ช่วงนี้พูดตรงๆ ว่าโ_ตรเหนื่อยเลยครับ จัดงานอะไรกันนักกันหนาไม่รู้กับเดือนนี้ สาเหตุหลักๆ ก็คงเป็นงาน Thailand Mobile Expo Hi end 2011 ที่จะถึงนี้ สำหรับงานเปิดตัวเที่ยวนี้เป็นของ Motorola ซึ่งได้ตัวเเทนจำหน่ายอย่าง SIS เข้ามาทำตลาดในไทย รุ่นที่ติดตลาดจนเป็นที่คุ้นหูกันก็อย่าง Motorola Defy อึด ถึก ทน ที่เว็บเราเคยรีวิวไปเเล้ว ตัวนั้นถือว่าเป็นตัวที่ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ SIS เเละทำให้มีรุ่นต่อไปตามมา นั้นก็คือ Motorola Xoom เเละ Motorola Atrix นั่นเอง ซึ่งผู้ติดตามข่าวของสมาร์ทโฟนเเละเเท็บเล็ตเมื่อช่วงต้นปีย่อมต้องเคยได้ยินชื่อของ Motorola Xoom กันบ้าง เพราะเป็นเเท็บเล็ต Android Honeycomb 3.0 ตัวเเรกของโลก จะว่าไปมันก็คือ Nexus One ของวงการสมาร์ทโฟนนี่เอง ยังไงทางเราก็ขอบคุณ SIS ที่ส่งจดหมายงานเปิดตัวให้เราเข้าไปทดสอบสินค้ากับครับ
บรรยากาศภายในงาน
งานนี้จัดขึ้นที่โรงเเรม เเกรนด์ ไฮเเอท เอราวัณ ตรงราชประสงค์ครับ งานตอนเเรกก็เป็นการนั่งฟังตัวอย่างการเปิดตัวสินค้าทั่วไป เเต่ช่วงหลังบรรยากาศในงานจัดไปในออกเเนว Lifestyle มากกว่าเพราะเชิญทั้งสื่อเเละบล็อกเกอร์มาทั้งหมดรอบเดียว ในงานก็มีการสาธิตถึงการใช้ Xoom เเละ Atrix ในชีวิตประจำวัน ว่าทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นอย่างไรบ้างครับ เช่น เราสามารถใช้เเท็บเล็ตเล่นเกมส์ หรือดูหนังผ่าน HDMI ได้ การใช้ Atrix + Lapdock เพื่อทำงานเอกสารใน Google Doc ใช้ Xoom ดูตำราทำอาหารโดยต่อเข้ากับ Dock เพื่อเป็นเเท่นวางในครัว อะไรเเบบนี้ เพื่อให้สื่อหรือผู้ใช้ทั่วไป เห็นภาพการใช้งานมากขึ้น ส่วนตัวผมก็เป็นสายเทคนิคอยู่เเล้ว เรื่องพวกนี้จึงเหมือนค่อนข้างเสียเวลาสำหรับผม เเต่เเหม เค้าไม่ได้เชิญเเต่พวก geek อย่างผมไปอย่างเดียว ก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างครับ หุหุ ^^ โดยรวมก็ชอบนะครับงานนี้ อาจจะไม่ว้าว เเต่ก็อบอุ่นดีครับ
สามารถคลิกเพื่อดูขนาดเต็มได้ครับ
Motorola Atrix
Atrix นั้นเป็นสมาร์ทโฟน Dual Core ตัวเเรกๆ คู่กับมากับ LG Optimus 2X (2X น่าจะเป็นตัวเเรก Atrix เป็นที่ 2) ซึ่งเราก็น่าจะเห็นรีวิวของต่างประเทศกันไปบ้างเเล้ว กว่าจะมาถึงประเทศไทยก็เกือบสายกันไปเหมือนกัน อย่างน้อยก็มาทันให้จองในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi end นี้ สำหรับตัวนี้นั้นโดยรวมไม่ต่างกับ Motorola Defy มากนัก โดยเฉพาะด้านหน้า ที่เหมือนขยายหน้าจอจาก 3.7 นิ้วมาเป็น 4 นิ้ว โดยความสว่างเเละคอนทราสของสีเเทบจะเหมือนกับ Defy ในความรู้สึก (ระลึกชาติจากที่รีวิวเอา) เรียกว่าสว่างน้องๆ Optimus Black ของ LG เลยครับ ซึ่งตรงนี้ข้อมูลด้านจอผมไม่สามารถหามาอ้างอิงได้ เเต่ถ้าลองจับ Defy มาก่อน หน้าจอจะให้ความรู้สึกเดียวกันครับ เเละหน้าจอจาก Defy ที่เป็น 800 x 480 ก็เปลี่ยนมาเป็น 960 x 640 เเทน เหมือนกับ HTC Sensation เเถมยังพกเเบตเตอรี่มามากถึง 1930 mAh ซึ่งมากที่สุดของสมาร์ทโฟนตอนนี้ครับ
ปุ่มข้างล่างยังเป็น Capacitive ดีไซน์เดิม กล้องหน้าความละเอียด VGA ฝาหลังเป็นพลาสติกเนื้อเรียบ เเต่มีการพิมพ์ texture เข้าไปให้ดูมีลวดลาย จับโดยรวมให้ความรู้สึกที่เเข็งเเรง ซึ่งเป็นจุดที่ Motorola ทำมาได้ดีโดยตลอด คือ ?ถึก ทน หน้าตาโบราณ? ถ้าจะเทียบกับโน้ตบุค ก็เหมือน Thinkpad คือหน้าตาไม่สนใจมาก เเต่ขอความเเข็งเเรงไว้ก่อน สไตล์ Business กล้องหลังควดี ามละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมเเฟลชเเละออโต้โฟกัสครับ ภาพที่ออกมาถือว่าใช้ได้ครับ ไม่เเย่
พอร์ทช่องต่ออยู่ด้านข้าง เเล้วปุ่มควบคุมเสียงอยู่เช่นกัน ตามมาตรฐานการออกเเบบทั่วไป ทุกอย่างเป็นพลาสติกทั้งหมด ลำโพงเป็นเเบบ Mono อยู่ด้านล่างซึ่งเป็นส่วนที่เว้าเข้าไป ทำให้ไม่บังเสียงเวลาวาง Atrix ไว้ที่โต๊ะ
โดยรวมเฉพาะมือถือเเล้วก็เป็นมือถือที่เบา เเล้วก็เเข็งเเรง ตามสไตล์ของ Motorola ที่พอจะมีเเฟนๆ ในบ้านเราบ้าง ในกรณีที่เทียบกับ Galaxy S II , Optimus 2X, HTC Sensation, Motorola Atrix นั้นมีจุดเด่นในเรื่องความเเข็งเเรง กล้องที่คุณภาพดี MOTOBLUR ตัวปรับเเต่ง ซึ่งก็ดีในระดับหนึ่ง Widget ต่างๆยังเหมือนกับตัว Motorola Defy ไม่หน่วงเครื่องเหมือนบางเจ้า ก็เป็นมือถือที่ซื้อมาใช้ได้เลย โดยไม่ต้องปรับเเต่งอะไรครับ จุดเด่นตัวนี้ไม่เด่นชัดมากนัก อาจจะดึงๆ เเฟนของเจ้าอื่นยากพอสมควร โดยเฉพาะ Samsung
เเต่จริงๆเเล้ว อุปกรณ์เสริมของ Atrix นี่มากมายครับ เเต่ก็ไม่ได้มาเป็นชุดนะ เพราะต้องซื้อเเยก ฮาๆ ในงาน Thailand Mobile Expo Hi end อาจจะได้เห็นการซื้อเหล้าพ่วงเบียร์ เอ้ย ซื้อสมาร์ทโฟนเเถม Accessory พวกนี้ เป็นเรื่องธรรมดา ไว้ให้คนจองครับ อย่างเเรกที่เป็นไฮไลท์เลยคือตัว Lapdock ที่เอาสมาร์ทโฟนไปต่อไว้ด้านหลังของ Dock เเล้วใช้งานเป็น Laptop ได้เลย สงัสยเป็นการเชื่อมคำของ Laptop + Dock ข้างในก็จะเป็น Linux ตัวนึงนะครับ จุดเด่นที่เพิ่มมาหลังต่อ Lapdock คือ จะมี Mozilla Firefox ที่ใช้งานได้เหมือนบน PC ทุกประการ เเละยังเรียกเเอพต่างๆ จาก Atrix ได้อีกด้วย เรียกว่าซื้อ Lapdock ไปก็เหมือนเพิ่มฟังชั่นให้มันกลายเป็นเเท็บเล็ต Android ได้อีกตัวเลยครับ เรียกว่าตัวเดียวใช้ได้ทุกท่า ;P ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็ลองอ่านรีวิวของ Asus Eee Pad Transformer ครับ เหมือนกันเลย ความเร็วถือว่าใช้งานได้จริง เเต่ยังไม่ได้ลองหนักๆ ว่ามันรับได้เเค่ไหน คีย์ภาษาไทยไม่มี ต้องเเปะสติ๊กเกอร์เอาเองนะ ส่วนค่าสู่ขอ ยังไม่เป็นทางการ ราคาอยู่ช่วง 8000 บาท +/-
เกือบลืม เมื่อต่อ Lapdock เเล้วเราจะมีพอร์ท USB เพิ่มเข้ามาไว้เสียบ Thumbdrive ได้ด้วยครับ ^^ เเต่เราไม่สามารถต่อ HDMI out ได้อีกเเล้วนะ
Accessory อันถัดมาก็คือ Dock ธรรมดาๆ เสียบเอาไว้เล่นเพลง หรือตั้งเป็นนาฬิกาปลุก เเต่ไม่หมดเพียงเเค่นั้น ถ้าเราเอา Atrix เสียบ Dock เเล้วต่อ HDMI out ไปยังโทรทัศน์ ก็จะเหมือนเราทำงานอยู่บน Lapdock เลย อันนี้เเล้วเเต่อารมณ์ว่าเหมือนอยากทำงานบน Notebook หรือ นั่งเล่นชิวๆเเบบห้องนั่งเล่นครับ เเต่การจะพิมพ์งานต้องมี Bluetooth Keyboard ด้วย ก็จัดไปอย่าให้เสียครับ Motorola ก็ขายด้วยเหมือนกัน หุหุ Dock เองก็มี USB มาให้เหมือนกันครับ
ส่วน Keyboard Bluetooth นั้นใช้ถ่าน AA 2 ก้อนนะครับ ไม่มีคีย์ไทยเหมือนกัน
เมื่อรวมกับอุปกรณ์เสริมอย่างใดอย่างหนึ่งนี้ ก็จะทำให้การใช้งาน Atrix ดูก้าวหน้าขึ้นอีกระดับ น่าใช้ขึ้นครับ จะว่าไปถ้าไม่มี Dock นี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ Dual Core ธรรมดาๆ เท่าไหร่ครับ ทีเด็ดของ SIS งานนี้สงสัยจะอยู่ที่การขายพ่วงซะละมั้งนี่ เเต่จริงๆเเล้ว Motorola Atrix ก็ดีกว่า Optimus 2X ในเเง่ของกล้องเเละซอฟเเวร์ที่ไม่มีปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพ เเต่ราคา 19,990 นี้ก็ยังเหมือนไม่โดนใจผู้บริโภคเท่าไหร่ เพราะ Samsung เล่นตั้งธงมาที่ 18,900 บาทซะเเล้ว
The Good
- ดูทนทานสไตล์ Motorola
- Tegra 2 เเสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่บนโทรศัพท์ (ไม่เหมือนเเท็บเล็ตที่เอฟเฟคต่างๆดูไม่สมูธเท่าไหร่)
- อุปกรณ์เสริม ทำให้ใช้งานมันได้มากกว่าสมาร์ทโฟน ใช้เล่นเว็บจริงจังยังได้ด้วย Firefox
The Bad
- ดูจะทำตลาดยากนิดนึง เพราะ Galaxy S 2 มาราคา 18,900 บาท ถึงจะต่างกันเเค่พันเดียว เเต่ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยชี้ขาดของผู้บริโภค
- อุปกรณ์เสริม ราคาน่าจะเเรงเอาการ
Motorola Xoom
ว่ากันในเเง่ของดีไซน์เเล้ว การดีไซน์ของ Motorola Xoom ต่างออกไปจากสมาร์ทโฟนของ Motorola พอสมควร การออกเเบบเป็นไปในลักษณะของ Industrial Design (การออกเเบบโดนคำนึงถึงความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย เเละสะดวกสบายในการใช้งาน) ตัวเเท็บเล็ตเองเหมือนขอบของจอจะเเคบกว่าเจ้าอื่นๆทำให้ไม่ดูใหญ่โตจนเกินไปนัก อย่าง Iconia Tab A500 จะมีขอบขอจอที่หนากว่า ทำให้ดูเทอะทะไปบ้าง เเต่ Xoom เเว็บเเรกที่เห็นนั้น ผมกลับนึกถึง BlackBerry PlayBook ที่ดูเป็น Business มากกว่า การออกเเบบไปในโทนสีดำ ตัดกับขอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
พอร์ทก็มี Micro USB เเละ HDMI ตามมาตรฐาน สำหรับ Xoom นี้จะไม่มีพอร์ท USB ปกติมาให้เลย เเม้จะต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริมก็ตาม ปุ่มเพิ่มลดเสียงออกเเบบมาเเปลกนิดๆ ก็ไม่ถึงกับกดยาก เเต่อาศัยความเคยชินนิดหน่อย ไม่ถึงกับเป็นข้อเสีย ต้องบอกก่อนว่า รุ่น Wi-Fi เเละรุ่น 3G นั้น ยังคงมีช่องใส่มาให้เหมือนกับ เพราะว่าช่องใส่ซิมกับ Micro SD ดันอยู่ในช่องเดียวกัน – -a ก่อนซื้อก็เช็คกันหน่อยนะครับ เเต่เรามีวิธีเช็คง่ายกว่านั้น ดูกันต่อไปลำฌพงนั้นเป็นเเบบ Stereo อยู่ด้านหลัง มีกล้องขนาด 5 ล้าน ออโต้โฟกัส พร้อมเเฟลชครับ
จุดสังเกตคือด้านหลังครับ ด้านบนจะเป็น Wi-Fi เเต่ด้านล่างจะเป็น 3G ถ้าใครจะซื้อก็ดูกันดีๆ นะครับ เเต่ผมสงสัยนิดนึงว่า ฝาหลังของ Wi-Fi มันดูสวยกว่า 3G ซะนี่ อันนี้อาจจะรสนิยมส่วนตัวนะครับ เพราะ ของ 3G ทำจากพลาสติกเเน่ๆ เเต่ของ Wi-Fi ดันทำจากอลูมิเนียมซะงั้น
ตัวซอฟเเวร์ก็เดิมๆ ก็คือ Honeycomb 3.0 เเต่ข้อได้เปรียบของ Xoom ก็คือจะได้ตัวอัพเดทก่อนเพื่อ เพราะเป็นเเท็บเล็ตอ้างอิงของ Google เวลาพัฒนาอะไรจะทำจาก Xoom ก่อนเหมือนกับ Nexus One จุดเด่นของมันก็อยู่ตรงนี้เเหละครับ ตอนนี้ Honeycomb 3.1 ก็ออกมาเเล้วสำหรับ Xoom ด้วยเเต่ในงานยังเป็น 3.0 อยู่ก็เลยไม่ได้เอามาฝากกันครับ เพราะความเร็วก็เหมือนกับเเท็บเล็ต Tegra 2 ทั่วๆ ไป โดยตัว Wi-Fi อยู่ที่ 19,900 บาท ส่วน 3G อยู่ที่ 23,900 บาท ส่วนต่าง 4000 บาท ก็เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานนะครับ ถ้าออกนอกสถานที่เเละอยู่ไปประจำที่เท่าไหร่ เช่น ใช้งานบนรถประจำทาง หรืออยู่ในที่ๆ ไม่ซ้ำกันบ่อยนัก รุ่น 3G น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เเต่ถ้ามีร้านกาเเฟสิงประจำ ใช้เเท็บเล็ตอยู่ที่บ้าน รุ่น Wi-Fi ก็น่าจะเพียงพอเเล้วครับ
การใช้งานของ Honeycomb 3.0 สามารถดูได้จากรีวิว Android Honeycomb 3.0 ครับ
Accessory สำหรับ Xoom ก็คือ Docking เหมือนกัน ขอบด้านบนเเละด้านข้างนั้นเป็นรูเล็กๆ ก็คือเป็นช่องเสียงลำโพงนั่นเอง
The Good
- เป็น Android Tablet ที่ดูดีเเบบ Busniess
- ได้รับอัพเดทก่อนคนอื่น เวลา Google ปล่อยตัวอัพเดทออกมา ไม่ต้องผู้ผลิตปล่อยตัวอัพเดทซึ่งมักจะใช้เวลานานหลายเดือน
The Bad
- ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเเท็บเล็ตของ Honeycomb ในตอนนี้
รูปภายในงานทั้งหมด โหลดได้ที่ http://www.multiupload.com/TUTQEMFMDK ครับ