สเปค Redmi 13C/ POCO C65 มือถือสเปคคุ้ม ชิป Helio G85 กล้อง 50MP หน้าจอ 6.74” แบตอึด 5,000mAh เข้าไทยเร็วๆ นี้
หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว POCO C65 แบบ Global ไปได้ไม่นานมานี้ ก็มีข่าวคราวของ Redmi 13C ว่าจะเปิดตัวตามกันออกมาติดๆ เร็วๆ นี้ด้วยในตลาดโลกเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ก็มีภาพทีเซอร์อย่างเป็นทางการออกมาเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือมีวางขายบน amazon ก่อนเปิดตัวเฉยเลย สำหรับสองรุ่นนี้จะบอกว่าเป็นรุ่นที่โคลนนิ่งกันมาก็ไม่ผิด เพราะสเปคมีความคล้ายคลึงกันมากในหลายๆ ด้าน ที่สำคัญก็คือทางฝั่งไทยเราเองทั้งสองรุ่นนี้ก็ผ่านการรับรองจาก กสทช. หมดแล้วทั้งสองรุ่นในรหัสโมเดลรุ่น POCO – 2310FPCA4G และ Redmi – 23106RN0DA ตามลำดับ มั่นใจได้เลยว่าทั้งสองรุ่นนี้ต้องมีการนำมาวางขายในบ้านเราแน่นอนเร็วๆ นี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีราคาเผยออกมา เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค Redmi 13C/ POCO C65 มือถือสเปคคุ้ม ว่ามีสเปคอย่างไรบ้างทั้งชิป Helio G85 กล้อง AI 50MP หน้าจอ 6.74 นิ้วพร้อมแบตอึด 5,000mAh
ตารางเปรียบเทียบสเปค Redmi 13C/ POCO C65 กับรุ่นก่อนหน้าของทั้งสองรุ่น
Redmi 13C
มาเริ่มกันที่สเปคของ Redmi 13C กันก่อนเลย ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมา แต่ก็มีข้อมูลสเปคปล่อยออกมาให้ค่อนข้างจะครบแล้ว รวมไปถึงรูปของตัวเครื่องก็มีปล่อยทีเซอร์ที่เผยให้เห็นสีของตัวเครื่องด้วย ที่มีทั้งสีดำ, น้ำเงิน, เขียวอ่อน และสีฟ้า แต่ต้องมารอดูกันว่าบ้านเราจะมีสีไหนเข้าบ้าง ตัวเครื่องรุ่นนี้จะเป็นขอบแบน ตัวเครื่องมีความบางลง สแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านข้างตัวเครื่อง และมีโมดูลกล้องแบบเดียวกับ POCO C65 ที่เป็นกรอบสี่เหลี่ยมและมีเลนส์วงแหวนคู่อยู่ด้านใน
ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้คาดว่าเป็นหน้าจอแบบเดียวกันด้วย นั่นก็คือหน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ (1600×720) กว้าง 6.74 นิ้วขนาดใหญ่และยังมี Refresh Rate 90Hz เล่นได้ลื่นๆ พร้อมความสว่างที่ทำได้ถึง 600nits อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ถนอมสายตาให้ครบ และมีรูกล้องหน้าแบบหยดน้ำ มาพร้อมกับชิปที่มีข่าวว่าอาจจะได้ตัว Helio G99 (ถ้าเอาตามข้อมูลที่ลงขายบน Amazon) แต่ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ Redmi 13C จะได้ชิปแบบเดียวกับ POCO C65 ที่เปิดตัวออกมาก่อนคือชิป Helio G85 และดูน่าเป็นไปได้มากกว่า
ทางด้านความจำมี RAM 6/8GB กับความจุ ROM 128/256GB มีให้เลือกสองรุ่นความจุ ขยายแรมเพิ่มได้อีกสูงสุด 8GB และเพิ่มความจุด้วย microSD สูงสุด 1TB รอดูว่าเข้าไทยจะได้แบบไหนด้วย เพราะว่าถ้าดูจาก Amazon ที่นำรุ่นนี้ออกมาวางขายก่อนนั้น บอกเอาไว้ว่ามี RAM เริ่มต้นที่ 4GB ซึ่งก็ดูอาจเป็นไปอยู่เหมือนกัน หรือไม่ก็อาจจะมีความจุ ROM ที่น้อยกว่านี้หรือต่างจากตัว POCO ที่จะมีความจุมากกว่า ทั้งนี้ก็ต้องมารอดูกันอีกครั้งหลังการเปิดตัว Redmi 13C ทำงานบนระบบ MIUI 14 พื้นฐานของ Android 13 เชื่อมต่อดั้ง 4G LTE, Wi-Fi 2.4-5GHz และมีช่องเสียบหูฟังด้วย
ด้านกล้องหลังของ Redmi 13C ตามสเปคของข่าวที่ออกมามีหลายแบบมากๆ แต่ถ้าอิงจากตัว POCO C65 แล้วกล้องของ Redmi 13C อาจเป็นกล้องแบบเดียวกันคือตัวหลัก AI 50MP เลนส์มาโคร 2MP และมีเลนส์อีกหนึ่งตัวยังไม่ได้ระบุความละเอียดออกมา ถ่ายทั่วไปได้ดีมีความคมชัด ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไวสูงสุด 18W ผ่านพอร์ต USB-C แต่ถ้าหากดูจากตัวที่หลุดออกมาวางขายบน Amazon บอกว่าให้อะแดปเตอร์ 16W มาด้วย ส่วนราคานั้นเผยว่าวางขายเริ่มต้นที่ 130 ยูโร หรือประมาณ 4,900 บาท ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าสเปคจะออกมาเป็นแบบเดียวนี้ทั้งหมดหรือไม่หลังจากการเปิดตัวในไทย
สรุปสเปค Redmi 13C (ยังไม่เป็นทางการ อิงจาก POCO C65 เป็นหลัก)
- หน้าจอ: IPS LCD ระดับ HD+ (1600×720) กว้าง 6.74 นิ้ว/ Refresh Rate 90Hz/ สว่าง 600nits
- ชิปประมวลผล: MediaTek Helio G85 Octa Core
- RAM: 6/8GB
- ROM: 128/256GB
- microSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก AI 50MP
- เลนส์ Macro 2MP
- ยังไม่เผยรายละเอียด
- วิดีโอ 1080p@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 8MP
- การเชื่อมต่อ: 4G LTE, Wi-Fi 2.4-5GHz, Bluetooth, USB-C, 3.5 Jack
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 18W
- ราคา: เริ่มต้น 130 ยูโร หรือประมาณ 4,900 บาท
POCO C65
มาดูรุ่นที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้าล่าสุดเมื่อไม่นานที่ผ่านมากับ POCO รุ่นใหม่ตัวคุ้มรุ่นนี้กันบ้าง อย่างที่บอกไปว่าสเปคและรายละเอียดต่างๆ ดูจะเหมือนกันในหลายๆ ด้าน แต่ก็มีจุดที่แตกต่างออกไปอยู่บ้าง โดยดีไซน์รุ่นนี้จะทำออกมาในรูปแบบของ POCO กรอบด้านข้างเป็นขอบแบน สแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านข้างตัวเครื่องหรือสแกนหน้าได้ และมี 3 สีให้เลือกคือสีดำ Black, สีฟ้า Blue และสีม่วง Purple ในส่วนของโมดูลกล้องนั้นจะมีกรอบที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า และมีโลโก้ของ POCO อันเป็นเอกลักษณ์อยู่ด้วย ส่วนเลนส์กล้องเป็นวงแหวนคู่เหมือนกัน
ทางด้านหน้าจอของรุ่นนี้ก็เป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ (1600×720) 260ppi กว้าง 6.74 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้ไหลลื่นเหมือนกัน อีกทั้งยังทำความสว่างหน้าจอทั่วไปได้ 450nits และสูงสุดได้ 600nits มีความแข็งแรงจากการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla และการปกป้องสายตาด้วย TÜV Low Blue Light กับการรับรอง TÜV Flicker-Free (การกระพริบของจอ) ที่ทำให้การเล่นโทรศัพท์นานๆ แล้วสายตาไม่ล้าทั้งกลางวันและกลางคืน
ชิปประมวลผลของรุ่นนี้ก็แน่นอนว่าได้ชิปของ Helio G85 ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำให้เลือกกัน 2 รุ่นคือ 6/8GB และมีความจุ ROM 128/256GB ที่มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มได้สูงสุด 8GB รวมได้สูงสุด 16GB (สำหรับรุ่น 8GB) และยังเพิ่มความจุด้วย microSD Card ได้สูงสุดอีก 1TB ทำงานบนระบบเดียวกันคือ MIUI 14 for POCO พื้นฐานของ Android 13 สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 4G, Wi-Fi 2.4-5GHZ, BT 5.3 รองรับ NFC และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ด้วยเช่นกัน รุ่นนี้มีแบตความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไวได้ 18W ด้วย Type-C PD
สำหรับกล้องหลังของรุ่นนี้จะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียดหลัก 50MP (f/1.8) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) และ Auxiliary lens ถ่ายภาพวิวทั่วไปได้อย่างคมชัดเป็นพิเศษ หรือจะถ่ายบุคคลก็มีความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการถ่ายตอนกลาวคืนด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดมาโครและกล้องฟิล์มให้ถ่ายเล่นอีกด้วย การถ่ายวิดีโอนั้นทำได้สูงสุด 1080P@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP (f/2.0) มีโหมดการถ่ายเซลฟี่ที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับโหมดวงแหวนที่ช่วยปรับให้หน้าสว่างนุ่มนวลมากขึ้นเมื่อถ่ายตอนกลางคืน โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080P@30fps เช่นกัน ทั้งนี้ก็ต้องมารอดูกันว่าเมื่อเปิดตัวเข้าไทยแล้วจะมีสเปคนี้เลยเป๊ะๆ หรือไม่ แต่คงไม่ต่างไปจากนี้หรอก รวมไปถึงราคาด้วย รุ่นนี้มีราคาเผยออกมาตามรุ่นต่างกันในแต่ละประเทศคือ
- รุ่น 6/128GB: ราคา $109 หรือประมาณ 3,xxx บาท
- รุ่น 8/256GB: ราคา $129 หรือประมาณ 4,xxx บาท
สรุปสเปค POCO C65
- หน้าจอ: IPS LCD ระดับ HD+ (1600×720) กว้าง 6.74 นิ้ว/ Refresh Rate 90Hz/ สว่าง 450-600nits
- ชิปประมวลผล: MediaTek Helio G85 Octa Core
- RAM: 6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128/256GB (eMMC 5.1)
- microSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8)
- เลนส์ Macro 2MP (ƒ/2.4)
- Auxiliary lens
- วิดีโอ 1080p@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 8MP (ƒ/2.0)
- การเชื่อมต่อ: 4G LTE, Wi-Fi 2.4-5GHz, Bluetooth 5.3, NFC, USB-C, 3.5 Jack
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI 14 for POCO
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 18W
- ราคา: เริ่มต้น $109 หรือประมาณ 3,xxx บาท
ตารางเปรียบเทียบสเปคกับรุ่นก่อนหน้าของทั้งสองรุ่น
| Redmi 13C* | Redmi 12C | POCO C65 | POCO C55 | |
| หน้าจอ | IPS-LCD, 90Hz 6.74 นิ้ว | IPS-LCD 6.71 นิ้ว | IPS-LCD, 90Hz 6.74 นิ้ว | IPS-LCD 6.71 นิ้ว |
| ชิปประมวลผล | Helio G85 | Helio G85 | Helio G85 | Helio G85 |
| กล้องหน้า | 8MP | 5MP | 8MP | 5MP |
| กล้องหลัง | 50MP + 2MP + Auxiliary lens | 50MP + 0.08MP | 50MP + 2MP + Auxiliary lens | 50MP + 0.08MP |
| RAM/ ROM | 4-6-8GB/128-256GB | 4-6GB/64-128GB | 6-8GB/128-256GB | 4-6GB/64-128GB |
| แบตเตอรี่ | 5,000mAh, 18W | 5,000mAh, 10W | 5,000mAh, 18W | 5,000mAh, 10W |
| ราคา | รอเปิดตัว | 4,499 บาท | รอเปิดตัว | ไม่ได้วางขาย |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการสรุปสเปคของ Redmi 13C และ POCO C65 ว่าที่มือถือสเปคสุดคุ้มในช่วงปลายปีนี้ที่มีราคาเบาๆ ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่ได้เปิดตัว หรือว่ายังไม่ได้เผยราคาออกมา แต่จากข่าวที่ออกมาและอิงจากราคาของต่างประเทศของรุ่นที่เปิดตัวออกมาแล้วอย่าง POCO C65 ก็พอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าทั้งสองรุ่นนี้น่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx กว่าบาทไม่เกินนี้ ส่วนรุ่นตัวท็อปก็น่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 4,xxx บาทนั่นแหละบวกลบไม่เกินนี้แน่นอน
รอดูกันต่อไปว่าจะเปิดตัวตอนไหนและจะมีราคาเท่าไหร่กันบ้าง แต่ที่แน่ๆ ก็คือทั้งสองรุ่นผ่านการรับรองจาก กสทช. มาแล้วก็ตงจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้ ส่วนสเปค Redmi 13C แบบสรุปให้คร่าวๆ เลยก็คือทั้งสองรุ่นนี้จะมีสเปคที่คล้ายกัน ต่างกันที่ดีไซน์เล็กน้อย และตัว POCO C65 นั้นจะมี NFC และก็คาดว่าเข้ามาจริงอาจจะมีความจุ ROM ที่เยอะกว่าอันนี้ต้องรอติดตามดู หลักๆ แล้วก็จะมีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.74 นิ้วไหลลื่นเหมือนกัน ได้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันคือ Helio G85 (อันนี้ก็ต้องรอดู) ที่มีความจุอาจต่างกันด้วย ส่วนกล้องนั้นคาดว่าจะเหมือนกันทั้งหมด ที่มีกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดหลัก 50MP พร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่เหมือนกันด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีแบตมาให้อึดๆ ถึง 5,000mAh ถ้ามีการอัพเดทเพิ่มเติม เราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง
ขอบคุณรูปภาพจาก POCO Global
