Redmi Note 9 ซีรีส์ที่วางจำหน่ายในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นจะเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายนอกประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งในประเทศจีนนั้น Redmi Note 9 ซีรีส์ยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ค่อยบ่อยนักกับสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่าง Redmi ที่เป็นแบรนด์ลูกของ Xiaomi อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นล่าสุดทาง Xiaomi ก็ได้เปิดตัว Redmi Note 9 ซีรีส์ที่จะวางจำหน่ายในประเทศจีนอย่างเป็นทางการออกมาแถมงานนี้ต้องบอกว่าน่าอิจฉาเป็นอย่างมากเพราะสเปคตัวเครื่องนั้นอัปเกรดขึ้นแบบสุดๆ จะน่าสนใจมากแค่ไหนนั้นไปติดตามกัน
สำหรับ Redmi Note 9 ซีรีส์ รุ่นอัปเกรดสิ้นปี 2020 ที่จะวางจำหน่ายในประเทศจีนนั้นมีการเปิดตัวออกมาทีเดียวถึง 3 รุ่นซึ่งประกอบไปด้วย Redmi Note 9 Pro 5G, Redmi Note 9 5G และ Redmi Note 9 4G แต่ละรุ่นจะมีสเปคเช่นไรนั้นไปดูกัน
Redmi Note 9 Pro 5G
รมาดูกันที่รุ่นแรกกับ Redmi Note 9 Pro 5G ที่ได้รับการอัปเกรดจากรุ่นจำหน่ายทั่วโลกอย่าง Redmi Note 9 Pro เป็นอย่างมาก โดยตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับสเปคดังต่อไปนี้
- หน้าจอขนาด 6.67 นิ้วใช้พาเนลแบบ IPS LCD รองรับความละเอียดที่ระดับ FHD+
- หน้าจอมาพร้อม Refresh rate สูงสุด 120 Hz โดยจะสามารถปรับ refresh rate ได้เอง 6 ระดับตั้งแต่ 30 Hz ไปจนถึง 120 Hz
- หน้าจอรองรับ Touch sampling ที่ 240Hz ทำให้ตอบสนองต่อการสัมผัสมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
- ตัวเครื่องใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass 5 รอบตัวเครื่อง
- ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 750G ที่มาพร้อมกับชิปโมเด็ม X52
- หน่วยความจำมีให้เลือกที่ 2 ขนาดคือ 6 GB และ 8 GB
- แหล่งเก็บข้อมูลภาบในแบบ USF 2.2 มีให้เลือกที่ 2 ความจุคือ 128 GB และ 256 GB
- สามารถเพิ่มแหล่งเก้บข้อมูลผ่านทาง microSD Card ได้
กล้องมาพร้อม 4 เลนส์มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ดังต่อไปนี้
- เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 108 MP จากทาง Samsung รุ่น ISOCELL HM2 ขนาดเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1/1.52″, รูรับแสงอยู่ที่ f/1.75 และรองรับเทคโนโลยี 9-in-1 pixel binning
- เซ็นเซอร์ Ultra-wide angle ความละเอียด 8 MP รูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 โดยมีมุมมองกว้างสุดอยู่ที่ 120 องศา
- เซ็นเซอร์ macro ความละเอียด 2 MP
- เซ็นเซอร์ depth ความละเอียด 2 MP
สำหรับกล้องหน้านั้นจะใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 16 MP โดยที่ดีไซน์ของกล้องหน้านั้นจะเป็นแบบ Centered hole-punch เช่นเดิมกับรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วโลกก่อนหน้านี้
- ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,820 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 33 W โดยทาง Xiaomi บอกว่าสามารถชาร์จเต็มจาก 0% ได้ในระยะเวลาเพียง 58 นาทีเท่านั้น
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.1
- มาพร้อม NFC และ IR blaster ในตัว
- ระบบสแกนลายนิ้วมือทางด้านข้างที่ปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง
- ลำโพงบนตัวเครื่องเป็นแบบ Dual speakers ซึ่งรองรับการให้เสียงตามมาตรฐาน AAC, LDAC และ LHDC
- มีพอร์ตการเชื่อมต่อหูฟังแบบ 3.5 mm audio jack
- มีการใช้งาน Z-axis linear motor ทำให้การสั่นนั้นรู้สึกได้ในทุกทิศทาง
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Redmi Note 9 Pro 5G นั้นก็คือการที่ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีการกระจายเสาสัญญาณในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องมากถึง 11 จุดที่ทาง Xiaomi ได้บอกเอาไว้ว่าตัวเครื่องนั้นจะไม่มีอาการสัญญาณตกแน่นอนไม่ว่าจะจับตัวเครื่องในลักษณะใดก็ตาม(เว้นแต่ว่าใช้งานตัวเครื่องในที่อับสัญญาณ)
ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ black, blue และ gradient orange-blue โดยจะแบ่งจำหน่ายเป็น 3 โมเดลตามขนาดของหน่วยความจำและแหล่งเก็บข้อมูลดังต่อไปนี้
- หน่วยความจุ 6 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1599 หรือประมาณ 7,360 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1799 หรือประมาณ 8,280 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 256 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1999 หรือประมาณ 9,200 บาท
Redmi Note 9 5G
สำหรับรุ่นรองอย่าง Redmi Note 9 5G จะมีการปรับสเปคลงมาเล็กน้อยทั้งในส่วนของชิปเซ็ทและกล้อง โดยสเปคนั้นจะมีดังต่อไปนี้
- หน้าจอขนาด 6.53 นิ้วใช้พาเนลแบบ IPS LCD รองรับความละเอียดที่ระดับ FHD+
- หน้าจอมาพร้อม Refresh rate 60 Hz
- ดีไซน์กล้องหน้าเป็นแบบ Left hole punch
- กระจกกันรอยจะใช้เป็น Gorilla Glass 5 เฉพาะทางด้านหน้าจอเท่านั้น ส่วนด้านหลังนั้นจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก
- ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 800U
สำหรับกล้องนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่น Pro 5G มากพอสมควร โดยจะมีกล้องหลังเพียงแค่ 3 เลนส์เท่านั้นและเซ็นเซอร์ที่ใช้งานจะมีดังต่อไปนี้
- เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48 MP ขนาดเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1/1.2″, รูรับแสงอยู่ที่ f/1.79 และรองรับเทคโนโลยี 4-in-1 pixel binning
- เซ็นเซอร์ Ultra-wide angle ความละเอียด 8 MP รูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 โดยมีมุมมองกว้างสุดอยู่ที่ 118 องศา
- เซ็นเซอร์ macro ความละเอียด 2 MP
กล้องหน้านั้นจะใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 16 MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่อง Redmi Note 9 5G จะให้มาที่ 5,000 mAh แต่รองรับการชาร์จเร็วที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 18 W เท่านั้น(ทว่าในชุดวางจำหน่ายจะให้ที่ชาร์จกำลังไฟฟ้าสูงสุด 22.5 W)
ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ Gray, Green และ Violet โดยจะแบ่งจำหน่ายเป็น 3 โมเดลตามขนาดของหน่วยความจำและแหล่งเก็บข้อมูลดังต่อไปนี้
- หน่วยความจุ 6 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1299 หรือประมาณ 5,980 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1499 หรือประมาณ 6,900 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 256 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1699 หรือประมาณ 7,820 บาท
Redmi Note 9 4G
ปิดท้ายกันด้วยรุ่นเล็กกับ Redmi Note 9 4G ที่ตรงตามชื่อรุ่นก็คือรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ 4G เท่านั้น ทว่าจุดเด่นในหลายๆ ส่วนนั้นยังคงได้รับมาจากรุ่นพี่ไม่ว่าจะเป็นการใช้แหล่งเก็บข้อมูลแบบ UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการอ่านข้อมูลเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก สำหรับสเปคนั้นจะมีดังต่อไปนี้
- หน้าจอขนาด 6.53 นิ้วใช้พาเนลแบบ IPS LCD รองรับความละเอียดที่ระดับ FHD+
- หน้าจอมาพร้อม Refresh rate 60 Hz และรองรับ Touch sampling ที่ 120Hz
- ดีไซน์กล้องหน้าเป็นแบบ Waterdrop notch
- กระจกกันรอยจะใช้เป็น Gorilla Glass 3 เฉพาะทางด้านหน้าจอเท่านั้น ส่วนด้านหลังนั้นจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก
- ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 662
- หน่วยความจำมีให้เลือกที่ 3 ขนาดคือ 4 GB, 6 GB และ 8 GB
- รองรับการเชื่อมต่อไรสายแบบ Wi-Fi 5 และ Bluetooth 4.2
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น Redmi Note 9 4G จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สุดคือ 6,000 mAh โดยตัวแบตเตอรี่นั้นจะยังคงรองรับการชาร์จเร็วที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 18 W โดยในชุดวางจำหน่ายนั้นจะให้ที่ชาร์จกำลังไฟฟ้าสูงสุด 22.5 W มา
ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ Gray, Green, Blue และ Orange โดยจะแบ่งจำหน่ายเป็น 3 โมเดลตามขนาดของหน่วยความจำและแหล่งเก็บข้อมูลดังต่อไปนี้
- หน่วยความจุ 4 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 999 หรือประมาณ 4,600 บาท
- หน่วยความจุ 6 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1099 หรือประมาณ 5,060 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 128 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1299 หรือประมาณ 5,980 บาท
- หน่วยความจุ 8 GB / แหล่งเก็บข้อมูล 256 GB ราคาอยู่ที่ CNY 1499 หรือประมาณ 6,900 บาท
งานนี้นั้นเรียกได้ว่าทาง Xiaomi นั้นจัดเต็มจริงๆ แถมนี่ยังถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ทาง Xiaomi นั้นเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกับตัวเลือกหน่วยความจำมากถึง 8 GB และแหล่งเก็บข้อมูลภายในสูงสุดมากถึง 256 GB ทั้งนี้คงต้องคอยลุ้นกันต่อไปว่า Redmi Note 9 รุ่นอัปเดทประจำปลายปี 2020 นั้นจะมีการวางจำหน่ายนอกประเทศจีนหรือไม่อย่างใด
ที่มา : gsmarena, xda-developers