สรุปให้! iOS 16 มีอะไรใหม่ทั้งหน้าจอล็อคแต่งได้และฟีเจอร์ใหม่เพียบ อัพได้เมื่อไหร่ รุ่นไหนใช้ได้บ้างในปี 2022
หลังจากงาน WWDC 2022 ของ Apple ได้จัดขึ้นในคืนวันที่ 6 มิ.ย. 2022 ที่ผ่านมานั้น หลายๆ คนที่ติดตามข่าวสารหรือเป็นสาวกของ Apple ก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่ามีอะไรเปิดตัวออกมาใหม่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นชิป M2 ตัวใหม่ที่ออกมาพร้อมกับ MacBook Air 2022 และ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว 2022 ตัวใหม่สุดแรง (ดูข้อมูลสเปคเต็มทั้ง 2 รุ่นที่นี่) และยังมีการเปิดตัวระบบอัพเดทใหม่อีกด้วยทั้ง macOS Ventura, iPadOS 16, watchOS 9 และสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับคนใช้งาน iPhone ก็คือระบบ iOS 16 ใหม่หมดที่มาพร้อมฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ปรับแต่งได้ตามสไตล์ และยังมีระบบอัจฉริยะที่ดีขึ้น หรือจะเรื่องการสื่อสารกับการแชร์ที่รวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย ทั้งนี้เวอร์ชั่น Apple Developer สำหรับนักพัฒนาและตัว Beta นั้นก็ได้เตรียมเปิดตัวออกมาให้ใช้งานแล้ว แต่ว่าผู้ใช้ทั่วไปก็ต้องรอกันอีกหน่อย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมารวบรวมพร้อมสรุปให้ว่า iOS 16 มีอะไรใหม่บ้างกับฟีเจอร์ใหม่ๆ เยอะมาก พร้อมกับข้อมูลการอัพเดทว่าสามารถใช้ได้ตอนไหน และมีรุ่นไหนรองรับการอัพเดทบ้าง ไปดูกันเลย
iOS 16 มีอะไรใหม่บ้าง?
สำหรับตัว iOS 16 ที่เปิดตัวออกมาใหม่นั้นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อัพเดทใหม่เยอะทีเดียว ซึ่งเราจะมาบอกกันตามหัวข้อของแต่ละฟีเจอร์การใช้งานหลัก และฟีเจอร์การใช้งานย่อยลงมาตามลำดับ ทั้งหน้าจอและการใช้งานในส่วนอื่นๆ ใครที่อยากรู้ตรงส่วนไหนก็สามารถกดเลือกไปดูตรงส่วนนั้นกันได้เลย
- หน้าจอล็อค
- โหมดโฟกัส
- รูปภาพ
- ข้อความ
- เมล
- Safari และ PassKey
- การป้อนตามคำบอก
- แผนที่
- แอพกระเป๋าสตางค์
- แอพบ้าน
- สุขภาพและฟิตเนส
- การแชร์กันในครอบครัว
- ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
- การช่วยการเข้าถึง
- CarPlay
- อื่นๆ
iPhone รุ่นไหนรองรับ iOS 16 บ้าง?
หน้าจอล็อค
เริ่มกันที่สิ่งที่เป็นจุดเด่นๆ ของ iOS ใหม่นี้กันก่อนเลย นั่นก็คือการล็อคหน้าจอ ที่ออกแบบมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เราสามารถปรับแต่งหน้าจอได้ตามสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะใส่รูปภาพ หรือใส่เอฟเฟกต์เพื่อเปลี่ยนสี ใส่ฟิลเตอร์ต่างๆ พร้อมกับฟอนต์ที่อยากได้เข้าไปก็ยังได้ แถมยังสามารถใส่รูปภาพเป็นชุดๆ เพื่อให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่ตลอดก็ทำได้สบายๆ จะแบ่งได้ตามฟีเจอร์ย่อยๆ คือ
วิดเจ็ตบนหน้าจอที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะใส่อะไรเข้าไปทั้งวันที่ เวลา นาฬิกาปลุก สภาพอากาศ กิจกรรมต่างๆ ในปฏิทิน แบตเตอรี่ และอย่างอื่นอีกเยอะมาก จากแอพที่เราอยากจะปรับแต่งขึ้นไปบนหน้าจอล็อค และทั้งหมดนี้ก็สามารถสร้างหน้าจอล็อคออกมาได้หลายแบบด้วย อย่างการเปลี่ยนฉากหลัง รูปภาพต่างๆ ตามสไตล์ของตัวเองเก็บไว้ และทั้งหมดนั้นก็สามารถเปลี่ยนและสลับไปมาได้หมดเลย เรียกได้ว่ามีอิสระในการใช้งานขึ้นอีกเยอะ หรือถ้าใครยังไม่รู้จะแต่งแบบไหนก็มีตัวอย่างทั้งภาพและธีมให้เลือกดูในแกลเลอรี่วอลเปเปอร์ด้วย
เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการแจ้งเตือน ที่สามารถดูได้บนหน้าจอที่ล็อคอยู่ ทั้งการดูแบบขยายหรือจะดูแบบซ้อนกัน รวมไปถึงมุมมองที่ซ่อนอยู่ของการแจ้งเตือนอยู่ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อไม่ให้บดบังการใช้งานหรือวิดเจ็ตบนหน้าจอก็ได้เหมือนกัน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์กิจกรรมสด ที่ติดตามแอพต่างๆ แบบเรียลไทม์ได้บนหน้าจอที่ล็อคอยู่ อย่างเช่นการติดตามสถานะของแอพส่งอาหาร, Uber หรือกีฬาที่สามารถดูการเคลื่อนไหว หรือจะควบคุมการเล่นต่างๆ ได้เลยโดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ ซึ่งทั้งหมดนี้มันดีและใช้งานได้ง่ายพร้อมความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้นเยอะมากๆ โดยไม่ต้องปลดล็อคเพื่อดูบ่อยๆ
โหมดโฟกัส
สำหรับโหมดโฟกัสของ iOS 16 ก็ได้เพิ่มความส่วนตัวให้ดีขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการตั้งค่าใหม่ที่เรียบง่ายมากขึ้น โดยเราสามารถเลือกบุคคล หรือว่าเลือกแอพที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยการอนุญาตหรือปิดเสียง พร้อมกับลิงก์ไปกับหน้าจอล็อคเพื่อปรับโหมดโฟกัสให้เข้ากับตัวเราได้ตามต้องการ แถมยังปรับเปลี่ยนไปมาระหว่างโหมดโฟกัสส่วนตัวกับการทำงานได้เพียงปัดครั้งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์สำหรับโหมดโฟกัส ที่สามารถกำหนดขอบเขตของแอพจาก Apple อย่างข้อความ ปฏิทิน อีเมล แอพจากที่ทำงานเพื่อซ่อนไปได้เลยเมื่อใช้โหมดโฟกัสในเวลาส่วนตัว อย่างเช่นตอนนอนที่ไม่อยากให้มีอะไรมารบกวน หรือหลังเลิกงานก็แค่เลือกเป็นแบบเวลาส่วนตัวก็จบ อันนี้ดีมากสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ
รูปภาพ
เรื่องการแชร์รูปภาพหรือวิดีโอของ iOS 16 ก็จะสามารถทำได้รวดเร็วและดีขึ้นด้วย โดยการแชร์นี้เราสามารถแชร์กับคนอื่นได้สูงสุด 5 คน อย่างการสร้างคอลเลคชั่นในครอบครัว หรือจะเก็บเป็นคลังภาพใน iCloud ที่แชร์ไว้ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยฟีเจอร์ “คลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์” พร้อมเปิดดูได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ถ่ายรูปนั้นก็ตาม ซึ่งการแชร์รูปต่างๆ นี้เราสามารถทำได้ด้วยการอิงจากวันเริ่มต้น หรือว่าคนในภาพที่เราตั้งค่าเอาไว้ตั้งแต่แรก หลังจากนั้นเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วก็แชร์ออกไปจากแอพกล้องได้เลย หรือถ้าอยากจะเลือกแชร์ไปให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ทำได้ ที่น่าสนใจก็คือทุกรูปที่แชร์ไว้ในคลังกับคนอื่นๆ นั้น ทุกคนสามารถปรับแต่ง เพิ่ม หรือลบรูปได้เหมือนกันทุกคน พร้อมทั้งซิงค์รายการโปรด หรือคำบรรยายต่างๆ ได้เหมือนกันหมด เหมาะกับการแชร์กับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าๆ กัน
ข้อความ
จุดที่หลายๆ คนให้ความสนใจมากสำหรับ iOS 16 เลยก็คือเรื่องของข้อความที่ได้มีการปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะทีเดียว โดยเราสามารถแก้ไขข้อความที่เพิ่งส่งไป หรือจะยกเลิกข้อความที่เพิ่งส่งไปก็ได้ อีกทั้งยังเพิ่มเครื่องหมายว่ายังไม่ได้อ่านได้ด้วย ถ้าเรายังไม่อยากตอบและอยากมาตอบทีหลังแทน ในส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ SharePlay ผ่านข้อความเพื่อดูรายการหรือเพลงใหม่ๆ ที่เราชอบ และอยากจะแชร์ให้เพื่อนรู้ไปด้วยผ่านแอพข้อความ ก็คือเราสามารถดูหนังและแชทไปพร้อมๆ กันได้ โดยสิ่งที่เล่นอยู่จะซิงค์ตรงกันเสมอ หรือว่าจะเป็นการแชร์โน้ต การนำเสนอ กลุ่มแถบของ Safari หรือการเตือนความจำต่างๆ ผ่านแอพข้อความ เพื่อทำงานร่วมกันได้ทันที ทำให้คนอื่นที่แชร์อยู่ด้วยรับรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ และมีอะไรอัพเดทใหม่บ้างนั่นเอง
เมล
สำหรับเมลบน iOS 16 นั้นก็ได้เพิ่มการค้นหาให้ดีขึ้น ทั้งการค้นหาที่รวดเร็วแม่นยำ และมีการแสดงคำแนะนำก่อนเริ่มพิมพ์อีกด้วย แต่ที่น่าสนใจก็คือ การยกเลิกส่งเมลที่เพิ่งส่งไป หรือว่าจะกำหนดเวลาในการส่งตามที่ต้องการ พร้อมรับการแจ้งเตือนผลการส่งได้แบบง่ายๆ อีกทั้งยังสามารถกลับมาอ่านภายหลัง หรือว่าเพิ่มลิงก์แบบย่อเพื่อให้ผู้รับเห็นได้มากขึ้น และถ้าหากเราลืมแนบไฟล์หรือชื่อผู้รับ ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาทันทีเลยด้วย
Safari และ PassKey
สำหรับตัวพาสคีย์บน iOS 16 นั้นจะเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการลงชื่อเข้าใช้แบบใหม่โดยจะมีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเลย ช่วยให้การฟิชชิ่งหรือการรั่วไหลปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะปลอดภัยกว่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยที่ใช้กันทั่วไป พร้อมกับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ Apple ได้ด้วย ส่วน Safari ก็มีฟีเจอร์ใหม่คือ กลุ่มแถบที่แชร์ ที่สามารถแชร์แถบและที่คั่นหน้า ส่งข้อความ หรือว่าจะโทร Facetime จาก Safari ได้เลยในทันที ช่วยให้การวางแผน หรือว่าการแชร์ข้อมูลจาก Safari ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น และเมื่ออีกฝ่ายกดเข้าไปก็สามารถเพิ่มไปในแถบใหม่ได้เลย
การป้อนตามคำบอก
มาที่เรื่องการพิมพ์ด้วยเสียงหรือว่า Dictation กันบ้างที่เราสามารถป้อนตามคำบอก และสามารถใส่เครื่องหมายวรรคตอนได้เลยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นจุด เครื่องหมายคำถามหรือลูกน้ำ อีกทั้งยังสามราถใส่อิโมจิด้วยเสียงพูดได้ด้วย เช่น อิโมจิหน้ายิ้ม ก็จะมีอิโมจิตามคำที่บอกขึ้นมาทันที ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ คุณสมบัติการป้อนตามคำบอกที่ใช้ร่วมกับคีย์บอร์ด ด้วยการสลับไปมาระหว่างการพูดกับการพิมพ์ได้ไหลลื่นมากขึ้น ถ้าคำไหนผิดก็พิมพ์แก้ไขได้เลยโดยไม่ต้องหยุดการป้อนตามคำบอก
แผนที่
การใช้แผนที่บน iOS 16 จะง่ายมากขึ้น และสามารถวางแผนจุดหมายแบบหลายจุดล่วงหน้าบนแผนที่ได้เลย หรือว่าถ้าผ่านไปแล้วอยากจะกลับไปดูเส้นทางที่ผ่านมาก็กด “ล่าสุด” เพื่อย้อนไปดูได้เลย และยังซิงค์ไปกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ด้วย ทำให้การค้นหาจาก Mac หรืออย่างอื่นแล้วค่อยมาดูบน iPhone ก็ทำได้เลย ช่วยให้การวางแผนการเดินทางง่ายขึ้นเยอะ
แอพกระเป๋าสตางค์
สำหรับแอพกระเป๋าสตางค์นั้น เราสามารถแชร์กุญแจได้อย่างปลอดภัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกุญแจหรือแอพอะไรก็ตาม โดยการแชร์ผ่านแอพข้อความ, เมล และ WhatsApp และยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะใช้ตอนไหน ที่ไหน และยกเลิกได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังมีการซิงค์ข้อมูลส่วนตัวหากจำเป็นต้องใช้ผ่านแอพไหน ก็ใช้จากตรงนี้ได้เลยเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งการปกป้องด้วย Face ID หรือ Touch ID
แอพบ้าน
แอพบ้านบน iOS 16 ก็มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้การใช้งานเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการออกแบบแถบแอพบ้านให้เข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ได้เลย และยังมาพร้อมหมวดหมู่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ แสงไฟ ความปลอดภัยและอย่างอื่นอีกมากมาย เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายขึ้นด้วยการแตะเพียง 1 ครั้ง พร้อมทั้งมุมมองแบบหลายกล้องเพื่อแสดงกล้องในบ้านให้เราเห็นได้เสมอ นอกจากนี้ยังมีการรองรับ Matter ที่เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อสำหรับบ้านอัจฉริยะ ทำให้การใช้งานกับอุปกรณ์เสริมภายในบ้านสามารถทำงานข้ามแพลทฟอร์มได้ เราจังสามารถควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับ Matter และ HomeKit ได้ด้วยแอพบ้านและ Siri พร้อมกับการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดไปด้วย
สุขภาพและฟิตเนส
การอัพเดทใหม่ของแอพสุขภาพที่มีคุณสมบัติการให้ยาใหม่ ทำให้เราสามารถจัดการและติดตามยาที่กินได้ รวมไปถึงสามารถส่งไปให้คนอื่นๆ ในครอบครัวเพื่อให้รับรู้ข้อมูล และจัดเก็บไว้ในแอพสุขภาพของคนที่เราอยากแชร์ด้วย เพื่อติดต่อและรับรู้ข้อมูลอยู่ตลอด อันนี้ดีมากสำหรับคนในครอบครัว นอกจากนี้ยังอัพเดทแอพฟิตเนสที่ช่วยติดตาม และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการออกกำลังกายได้ด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่มี Apple Watch ก็ตาม แถมยังสามารถใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของ iPhone จำนวนการเดิน ระยะทาง และการออกกำลังกายจากแอพอื่นๆ เพื่อบอกข้อมูลการเคลื่อนไหว จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ และสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพทั้งหมดเลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
การแชร์กันในครอบครัว
เรื่องการจัดการบัญชีของเด็กๆ ในครอบครัวก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะผู้ปกครองสามารถควบคุมและตั้งค่าความเหมาะสมได้ตั้งแต่ต้นเลย แถมยังสามารถตั้งค่าการเล่นสื่อต่างๆ ให้เหมาะสมคามช่วงอายุ เวลาหน้าจอ และการแชร์ตำแหน่ง กับอีกหลากหลายฟีเจอร์ รวมไปถึงการของ เวลาหน้าจอ จากเด็กๆ เราก็สามารถจัดการได้จากแอพข้อความเพื่อตอบรับหรือปฏิเสธได้เลยทันที ส่วนการตั้งค่าบน iPhone หรือ iPad ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยคุณสมบัติเริ่มใช้ที่ตั้งค่ามาให้อย่างเหมาะสมไว้ให้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถเช็คลิสต์ครอบครัว เพื่อดูเคล็ดลับและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากคุณสมบัติการแชร์กันในครอบครัวด้วย อย่างการอัพเดทการตั้งค่าเมื่อเด็กโตขึ้น หรือว่าเปิดตำแหน่งที่ตั้ง และการแชร์การสมัครใช้งาน iCloud+ กับทุกคนได้เลย
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัยของ Apple ที่มักจะให้ความสำคัญเป็นหลักอยู่แล้ว ที่ได้มีการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในการอัพเดทซอฟแวร์ปกติบน iPhone ทำให้มีการอัพเดทใหม่อยู่เสมอ และมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง การตรวจสอบด้านความปลอดภัยหรือ Safety Check ที่ช่วยตรวจสอบด้านความปลอดภัยจากผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว หรือว่ากับคู่รักที่สามารถทบทวนและรีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงได้ โดยการตรวจสอบจะรีเซ็ตด้านความเป็นส่วนตัวของแอพต่างๆ และจำกัดการใช้แอพข้อความกับ และ FaceTime บนอุปกรณ์ที่มีอยู่
การช่วยการเข้าถึง
ฟีเจอร์นี้จะเป็นการควบคุม Apple Watch ด้วย iPhone ที่ใช้การควบคุมสวิตช์ หรือว่าคุณสมบัติความช่วยเหลืออื่นๆ บน iPhone ที่ช่วยให้ควบคุม Apple Watch ได้ง่ายขึ้น แล้วก็ยังมีการตรวจจับประตูว่าอยู่ใกล้ หรือไกลมากแค่ไหนพร้อมบอกวิธีเปิดให้ด้วย อีกทั้งยังมีการช่วยอ่านออกเสียงถึงรายละเอียดที่สำคัญๆ อย่างเลขห้อง หรือสัญลักษณ์ต่างๆ สำหรับเก้าอี้รถเข็นด้วย นอกจากนี้ยังมีการควบคุมอุปกรณ์เกมทั้งสองอย่างให้เป็นอย่างเดียว เมื่อต้องการความช่วยเหลือขณะเล่นเกม ด้วยการลิงค์อุปกรณ์ควบคุมเกมแบบไร้สายสองตัวเข้าด้วยกันสำหรับหนึ่งคนได้เลย ดูเพิ่มเติมที่นี่
CarPlay
จุดที่น่าสนใจมากๆ อีกอย่างบน iOS 16 ก็คือ CarPlay เจเนอเรชั่นถัดไปที่มอบประสบการณ์การใช้งาน iPhone บนรถยนต์ ทำให้สามารถแสดงคอนเทนต์สำหรับทุกหน้าจอของคนขับ รวมไปถึงเรือนไมล์ ทำให้ทุกอย่างรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังสามารถจัดการกับฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ และตัวควบคุมอุณหภูมิจาก CarPlay พร้อมทั้งตัวเลือกในการปรับแต่งที่หลากหลายทั้งวิดเจ็ต และการเลือกดีไซน์เรือนไมล์ตามทีต้องการได้เลย ถือว่าเหมาะกับคนขับรถยนต์เป็นอย่างมาก
อื่นๆ
นอกจากฟีเจอร์หลักๆ ที่น่าสนใจทั้งหมดแล้วก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจจากแอพต่างๆ ของ Apple อยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็น
- สภาพอากาศ ที่สามารถแตะสองครั้งที่การพยากรณ์อากาศต่างๆ เพื่อดูทั้งสภาพอากาศท้องถิ่นที่ละเอียดขึ้น หรือรับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานรัฐที่รุนแรงได้ด้วย
- Freeform Freeform ที่เป็นแอพด้านการทำงานที่เราและผู้ร่วมงานสามารถออกไอเดียต่างๆ และจดโน้ต แชร์ไฟล์ และใส่ข้อมูลต่างๆ ลงไปได้เลยด้วย
- Apple TV ที่สามารถเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์ใน tvOS 16 และรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ใช้ร่วมกันได้ระหว่าง Apple TV, Apple Watch และ iPhone เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ทีวีมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- Spotlight ที่เปิดใช้ได้เลยบนหน้า Home แล้วค้นหาได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับคำแนะนำและผลลัพธ์รูปภาพจากแอพข้อความ โน้ต หรือว่าแอพไฟล์ พร้อมกับการจับเวลาหรือเรียกใช้คำสั่งลัดจาก Spotlight ได้เลยด้วย
- Game Center ที่สามารถดูกิจกรรมต่างๆ ของเพื่อนๆ ในแดชบอร์ดที่ออกแบบมาใหม่ หรือว่าในแอพรายชื่อ และยังมี SharePlay ที่รวมอยู่ในเกมแบบเล่นหลายคนบน Game Center ทำให้เราและเพื่อนเข้าไปเล่นเกมได้ด้วยกันได้เลยในระหว่างที่โทร FaceTime
- Handoff ใน FaceTime ที่สามารถสลับไปมาได้อย่างง่ายดาย ระหว่างที่โทรแบบ FaceTime อยู่โดยไม่มีสะดุด เพียงแค่แตะครั้งเดียวก็ย้ายจาก Mac ไป iPhone หรือ iPad และชุดหูฟังที่เชื่อมต่อได้เลยทันที
- แอพเตือนความจำ ที่สามารถบันทึก สร้าง หรือแชร์ลิสต์เป็นเท็มเพลตเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ และยังสามารถปักหมุดรายการโปรด และยังมีสต์ “วันนี้” กับ “กำหนดเวลา” ที่ช่วยจัดกลุ่มรายการตามวันเวลาเพื่อเตือนความจำได้ง่ายขึ้น รวมไปถึง “ลิสต์ที่เสร็จแล้ว” แบบใหม่ด้วย
- แอพโน้ต ที่สามารถจดด่วนลงในแอพไหนก็ได้บน iPhone จากเมนูแชร์ พร้อมกับล็อคโน้ตเพียงแค่ใช้รหัสผ่าน ทำให้ไม่ต้องใช้รหัสแยกกัน พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกเพียบ
- หุ้น ที่สามารถสร้างรายการหุ้นได้หลายรายการ เพื่อจัดระเบียบการซื้อขายที่ง่ายขึ้น พร้อมการใส่สัญลักษณ์กลุ่มตามที่เลือก อย่าง ภาคธุรกิจ ประเภทสินทรัพย์ และอื่นๆ กับการประกาศรายงานผลประกอบการของบริษัทบนปฏิทิน และรับรู้ได้รวดเร็วผ่านวิดเจ็ตใหม่
- Memoji ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ด้วย สติกเกอร์ Memoji และการปรับแต่งใหม่อย่างจมูก เครื่องประดับ และทรงผมที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับท่าทางใหม่ๆ สำหรับรายชื่อที่บ่งบอกบุคลิกเฉพาะตัวได้ด้วย
iOS 16 อัพเดทได้เมื่อไหร่?
สำหรับการอัพเดทของ iOS 16 นั้นเราจะสามารถใช้งานได้พร้อมๆ กันช่วงปลายปี 2565 นี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องรอการกำหนดวันอีกครั้งหลังจากนี้ สำหรับผู้ใช้งานปกติ ส่วนคนที่ต้องการใช้งานในแบบ Beta สามารถเข้าถึงและโหลดมาใช้งานก่อนได้ในเดือนหน้าคือเดือน กรกฎาคม 2565 ที่จะถึงนี้ สามารถเข้าไปโหลดได้ที่นี่ ส่วนใครที่เป็นนักพัฒนาสามารถเข้าสู่ระบบด้วย Apple Developer และโหลดมาได้เลย เข้าไปโหลดได้ที่นี่
iPhone รุ่นไหนรองรับ iOS 16 บ้าง?
- iPhone 13
- iPhone 13 mini
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone SE (รุ่นที่ 2 หรือใหม่กว่า)
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลทั้งหมดแบบละเอียดทุกอย่างของ iOS 16 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ นั้นก็ต้องรอกันถึงช่วงสิ้นปีเลยทีเดียว ไม่แน่ว่าอาจจะมาพร้อมกับ iPhone 14 ก็เป็นได้ โดยเวอร์ชั่นนี้ก็ได้พัฒนาเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์เด็ดๆ อย่างวิดเจ็ตที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ โหมดโฟกัสที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และการรับส่งข้อความที่ดีมากขึ้นด้วย ใครที่สนใจและรีบๆ หน่อยก็ลองโหลดตัว Beta มาลองก่อนได้ในเดือนหน้าเลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนอัพเดทอีก เดี๋ยวเราจะมาอัพเดทให้อีกเรื่อยๆ เลยนะครับ
