samsung Intercept, Samsung Nexus S 4G, Samsung Transform และ Samsung Vibrant (Galaxy S จาก T-Mobile)
- Samsung ละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบเครื่องมุมโค้งใน 3 รุ่น คือ Samsung Galaxy S, Samsung Galaxy S 4G และ Samsung Vibrant
- Samsung ละเมิดสิทธิบัตรเรื่องการออกแบบไอคอนและ layout หลายส่วนในหลายรุ่น ได้แก่ Samsung Captivate, Showcase, Gem, Indulge, Infuse 4G, Mesmerize และ Vibrant
- Samsung Galaxy Tab ไม่ได้เลียนแบบ iPad
- Apple ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตร 3G UMTS ตามที่ Samsung ฟ้องร้องในคดี Samsung Apple แถม Samsung ยังโดนตอกกลับด้วยว่าเป็นการจงใจผูกขาดทางการค้าอีกด้วย เนื่องจาก 3G ได้กลายเป็นมาตรฐานในเชิงอุตสาหกรรมไปแล้ว ทำให้ทั้ง iPhone 3G, 3GS, 4, iPad และ iPod Touch หลุดจากข้อกล่าวหา
- Apple ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิบัตรของ Samsung จริง ทำให้ Samsung ต้องชดเชยค่าเสียหายในคดี Samsung Apple ครั้งนี้
โดยในเบื้องต้น ศาลมีคำตัดสินว่า Samsung ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ Apple เป็นจำนวนเงินกว่า $1,049,343,540 ตีเป็นเงินไทยก็ราว 32,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 40% ของที่ Apple ประเมินไว้ในตอนแรก แต่ทั้งนี้ Samsung ก็พยายามยื่นเรื่องขอลดค่าเสียหาย และกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ทำให้ต้องรอผลการพิจารณารอบสุดท้ายอีกที ส่วนทาง Apple นั้น เนื่องจากไม่ถูกตัดสินว่าละเมิดสิทธิบัตรใดๆ ทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับ Samsung เลยแม่แต่เหรียญเดียว เป็นอันจบคดี Samsung Apple ไปในขั้นหนึ่ง ต้องรอดูว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอย่างไรต่อไปหรือไม่
ซึ่งหลังจากศาลแถลงคำตัดสิน ก็มีการไปสัมภาษณ์โฆษกของทั้งสองฝ่าย โดยโฆษกของ Apple ให้ความเห็นออกมาคือ ทาง Apple เองก็มีความดีใจที่ศาลเห็นด้วยในสิ่งที่ฝั่ง Apple ฟ้องร้อง แถมในการฟ้องร้องครั้งนี้ยังทำให้มีการตีแผ่ความจริงออกมาอีกว่า Samsung ไม่ได้ใช้แค่การลอกเลียนแบบธรรมดาๆ แต่ทำให้เห็นถึงกระบวนการภายในต่างๆ สู่สาธารณะชนอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple เองนั้นสร้างสรรค์ขึ้นมาและรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกชิ้นหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อความพึงพอใจต่อผู้ใช้ ไม่ใช่สร้างมาเพื่อเป็นต้นแบบในการก็อปปี้ โดยหวังว่าคำตัดสินของศาลในครั้งนี้จะเป็นการประกาศว่าสิ่งที่ Samsung ทำมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนทางโฆษก Samsung ก็ให้ความเห็นออกมากับผลตัดสินในคดี Samsung Apple?ดังนี้
คำตัดสินของศาลในวันนี้อาจจะเห็นว่าเป็นชัยชนะของ Apple ก็จริง แต่ถ้ามองลึกๆ แล้วจะเห็นว่าผู้แพ้ไม่ใช่ Samsung แต่เป็นลูกค้าในสหรัฐฯ เอง ที่จะทำให้ตัวเลือกของผลิตภัณฑ์มีน้อยลง การแข่งขัน การสร้างสรรค์นวัตกรรมน้อยลง และแน่นอนเมื่อไม่มีคู่แข่งก็จะทำให้ Apple สามารถทำกลไกราคาพังได้ด้วยการตั้งราคาผลิตภัณฑ์สูงเปรียบได้กับการผูกขาดตลาด ซึ่งทาง Samsung เองก็ผิดหวังที่กฎหมายมีไว้ช่วยให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้รับผลประโยชน์จากการขายสินค้าที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมึมุมโค้งมน และใช้งานเทคโนโลยีที่เป็นงานพัฒนาของ Samsung หรือบริษัทอื่นๆ ทั้งนี้ลูกค้าควรจะมีสิทธิ์ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตนเองพึงพอใจ โดยตัวลูกค้าเองย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าตนเองตั้งใจจะซื้ออะไร แต่อย่างไรก็ตาม Samsung จะไม่ยอมแพ้ เพราะในศาลต่างๆ ทั่วโลกก็ไม่ได้เห็นด้วยกับ Apple เสมอไป นอกจากนี้ Samsung เองก็จะไม่หยุดพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อสร้างตัวเลือกให้กับผู้บริโภคแน่นอน
โดยหลังจากจบคำตัดสิน หุ้นของ Apple ก็พุ่งขึ้นมารับคำตัดสินเลยทีเดียว
ส่วนเอกสารประกอบคำตัดสินในคดี Samsung Apple?สามารถอ่านได้จากด้านล่างนี้ครับ
ที่มา : Blognone, The Verge, 9to5mac, CNET