ช่วงที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนรุ่นราคาเบาๆ ก็มีอยู่หลายรุ่นทีเดียวที่ได้รับความนิยมและมีคนพูดถึงกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มาจากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Samsung นั่นก็คือรุ่น Samsung Galaxy Fame เนื่องด้วยราคาเริ่มต้นครึ่งหมื่น แต่กลับใส่ฟีเจอร์หลายๆ อย่างเข้ามาอย่างน่าสนใจ ซึ่งฟีเจอร์บางตัว ต่อให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่กว่าก็ยังคงมีใช้กันอยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นเอง ทางเราก็เลยจัดหามารีวิวให้ได้ชมกันครับ
สเปค?Samsung Galaxy Fame
- ชิปประมวลผล Broadcom BCM21654G แบบ Single core ความเร็ว 1 GHz มาพร้อม GPU เป็น VideoCore IV ของ Broadcom เอง
- แรม 512 MB
- หน้าจอพาเนล TFT ขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 480 x 320 แสดงสีได้ 18 บิต (262,144 สี)
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 4 GB เหลือให้ใช้ได้จริงประมาณ 2 GB?รองรับ microSD สูงสุด 32 GB
- ใช้งาน 2G ได้ทุกเครือข่าย
- ใช้งาน 3G ได้เฉพาะความถี่ 900 (AIS) กับ 2100 MHz (ทุกเครือข่ายเมื่อครอบคลุม)
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส มาพร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล
- Android 4.1.2
- น้ำหนัก 120 กรัม
- แบตเตอรี่ 1300 mAh
- รองรับ NFC
- ราคาศูนย์ 5,490 บาท
- สเปค Samsung Galaxy Fame แบบเต็มๆ
โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy Fame จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคในระดับเริ่มต้นของกลุ่ม Android โดยเฉพาะชิปประมวลผลที่ยังคงใช้เป็นแบบ Single core (1 คอร์ประมวลผล) อยู่ และที่ค่อนข้างแปลกอีกอย่างก็คือจอที่สามารถแสดงสีได้เพียง 262K สีเท่านั้น (18 บิต) ในขณะที่สมาร์ทโฟนเกือบทั้งหมดในปัจจุบันใช้จอที่แสดงสีได้ 16 ล้านสี (24 บิต) กันแล้ว ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นการลดต้นทุนในอีกรูปแบบหนึ่งของการผลิต เพราะฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใส่เข้ามาอย่างเช่น NFC ที่หาได้ยากมากๆ ในสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่น ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็น่าจะเนื่องมาจากกลุ่มตลาดที่ Samsung ตั้งมาให้กับ Galaxy Fame ก็คือกลุ่มผู้ใช้งานมือถือแบบเบาๆ รวมไปถึงผู้ที่เปลี่ยนมาใช้งานสมาร์ทโฟน Android เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้จอคุณภาพสูงนัก อันจะเป็นการเพิ่มต้นทุนเสียเปล่าๆ
อุปกรณ์ภายในเครื่องก็มีให้มาในระดับพื้นฐาน ได้แก่
- สาย Micro USB สำหรับชาร์จไฟและซิงค์ข้อมูล
- หูฟัง
- เอกสารคู่มือ
- อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟโดยเฉพาะ โดยหัวเชื่อมต่อเป็นแบบ Micro USB
ผมคิดว่าการแถมอะแดปเตอร์ที่เชื่อมกับสาย Micro USB มาในตัวเป็นจุดที่น่าประทับใจจุดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะทำให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จแบตได้ง่าย ใกล้เคียงกับฟีเจอร์โฟนที่จะให้เป็นชุดชาร์จไฟมาเลย ไม่ต้องมาประกอบอะแดปเตอร์เข้ากับสาย Micro USB ก่อนใช้งาน
ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Fame มีขนาดกะทัดรัด ด้านหน้าใช้กระจกปิดเอาไว้ จุดเด่นคือปุ่มโฮมที่อยู่ใต้จอ
ด้านบนของจอจะมีกล้องหน้า (จุดกลมใหญ่) และเซ็นเซอร์ Proximity (จุดกลมเล็กสองจุด) สำหรับตรวจจับระยะห่างจากตัวเครื่องถึงวัตถุด้านหน้า ซึ่งจะใช้สั่งปิดหน้าจอหากเอาเครื่องมาแนบหูระหว่างคุยโทรศัพท์
ส่วนด้านล่างของจอจะมีปุ่มโฮมที่เป็นปุ่มกดจริงๆ อยู่ตรงกลาง หากกดค้างจะเรียกหน้าจอ Recent Apps ขึ้นมา ด้านซ้ายเป็นปุ่มเมนู ถ้ากดค้างจะเป็นการเรียกแอพ Google Now ส่วนปุ่มด้านขวาจะเป็นปุ่ม Back สำหรับย้อนกลับ ซึ่งทั้งสองปุ่มด้านข้างนี้จะใช้เป็นแบบ capacitive โดยมีไฟ LED ให้แสงสว่างอยู่ด้านล่าง ที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ไฟติดนานขนาดไหน ตั้งแต่ 1.5 วินาที, 6 วินาที, ปิดไฟตลอด หรือจะเปิดไฟตลอดเวลาที่เปิดหน้าจออยู่ก็ได้เช่นกัน แสงไฟก็สว่างพอตัวครับ แต่ถ้าเจอแดดจัดๆ หน่อยก็มองลำบากอยู่เหมือนกัน
ลองเปิดจอดูกันบ้าง จะว่าไปการแสดงสีจอของ Samsung Galaxy Fame เองก็ไม่ได้แย่อะไรนัก แค่สีสันภาพที่เห็นอาจจะดูแปลกตาไปบ้าง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาด
ส่วนเรื่องมุมมองของหน้าจอนั้น จัดว่าแคบมาก เนื่องจากที่พาเนลจอเป็นแบบ TFT ที่มุมมองก็ไม่กว้างมาก เฉียงมุมเครื่องนิดหน่อยก็มองภาพได้ยากแล้ว ถ้าจะใช้งาน แนะนำว่าควรจะตั้งจอให้ทำมุมตรงกับสายตาพอดีๆ ครับ จึงจะได้ภาพที่ดีที่สุด
อีกจุดหนึ่งที่จำเป็นต้องทราบก็คือ Samsung Galaxy Fame ไม่มีระบบปรับแสงสว่างหน้าจออัตโนมัติ ซึ่งถ้าหากเราต้องการปรับ จำเป็นที่จะต้องปรับด้วยตนเอง ซึ่งตามปกติแล้วจะต้องเข้าไปที่ Settings > Display > Brightness แต่ยังดีที่ Samsung มักจะปรับเปลี่ยนตัวเลือกและเพิ่มช่องทางต่างๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เครื่องได้ง่าย ทำให้เราสามารถปรับความสว่างของจอได้จากแถบ Notifications เลย เพียงแค่ลากจากแถบด้านบนสุดของจอลงมาด้านล่าง ก็จะเห็นสวิทช์ปิด/เปิดการทำงานของโมดูลต่างๆ อยู่ ใกล้กันนั้นก็จะมีแถบปรับแสงสว่างของจอให้เลือกปรับกันได้ตามสะดวก ก็นับว่าเป็นข้อดีของการสร้างตัวช่วยให้กับผู้ใช้งานครับ
สาเหตุที่การปรับแสงสว่างหน้าจอเป็นเรื่องจำเป็น ก็เพราะจากที่ทดลองใช้ระหว่างการรีวิว Samsung Galaxy Fame เครื่องนี้ พบว่าถ้าหากสลับกันใช้งานในที่ร่มและกลางแจ้ง ตัวผมเองจำเป็นต้องมาปรับความสว่างหน้าจอใหม่ทุกครั้ง เข้าที่ร่มก็ต้องปรับให้จอมืดลงจะได้ไม่แสบตา ออกกลางแจ้งก็ต้องปรับให้จอสว่างขึ้นจะได้มองเห็นภาพ นับว่าเป็นจุดที่ทำให้ลำบากอีกจุดหนึ่งทีเดียว
พลิกมาดูด้านหลังของ Samsung Galaxy Fame วัสดุใช้เป็นพลาสติกผิวมันวาวสีขาวค่อนข้างหนาพอตัว ไม่ค่อยยืดหยุ่นมากนัก ผิวขอบด้านข้างโค้งมนรับมือมากๆ ให้อารมณ์เหมือนก้อนหินมนๆ หรือก้อนสบู่ ขนาดกำลังจับได้กระชับมือพอดีสำหรับคนมือเล็ก
ส่วนบนจะมีช่องลำโพง, กล้องหลังและแฟลช ?LED สำหรับช่วยในการถ่ายรูป หรือจะใช้เป็นไฟฉายด้วยการโหลดแอพไฟฉายใน Play Store มาใช้งานด้วยก็ได้
แกะฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่แบบ Li-ion ความจุ 1300 mAh ซึ่งถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จัดว่าน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นกันที่ 1500 mAh เป็นอย่างต่ำ แต่ถ้ามองจากสเปคของ Samsung Galaxy Fame เองแล้ว ก็ถือว่าพอดีๆ กับหลายองค์ประกอบ ทั้งชิปประมวลผลที่มีเพียงคอร์เดียว หน้าจอความละเอียดไม่สูงมาก ประกอบกับกลุ่มเป้าหมายหลักของ Fame ก็น่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ติดมือถือมากนัก แบต 1300 mAh จึงน่าจะพอกับการใช้งานอยู่แล้ว
ช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ใต้แบตเตอรี่อีกที โดยซิมที่ใช้จะเป็นขนาดปกติ หรือที่มีชื่อว่า มินิซิม ส่วนช่องใส่ microSD จะมาแอบอยู่ด้านข้างเครื่องตรงมุมซ้ายล่างของแบตเตอรี่ครับ
ด้านบนของเครื่องมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอยู่ ส่วนตรงกลางจะเป็นร่องสำหรับแงะฝาหลังออกมาจากตัวเครื่อง
ด้านล่างมีช่อง Micro USB ส่วนช่องเล็กๆ นั้นคือช่องรับเสียงของไมค์สนทนา
นอกจากนี้ถ้าสังเกตดีๆ ขอบเครื่องจะเป็นสีบรอนซ์อมแดง โดยวัสดุที่ใช้นั้นเป็นอะลูมิเนียมเคลือบสี ให้ความแวววาวมันเงา ทำให้หน้าตารวมๆ ของเครื่องดูพรีเมียมขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ตัวอย่างอินเตอร์เฟสจากรีวิว Samsung Galaxy Fame
สองรูปล่างสุดเป็นการทดลองใช้งานแอพ YouTube เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ก็สามารถใช้งานได้ปกตินะครับ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมวิดีโอคุณภาพสูง (HQ) ตามที่มีให้ปรับในแอพ หรือจะเป็นการเล่นวิดีโอเป็นจอเล็กระหว่างนั่งหาวิดีโออื่นๆ ก็สามารถทำได้ค่อนข้างไหลลื่นดีทีเดียว ส่วนการเปิดหน้าเว็บไซต์ อันนี้คงจะลำบากหน่อยถ้าหน้าเว็บแสดงผลเป็นแบบ desktop site เพราะหน้าจอของ Galaxy Fame มันเล็กเพียงแค่ 3.5 นิ้ว จะอ่านเนื้อหาก็ต้องซูมเข้าไป ซึ่งการซูมเข้าออกก็ต้องใช้พลังประมวลผลในการเรนเดอร์ตัวอักษรไม่น้อยเลยทีเดียว เท่าที่ใช้ รู้สึกไม่ทันใจหลายคนแน่ๆ ครับ แต่ถ้าเว็บไหนมีหน้า mobile site สำหรับดูบนอุปกรณ์พกพา อันนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะหน้าเว็บมันจะปรับตามความละเอียดหน้าจอให้อ่านได้สบายๆ
ตัวแอพถ่ายรูปของ Galaxy Fame ก็ให้มาในแบบพื้นฐาน มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพหลักๆ เท่าที่จำเป็น สำหรับการใช้งานจริง พบว่ามีดีเลย์หลังจากกดถ่ายแล้วนิดหน่อย เพราะระบบต้องใช้เวลาในการประมวลผลและเก็บภาพซักครู่ครับ อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องการพรีวิวตัวอย่างรูปบนจอ ถ้าดูรูปถ่ายจากในเครื่องแล้วรู้สึกไม่ค่อยสวยก็ไม่ต้องตกใจ สาเหตุก็เพราะจอที่แสดงสีสันได้น้อย ประกอบกับสีเดิมของจอค่อนข้างซีดครับ แนะนำว่าให้เอาภาพมาดูในคอม จะสวยกว่าเยอะเลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Fame
ภาพที่ถ่ายออกมาจากกล้องของ Galaxy Fame จัดว่าคุณภาพดีพอตัวเลย โดยเฉพาะในสภาพแสงกำลังพอดีๆ ไม่สว่างหรือมืดเกินไป แต่อาจจะมีโทนติดเขียวอยู่บ้างในบางภาพที่ระบบต้องปรับการชดเชยความสว่างแบบกระทันหัน
การทดสอบประสิทธิภาพจากรีวิว Samsung Galaxy Fame
ด้านของประสิทธิภาพ เนื่องด้วย Galaxy Fame เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคไม่แรงนัก ทำให้ไม่สามารถทำการทดสอบในบางแอพได้ ดังนั้นจะขอเล่าเป็นประสบการณ์การใช้งานแล้วกันนะครับ
จากที่ลองใช้งาน Galaxy Fame เครื่องนี้แบบทั่วๆ ไป การทำงานก็ค่อนข้างจะไหลลื่นดี สำหรับการเปิดหน้าแอพ โทรออก รับสาย งานพื้นฐานของการเป็นโทรศัพท์ แต่ถ้ากับการใช้งานแอพ อันนี้จะค่อนข้างเหนื่อยหน่อย เพราะการตอบสนองบางครั้งที่ไม่ค่อยทันใจ โดยเฉพาะแอพที่ต้องมีการโหลดค่อนข้างหนัก เห็นชัดที่สุดก็คือเว็บเบราเซอร์ที่ทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก น่าจะเป็นทั้งจากสเปคเครื่องเองที่ไม่เหมาะสำหรับการทำงานหนักๆ รวมไปถึงแอพและหน้าเว็บที่กินทรัพยากรเครื่องมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้ Galaxy Fame น่าจะเหมาะกับการเป็นโทรศัพท์เป็นหลัก รองลงมาก็คือการใช้งานพวกแชท โซเชียลเน็ตเวิร์คเล็กๆ น้อยๆ แต่จะเอามาเล่นเกมคงไม่เหมาะ นอกจากสเปคที่ไม่แรงมากแล้ว หน้าจอก็น่าจะเล็กเกินไปสำหรับการเล่นเกมบนมือถือสมัยนี้ไปแล้วด้วย
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ก็โอเคดีครับ อยู่ได้เป็นวันๆ เหมือนกัน รูปแบบการใช้งานก็ทั่วๆ ไป ไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะตัวเครื่องก็ทำอะไรได้ไม่มากเท่าไรด้วยเช่นเดียวกัน
สรุปปิดท้ายรีวิว Samsung Galaxy Fame?
ตัว Samsung Galaxy Fame เอง จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นอีกรุ่นหนี่งในตลาดที่มีฟีเจอร์บางส่วนที่เหนือกว่ารุ่นราคาถูกกว่า อย่างเช่นการใส่ NFC มาไว้เผื่อสำหรับใครที่ต้องการความสะดวกในการแชร์ภาพ หน้าเว็บ รายชื่อผู้ติดต่อกันแบบง่ายดายและรวดเร็ว กล้องถ่ายรูปที่ให้รูปคุณภาพค่อนข้างดี ทรงเครื่องที่จับได้ถนัดมือ ก็นับว่า Samsung Galaxy Fame เป็นรุ่นในราคาครึ่งหมื่นที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งครับ
ข้อดี
- ตัวเครื่องมีขอบโค้ง จับถนัดมือดี
- มี NFC ทั้งๆ ที่ราคาแค่ 5,490 บาท
- กล้องถ่ายรูปค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับเครื่องในกลุ่มราคาเดียวกัน
ข้อสังเกต
- รองรับ 3G เฉพาะความถี่ 900 กับ 2100 MHz เท่านั้น
- หน้าจอไม่ใช่แบบ 16 ล้านสี ทั้งยังมีมุมมองจอที่แคบมาก และปรับแสงสว่างจออัตโนมัติไม่ได้ เอาจริงๆ จอ 16 ล้านสีและความละเอียดจอที่สูงกว่านี้ อย่าง 800×480 น่าจะเป็นมาตรฐานขั้นต่ำของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันได้แล้ว
- การทำงานยังมีกระตุกและอาการหน่วงอยู่บ้าง
ตัวเลือกอื่นในตลาด
ถ้ามองในตลาดแล้ว พบว่าในช่วงราคาไล่เลี่ยกับ Samsung Galaxy Fame ก็ยังมีรุ่นอื่นๆ น่าสนใจอยู่อีก ได้แก่
- Lenovo A706: ราคาสูงกว่านิดหน่อย แต่ได้จอใหญ่กว่ามาก ชิปควอดคอร์ แบตเยอะกว่า
- Lenovo A390: ราคาถูกกว่า แต่ได้จอใหญ่กว่า สเปคโดยรวมก็ดีกว่า ขาดแค่กล้องหน้า และ 3G ที่ใช้ได้เฉพาะความถี่ 2100 MHz เท่านั้น
- i-mobile IQ 5.3: ราคาสูงกว่านิดหน่อย แต่ได้จอใหญ่ 5 นิ้ว ชิปควอดคอร์ตัวแรง แบต 3000 mAh (เยอะมาก)
- i-mobile i-STYLE 7.3: ราคาถูกกว่า จอใหญ่กว่า ภาพละเอียดกว่า กล้องหน้า/หลังเท่ากัน
- Acer Liquid Z3: ราคาถูกกว่า จอเท่ากัน แต่ได้ชิปดูอัลคอร์ ขาดก็แต่กล้องหน้า
- Oppo Find Muse: ราคาถูกกว่า ได้จอใหญ่กว่า ชิปดีกว่า แต่กล้องหลังความละเอียดน้อยกว่านิดหน่อย