รวม 9 ฟีเจอร์เด็ดใน Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับมือถือรุ่นท็อปสุดของ Samsung ในปี 2017 ได้แก่ Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ โดยหน้าตาของ Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ ก็เหมือนกับที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เป๊ะ เพราะฉะนั้นเราจะไปทำความรู้จักกับ Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ ให้มากขึ้นดีกว่า เริ่มจากสเปคก่อนเลย

สเปค Samsung Galaxy S8 

• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.8 นิ้วขอบโค้ง ความละเอียด 2960×1440 พิกเซล 570 ppi
• ชิปประมวลผล octa-core Exynos 8895
• ชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 540
• Ram 4 GB
• ความจุ 64 GB รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
• กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี Dual-Pixel พร้อมแฟลช Dual-LED, ระบบ Laser Autofocus, ระบบกันภาพสั่น (OIS), รูรับแสง f/1.7, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide พร้อมระบบ Auto-focus
• รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE
• ความจุแบตเตอรี 3,000 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สายและระบบชาร์จเร็ว
• มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
• มีเซ็นเซอร์สแกนม่านตา
• รองรับ 2 ซิมการ์ด
• ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
• กันน้ำ-กันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

สเปค Samsung Galaxy S8+

• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.2 นิ้วขอบโค้ง ความละเอียด 2960×1440 พิกเซล 570 ppi
• ชิปประมวลผล octa-core Exynos 8895
• ชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 540
• Ram 4 GB
• ความจุ 64 GB รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
• กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี Dual-Pixel พร้อมแฟลช Dual-LED, ระบบ Laser Autofocus, ระบบกันภาพสั่น (OIS), รูรับแสง f/1.7, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide พร้อมระบบ Auto-focus
• รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE
• ความจุแบตเตอรี 3,500 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สายและระบบชาร์จเร็ว
• มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
• มีเซ็นเซอร์สแกนม่านตา
• รองรับ 2 ซิมการ์ด
• ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
• กันน้ำ-กันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

ดูจากสเปคแล้ว Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ เครื่องศูนย์ไทยก็คงหนีไม่พ้นชิปเซ็ต Exynos 8895 อย่างแน่นอน เพราะว่ารุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 835 จะวางจำหน่ายแค่บางประเทศเท่านั้น และตามปกติบ้านเราก็มักจะได้เป็นรุ่นชิป Exynos แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความแรงหรอกครับ เพราะระดับ Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ เรียกว่าแรงในระดับท็อป ๆ ของโลกแอนดรอย ณ ตอนนี้แล้วล่ะ

9 ฟีเจอร์ใหม่ใน Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+

รู้จักสเปคไปแล้ว ก็มาต่อกันที่ฟีเจอร์เด็ด ๆ ฟีเจอร์ใหม่ที่จะพบได้ใน Samsung Galaxy S8 กันต่อเลยดีกว่า ผมสรุปมาให้แล้ว มีทั้งหมด 9 ข้อด้วยกัน

1. หน้าจออัตราส่วน 18.5:9 Infinity Display

หนึ่งในข่าวลือที่เป็นจริง นั่นก็คืออัตราส่วนหน้าจออันแปลกประหลาด เพราะตามปกติหน้าจอมือถือมักจะมีอัตราส่วนแบบ 16:9 แต่สำหรับอัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ใน Samsung Galaxy S8 กับ Samsung Galaxy S8+ นั้น เป็นอัตราส่วนที่เกิดจากการพยายามทำให้ขอบหน้าจอมีน้อยที่สุด เรียกได้ว่าพื้นที่ทั้งหมดของตัวเครื่องแทบจะเป็นหน้าจอทั้งหมดเลยก็ว่าได้

2. ความละเอียดหน้าจอมากที่สุด เท่าที่ Samsung เคยทำมา

หน้าจอของทั้ง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ แม้ว่าจะมีขนาดหน้าจอไม่เท่ากัน แต่ในเรื่องของความละเอียดหน้าจอ ทั้งคู่มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด WQHD+ (1440 x 2960 พิกเซล) และกินพื้นที่ถึง 83% ของพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องทั้งหมด

3. ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby

สำหรับ Bixby จะเป็น AI อัจฉริยะที่ Samsung พัฒนาขึ้นมาเอง และนอกจาก Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ แล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่ Bixby จะสามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Samsung ในอนาคตก็เป็นได้

4. ปุ่มบนหน้าจอ ที่รองรับแรงกด

อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่หากมือถือแอนดรอยจะใช้ Navigation Keys แบบ Soft Key (ที่ลอยอยู่ในหน้าจอ) แต่ Navigation Keys ของ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่รับรู้แรงกด สามารถใช้การออกแรงกดที่หน้าจอเพื่อทำการปลุกตัวเครื่องได้ เป็นต้น

5. UX ใหม่กิ๊ก ใช้ง่ายกว่าเดิม

นอกจากฮาร์ดแวร์จะมาเต็มแล้ว ซอฟท์แวร์ของ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ก็แรงไม่แพ้กัน เพราะมีการออกแบบหน้าตา Grace UX ใหม่หมด ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นไปอีก และยังมีการเปลี่ยนแปลงไอคอนโดยรวมแทบจะยกชุดก็ว่าได้

6. Iris Scanner ก็มา

ระบบสแกนม่านก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่เราพบได้ใน  Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ โดยทาง Samsung ให้เหตุผลว่าม่านตาเป็นสิ่งที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ลอกเลียนแบบได้ยาก

7. ซะที!! กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส ไม่มีเบลอแน่นอน

เรียกว่าเป็นฟีเจอร์แกล้งเขินเมื่อตอน Samsung Galaxy S7 เลยทีเดียว เพราะกล้องหน้าของ  Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีระบบ Auto-Focus กับ Face Detection

8. หูฟังของแถมติดแบรนด์ AKG

จะเรียกว่าเป็นฟีเจอร์เด็ดก็ไม่ว่ากัน สำหรับหูแถมของ  Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก (ที่ซัมซุงซื้อไปแล้ว) อย่าง AKG จะแถมในกล่องของ  Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ทุกรุ่นทุกความจุ ในเรื่องของเสียงคงต้องลองฟังอีกที แต่คิดว่าน่าจะเหนือกว่าหูแถมทั่วไปพอสมควรอยู่

9. Galaxy S8 มาพร้อมสีใหม่ถึง 5 สีด้วยกัน

สำหรับสีของ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีเทา สีเงิน ส่วนสีฟ้า กับสีทองเมเปิ้ล คากว่าจะวางจำหน่ายทั่วโลกเช่นกัน

วันวางจำหน่ายของ Samsung Galaxy S8 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2560 เป็นต้นไปครับ ส่วนข่าวสารอื่น ๆ เช่น วันเปิดจอง รวมถึงรีวิว Samsung Galaxy S8 สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ Specphone.com ได้ในเร็ว ๆ นี้ครับ

บทความแปล: phonearena