อุปกรณ์เสริมสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่มากับสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตมาอย่างยาวนาน จนแทบจะกลายเป็นของจำเป็นที่ผู้ใช้ต้องซื้อหลังซื้อมือถือใหม่กันไปแล้วก็คือตัวของฟิล์มกันรอยหน้าจอ ที่มีจุดประสงค์หลักก็คือช่วยในการปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน การกระแทก หรือในบางชนิดก็ช่วยเพิ่มความสวยงามและความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น แม้ในระยะหลังๆ เราจะเริ่มเห็นสินค้าประเภทอื่นที่สามารถป้องกันหน้าจอเข้ามาทำตลาดบ้าง เช่นกระจกกันรอย แต่ด้วยความที่เป็นกระจก ก็ทำให้หน้าจอมีความหนาขึ้น จนอาจจะหาเคสใส่ได้ลำบาก ทำให้ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควรแม้กระจกจะแข็งแรงกว่าฟิล์ม แต่ก็ทำให้ใช้งานไม่ค่อยสะดวก ทั้งยังมีราคาสูงกว่าฟิล์มกันรอยอีกด้วย ทำให้ผู้ที่อยากได้อุปกรณ์เสริมสำหรับป้องกันหน้าจอมีตัวเลือกในตลาดไม่ค่อยมากนัก
แต่คราวนี้เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงสบายใจขึ้นบ้างไม่น้อยเลยทีเดียวครับ เมื่อ Focus ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มกันรอยที่มียอดขายอันดับ 1 ในไทยในช่วงปีที่ผ่านมา ได้นำฟิล์มชนิดใหม่เข้ามาทำตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของหลายๆ ท่านมากยิ่งขึ้น ซึ่งฟิล์มชนิดใหม่ที่ว่านั้นก็คือฟิล์ม Focus Anti-Shock มีจุดเด่นคือเป็นฟิล์มที่สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ดีกว่าฟิล์มกันรอยทั่วๆ ไป ในคราวนี้เราจะมาดูกันครับว่าฟิล์ม Focus Anti-Shock จะสามารถทำหน้าที่ได้ดีขนาดไหน
คุณสมบัติของฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock
หลักการช่วยป้องกันแรงกระแทกของฟิล์ม Focus Anti-Shock ก็คือตัวชั้นฟิล์มจะมีหน้าที่ในการดูดซับและกระจายแรงกระแทกออกไปทั่วเนื้อแผ่นฟิล์ม ทำให้แรงกระแทกที่กดลงมาตรงจุดกระแทกเบาบางลงจนไม่ส่งแรงลงไปถึงหน้าจอที่เป็นกระจกครับ โดยเนื้อฟิล์มจะมีชั้นฟิล์มภายในอยู่ 4 ชั้นที่มีหน้าที่แตกต่างกันไป โดยชั้นที่ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกคือชั้นพิเศษที่เพิ่มเข้ามา นั่นคือ Shock Absorptive & Highly Flexible Layer
นอกจากนี้ ฟิล์ม Focus Anti-Shock ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ด้วย เช่น
- ผิวฟิล์มมีความทนทาน ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
- ช่วยป้องกันคราบรอยนิ้วมือจากการใช้งานได้
- คงสีสันและความคมชัดของหน้าจอเอาไว้ได้แทบจะ 100% เนื่องจากเป็นฟิล์มแบบใส ทั้งยังไม่เกิดแสงสีรุ้งเวลาใช้งานเหมือนกับฟิล์มราคาถูกๆ อีกด้วย
เรียกได้ว่าฟิล์ม Focus Anti-Shock นี้มีคุณสมบัติโดยทั่วไปที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต้องการเอาไว้อย่างครบถ้วนทีเดียว แถมยังเหนือกว่าฟิล์มทั่วไปตรงที่มีความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกจากการใช้งานหรืออุบัติเหตุทั่วไปได้อีกต่างหาก
การทดสอบเชิงวิชาการ
ทาง Focus เองได้ทำการทดสอบฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock ซึ่งก็ผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการของภาควิชาวิศวกรรมการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือมาเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างการทดสอบก็เช่น
การทดสอบหย่อนลูกเหล็ก
เป็นการทดสอบความแข็งแรงต่อการป้องกันแรงกระแทก ด้วยการใช้ลูกเหล็กน้ำหนักเดียวกัน ทดสอบหย่อนลงมาจากความสูงแตกต่างกันหลายๆ ระยะ โดยทดสอบเปรียบเทียบกัน ระหว่าง
- แผ่นกระจก Tempered Glass ที่ไม่ติดฟิล์มกันรอย จำนวน 5 แผ่น
- แผ่นกระจก Tempered Glass ที่ติดฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock จำนวน 5 แผ่น
ผลออกมาก็คือกระจกที่ติดฟิล์ม Focus Anti-Shock สามารถป้องกันการแตกร้าวของกระจกได้ดีกว่ากระจกที่ไม่ติดฟิล์มกันรอยได้เกือบ 2 เท่า (แบบไม่ติด กระจกเริ่มแตกที่ 24 เซนติเมตร ส่วนแบบติดฟิล์มกระจกเริม่แตกที่ 42 เซนติเมตร)
ส่วนการทดสอบหย่อนลูกเหล็กอีกแบบเป็นการหย่อนลูกเหล็กที่น้ำหนักแตกต่างกันคือ 226.8 กับ 359.1 กรัมแบบอิสระลงบนหน้าจอ iPad mini ที่ติดฟิล์มกันรอย Focus แบบปกติ กับแบบที่ติดฟิล์มกระแทก Focus Anti-Shock อยู่
ผลออกมาก็คือ
- เครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยปกติ หน้าจอเริ่มแตกร้าวเมื่อหย่อนลูกเหล็กหนัก 226.8 กรัมที่ความสูง 60 เซนติเมตร
- เครื่องที่ติดฟิล์มกันกระแทก หน้าจอเริ่มแตกร้าวเมื่อหย่อนลูกเหล็กหนัก 359.1 กรัมที่ความสูง 60 เซนติเมตร (เทียบเท่ากับระยะความสูง 103 เซนติเมตร ถ้าใช้ลูกเหล็ก 226.8 กรัม)
โดยคลิปทดสอบที่มีการทดสอบจริงที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ
ส่วนคลิปทดสอบที่เป็น TVC ก็ตามด้านล่างนี้ครับ
คลิปการปล่อยลูกเหล็ก
คลิปการทดสอบฟิล์มกันกระแทกด้วยเครื่องมือต่างๆ
ต่อไปมาดูในส่วนรีวิวของทาง SpecPhone เราเองบ้างครับ
ฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock จะมีวางจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อหากันได้สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตยอดนิยมแทบทุกรุ่นในตลาดเลยครับ โดยเครื่องที่เราจะทดสอบในครั้งนี้ก็คือ iPad 4
ตัวแพ็คเกจจะมีตัวอักษรบอกชนิดของฟิล์มชัดเจนเลยว่าเป็นประเภทป้องกันแรงกระแทก โดยสังเกตได้จากคำว่า AS Anti-Shock ที่อยู่หน้าและหลังซอง รวมถึงสีก็เลือกใช้เป็นสีแดงเลือดหมู ช่วยให้สังเกตและจดจำได้ง่าย เพราะฟิล์มแต่ละชนิดของ Focus จะมีสีสันหน้าซองที่แตกต่างกันอยู่แล้ว
สำหรับใครที่ต้องการซื้อฟิล์มมาติดเองก็สามารถทำได้เช่นกันครับ มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง สรุปง่ายๆ คือให้ทำความสะอาดจอให้เรียบร้อยก่อน ใช้ผ้าเช็ด ถ้ามีฝุ่นก็ใช้เทปกาวแปะแล้วดึงฝุ่นออก เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลอกแผ่นฟิล์มที่ติดเลข 1 ไว้ออก แล้วนำฟิล์มด้านนั้นติดลงไปบนจอ เมื่อติดและไล่ฟองอากาศเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยลอกฟิล์มแผ่นที่ติดเลข 2 เอาไว้ออก เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ
ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock ในครั้งนี้มีด้วยกัน 4 อย่างครับ ได้แก่ กระบองไม้ (หนักเอาเรื่องเหมือนกัน), มีดปังตอ, ประแจเลื่อน และค้อน ทดสอบบนจอ iPad ที่ติดฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock เอาไว้
เริ่มด้วยกระบองกันก่อนครับ วิธีก็คือตีกระบองเข้าไปตรงกลางจอ หวดลงไปแรงพอสมควร
ต่อมาก็เป็นประแจเลื่อน ทดสอบโดยการทุบสันของประแจลงไปกลางจอตรงๆ
อันดับที่สามเป็นมีดปังตอครับ การทดสอบก็เป็นแบบเดียวกัน คือสับมีดลงไปกลางจอ โดยพยายามย้ำตรงจุดเดิมกับที่ตีกระบองและทุบประแจลงไปก่อนหน้านี้ ผลออกมาก็คือที่ฟิล์มเริ่มเป็นรอยขึ้นมาเล็กน้อย แต่ฟิล์มยังไม่ฉีกขาดนะครับ แค่เป็นรอยตรงส่วนผิวเท่านั้น
สุดท้ายก็คือการเอาค้อนทุบลงไปตรงกลางจอ 3 ครั้ง เมื่อทดสอบทั้ง 4 แบบเสร็จแล้ว ลองลอกฟิล์มออกดู พบว่าหน้าจอยังสวยใส ไร้ร่องรอยอยู่เลยครับ โดยทางเราได้ถ่ายคลิปช่วงที่ทดสอบกับอุปกรณ์ทั้ง 4 อย่างด้วย ตามด้านล่างนี้
หลังจากชมการทดสอบด้วยเครื่องมือต่างๆ ไปแล้ว คราวนี้มาดูตัวอย่างรูปแบบของอุบัติเหตุที่มีสิทธิ์เจอได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้ โดย iPad สีดำทำการติดฟิล์มกันรอย Focus แบบธรรมดา ส่วน iPad เครื่องสีขาวติดฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock ครับ (ลอกฟิล์มเก่าเมื่อกี้ แล้วติดฟิล์มแผ่นใหม่)
การทดสอบก็คือการขูดหน้าจอด้วยลูกกุญแจ โดยใช้แรงกดแบบตั้งใจขูดจอ ผลออกมาก็คือ iPad เครื่องที่ติดฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock มีรอยขีดข่วนบนฟิล์มน้อยกว่าฟิล์มแบบปกติอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าในชีวิตประจำวันจริงๆ การขีดข่วนของลูกกุญแจคงไม่ได้กดลงบนหน้าจอหนักเท่าตอนที่ทดสอบ ดังนั้นโอกาสที่หน้าจอซึ่งติดฟิล์ม Anti-Shock เอาไว้จะเป็นรอยก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
เทียบกันชัดๆ ครับ ระหว่าง iPad ฟิล์มธรรมดา (ดำ) และ iPad ติดฟิล์ม Anti-Shock (ขาว) รอยที่เห็นนี้เป็นรอยบนฟิล์มนะครับ ตัวฟิล์มก็ยังไม่ฉีกขาด ส่วนจอก็ยังสวยใส ไร้รอยขีดข่วนเช่นเคย
ทั้งนี้ ใครที่สนใจจะหาฟิล์มกันกระแทก Focus Anti-Shock มาใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตน ก็สามารถหาซื้อและติดฟิล์มได้ตามร้านจำหน่ายสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมทั่วไปได้แล้วครับ คาดว่าสินค้าน่าจะกระจายไปได้ทั่วถึงแล้ว จะซื้อมาติดเครื่องตนเอง ซื้อมาติดให้เครื่องแฟนก็สะดวกสบาย เรียกได้ว่าให้ทั้งความง่ายในการติดตั้ง และให้ทั้งความแข็งแกร่งในการปกป้องหน้าจอสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตที่รักของคุณได้อย่างสบายๆ เลย