วิธีดูหนังจักรวาล Marvel เรียงตาม Timeline ดูแบบไหนได้บ้าง? พร้อมวิธีดูบน Disney+ Hotstar
เชื่อว่าหลายๆ คน ต้องเป็นแฟนหนัง Marvel กันอยู่แล้วแน่ๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะลองดู หรืออยากดูหนังจักรวาล Marvel แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี และมีช่องทางไหน ที่ให้เราได้ดูได้บ้าง วันนี้เราจะมาบอกให้คนที่สนใจ หรือคนที่ยังไม่รู้ ให้กระจ่างกันไปเลย โดยถ้าพูดถึงหนัง Super Hero หรือหนังเกี่ยวกับผู้ที่มีพลังวิเศษ ช่วยโลก ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ จากพวกวายร้ายทั้งหลาย เชื่อว่าหลายคนต้องมีฮีโร่ในใจกันอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้น ก็ต้องมีตัวละครจาก Marvel กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Iron Man, Captain America, Thor, Spider Man และอื่นๆ อีกเพียบ บางคนก็เป็นแฟนตัวยง ดูจบหมดแล้ว ย้อนมาวนดูใหม่กันไปหลายรอบ
แต่สำหรับบางคน ที่ดูแบบประปราย หรือดูไปเรื่อย ไม่ได้ติดตามเนื้อเรื่องใหญ่ๆ โดยรวมว่าจักรยาน เอ้ย! จักรวาล Marvel หรือ Marvel Cinematic Universe (MCU) นั้นมี Timeline หรือช่วงเวลาที่ต่อกัน จากหลายๆ เรื่องที่ทำออกมาทั้งแบบภาพยนตร์ หรือแบบซีรีส์ด้วย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาเรียง Timeline ของหนังแต่ละเรื่อง รวมไปถึงรายการทีวีที่มีออกมา และบนเนื้อหาบน Disney+ Hotstar ว่ามีเนื้อเรื่องต่อกัน และจะดูหนังจักรวาล Marvel ได้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง มาดูกันเลย
- ดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดตามปีที่กำหนดฉาย (ตาม Phase 1-6 และในอนาคต)
- ดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดตามปีเนื้อเรื่อง Timeline จริงของจักรวาล Marvel
- วิธีดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดบน Disney+ Hotstar
- เหตุการณ์หลังจากจบ Phase 5 จะเป็นยังไงต่อ? (Phase 6 หรือ Phase 7)
- จะดูหนังจักรวาล Marvel ที่ไหนได้บ้าง?
- (แถม) ก่อนดู Doctor Strange in the Multiverse of Madness ต้องดูเรื่องอะไรก่อนบ้าง!!
- (แถม) ก่อนดู Thor: Love and Thunder ควรดูเรื่องไหนก่อนบ้าง?
- (แถม) ก่อนดูหนังเรื่อง The Marvels ควรดูเรื่องไหนก่อนบ้าง?
ดูหนังจักรวาล Marvel แบบเรียง Timeline แบบไหนได้บ้าง?
การดูหนังจักรวาล Marvel ถ้าเรียงตาม Timeline สามารถดูได้ 2 แบบ จะแบ่งได้ด้วยการดูหนังจักรวาล Marvel ตามปี และการดูหนังจักรวาล Marvel ตามเนื้อเรื่อง ซึ่งการดูตามปี ก็คือค่อยๆ แบ่งดูตาม Phase ของหนัง โดยแบ่งเป็น 4 Phase อย่างละประมาณ 6 ถึง 10+ เรื่องตามปีที่ผลิต แต่ Phase หลังๆ อย่าง Phase ที่ 4-5 จะมีอยู่เยอะที่สุด เพราะตัวไทม์ไลน์ยาวไปถึง 2024-2026 เลย
ซึ่งวิธีดูตาม Phase ของหนังที่ออกมานั้น จะเรียงตามลำดับของปีในชีวิตจริง ที่หนังได้ทำออกมาฉาย แน่นอนว่าหนังมันก็เรียงแหละ แต่ไม่ได้เรียงตามลำดับเนื้อเรื่องของยุคสมัย และปีจริงของในหนัง (ปีจริงๆ ของในหนังจักรวาล Marvel ไม่ใช่ปีที่เราใช้ชีวิตอยู่ตอนนี้ ไม่งงนะ) ข้อดีของการดูด้วย Timeline แบบนี้คือ จะได้ดูการเปลี่ยนแปลงของนักแสดง และได้ดูการวางเนื้อเรื่องของผู้กำกับ ที่จะใส่ End Credit แอบบอกภาคต่อไปอยู่เสมอ แต่ข้อเสียคือ ต้องมาต่อเรื่องเอาเอง อาจทำให้งงได้ จะเหมาะกับคนที่ยังไม่เคยดูมาก่อน จะทำให้เข้าใจตัวละครแต่ละตัวมากขึ้น โดยจะแบ่งได้ดังนี้
ดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดตามปีที่กำหนดฉาย (ตาม Phase 1-6 และในอนาคต)
The Infinity Saga
MCU Phase 1 (2008-2012)
- Iron Man (2008) : มหาประลัย คนเกราะเหล็ก
- The Incredible Hulk (2008) : มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง
- Iron Man 2 (2010) : มหาประลัย คนเกราะเหล็ก 2
- Thor (2011) : ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
- Captain America : The First Avenger (2011) : กัปตันอเมริกา: อเวนเจอร์ที่ 1
- Marvel’s The Avengers (2012) : ดิ อเวนเจอร์ส
MCU Phase 2 (2013-2015)
- Iron Man 3 (2013) : มหาประลัย คนเกราะเหล็ก 3
- Thor : The Dark World (2013) : ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ
- Captain America : The Winter Soldier (2014) : กัปตันอเมริกา: มัจจุราชอหังการ
- Guardians of the Galaxy (2014) : รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล
- Avengers: Age of Ultron (2015) : อเวนเจอร์ มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก
- Ant Man (2015) : มนุษย์มดมหากาฬ
MCU Phase 3 (2016-2019)
- Captain America : Civil War (2016) : กัปตันอเมริกา : ศึกฮีโร่ระห่ำโลก
- Doctor Strange (2016) : ดร.สเตรนจ์ ฮีโร่พลังเวทย์
- Guardians of the Galaxy Vol. 2 (2017) : รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2
- Spider Man : Homecoming (2017) : สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิง
- Thor : Ragnarok (2017) : ธอร์: ศึกอวสานเทพเจ้า
- Black Panther (2018) : แบล็ค แพนเธอร์
- Avengers : Infinity War (2018) : อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล
- Ant Man and the Wasp (2018) : แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์
- Captain Marvel (2019) : กัปตันมาร์เวล
- Avengers : Endgame (2019) : อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก
- Spider Man : Far From Home (2019) : สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม
MCU Phase 4 (2021-2022)
- WandaVision (2021 on Disney+) : วันด้าวิสชั่น
- The Falcon and the Winter Soldier (2021 on Disney+) : เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์
- Loki (2021 on Disney+) : โลกิ
- Black Widow (9 กรกฎาคม 2021) : แบล็ควิโดว์
- What If…? (เป็นอนิเมชั่นมาในปี 2021 บน Disney+) : สมมุติว่า…?
- Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (วันที่ 3 กันยายน 2021) : ชาง-ชีกับตำนานลับเท็นริงส์
- The Eternals (วันที่ 5 พฤษจิกายน 2021) : ฮีโร่พลังเทพเจ้า
- Hawkeye (ปลายปี 2021 on Disney+) : ฮอว์กอาย
- Spider-Man: No Way Home (17 ธันวาคม 2021 หนังของ Sony) : สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม
- Morbius (หนังของ Sony ทำร่วมกับ Marvel เป็น Anti-Hero ในจักรวาล Spider-Man 22 มกราคม 2022) : มอร์เบียส
- Moon Knight (มีนาคม 2022 – พฤษภาคม 2022 ทางช่อง Disney+) : มูนไนท์
- Doctor Strange in the Multiverse of Madness (6 พฤษภาคม 2022) : จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย
- Ms. Marvel: มิสมาร์เวล (8 มิถุนายน 2022 ซีรีส์บน Disney+)
- Thor: Love and Thunder (8 กรกฎาคม 2022) : ธอร์: ด้วยรักและอัสนี
- I Am Groot (10 สิงหาคม 2022 บน Disney+)
- She-Hulk: Attorney at Law (17 สิงหาคม 2022 บน Disney+)
- Werewolf by Night (7 ตุลาคม 2022 บน Disney+)
- Black Panther: Wakanda Forever (11 พฤษจิกายน 2022)
- The Guardian of the Galaxy Holiday Special (25 พฤษจิกายน 2022)
MCU Phase 5 (2023-2025)
- Ant-Man and the Wasp Quantumania (17 กุมภาพันธ์ 2023) : แอนท์-แมน และเดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม
- Guardians of the Galaxy: Vol. 3 (5 พฤษภาคม 2023) : รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 3
- Secret Invasion (21 มิถุนายน 2023) : มหันตภัยอำพราง
- Loki season 2 (6 ตุลาคม 2023) : โลกิ (ซีซั่น 2)
- The Marvels (เรื่อง Captain Marvel ภาค 2/ ฉาย 10 พฤษจิกายน 2023)
- What If...? season 2 (ซีรีส์ บน Disney+ 22 ธันวาคม 2023)
- Echo (ซีรีส์ บน Disney+ 10 มกราคม 2024)
- Deadpool 3 (26 กรกฎาคม 2024)
- Agatha All Along (ซีรีส์บน Disney+ 18 กันยายน 2024)
- Captain America: Brave New World (14 กุมภาพันธ์ 2025)
- Daredevil: Born Again (ซีรีส์บน Disney+ ช่วงมีนาคม 2025)
- Ironheart (ซีรีส์บน Disney+ 2025)
- Thunderbolts (2 พฤษภาคม 2025)
MCU Phase 6 (2025-2027)
- Blade (14 กุมภาพันธ์ 2025)
- Fantastic Four (25 กรกฎาคม 2025)
- Avengers: The Kang Dynasty (1 พฤษภาคม 2026)
- Avengers: Secret Wars (7 พฤษภาคม 2027)
ดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดตามปีเนื้อเรื่อง Timeline จริงของจักรวาล Marvel
อีกวิธีนึงก็คือ เหมาะสำหรับคนที่อยากดูหนัง Marvel ทั้งจักรวาลแบบมาราธอน ข้ามวันข้ามคืนไปเลยเราก็ไม่ว่า โดยวิธีที่ว่านี้ก็คือ การดูแบบเรียงตาม Timeline ปีจริงของจักรวาล Marvel เลย เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยในสงครามโลกครั้งที่ 2 (WWII) ไล่มาถึงปัจจุบันจนจบ ซึ่งข้อดีของวิธีดูแบบนี้ก็คือ จะไม่งงว่าตัวละครนี้มายังไง แล้วใครทะเลาะกับใคร รักกัน หรือแยกกันตอนไหน แล้วกลับมารวมกันอีกได้ยังไง
ซึ่งแอดมองว่าดูวิธีนี้จะเหมาะกว่าสำหรับคนที่เคยดูตาม Phase 1-5 จริงไปแล้ว 1 รอบ และอยากดูเนื้อเรื่องแบบจริงจังตามเนื้อหาจริงในจักรวาล Marvel อีกครั้ง แต่ต้องบอกก่อนว่าใน Timeline นี้ก็ยังไม่มีเหล่า X-Men เข้ามาร่วมขบวนการด้วยนะ เผื่อใครนึกว่ามี โดยการดูหนังจักรวาล Marvel ตาม Timeline ด้วยวิธีนี้ จะเรียงได้ดังนี้
- Captain America: The First Avenger (ช่วงแรกเริ่มต้นในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 WWII 1942-1943)
- Captain Marvel (ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1995)
- Iron Man (โด่งดังและถูกจับช่วงปี 2010)
- Iron Man 2 (หลังจากที่หลุดมาจากภาคแรกของ Iron Man ปี 2011)
- The Incredible Hulk (อันนี้เป็นช่วงที่ไม่แน่นอน เนื่องจากเป็นนักแสดงเก่า แต่มาก่อนรวมเป็น Avengers ในปี 2011)
- Thor (ช่วง 5-6 เดือนก่อนรวมตัวเป็น Avengers ในปี 2011)
- The Avengers (รวมตัวกันในปี 2012)
- Iron Man 3 (6 เดือนหลังจากที่จบเหตุการณ์ Avengers ครั้งแรกปี 2012)
- Thor : The Dark World (เหตุการณ์ก่อนรวมตัว Avengers อีกครั้งปี 2013)
- Captain America : Winter Soldier (เหตุการณ์ก่อนรวมตัว Avengers อีกครั้ง เวลาใกล้เคียงกับ Thor บวกลบ ไม่เกิน 1 ปี 2014)
- Guardians of the Galaxy (ช่วงปี 2014 เวลาต่างจากโลก เพราะอยู่ในอวกาศ)
- Guardians of the Galaxy Vol. 2 (เหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคแรกปี 2014)
- I Am Groot (กรู๊ทเกิดใหม่ในช่วงหลังจากภาคแรก 2014)
- Avengers: Age of Ultron (รวมตัวกันอีกครั้งในปี 2015)
- Ant-Man (เกิดขึ้นในปี 2015 แต่ยังไม่ได้เข้าร่วม Avengers)
- Captain America : Civil War (ช่วงหลังเหตุการณ์ Ultron ปี 2016)
- Black Widow (ช่วงเวลายังไม่แน่นอน แต่เป็นหลังเหตุการณ์ Civil War และเกิดก่อน Infinity War ที่มีการดีดนิ้ว)
- Spider-Man: Homecoming (Ultron และเริ่มเข้าสู่ยุค Infinity War ปี 2016)
- Doctor Strange (เพิ่งได้พลังมาในปี 2016-2017)
- Black Panther (เปิดตัว และเข้าสู่โลกภายนอกในปี 2017)
- Thor: Ragnarok (ช่วงก่อนการรวมตัวอีกครั้ง ก่อนเหตุการณ์ Infinity War ปี 2017)
- Avengers: Infinity War (รวมตัวกันอีกครั้งในปี 2017)
- Ant-Man and The Wasp (บอกเวลาไม่ได้ ติดอะไรต้องดูเอาเองแต่อยู่ในระหว่างทั้งสองภาคของ Avengers)
- Avengers: Endgame (เหตุการณ์เกิดในปี 2017 และจบเรื่องในปี 2022)
- LOKI (ไทม์ไลน์ของ LOKI อีกคนที่ค่อนข้างสับสนในช่วงปี แต่ย้อนไปปี 2012)
- LOKI Season 2 (ช่วงเวลาไม่แน่นอนอีกเช่นกัน)
- What If...? (ช่วงเวลาใน Multiverse)
- WandaVision (ช่วงประมาณ 1 อาทิตย์หลังจาก Endgame ที่พาทุกคนกลับมาในปี 2023)
- The Falcon and The Winter Soldier (ช่วง 6 เดือนหลัง Endgame แต่เกิดก่อน Spiderman นิดหน่อยช่วงปี 2023)
- Spider-Man: Far From Home (ช่วงหลังจากเหตุการณ์ Endgame ปี 2024)
- Eternals (หลังเหตุการณ์ Endgame ใกล้ๆ ช่วงของ Spider-Man: Far From Home ปี 2024)
- Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (ปี 2024 หลัง Far From Home ก่อน No Way Home )
- Spider-Man: No Way Home (ช่วงหลังวัน Halloween ปี 2024)
- Hawkeye (ธันวาคมช่วง Christmas ปี 2024)
- Doctor Strange in the Multiverse of Madness (เหตุการณ์หลัง WandaVision และอีกหลายเรื่องในปี 2024 ก่อนถึงปี 2025)
- Moon Knight (ไม่แน่นอนบนไทม์ไลน์ แต่หลังจาก Hawkeye 2024 ช่วงหนึ่งในปี 2025)
- Black Panther: Wakanda Forever (เกิดขึ้นในปี 2025)
- Echo (5 เดือนหลังจาก Hawkeye เกิดช่วงกลางปี 2025)
- She-Hulk (ช่วงปี 2025)
- Ms. Marvel (ช่วงหลังของ 2024 อยู่ในปี 2025)
- Thor: Love and Thunder (เกิดในปี 2025 ก่อนหน้า Guardians of the Galaxy 3)
- Werewolf By Night (2025)
- Guardians of the Galaxy Holiday Special (หลังจากเหตุการณ์เรื่อง Thor และ Werewolf 2025)
- Ant-Man and the Wasp: Quantumania (ช่วงปี 2025 และช่วง 6 เดือนแรกของปี 2026)
- Guardians of the Galaxy 3 (เกิดหลัง Holiday Special ช่วงปี 2025-2026)
- Secret Invasion (2025)
- The Marvels (เกิดหลังจาก Secret Invasion)
วิธีดูหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมดบน Disney+ Hotstar
สำหรับคนที่สมัครกับทาง Disney+ Hotstar เอาไว้แล้ว (อ่านต่อ Diney+ Hotstar คืออะไร สมัครยังไง) และอยากจะเริ่มต้นดูหนังจักรวาล Marvel และยังไม่รู้ว่าควรจะดูแบบไหนดี ถึงจะเรียงเวลาของจักรวาล Marvel ได้อย่างถูกต้อง ความจริงแล้วใครที่ต้องการดูหนังจักรวาล Marvel บน Disney+ Hotstar นั้นจะดูตามไทม์ไลน์แบบไหนก็ได้ ตามที่ตัวเองชอบเลย ทั้งตามปีที่ฉาย หรือว่าจะตามเนื้อเรื่องจริงๆ แต่เราขอแนะนำว่าให้ดูหนังจักรวาล Marvel เรียงตามเนื้อเรื่องจริงๆ ไปเลยจะดีกว่า เพราะว่าจะได้รู้เนื้อหาที่ต่อกันไป ง่ายต่อการเข้าใจด้วย ดังนั้นเราจึงขอเรียงไทม์ไลน์จริงของจักรวาล Marvel และมีอยู่บน Disney+ Hotstar ดังนี้
- Captain America: The First Avenger
- Agent Carter
- Captain Marvel
- Iron Man
- Iron Man 2
- The Incredible Hulk
- Thor
- The Avengers
- Iron Man 3
- All Hail the King
- Thor : Dark World
- Captain America : Winter Soldier
- Guardians of the Galaxy
- Guardians of the Galaxy Vol. 2
- I Am Groot S1
- I Am Groot S2
- Daredevil S1
- Jessica Jones S1
- Avengers: Age of Ultron
- Ant-Man
- Daredevil S2
- Luke Cage S1
- Iron Fist S1
- The Defenders
- Captain America : Civil War
- Black Widow
- Spider-Man: Homecoming
- Punisher S1
- Doctor Strange
- Black Panther
- Jessica Jones S2
- Luke Cage S2
- Iron Fist S2
- Daredevil S3
- Thor: Ragnarok
- Punisher S2
- Jessica Jones S3
- Avengers: Infinity War
- Ant-Man and The Wasp
- Avengers: Endgame
- LOKI S1
- What If…? S1
- WandaVision
- The Falcon and The Winter Soldier
- Spider-Man: Far From Home
- Eternals
- Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings
- Hawkeye
- Doctor Strange in the Multiverse of Madness
- Moon Knight
- Black Panther: Wakanda Forever
- Echo
- She-Hulk
- Ms. Marvel
- Thor: Love and Thunder
- Werewolf By Night
- Guardians of the Galaxy Holiday Special
- Ant-Man and the Wasp: Quantumania
- Guardians of the Galaxy 3
- Secret Invasion
- The Marvels
- Loki S2
- What If…? S2
**ไม่มีเรื่อง Spider-Man เพราะเป็นของ Sony**
ดูหนังจักรวาล Marvel เหตุการณ์หลังจากจบ Phase 5-6 จะเป็นยังไงต่อ?
หลังจากจบเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทั้ง 5 Phase นั้นก็ยังมีหลังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อต่อเป็นภาคต่อไปสำหรับการดูหนังจักรวาล Marvel ในอนาคตด้วย ซึ่งจะเป็น Phase 6 ที่จะเป็น Gen ใหม่ของเหล่าฮีโร่ ที่อาจขึ้นเป็น Young Avengers และมาแทนรุ่นก่อนหน้านั่นเอง ซึ่งจะเล่าเหตุการณ์ผ่านหนัง และเล่าผ่านซีรีส์หลายๆ เรื่อง จึงขอรวมเนื้อหาทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น ทั้งหนังและซีรีส์ทั้งหมดมาด้วยเลย เพื่อสานต่อให้คนที่อยากดูหนังจักรวาล Marvel ต่อไป แต่ยังไม่รู้ว่าจะมารวมเป็น Timeline ตามปีจริงอย่างไรได้บ้างนะ มีหนังและซีรีส์ ที่วางแผนจะออกใหม่ ดังนี้
The future of the Marvel Cinematic Universe (MCU)
- Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings sequel (ภาค 2 ยังไม่ระบุวัน)
- Nova (ยังไม่ระบุวัน)
- Armor Wars (ยังไม่ระบุวัน)
- Black Panther 3 (ยังไม่ระบุวัน)
- Wakanda/Okoye spin-off (ซีรีส์บน Disney+ ยังไม่ระบุวัน)
- Wonder Man (ซีรีส์บน Disney+ ยังไม่ระบุวัน)
- Eternals sequel (ยังไม่ระบุวัน)
- What If...? Season 3 (ยังไม่ระบุวัน)
- Spider-Man: Freshman Year (ซีรีส์บน Disney+ ยังไม่ระบุวัน)
- Spider-Man: Sophomore Year (ซีรีส์บน Disney+ ยังไม่ระบุวัน)
- Marvel Zombies (ซีรีส์บน Disney+ ยังไม่ระบุวัน)
- Vision Quest (ยังไม่ระบุวัน)
- X Men '97 (ยังไม่มีข้อมูลและวัน)
**เนื้อหาการดูหนังจักรวาล Marvel อาจเกี่ยวเนื่องกับ Phase 5 บางเรื่อง ที่โยงมาถึง Phase 6 เพราะยังไม่มีเวลาที่แน่นอน**
จะดูหนังจักรวาล Marvel ที่ไหนได้บ้าง?
การดูหนังจักรวาล Marvel ถ้าจะให้ครบทุกเรื่องจริงๆ สามารถซื้อแผ่น DVD ของแท้มาดูได้เลย มีครบแน่นอน แต่ถ้าหากอยากดูแบบออนไลน์ จะยากหน่อย เพราะเว็บ Streaming ใหญ่ๆ ที่มีภาษาไทย หรือบรรยายไทยอย่าง Netflix และเว็บอื่นๆ ก็มีไม่ครบทุกเรื่อง อีกทางที่มีแน่นอนเลยก็คือดูผ่าน Disney+ Hotstar ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท/เดือนและ 799 บาท/ปี หรือแพ็กเกจพรีเมียม 289 บาท/เดือนและ 2,290 บาท/ปี (อ่านต่อ Disney+ Hotstar สมัครยังไง) ก็จะได้ดูหนังจักรวาล Marvel เกือบครบทุกเรื่องใน Timeline เลย ดีงามที่สุดแล้ว
นอกจากนี้ยังสามารถซื้อทั้งเรื่อง หรือเช่าผ่าน iTunes, True ID และ Google Play ก็ได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะมีครบทุกเรื่องเลย แถม iTunes ก็มีให้ซื้อ หรือเช่าเป็นแพ็คได้ด้วย (ดูที่นี่) คุ้มสุดๆ แนะนำให้ดูหนังมีลิขสิทธิ์นะครับ เพื่อเป็นการสนับสนุนทั้งเว็บ และคนทำหนังด้วย
ก่อนดู Doctor Strange in the Multiverse of Madness ต้องดูเรื่องอะไรก่อนบ้าง!!
สำหรับการดูหนังจักรวาล Marvel เรียงตามลำดับโดยทั่วไปแล้ว ถ้าดูจากไทม์ไลน์ตามที่เราบอกไปก็พอจะดูได้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว (ย้ำว่าทุกเรื่องนะ) แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ดูตามเนื้อเรื่องไทม์ไลน์เวลาจริงของจักรวาล Marvel มาก่อน และอยากจะดูหนังเรื่องใหม่อย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ให้รู้เรื่อง ก็ควรที่จะต้องดูหนังจักรวาล Marvel ทั้ง 4 เรื่องเป็นอย่างน้อย ถึงจะดูหนังภาคต่อเรื่องนี้รู้เรื่องนั่นเอง โดยแต่ละเรื่องที่ควรดูก่อนคือ
- ซีรีส์ WandaVision (ไม่ดูไม่ได้ ต้องดูเรื่องนี้ก่อนถึงจะรู้เรื่อง เพราะเนื้อเรื่องได้ปูเนื้อหาก่อนเข้ามายังเรื่องนี้)
- ซีรีส์ Loki (ต้องดูก่อนเท่านั้น เพราะโลกิเป็นตัวเปิดจักรวาล และเป็นคนที่รู้เรื่องเวลาเป็นคนแรกๆ)
- ซีรีส์ What If…? (ต้องดู เพราะเนื้อเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Multiverse และจะได้รู้จักพื้นฐานตัวละครก่อนด้วย)
- Spider-Man No Way Home (เรื่องราวของการเปิด Multiverse ที่ปั่นป่วนจนสร้างปัญหามายังภาคต่อนี้)
ก่อนดู Thor: Love and Thunder ควรดูเรื่องไหนก่อนบ้าง?
เรื่องใหม่ล่าสุดของการดูหนังจักรวาล Marvel ที่เพิ่งเข้ามาไม่นานนี้ ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับธอร์หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ชัดเจน ว่าจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้อยู่บนไทม์ไลน์ส่วนไหนของจักรวาล Marvel กันแน่ เพราะจริงๆ แล้วควรจะเกิดขึ้นหลัง Avengers: Endgame 4 ปีแต่ว่าก็มีเรื่องราวในปี 2025 ที่เกิดขึ้นอย่าง Doctor Strange ภาค 2 และ Ms. Marvel (ควรดูเพราะจะเกี่ยวเนื่องไปยัง Captain Marvel ภาคต่อไปด้วย) แถมเนื้อหาในเรื่องก็ยัคลุมเครือถึงเวลาที่แท้จริงด้วย คาดว่าน่าจะมีอะไรให้เห็นมากขึ้นหลังหนังเรื่อง Guardians of the Galaxy 3 ออกมาก่อน และก่อนที่จะดูเรื่อง Thor: Love and Thunder เราควรดูเรื่องไหนก่อนบ้าง? มาดูกันเลย (และห้ามพลาด End Credit ทั้ง 2 ตอนของธอร์ภาคใหม่เด็ดขาด!!)
- Thor ภาคแรก เพราะเป็นการปูเนื้อเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับตัวธอร์อยู่แล้ว
- The Avengers เนื่องจากเบื้องหลังตัวร้ายของการบุกโลกคือน้องชายธอร์อย่างโลกิ จึงได้รวบรวมฮีโร่เป็น The Avengers ซึ่งมีธอร์เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
- Thor The Dark World ควรดูก่อนมากๆ เพื่อให้รู้เรื่องราวของ เจน ฟอสเตอร์ ที่เป็นการปูเนื้อเรื่อง และสานต่อเรื่องราวของธอร์ที่ต้องเสียสละเพื่อจักรวาลอีกด้วย
- Guardians of the Galaxy ควรดูเพราะเหล่าการ์เดียนนี้เข้าไปอยู่ในหนังของธอร์ภาคนี้ และยังเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับ Infinity Stone ก่อนพาไปถึงหลังเหตุการณ์ Avengers: Endgame
- Guardians Of The Galaxy Vol. 2 ดูภาคแรกก็ต้องภาคสองต่อไปด้วยเช่นกัน เพราะทุกอย่างจะไปเชื่อมต่อกับเรื่องราวของธอร์ในภาคนี้เช่นกัน
- Avengers: Age of Ultron การรวมตัวกันอีกครั้งของทีม Avengers ที่มีธอร์เป็นตัวสำคัญในการตามหา Infinity Stone ด้วย
- Thor: Ragnarok เรื่องราวต่อเนื่องของธอร์ที่ถูกไล่ออกไปอยู่ที่ดาวเคราะห์ซาคาร์ จากฝีมือของเฮล่าที่ทำลายค้อนโยล์เนียร์ของธอร์ และธอร์ต้องกลับมากอบกู้แอสการ์ดอีกครั้ง
- Avengers: Infinity War เหตุการณ์หลัง Thor: Ragnarok ที่รวมตัวเหล่าฮีโร่อีกครั้ง พร้อมกับการเจอหน้ากันครั้งแรกของเหล่า Guardians of the Galaxy กับธอร์ และธอร์ก็ยังได้อาวุธใหม่คือ Stormbreaker อีกด้วย
- Avengers: Endgame เรื่องราวต่อเนื่องจากสงคราม Infinity War ที่เป็นบทสรุปและปูเนื้อหายาวต่อเนื่องมายังภาคนี้ของตัวธอร์
- Loki ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่เป็นเนื้อหาที่เปิด Phase 4 ของจักรวาล Marvel และมีเนื้อเรื่องที่พูดถึงมัลติเวิร์สที่เกี่ยวข้องกับทั้งจักรวาล Marvel เช่นกัน
ก่อนดูหนังเรื่อง The Marvels ควรดูเรื่องไหนก่อนบ้าง?
สำหรับใครที่จะดูหนังจักรวาล Marvel เรื่องล่าสุดที่กำลังจะเข้ามาฉายอย่าง The Marvels หรือภาคต่อของ Captain Marvel ก็ว่าได้ ซึ่งใครที่ต้องการดูหนังจักรวาล Marvel แบบเรียงลำดับขั้นตอนของเรื่องนี้ และอยากรู้ว่าต้องดูเรื่องไหนก่อน เพื่อเตรียมพร้อมและทบทวนเนื้อหาก่อนไปสานต่อความสนุกอีกครั้ง ก็ควรที่จะต้องดูหนังและซีรีส์ก่อนหน้าได้ดังนี้เลย
- Captain Marvel (2019): แน่นอนว่าก่อนจะดูภาคต่อก็ควรดูภาคแรกก่อน ว่าตัวละครอย่าง Carol Danvers มีความเป็นมาอย่างไรและได้รับพลังได้อย่างไรด้วย
- WandaVision: ควรดูเพราะจะได้รู้ว่า Monica Rambeau นั้นได้รับพลังมาอย่างไร โดยเธอนั้นเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของ Carol Danvers ด้วย จึงควรดูเพื่อรู้จักตัวละครไปด้วย
- Ms. Marvel: แน่นอนว่าเรื่องใหม่นี้ต้องมีตัวละครอย่าง Ms. Marvel หรือ Kamala Khan เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงควรรู้ว่าเธอได้รับพลังมาอย่างไรเช่นกัน
- Secret Invasion: ต้องดูซีรีส์นี้ก่อน เนื่องจากความเกี่ยวข้องของ Nick Fury และตัวละครอื่นๆ นั้นเกิดขึ้นก่อนหนัง The Marvels ซึ่งเนื้อหาในเรื่องนี้ก็จะนำไปสู่เรื่อง The Marvels ด้วยนั่นเอง
สรุปการดูหนังจักรวาล Marvel
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นการดูหนังจักรวาล Marvel ทุกรูปแบบ อยากจะดูแบบไหน เรียงตาม Timeline แบบไหนก็สามารถดูได้เลย ถ้าอยากดูแบบตามปีที่ฉายออกมา ก็สามารถหาดูได้ หรืออยากดูเนื้อเรื่องตามปีจริงของในหนังก็ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งสองแบบถึงแม้ว่าจะมีข้อดี และข้อเสียที่ต่างกันออกไป แล้วแต่ความชอบของคนดู แต่รับรองได้ว่าดูแบบไหน ก็สนุกไปกับเนื้อเรื่องได้เหมือนกัน ส่วนใครที่อยากให้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกันในการดูหนังจักรวาล Marvel อย่าง X-Men หรือฮีโร่อื่นๆ ก็อาจต้องรออีกสักหน่อย มีข่าวแว่วๆ ว่าจะเอามารวมกันด้วย ต้องรอติดตามกันต่อไป แล้วถ้ามีเรื่องราวการดูหนังจักรวาล Marvel อะไรอัพเดทอีก specphone ก็จะนำมาฝากและมาอัพเดทการดูหนังจักรวาล Marvel กันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ
";s:10:"post_title";s:209:"ดูหนังจักรวาล Marvel เรียงตาม Timeline ยังไง? ดูแบบไหนได้บ้าง? ที่นี่มีคำตอบ! อัพเดท 2024";s:12:"post_excerpt";s:699:"เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเป็นแฟนหนัง Marvel กันอยู่แล้วแน่ๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะลองดู หรืออยากดูหนังจักรวาล Marvel แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี และมีช่องทางไหน ที่ให้เราได้ดูได้บ้าง วันนี้เราจะมาบอกให้คนที่สนใจ หรือคนที่ยังไม่รู้ ให้กระจ่างกันไปเลย";s:11:"post_status";s:7:"publish";s:14:"comment_status";s:4:"open";s:11:"ping_status";s:4:"open";s:13:"post_password";s:0:"";s:9:"post_name";s:42:"howto-watch-marvel-movies-in-timeline-2024";s:7:"to_ping";s:0:"";s:6:"pinged";s:75:" https://specphone.com/web/whatis-disney-hotstar-price-movies-series/318049";s:13:"post_modified";s:19:"2024-05-18 19:09:22";s:17:"post_modified_gmt";s:19:"2024-05-18 12:09:22";s:21:"post_content_filtered";s:0:"";s:11:"post_parent";s:1:"0";s:4:"guid";s:35:"https://specphone.com/web/?p=300330";s:10:"menu_order";s:1:"0";s:9:"post_type";s:4:"post";s:14:"post_mime_type";s:0:"";s:13:"comment_count";s:1:"0";s:5:"Thumb";s:389:"http://specphone.com/web/wp-content/themes/_stylebook/timthumb.php?src=https%3A%2F%2Fspecphone.com%2Fweb%2Fwp-content%2Fuploads%2F2021%2F07%2F%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5-Marvel-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1-timeline-2022-fea-768x402.jpg&q=90&w=50&h=50&zc=1";}i:1;a:24:{s:2:"ID";s:6:"370354";s:11:"post_author";s:2:"59";s:9:"post_date";s:19:"2024-05-17 17:08:36";s:13:"post_date_gmt";s:19:"2024-05-17 10:08:36";s:12:"post_content";s:36435:"
เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ชิปตัวเดียวกันในรุ่นใหม่กับตัวโปรรุ่นเก่าต่างกันแค่ไหน จะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
จากการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ออกมาล่าสุดสองรุ่นคือ iPad Pro M4 และ iPad Air 6 ก็ทำให้รุ่นก่อนหน้าทั้งสองรุ่นนี้ถูกปลดออกไปจาก Apple Store แล้ว แน่นอนว่ารุ่นท็อปของซีรีส์อย่าง iPad Pro M4 นั้นยังคงทำสเปคออกมาได้เหนือกว่าทุกรุ่นอยู่เหมือนเดิม รวมไปถึง iPad Air 6 ที่รุ่นนี้ก็ได้สานต่อความแรงด้วยชิป M2 และยังมีขนาดจอมาให้เลือก 2 รุ่นเหมือนกับตัวโปร ทำให้หลายคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อมาใช้งานลังเลอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง iPad Air 6 รุ่นใหม่ล่าสุด หรือว่าจะซื้อ iPad Pro M2 รุ่นเก่าที่ใช้ชิปตัวเดียวกัน มีจอให้เลือกเหมือนกัน ส่วนสเปคอื่นๆ ของทั้งสองรุ่นนี้จะต่างกันแค่ไหน มาลองเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ว่าต่างกันยังไง และจะซื้อรุ่นไหนดีให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด
- ตารางเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2
- สรุป iPad Air 6 vs iPad Pro M2 รุ่นไหนเหมาะกับใคร และจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
ตารางเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2
| สเปค\ รุ่น | iPad Air 6 รุ่น 11″ | iPad Pro M2 รุ่น 11″ | iPad Air 6 รุ่น 13″ | iPad Pro M2 รุ่น 12.9″ |
| ขนาด | 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. | 247.6 x 178.5 x 5.9 มม. | 280.6 x 214.9 x 6.1 มม. | 280.6 x 214.9 x 6.4 มม. |
| น้ำหนัก | WiFi: 462 กรัม Cellular: 462 กรัม | WiFi: 466 กรัม Cellular: 468 กรัม | WiFi: 617 กรัม Cellular: 618 กรัม | WiFi: 682 กรัม Cellular: 684 กรัม |
| สี | ฟ้า, ม่วง, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ | เงิน, เทาสเปซเกรย์ | ฟ้า, ม่วง, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ | เงิน, เทาสเปซเกรย์ |
| หน้าจอ | Liquid Retina, IPS LCD กว้าง 11 นิ้ว (2360 x 1640) | Liquid Retina, IPS LED กว้าง 11 นิ้ว (2388 × 1668) | Liquid Retina, IPS LCD กว้าง 13 นิ้ว (2732 x 2048) | Liquid Retina XDR, Mini-LED กว้าง 12.9 นิ้ว (2732 × 2048) |
| ความสว่าง | สูงสุด 500nits | สูงสุด 600nits | สูงสุด 600nits | สูงสุด 1600nits |
| Refresh Rate | 60Hz | ProMotion 120Hz | 60Hz | ProMotion 120Hz |
| ปากกา | Apple Pencil Pro, Apple Pencil (USB‑C) | Apple Pencil (Gen 2), Apple Pencil (USB-C) | Apple Pencil Pro, Apple Pencil (USB‑C) | Apple Pencil (Gen 2), Apple Pencil (USB-C) |
| คีย์บอร์ด | Magic Keyboard | Magic Keyboard, Smart Keyboard Folio | Magic Keyboard | Magic Keyboard, Smart Keyboard Folio |
| ชิปประมวลผล | Apple M2 | Apple M2 | Apple M2 | Apple M2 |
| RAM | 8GB | 8GB/ 16GB (1-2TB) | 8GB | 8GB/ 16GB (1-2TB) |
| ROM | 128GB 256GB 512GB 1TB | 128GB 256GB 512GB 1TB 2TB | 128GB 256GB 512GB 1TB | 128GB 256GB 512GB 1TB 2TB |
| SIM | eSIM | Nano-SIM/ eSIM | eSIM | Nano-SIM/ eSIM |
| การเชื่อมต่อ | 5G/ WiFi 6E, BT5.3, USB-C | 5G/ Wi-Fi 6E, BT5.3, USB-C 4 Thunderbolt 3 | 5G/ WiFi 6E, BT5.3, USB-C | 5G/ Wi-Fi 6E, BT5.3, USB-C 4 Thunderbolt 3 |
| เสียง | ลำโพงแนวนอน ไมค์ 2 ตัว | ลำโพง 4 ตัว ไมค์ 5 ตัว | ลำโพงแนวนอนเบส 2 เท่า ไมค์ 2 ตัว | ลำโพง 4 ตัว ไมค์ 5 ตัว |
| กล้องหน้า | Ultrawide 12MP (?/2.4) แนวนอน | TrueDepth, Ultrawide 12MP (?/2.4) แนวตั้ง | Ultrawide 12MP (?/2.4) แนวนอน | TrueDepth, Ultrawide 12MP (?/2.4) แนวตั้ง |
| กล้องหลัง | 12MP (?/1.8) | 12MP (?/1.8), Ultrawide 10MP (ƒ/2.4) | 12MP (?/1.8) | 12MP (?/1.8), Ultrawide 10MP (ƒ/2.4) |
| แบต | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชม. 5G สูงสุด 9 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชม. 5G สูงสุด 9 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชม. 5G สูงสุด 9 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชม. 5G สูงสุด 9 ชม. |
| ราคา (เริ่มต้น) | 23,900 บาท | 32,900 บาท | 29,900 บาท | 44,900 บาท |
เปรียบเทียบตัวเครื่องและหน้าจอ
เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 กันที่ตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นนี้กันก่อนเลย ที่ทั้งคู่นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกันมากถ้าเทียบกับหน้าจอขนาดเดียวกัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องรุ่นจอ 11 นิ้วจะต่างกันเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นรุ่นจอ 13 นิ้วตัว iPad Air 6 จะเบากว่าพอสมควรเลย จุดที่ต่างกันเมื่อมองภายนอกเลยก็คือตัวกล้องหลังที่รุ่นโปรมีกล้อง 2 ตัวแต่ว่า iPad Air 6 จะมีตัวเดียว ส่วนกล้องหน้าวางแนวนอนเพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น มีปุ่ม Touch ID ด้านบน ในขณะที่รุ่นโปรยังเป็นแนวตั้งเหมือนเดิมและใช้งาน Face ID เพื่อปลดล็อค
ในส่วนของหน้าจอทั้งสองรุ่นนี้ขอแยกเป็นขนาดเพื่อการเข้าใจแบบง่ายๆ เพราะว่า iPad Pro M2 รุ่นจอ 11 นิ้วและ iPad Air 6 รุ่นจอ 11 และ 13 นิ้วเป็นจอแบบเดียวกันคือ IPS LCD แบบ Liquid Retina เหมือนกัน ยกเว้นจอ 11 นิ้วของ iPad Air 6 จะสว่างได้สูงสุด 500nits และจอ 13 นิ้วกับ 11 นิ้วของรุ่นโปร M2 จะสว่างได้มากกว่าถึง 600nits ส่วนรุ่นที่ต่างออกไปจากทุกรุ่นเลยก็คือ iPad Pro M2 รุ่นจอ 12.9 นิ้วที่ใช้จอ IPS Mini-LED แบบ Liquid Retina XDR ที่มีสีสันและความคมชัดมากกว่า สามารถทำความสว่างได้สูงสุดถึง 1,600nits เลยทีเดียว ซึ่งรุ่นโปรนั้นยังรองรับเทคโนโลยี ProMotion 120Hz ที่ใช้งานได้ลื่นกว่าด้วย
อีกหนึ่งจุดที่ถือว่าเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลยก็คือการรองรับปากกา ที่ตัว iPad Air 6 นั้นรองรับปากการุ่นใหม่คือ Apple Pencil Pro ที่สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้นสำหรับการออกแบบ ถ่ายภาพ ตัดต่อ ที่มีการบีบเพื่อเพิ่มแผงเครื่องมือให้เลือกใช้ทั้งน้ำหนักเส้น สี และฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ ที่ทำได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการลากพร้อมหมุนเพื่อควบคุมเครื่องมือต่างๆ, การตอบสนองแบบสั่น การหาตำแหน่งและการใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย ส่วนรุ่น iPad Pro M2 นั้นยังคงรองรับปากกาตัวเดิมคือ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ที่คุณสมบัติยังเทียบตัวใหม่ไม่ได้
เปรียบเทียบชิปประมวลผลกับการเชื่อมต่อ
มาดูที่การเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ที่ชิปประมวลผลกันบ้าง ถึงแม้ว่าทั้งสองรุ่นนี้จะใช้ชิปเป็น Apple M2 เหมือนกันก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อที่ต่างกันอยู่สำหรับ iPad Pro M2 รุ่นที่มี RAM 16GB นั้นย้อมแรงกว่าตัวปกติที่ iPad Air 6 ทุกรุ่นมี RAM 8GB แต่ถ้าเป็นรุ่นโปรที่มี RAM เท่ากันก็ไม่ได้ต่างกันมากในเรื่องของความแรง การใช้งานทางด้านกราฟิกและการตัดต่อ เพราะว่าเหมือนกันทั้งหมด รวมไปถึงความจุที่มีตัวเลือกใกล้เคียงกันด้วย ต่างกันแค่รุ่นโปรมีความจุสูงสุดถึง 2TB เท่านั้น
ส่วนการเชื่อมต่อทั้งสองรุ่นมีให้เลือกทั้ง 5G และ WiFi เหมือนกัน ต่างกันนิดหน่อยที่ iPad Air 6 รองรับแค่ eSIM อย่างเดียว นอกจากนี้ช่องต่อของรุ่นโปรก็มี Thunderbolt และ USB 4 ที่เชื่อมต่อและส่งข้อมูลได้เร็วกว่า เพราะว่ารุ่น iPad Air 6 ยังใช้ได้แค่ USB-C ปกติ จุดที่ทำให้ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ต่างกันอีกอย่างก็คือลำโพงและไมค์ ที่ตัว iPad Air 6 มีลำโพงแนวนอนพร้อมไมค์ 2 ตัว และถึงแม้ว่ารุ่น 13 นิ้วมีเบสดีกว่าสองเท่า ก็ยังเทียบไม่ได้กับ iPad Pro M2 ที่มีลำโพง 4 ตัวรอบทิศทางพร้อมไมค์ 5 ตัวระดับสตูดิโอที่เหมาะกับงานด้านโปรดักชั่นมากกว่า
เปรียบเทียบกล้องหน้ากับกล้องหลัง
สำหรับกล้องหน้าและกล้องหลังของ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ก็ยังต่างกันคนละแบบอยู่ดี ถึงแม้ว่ากล้องหน้าของทั้งสองรุ่นนี้จะสเปคเหมือนกันคือกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP (ƒ/2.4) แต่ว่าของ iPad Air 6 นั้นวางในแนวนอนเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นสำหรับวิดีโอคอล ส่วนของ iPad Pro M2 ยังเป็นแนวตั้ง แต่ก็ยังมีฟีเจอร์การใช้งานที่มากกว่าอย่างโหมดภาพถ่ายบุคคล, การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล และ Animoji/ Memoji
ส่วนกล้องหลังทั้งสองรุ่นนั้นต่างกันเลย โดยรุ่นใหม่ iPad Air 6 มีกล้องหลังตัวเดียวความละเอียด 12MP (ƒ/1.8) ซูมดิจิทัลได้ 5 เท่าสำหรับถ่ายและสแกนแบบทั่วไป แต่ว่าตัว iPad Pro M2 นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัวความละเอียดหลัก 12MP (ƒ/1.8) กับอัลตร้าไวด์ 10MP (ƒ/2.4) ซูมออปติคอลได้ 2 เท่าพร้อมแฟลช True Tone และสแกนเนอร์ LiDAR สามารถถ่ายได้ดีกว่า อีกทั้งยังรองรับการถ่าย ProRes สูงสุด 4K และซูมเสียงกับอัดเสียงแบบสเตอริโอได้ด้วย
เปรียบเทียบแบตเตอรี่และราคาล่าสุด
ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ที่การใช้งานของแบตตอรี่ที่แต่ละรุ่นนั้นมีความจุและวัตต์/ชั่วโมงที่ต่างกัน แต่ตามสเปคของทุกรุ่นนั้นสามารถใช้งานได้เท่ากันหมดไม่ว่าจะเป็นการเล่นเน็ตด้วย WiFi หรือดูวิดีโอได้สูงสุด 10 ชั่วโมง หรือใช้งาน 5G ต่อเนื่องได้สูงสุด 9 ชั่วโมงเหมือนกันหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย ส่วนราคาล่าสุดในตอนนี้ถึงแม้ว่า iPad Pro M2 จะไม่ได้ขายบน Apple Store แล้ว แต่ก็ยังมีขายบนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น มีราคาต่างกันดังนี้
สั่งซื้อ iPad Air 6
| iPad Air 6 รุ่น 11″ | iPad Pro M2 รุ่น 11″ | iPad Air 6 รุ่น 13″ | iPad Pro M2 รุ่น 12.9″ | |
| WiFi | 128GB: 23,900 256GB: 29,900 512GB: 35,900 1TB: 43,900 | 128GB: 32,900 256GB: 36,900 512GB: 44,900 1TB: 60,900 2TB: 76,900 | 128GB: 29,900 256GB: 33,900 512GB: 41,900 1TB: 49,900 | 128GB: 44,900 256GB: 48,900 512GB: 56,900 1TB: 72,900 2TB: 88,900 |
| WiFi + Cellular | 128GB: 29,900 256GB: 33,900 512GB: 41,900 1TB: 49,900 | 128GB: 38,900 256GB: 42,900 512GB: 50,900 1TB: 66,900 2TB: 82,900 | 128GB: 35,900 256GB: 39,900 512GB: 47,900 1TB: 55,900 | 128GB: 50,900 256GB: 54,900 512GB: 62,900 1TB: 78,900 2TB: 94,900 |
สรุป iPad Air 6 vs iPad Pro M2 รุ่นไหนเหมาะกับใคร และจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
จากการเปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 สเปคต่างๆ ของทั้งสองรุ่นนี้แล้วจะเห็นได้ว่าจุดหลักๆ ที่ต่างกันเลยก็คือการใช้งานและการรองรับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าหากใครที่ต้องการใช้ iPad มาใช้งานแบบทั่วไปเป็นหลัก มีออกแบบกราฟิกหรือว่าตัดต่อบ้างในระดับปกติตัว iPad Air 6 นั้นตอบโจทย์การใช้งานในด้านนี้มากกว่า เพราะมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แรงมาก ใช้งานทั่วไปหรือใช้ทำงานได้ดีเยี่ยมแน่นอน รองรับปากกา Apple Pencil Pro ตัวใหม่ที่ทำงานได้ดีมากขึ้นพร้อมจอที่มีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นด้วย
ส่วนคนที่ทำงานในระดับโปรหรือในระดับโปรดักชั่นที่ต้องทำงานสตูดิโอ ใช้เสียงหรือการอัดเสียง และการตัดต่อออกแบบชิ้นงานที่จำเป็นต้องใช้สีสันกับหน้าจอที่ให้สีได้แม่นยำ iPad Pro M2 ยังคงใช้งานในด้านนี้ได้ดีกว่า โดยเฉพาะรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้วที่มีจอดีกว่ารุ่นทั่วไป ส่วนทางด้านความแรงที่เป็นชิปตัวเดียวกัน แต่ถ้าซื้อรุ่นที่มี RAM 16GB ก็แน่นอนว่าย่อมทำงานในหลายๆ แอพหรือการทำงานที่ซับซ้อนได้ดีกว่า ดังนั้นใครที่เน้นการทำงานไปทางด้านสตูดิโอและโปรดักชั่นต่างๆ รุ่นโปรก็ยังเหมาะกับการใช้งานมากกว่าอยู่ดี
- เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Air 5 รุ่นใหม่กับรุ่นเก่าต่างกันตรงไหน และจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
- เปรียบเทียบ iPad Pro M4 vs iPad Pro M2 ต่างกันยังไง ราคาเท่าไหร่ ซื้อรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าในปี 2024
- เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M4 รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นต่างกันยังไง และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้างในปี 2024
ภาพและข้อมูลจาก Apple
";s:10:"post_title";s:300:"เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ชิปตัวเดียวกันในรุ่นใหม่กับตัวโปรรุ่นเก่าต่างกันแค่ไหน จะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024";s:12:"post_excerpt";s:492:"เปรียบเทียบ iPad Air 6 vs iPad Pro M2 ทั้งสองรุ่นระหว่างรุ่นใหม่และรุ่นโปรตัวเก่าที่ใช้ชิป M2 ตัวเดียวกันมีสเปคอื่นๆ ต่างกันยังไง และจะซื้อรุ่นไหนดีให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด";s:11:"post_status";s:7:"publish";s:14:"comment_status";s:6:"closed";s:11:"ping_status";s:6:"closed";s:13:"post_password";s:0:"";s:9:"post_name";s:38:"compare-ipad-air-6-vs-ipad-pro-m2-2024";s:7:"to_ping";s:0:"";s:6:"pinged";s:0:"";s:13:"post_modified";s:19:"2024-05-17 17:08:39";s:17:"post_modified_gmt";s:19:"2024-05-17 10:08:39";s:21:"post_content_filtered";s:0:"";s:11:"post_parent";s:1:"0";s:4:"guid";s:35:"https://specphone.com/web/?p=370354";s:10:"menu_order";s:1:"0";s:9:"post_type";s:4:"post";s:14:"post_mime_type";s:0:"";s:13:"comment_count";s:1:"0";s:5:"Thumb";s:213:"http://specphone.com/web/wp-content/themes/_stylebook/timthumb.php?src=https%3A%2F%2Fspecphone.com%2Fweb%2Fwp-content%2Fuploads%2F2024%2F05%2FCompare-iPad-Air-6-vs-iPad-Pro-M2-Cover-768x402.jpg&q=90&w=50&h=50&zc=1";}i:2;a:24:{s:2:"ID";s:6:"370342";s:11:"post_author";s:2:"59";s:9:"post_date";s:19:"2024-05-17 09:09:00";s:13:"post_date_gmt";s:19:"2024-05-17 02:09:00";s:12:"post_content";s:18380:"
สเปค Redmi 13C 5G มือถือ 5G ราคาประหยัด ได้ชิป Dimensity 6100+ กล้อง 50MP ราคาไทยเริ่มต้น 4,999 บาท
Xiaomi เปิดตัวออกมาอีกหนึ่งรุ่นล่าสุดสำหรับมือถือ Redmi ที่ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีที่แล้วก็เคยเปิดตัว Redmi 13C ไปแล้วแต่ว่าเป็นรุ่น 4G ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดตัวรุ่น 5G ตามมาอีกหนึ่งรุ่นในราคาเร้าใจเริ่มต้นไม่เกิน 5,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือรองรับการใช้งาน 5G ได้ในราคาประหยัด ได้ชิปที่ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมได้ หน้าจอไหลลื่น มาพร้อมกล้องคู่ที่ถ่ายรูปได้ดีงามอยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังกันน้ำกันฝุ่นได้ และยังมีดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามอีกด้วย ไปดูกันว่าจะมีหน้าตาและสเปคต่างๆ เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Redmi 13C 5G รุ่นนี้
Redmi 13C 5G
สำหรับ Redmi 13C 5G รุ่นนี้มีดีไซน์ที่จะคล้ายๆ กับตัว 4G ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้อยู่บ้าง แต่ว่ารุ่นใหมท่นี้จะมีฝาหลังพร้อมลวดลายที่มีให้เลือก 2 สีคือสีดำ (Starry Black) และสีเงิน (Starry Silver) เป็นลายเหมือนดวงดาวระยิบระยับ ส่วนกล้องหลังเป็นเลนส์ฝังนูนขึ้นมา 2 ตัวพร้อมแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบหยดน้ำ Dot Drop display ป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP53 (ละอองน้ำ) สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง
ทางด้านหน้าจอ Redmi 13C 5G ใช้หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ (1600×720) กว้าง 6.74 นิ้วพร้อมรองรับ Refresh Rate 90Hz (สำหรับแอพที่รองรับ) สามารถทำความสว่างแบบทั่วไปได้ 450nits และสูงสุดถึง 600nits นอกจากนี้ยังได้การรองรับจาก TÜV Rheinland ในเรื่องของการมีแสงสีฟ้าต่ำและการกระพริบของหน้าจอ เพื่อช่วยถนอมสายตาขณะใช้งาน ซึ่งตัวหน้าจอนี้ก็เหมือนกันกับตัว 4G เลยนั่นแหละ
จุดที่ต่างกจากรุ่น 4G หลักๆ เลยก็คือชิปประมวลผลที่ Redmi 13C 5G ได้ใช้ชิป Dimensity 6100+ ที่มี RAM 4/128GB และ 8/256GB (LPDDR4X/ UFS 2.2) มีให้เลือกซื้อกันสองรุ่น และยังมีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มได้อีกเท่าตัวตามความจุแรมสูงสุดเป็น 16GB หรือจะเพิ่มความจุด้วย microSD สูงสุด 1TB
สามารถเล่นเกม เล่นโซเชียลต่างๆ หรือดูหนังและวิดีโอได้สบายๆ มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้ และแน่นอนว่าใช้งาน 5G ได้ด้วย รุ่นนี้ทำงานบนระบบ MIUI 14 บน Android 13 มีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 18W เล่นได้ยาวนานเต็มวันโดยสามารถดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง หรือเล่นเกมต่อเนื่องได้ 13 ชั่วโมง
ปิดท้ายด้วยเรื่องกล้องหน้าและกล้องหลังที่ Redmi 13C 5G มีกล้องหลังคู่ความละเอียดหลัก 50MP AI (f/1.8) ส่วนกล้องอีกตัวเป็นเลนส์เสริม AI (0.08 MP) พร้อมฟิลเตอร์กล้องฟิล์มให้ 7 รูปแบบ สามารถถ่ายวิดีโอได้ 1080p@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5MP ถ่ายแบบ HDR ได้และถ่ายวิดีโอได้ 1080p@30fps เช่นกัน
สรุปสเปค Redmi 13C 5G
- ขนาดและน้ำหนัก:
- 168 x 78 x 8.09 มม./ 192 กรัม
- หน้าจอ: หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด HD+ (1600×720) กว้าง 6.74 นิ้ว
- Refresh Rate 90Hz
- สว่างสูงสุด 600 nits
- การรับรองจาก TÜV Rheinland
- Corning Gorilla Glass
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 6100+ (6 nm)
- GPU: Mali-G57
- RAM: 4GB/ 8GB (LPDDR4x)
- ROM: 128GB/ 256GB (UFS 2.2)
- microSD: สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก AI 50MP (?/1.8)
- เลนส์เสริม AI (0.08 MP)
- Film Fillter
- วิดีโอ 1080p@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 5MP/ 1080p@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 5, BT5.3, USB-C 2.0
- ซิม: Dual SIM + microSD
- ระบบเสียง: ลำโพง/ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง/ Accelerometer/ Compass/ Virtual Proximity/ Ambient light
- กันน้ำกันฝุ่น: IP53
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14 พื้นฐาน Android 13
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 18W
- ราคา: เริ่มต้น 4,999 บาท
ราคา โปรโมชั่นและการวางขาย
สำหรับการวางขายของ Redmi 13C 5G ในไทยนั้นจะเริ่มวางขายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกกัน 2 สีคือสีดำ (Starry Black) และสีเงิน (Starry Silver) กับตัวเลือก 2 รุ่นตามความจุได้แก่
- รุ่น RAM 4GB/ 128GB: ราคา 4,999 บาท (มีขายเฉพาะที่ AIS เท่านั้น)
- รุ่น RAM 8GB/ 256GB: ราคา 6,999 บาท
โดยรุ่นเริ่มต้นจะสามารถซื้อได้กับทาง AIS เท่านั้น ส่วนรุ่นปกติที่วางขายคือรุ่น 8/256GB จะหาซื้อได้ทั้งที่ AIS, true-dtac, Xiaomi Store และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการบน Lazada และ Shopee โดยตอนนี้มีโปรโมชั่นคือเมื่อซื้อภายในวันที่ 17 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2567 รับฟรีทันที Audition Dance & Date Giftbox 5G Edition มูลค่า 2,099 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ Redmi 13C 5G รุ่นที่เปิดตัววางขายล่าสุดในประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วใกล้ๆ กับรุ่น 4G ก็ตาม แต่สเปคก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้มือถือ 5G ราคาเบาๆ และเน้นการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือดูหนังดูวิดีโอได้ปกติ นอกจากนี้รุ่น Redmi 13C 4G ก็เปิดตัวสีใหม่เป็นสีขาว (Glacier White) มีราคาตามความจุสองรุ่นคือรุ่น RAM 6GB/128GB ราคา 3,999 บาทและรุ่นความจุ 8GB/256GB ราคา 4,799 บาท ใครสนใจรุ่นไหนก็รอซื้อกันได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข้อมูลจาก Xiaomi Thailand ภาพจาก Xiaomi IN
- สเปค Redmi Note 13 Pro 5G กล้องหลัง 200MP พร้อมชิป Snapdragon 7s Gen 2 ในราคา 12,990 บาท
- สเปค Redmi Turbo 3 มือถือสเปคแรง ได้ชิปใหม่ SND 8s Gen 3 กล้อง 50MP ราคาแค่หมื่นต้นๆ
- รวมมือถือ Xiaomi ปี 2024 ล่าสุดทุกรุ่นที่วางขายมีราคาเท่าไหร่และมีรุ่นไหนบ้าง และมือถือ Redmi ทุกรุ่นที่ขายในตอนนี้ด้วย
- สเปค Redmi A3 เปลี่ยนดีไซน์ใหม่พรีเมียมขึ้น มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 90Hz ราคาเริ่มต้น 3,xxx บาท เข้าไทยเร็วๆ นี้
- สเปค Xiaomi 14/ Xiaomi 14 Ultra ได้ชิป SND 8 Gen 3 กล้อง LEICA 50MP ก่อนเปิดตัว Global วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024
SAMSANG so3
";s:4:"view";s:5:"91451";s:4:"vote";s:1:"0";s:13:"performance_s";s:1:"0";s:5:"value";s:1:"0";s:6:"design";s:1:"0";s:9:"mat_score";s:3:"0.0";s:5:"trend";s:1:"0";s:4:"best";s:1:"0";s:10:"lastupdate";s:10:"2015-04-29";s:9:"timestamp";s:19:"2024-05-17 15:20:25";s:6:"pantip";s:1:"1";s:9:"wordpress";s:1:"0";s:12:"cpu_score_id";s:3:"229";s:15:"cpu_performance";s:1:"1";s:9:"cpu_value";s:6:"0.1000";s:6:"cpu_id";s:3:"131";s:4:"slug";s:13:"vivo-Xplay-3S";s:13:"price_jaymart";s:1:"0";s:17:"price_truemart_id";s:1:"0";s:12:"price_banana";s:1:"0";s:15:"price_banana_id";s:1:"0";s:14:"search_hilight";N;s:3:"cid";s:5:"17451";s:3:"pid";s:3:"870";s:4:"name";s:5:"Guest";s:4:"when";s:10:"1676571043";s:7:"parrent";s:1:"0";s:2:"ip";s:13:"196.190.52.20";s:4:"fbid";s:1:"2";}i:1;a:111:{s:2:"id";s:3:"870";s:5:"brand";s:4:"vivo";s:5:"model";s:8:"Xplay 3S";s:11:"Performance";s:1:"0";s:13:"3DPerformance";s:1:"0";s:12:"Product_Type";s:10:"Smartphone";s:2:"os";s:7:"Android";s:10:"OS_Version";s:3:"4.3";s:9:"Processor";s:34:"Qualcomm Snapdragon 801 MSM8974-AB";s:8:"cpu_type";s:14:"Quad Core 2013";s:9:"cpu_platf";s:3:"ARM";s:15:"Processor_speed";s:4:"2300";s:3:"GPU";s:12:"Mali-450 MP4";s:3:"RAM";s:4:"3000";s:8:"ram_type";N;s:8:"rom_type";N;s:3:"ROM";s:2:"16";s:14:"announced_date";s:7:"2014-06";s:9:"sell_date";s:10:"2014-10-23";s:13:"sellingStatus";s:1:"1";s:5:"price";s:5:"13990";s:8:"price_GB";s:0:"";s:10:"price_mark";s:1:"0";s:10:"Grey_Price";s:0:"";s:8:"Price_tu";s:3:"///";s:11:"Predecessor";s:2:"-1";s:9:"Successor";s:2:"-1";s:12:"Display_size";s:4:"6.00";s:10:"Resolution";s:11:"2560 x 1440";s:14:"cal_resolution";s:1:"0";s:12:"Display_Type";s:7:"IPS LCD";s:5:"Color";s:3:"16M";s:11:"Multi-touch";s:1:"1";s:9:"Camera_No";s:1:"2";s:11:"Resolution1";s:5:"13.00";s:13:"Resolution1_2";N;s:13:"Resolution1_3";N;s:13:"Resolution1_4";N;s:11:"Resolution2";s:1:"5";s:13:"Resolution2_2";N;s:13:"Resolution2_3";N;s:12:"Camera_Flash";s:9:"LED Flash";s:10:"Auto_Focus";s:1:"1";s:14:"VDO_Resolution";s:14:"1080p (30 fps)";s:13:"Video_Calling";s:1:"1";s:12:"Audio_Output";s:3:"3.5";s:7:"speaker";N;s:4:"jack";N;s:13:"sound_feature";N;s:12:"noise_cancel";N;s:8:"FM_Tuner";s:1:"1";s:4:"CDMA";s:1:"0";s:3:"GSM";s:17:"850/900/1800/1900";s:3:"sim";s:20:"a:1:{i:0;s:3:"N/A";}";s:9:"sim_plate";N;s:7:"UMTS_3G";s:13:"850/1900/2100";s:3:"LTE";s:1:"s";s:5:"dataT";s:21:"GPRS, EDGE, HSPA+,LTE";s:9:"Slot_Type";s:1:"0";s:17:"Maximum_card_size";s:1:"0";s:9:"Bluetooth";s:10:"4.0 , A2DP";s:5:"Wi-Fi";s:12:"802.11 b/g/n";s:3:"USB";s:9:"micro USB";s:4:"HDMI";s:3:"MHL";s:3:"GPS";s:9:"GPS, AGPS";s:9:"Batt-Type";s:6:"Li-ion";s:15:"wireless_charge";s:1:"0";s:11:"fast_charge";s:1:"0";s:16:"fast_charge_type";N;s:8:"Capacity";s:4:"3200";s:10:"Dimensions";s:20:"158.2 x 82.59 x 8.68";s:6:"Weight";s:3:"174";s:10:"Navigation";s:24:"Touchscreen (Capacitive)";s:10:"Alias_Name";s:0:"";s:6:"unlock";N;s:11:"Sensor_Type";s:49:"Ambient light, Motion Sensor, Proximity, G-sensor";s:3:"NFC";s:1:"1";s:3:"OTG";s:1:"1";s:8:"Material";s:8:"Plastic ";s:6:"review";s:2:"-1";s:3:"tag";s:23:"Xplay 3S ,vivo Xplay 3S";s:7:"comment";s:16:"GAlAKSIs3
";s:4:"view";s:5:"91451";s:4:"vote";s:1:"0";s:13:"performance_s";s:1:"0";s:5:"value";s:1:"0";s:6:"design";s:1:"0";s:9:"mat_score";s:3:"0.0";s:5:"trend";s:1:"0";s:4:"best";s:1:"0";s:10:"lastupdate";s:10:"2015-04-29";s:9:"timestamp";s:19:"2024-05-17 15:20:25";s:6:"pantip";s:1:"1";s:9:"wordpress";s:1:"0";s:12:"cpu_score_id";s:3:"229";s:15:"cpu_performance";s:1:"1";s:9:"cpu_value";s:6:"0.1000";s:6:"cpu_id";s:3:"131";s:4:"slug";s:13:"vivo-Xplay-3S";s:13:"price_jaymart";s:1:"0";s:17:"price_truemart_id";s:1:"0";s:12:"price_banana";s:1:"0";s:15:"price_banana_id";s:1:"0";s:14:"search_hilight";N;s:3:"cid";s:5:"17450";s:3:"pid";s:3:"870";s:4:"name";s:5:"Guest";s:4:"when";s:10:"1676570978";s:7:"parrent";s:1:"0";s:2:"ip";s:13:"196.190.52.20";s:4:"fbid";s:1:"2";}i:2;a:111:{s:2:"id";s:4:"1657";s:5:"brand";s:5:"Apple";s:5:"model";s:8:"iPhone X";s:11:"Performance";s:1:"0";s:13:"3DPerformance";s:1:"0";s:12:"Product_Type";s:10:"Smartphone";s:2:"os";s:3:"iOS";s:10:"OS_Version";s:2:"11";s:9:"Processor";s:17:"Apple A11 Bionic";s:8:"cpu_type";s:14:"Hexa-core 2017";s:9:"cpu_platf";s:3:"ARM";s:15:"Processor_speed";s:4:"2400";s:3:"GPU";s:3:"Yes";s:3:"RAM";s:4:"3000";s:8:"ram_type";s:0:"";s:8:"rom_type";s:0:"";s:3:"ROM";s:6:"64/256";s:14:"announced_date";s:7:"2017-09";s:9:"sell_date";s:10:"2017-11-24";s:13:"sellingStatus";s:1:"0";s:5:"price";s:5:"29900";s:8:"price_GB";s:11:"29900/41900";s:10:"price_mark";s:1:"0";s:10:"Grey_Price";s:1:"/";s:8:"Price_tu";s:1:"/";s:11:"Predecessor";s:8:"iPhone 7";s:9:"Successor";s:2:"-1";s:12:"Display_size";s:4:"5.80";s:10:"Resolution";s:11:"2436 x 1125";s:14:"cal_resolution";s:1:"0";s:12:"Display_Type";s:15:"Super Retina HD";s:5:"Color";s:3:"16M";s:11:"Multi-touch";s:1:"1";s:9:"Camera_No";s:1:"2";s:11:"Resolution1";s:5:"12.00";s:13:"Resolution1_2";s:4:"0.00";s:13:"Resolution1_3";s:4:"0.00";s:13:"Resolution1_4";s:4:"0.00";s:11:"Resolution2";s:1:"7";s:13:"Resolution2_2";s:0:"";s:13:"Resolution2_3";s:0:"";s:12:"Camera_Flash";s:14:"Dual LED Flash";s:10:"Auto_Focus";s:1:"1";s:14:"VDO_Resolution";s:2:"4K";s:13:"Video_Calling";s:1:"1";s:12:"Audio_Output";s:9:"Lightning";s:7:"speaker";s:0:"";s:4:"jack";s:0:"";s:13:"sound_feature";s:0:"";s:12:"noise_cancel";s:0:"";s:8:"FM_Tuner";s:1:"0";s:4:"CDMA";s:1:"1";s:3:"GSM";s:17:"850/900/1800/1900";s:3:"sim";s:25:"a:1:{i:0;s:8:"nano sim";}";s:9:"sim_plate";s:0:"";s:7:"UMTS_3G";s:17:"850/900/1900/2100";s:3:"LTE";s:1:"s";s:5:"dataT";s:24:"LTE Advanced,HSPA+ ,EDGE";s:9:"Slot_Type";s:0:"";s:17:"Maximum_card_size";s:1:"0";s:9:"Bluetooth";s:13:"5.0, A2DP, LE";s:5:"Wi-Fi";s:17:"802.11 a/b/g/n/ac";s:3:"USB";s:9:"Lightning";s:4:"HDMI";s:0:"";s:3:"GPS";s:25:"A-GPS, GLONASS, BDS, GALI";s:9:"Batt-Type";s:20:"Non-removable Li-Ion";s:15:"wireless_charge";s:0:"";s:11:"fast_charge";s:0:"";s:16:"fast_charge_type";s:0:"";s:8:"Capacity";s:2:"-1";s:10:"Dimensions";s:18:"143.6 x 70.9 x 7.7";s:6:"Weight";s:3:"174";s:10:"Navigation";s:12:"Touch screen";s:10:"Alias_Name";s:2:"-1";s:6:"unlock";s:0:"";s:11:"Sensor_Type";s:70:"Accelerometer Sensor,Proximity Sensor,Ambient Light Sensor,Gyro Sensor";s:3:"NFC";s:1:"1";s:3:"OTG";s:1:"0";s:8:"Material";s:14:"Aluminum,glass";s:6:"review";s:0:"";s:3:"tag";s:14:"Apple,iPhone X";s:7:"comment";s:52:"เข้าใช้งานได้ดี
";s:4:"view";s:4:"8818";s:4:"vote";s:1:"0";s:13:"performance_s";s:1:"0";s:5:"value";s:1:"0";s:6:"design";s:1:"0";s:9:"mat_score";s:3:"0.0";s:5:"trend";s:1:"0";s:4:"best";s:1:"0";s:10:"lastupdate";s:10:"2019-09-23";s:9:"timestamp";s:19:"2024-05-19 20:08:48";s:6:"pantip";s:1:"1";s:9:"wordpress";s:1:"0";s:12:"cpu_score_id";s:1:"0";s:15:"cpu_performance";s:1:"0";s:9:"cpu_value";s:6:"0.0000";s:6:"cpu_id";s:3:"418";s:4:"slug";s:14:"Apple-iPhone-X";s:13:"price_jaymart";s:1:"0";s:17:"price_truemart_id";N;s:12:"price_banana";s:1:"0";s:15:"price_banana_id";s:0:"";s:14:"search_hilight";N;s:3:"cid";s:5:"17449";s:3:"pid";s:4:"1657";s:4:"name";s:5:"Guest";s:4:"when";s:10:"1573935964";s:7:"parrent";s:1:"0";s:2:"ip";s:12:"1.46.111.250";s:4:"fbid";s:1:"2";}i:3;a:111:{s:2:"id";s:4:"1996";s:5:"brand";s:4:"Sony";s:5:"model";s:8:"Xperia 8";s:11:"Performance";s:1:"0";s:13:"3DPerformance";s:1:"0";s:12:"Product_Type";s:10:"Smartphone";s:2:"os";s:7:"Android";s:10:"OS_Version";s:1:"9";s:9:"Processor";s:23:"Qualcomm Snapdragon 630";s:8:"cpu_type";s:14:"Octa Core 2018";s:9:"cpu_platf";s:3:"ARM";s:15:"Processor_speed";s:4:"2200";s:3:"GPU";s:10:"Adreno 508";s:3:"RAM";s:4:"4000";s:8:"ram_type";s:0:"";s:8:"rom_type";s:0:"";s:3:"ROM";s:2:"64";s:14:"announced_date";s:7:"2019-10";s:9:"sell_date";s:10:"2019-10-14";s:13:"sellingStatus";s:1:"1";s:5:"price";s:4:"4990";s:8:"price_GB";s:4:"4990";s:10:"price_mark";s:1:"0";s:10:"Grey_Price";s:0:"";s:8:"Price_tu";s:0:"";s:11:"Predecessor";s:2:"-1";s:9:"Successor";s:2:"-1";s:12:"Display_size";s:4:"6.00";s:10:"Resolution";s:11:"2520 x 1080";s:14:"cal_resolution";s:1:"0";s:12:"Display_Type";s:7:"IPS LCD";s:5:"Color";s:3:"16M";s:11:"Multi-touch";s:1:"1";s:9:"Camera_No";s:1:"2";s:11:"Resolution1";s:5:"12.00";s:13:"Resolution1_2";s:4:"8.00";s:13:"Resolution1_3";s:4:"0.00";s:13:"Resolution1_4";s:4:"0.00";s:11:"Resolution2";s:1:"8";s:13:"Resolution2_2";s:0:"";s:13:"Resolution2_3";s:0:"";s:12:"Camera_Flash";s:9:"LED Flash";s:10:"Auto_Focus";s:1:"1";s:14:"VDO_Resolution";s:2:"4k";s:13:"Video_Calling";s:1:"1";s:12:"Audio_Output";s:6:"3.5 mm";s:7:"speaker";s:0:"";s:4:"jack";s:0:"";s:13:"sound_feature";s:0:"";s:12:"noise_cancel";s:1:"1";s:8:"FM_Tuner";s:1:"1";s:4:"CDMA";s:1:"1";s:3:"GSM";s:17:"850/900/1800/1900";s:3:"sim";s:44:"a:2:{i:0;s:8:"nano sim";i:1;s:8:"nano sim";}";s:9:"sim_plate";s:11:"Hybrid Slot";s:7:"UMTS_3G";s:17:"850/900/1900/2100";s:3:"LTE";s:20:"850/1800/1900/2100/s";s:5:"dataT";s:15:"LTE ,HSPA+,EDGE";s:9:"Slot_Type";s:7:"microSD";s:17:"Maximum_card_size";s:3:"512";s:9:"Bluetooth";s:22:"5.0, A2DP, LE, aptX HD";s:5:"Wi-Fi";s:17:"802.11 a/b/g/n/ac";s:3:"USB";s:31:"Type-C 1.0 reversible connector";s:4:"HDMI";s:0:"";s:3:"GPS";s:25:"A-GPS, A-Glonass, Beidou,";s:9:"Batt-Type";s:6:"Li-ion";s:15:"wireless_charge";s:0:"";s:11:"fast_charge";s:1:"1";s:16:"fast_charge_type";s:16:"Quick Charge 3.0";s:8:"Capacity";s:4:"2760";s:10:"Dimensions";s:14:"158 x 69 x 8.1";s:6:"Weight";s:3:"170";s:10:"Navigation";s:12:"Touch screen";s:10:"Alias_Name";s:2:"-1";s:6:"unlock";s:0:"";s:11:"Sensor_Type";s:71:"Fingerprint (side-mounted), accelerometer, proximity, compass,Gyroscope";s:3:"NFC";s:1:"1";s:3:"OTG";s:1:"1";s:8:"Material";s:0:"";s:6:"review";s:0:"";s:3:"tag";s:8:"Xperia 8";s:7:"comment";s:9:"rr
";s:4:"view";s:4:"2054";s:4:"vote";s:1:"0";s:13:"performance_s";s:1:"0";s:5:"value";s:1:"0";s:6:"design";s:1:"0";s:9:"mat_score";s:3:"0.0";s:5:"trend";s:1:"0";s:4:"best";s:1:"0";s:10:"lastupdate";s:10:"2019-12-23";s:9:"timestamp";s:19:"2024-05-13 20:40:44";s:6:"pantip";s:1:"0";s:9:"wordpress";s:1:"0";s:12:"cpu_score_id";s:1:"0";s:15:"cpu_performance";s:1:"0";s:9:"cpu_value";s:6:"0.0000";s:6:"cpu_id";s:3:"424";s:4:"slug";s:13:"Sony-Xperia-8";s:13:"price_jaymart";s:1:"0";s:17:"price_truemart_id";N;s:12:"price_banana";s:1:"0";s:15:"price_banana_id";s:0:"";s:14:"search_hilight";s:1:"0";s:3:"cid";s:5:"17448";s:3:"pid";s:4:"1996";s:4:"name";s:5:"Guest";s:4:"when";s:10:"1572977781";s:7:"parrent";s:1:"0";s:2:"ip";s:14:"184.22.191.218";s:4:"fbid";s:1:"2";}i:4;a:111:{s:2:"id";s:4:"1844";s:5:"brand";s:7:"Samsung";s:5:"model";s:14:"Galaxy J6 Plus";s:11:"Performance";s:1:"0";s:13:"3DPerformance";s:1:"0";s:12:"Product_Type";s:10:"Smartphone";s:2:"os";s:7:"Android";s:10:"OS_Version";s:1:"8";s:9:"Processor";s:28:"Qualcomm Snapdragon 425 8917";s:8:"cpu_type";s:14:"Octa-core 2017";s:9:"cpu_platf";s:3:"ARM";s:15:"Processor_speed";s:4:"1400";s:3:"GPU";s:10:"Adreno 308";s:3:"RAM";s:4:"4000";s:8:"ram_type";s:0:"";s:8:"rom_type";s:0:"";s:3:"ROM";s:2:"64";s:14:"announced_date";s:7:"2018-09";s:9:"sell_date";s:0:"";s:13:"sellingStatus";s:1:"2";s:5:"price";s:4:"6490";s:8:"price_GB";s:4:"6490";s:10:"price_mark";s:1:"0";s:10:"Grey_Price";s:0:"";s:8:"Price_tu";s:0:"";s:11:"Predecessor";s:2:"-1";s:9:"Successor";s:2:"-1";s:12:"Display_size";s:4:"6.00";s:10:"Resolution";s:10:"1480 x 720";s:14:"cal_resolution";s:1:"0";s:12:"Display_Type";s:0:"";s:5:"Color";s:3:"16M";s:11:"Multi-touch";s:1:"1";s:9:"Camera_No";s:1:"2";s:11:"Resolution1";s:5:"13.00";s:13:"Resolution1_2";s:4:"0.00";s:13:"Resolution1_3";s:4:"0.00";s:13:"Resolution1_4";s:4:"0.00";s:11:"Resolution2";s:1:"8";s:13:"Resolution2_2";s:0:"";s:13:"Resolution2_3";s:0:"";s:12:"Camera_Flash";s:9:"LED Flash";s:10:"Auto_Focus";s:1:"1";s:14:"VDO_Resolution";s:13:"1080p (30fps)";s:13:"Video_Calling";s:1:"1";s:12:"Audio_Output";s:6:"3.5 mm";s:7:"speaker";s:0:"";s:4:"jack";s:0:"";s:13:"sound_feature";s:0:"";s:12:"noise_cancel";s:0:"";s:8:"FM_Tuner";s:1:"1";s:4:"CDMA";s:1:"0";s:3:"GSM";s:17:"850/900/1800/1900";s:3:"sim";s:44:"a:2:{i:0;s:8:"nano sim";i:1;s:8:"nano sim";}";s:9:"sim_plate";s:0:"";s:7:"UMTS_3G";s:17:"850/900/1900/2100";s:3:"LTE";s:1:"s";s:5:"dataT";s:14:"EDGE, HSPA,LTE";s:9:"Slot_Type";s:7:"microSD";s:17:"Maximum_card_size";s:3:"512";s:9:"Bluetooth";s:3:"4.1";s:5:"Wi-Fi";s:19:"802.11 b/g/n 2.4GHz";s:3:"USB";s:9:"micro USB";s:4:"HDMI";s:0:"";s:3:"GPS";s:20:"GPS, Glonass, Beidou";s:9:"Batt-Type";s:6:"Li-ion";s:15:"wireless_charge";s:0:"";s:11:"fast_charge";s:0:"";s:16:"fast_charge_type";s:0:"";s:8:"Capacity";s:4:"3300";s:10:"Dimensions";s:18:"161.4 x 76.9 x 7.9";s:6:"Weight";s:3:"178";s:10:"Navigation";s:24:"Touchscreen (Capacitive)";s:10:"Alias_Name";s:0:"";s:6:"unlock";s:0:"";s:11:"Sensor_Type";s:64:"Accelerometer, Fingerprint Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor";s:3:"NFC";s:1:"0";s:3:"OTG";s:1:"1";s:8:"Material";s:7:"Plastic";s:6:"review";s:0:"";s:3:"tag";s:22:"samsung Galaxy j6 Plus";s:7:"comment";s:13:"สึ
";s:4:"view";s:5:"94214";s:4:"vote";s:1:"0";s:13:"performance_s";s:1:"0";s:5:"value";s:1:"0";s:6:"design";s:1:"0";s:9:"mat_score";s:3:"1.5";s:5:"trend";s:1:"0";s:4:"best";s:1:"0";s:10:"lastupdate";s:10:"2019-05-05";s:9:"timestamp";s:19:"2024-05-18 14:17:24";s:6:"pantip";s:1:"1";s:9:"wordpress";s:1:"0";s:12:"cpu_score_id";s:1:"0";s:15:"cpu_performance";s:1:"0";s:9:"cpu_value";s:6:"0.0000";s:6:"cpu_id";s:3:"406";s:4:"slug";s:22:"Samsung-Galaxy-J6-Plus";s:13:"price_jaymart";s:1:"0";s:17:"price_truemart_id";N;s:12:"price_banana";s:1:"0";s:15:"price_banana_id";s:0:"";s:14:"search_hilight";N;s:3:"cid";s:5:"17447";s:3:"pid";s:4:"1844";s:4:"name";s:5:"Guest";s:4:"when";s:10:"1561185944";s:7:"parrent";s:1:"0";s:2:"ip";s:13:"115.84.71.241";s:4:"fbid";s:1:"2";}}s:9:"tag_cloud";a:1:{i:0;a:2:{s:4:"name";s:16:"custom_tag_cloud";s:4:"text";s:245:"โทรศัพท์มือถือ,ราคามือถือ,Android,แอนดรอย,Windowphone,smart device,iphone,ipad,android 4.0,android 4.1,JB,Jelly Been,ICS,IOS 6.1,ss-galaxy,ซัมซุง,Lumia,snapdragon,tegra,BB";}}s:10:"tag_cloud2";a:15:{i:0;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:3:"496";s:7:"term_id";s:3:"494";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"41";s:4:"name";s:5:"Games";s:4:"slug";s:5:"games";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:1;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:2:"98";s:7:"term_id";s:2:"98";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:271:"รวมทุกบทความ ข่าว รีวิว มือถือ HTC เปิดตัวใหม่ ข่าวลือ สเปค HTC ตัวใหม่ อัพเดทล่าสุด HTC ดีไหม ราคาเท่าไร";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:3:"775";s:4:"name";s:3:"HTC";s:4:"slug";s:3:"htc";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:2;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"1928";s:7:"term_id";s:4:"1926";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"27";s:4:"name";s:21:"แอนดรอย";s:4:"slug";s:63:"%e0%b9%81%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%a2";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:3;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:2:"52";s:7:"term_id";s:2:"52";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:283:"รวมทุกบทความ ข่าว รีวิว มือถือ Samsung เปิดตัวใหม่ ข่าวลือ สเปค Samsung ตัวใหม่ อัพเดทล่าสุด Samsung ดีไหม ราคาเท่าไร";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:4:"2956";s:4:"name";s:7:"Samsung";s:4:"slug";s:7:"samsung";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:4;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"6598";s:7:"term_id";s:4:"6597";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"48";s:4:"name";s:10:"Huawei P10";s:4:"slug";s:10:"huawei-p10";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:5;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"2762";s:7:"term_id";s:4:"2758";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:3:"127";s:4:"name";s:9:"iPad mini";s:4:"slug";s:9:"ipad-mini";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:6;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"4982";s:7:"term_id";s:4:"4973";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"36";s:4:"name";s:9:"OnePlus 2";s:4:"slug";s:9:"oneplus-2";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:7;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:2:"78";s:7:"term_id";s:2:"78";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"63";s:4:"name";s:9:"App Store";s:4:"slug";s:9:"app-store";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:8;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"7068";s:7:"term_id";s:4:"7067";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"14";s:4:"name";s:15:"Sony Xperia XZ2";s:4:"slug";s:15:"sony-xperia-xz2";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:9;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"3410";s:7:"term_id";s:4:"3404";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"30";s:4:"name";s:10:"Jelly Been";s:4:"slug";s:10:"jelly-been";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:10;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:3:"464";s:7:"term_id";s:3:"462";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"12";s:4:"name";s:16:"HTC Incredible S";s:4:"slug";s:16:"htc-incredible-s";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:11;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"9879";s:7:"term_id";s:4:"9878";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"12";s:4:"name";s:10:"iPad Air 5";s:4:"slug";s:10:"ipad-air-5";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:12;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"7770";s:7:"term_id";s:4:"7769";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"12";s:4:"name";s:13:"OnePlus 8 Pro";s:4:"slug";s:13:"oneplus-8-pro";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:13;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:3:"340";s:7:"term_id";s:3:"338";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"55";s:4:"name";s:20:"Thailand Mobile Expo";s:4:"slug";s:20:"thailand-mobile-expo";s:10:"term_group";s:1:"0";}i:14;a:9:{s:16:"term_taxonomy_id";s:4:"4727";s:7:"term_id";s:4:"4718";s:8:"taxonomy";s:8:"post_tag";s:11:"description";s:0:"";s:6:"parent";s:1:"0";s:5:"count";s:2:"28";s:4:"name";s:5:"Unbox";s:4:"slug";s:5:"unbox";s:10:"term_group";s:1:"0";}}}