eSIM ระบบลงทะเบียนข้อมูลเครือข่ายมิือถือที่ในปัจจุบันนั้นเริ่มมีใช้งานกันมากขึ้น ในวันนี้เราขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับมันอย่างเป็นทางการเพื่อการปรับตัวในการใช้งานในอนาคต จะน่าสนใจแค่ไหนไปติดตามกัน
สำหรับผู้ใช้งาน iPhone นั้นคงจะเคยได้ยินคำว่า eSIM กันมาสักพักแล้ว โดยในตอนแรกนั้นในเมืองไทยเรายังไม่ค่อยมีการใช้งานกันมากเท่าไรนักเนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายยังคงไม่รองรับการใช้งานอย่างเป็นทางการ ซ฿่งนั่นทำให้การใช้งาน eSIM นั้นจึงได้รับความนิยมมากกว่าในการใช้งานที่โซนสหรัฐอเมริกาและยุโรป อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ eSIM ยังคงไม่ได้รับความนิยมมากนักก็คือสมาร์ทโฟนในฝั่ง Android เองนั้นยังมีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ผลิตตัวเครื่องที่รองรับการใช้งาน eSIM อย่างเป็นทางการออกมาจำนวนน้อยรุ่นเอามากๆ
ทว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปนั้นจะเห็นได้ว่าการใช้งาน eSIM ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในโซนประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนเอเชียเองรวมถึงประเทศไทยของเรา ในวันนี้เราจึงอยากจะขอนำเสนอข้อดีข้อเสียของระบบ SIM CARD แบบใหม่ที่เรียกว่า eSIM ให้ทุกท่านได้รู้จักกัน จะน่าสนใจมากแค่ไหนนั้นไปติดตามกันได้เลย
eSIM คืออะไร
eSIM หรือ embedded SIM คือ SIM ในตัว (Subscriber Identification Module) ที่เก็บข้อมูลที่ใช้ในการระบุและรับรองความถูกต้องของสมาชิกเครือข่ายผู้ใช้บริการโทรศัพท์ซึ่งถูกจัดเก็บเอาไว้บนเครื่องสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่แบบอื่นๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ eSIM นั้นจริงๆ แล้วมันก็คือ SIM CARD ปกติที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน หลักการในการทำงานต่างๆ คล้ายกัน เพียงแต่ว่า eSIM นั้นจะถูกฝังไว้เหมือนชิปบนเมนบอร์ดของสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของเราแทน สิ่งที่ eSIM แตกต่างจาก SIM CARD ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันในปัจจุบันก็คือ eSIM นั้นไม่สามารถถอดออกจากอุปกรณ์ได้โดยเจ้า eSIM นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณไปเลย
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยน eSIM ของคุณได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าคุณจะไม่กดถาด eSIM ของคุณออกมาจากตัวเครื่องได้ แต่ eSIM นั้นจะใช้หลักการในการเขียนข้อมูลลงไปบนแหล่งเก็บข้อมูลถาวรที่ถูกบรรจุอยู่บนชิป eSIM โดยในการเปลี่ยน eSIM นั้นจะต้องผู้ให้บริการเครือข่ายจะต้องรองรับการโอนถ่ายข้อมูลบน eSIM ด้วย โดยอาจจะให้คุณสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เองทั้งที่มาในรูปแบบของการสแกนคิวอาร์โค้ด(QR Code) หรือปรับแต่งการตั้งค่าบางอย่างแทนเพื่อเปลี่ยน eSIM ของคุณ
จุดเด่นของ eSIM
คงจะต้องยอมรับกันว่า eSIM นั้นน่าจะเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ของ SIM CARD ในอนาคตดังนั้นเราลองมาดูกันว่าเจ้า eSIM นี้นั้นมีจุดเด่นอย่างไรบ้างกันดีกว่า
ง่ายต่อการเปลี่ยนเปลี่ยนผู้ให้บริการ
เสน่ห์อย่างหนึ่งของอุปกรณ์ที่รองรับ eSIM คือความง่ายในการเปลี่ยนผู้ให้บริการเครือข่าย โดยถึงแม้ว่าผู้ผลิตจะฝัง eSIM ไว้ในสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณทว่าการเขียนข้อมูลของ eSIM นั้นสามารถเขียนซ้ำได้ง่าย มีขั้นเพียงไม่กี่ขั้นตอนในการเขียนข้อมูลนี้ใหม่ ทำให้สามารถเปลี่ยนไปใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่นที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญที่สุดแล้วนั้นก็คือคุณสามารถทำการเขียนข้อมูลลงบน eSIM ได้ด้วยตัวเองด้วย(หากผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ รองรับการใช้งานรูปแบบนี้)
ด้วยหลักการวิธีดังกล่าวนั้นทำให้ช่วยลดระยะเวลาที่ต้องรอการส่ง SIM CARD ในรูปแบบเดิม แถมไม่ต้องเปิดถาด SIM ทุกครั้งที่คุณต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการเครือข่ายอีกด้วยต่างหาก(มองในอีกแง่มันช่วยถนอมอุปกรณ์ของคุณได้)
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเพราะจากข้อมูลของ Apple พบว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า 400 รายใน 190 ประเทศพร้อมรองรับการใช้งาน eSIM แล้ว ซึ่งหมายความว่าผู้เดินทางระหว่างประเทศจะเพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศที่คุณท่องเที่ยวไปได้อย่างราบรื่น พร้อมหลีกเลี่ยงค่าบริการโรมมิ่งที่สูงเกินไป
eSIM บนอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถเก็บข้อมูลเบอร์โทรได้มากกว่า 1 เบอร์โทร
อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มาพร้อมกับ eSIM อย่างเช่น iPhone 14 สามารถจัดเก็บข้อมูลเบอร์โทรลงบน eSIM ได้สูงสุดแปดเบอร์โทรโดยไม่จำเป็นต้องเป็นของผู้ให้บริการเครือข่ายเดียวกันทั้งหมดก็ได้) แม้ว่าจะเปิดใช้งานพร้อมกันได้เพียงสองหมายเลข แต่คุณก็สามารถเป็นเจ้าของและจัดเก็บหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้มากเท่าที่คุณต้องการ สิ่งที่คุณต้องทำคือจัดเก็บเป็นโปรไฟล์แต่ละเบอร์โทรให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสลับไปใช้เบอร์อื่นๆ ได้เมื่อที่ต้องการแบบทันที
หากคุณสงสัยว่าการมีซิมจำนวนมากจะมีประโยชน์ต่อคุณอย่างไร ให้คิดถึงความคุ้มครองที่รับประกัน ในพื้นที่ที่คุณมีสัญญาณครอบคลุมต่ำจากผู้ให้บริการบางรายและมีสัญญาณครอบคลุมมากกว่าจากผู้ให้บริการรายอื่น คุณจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าคุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการที่มีสัญญาณท้องถิ่นที่ดีกว่าได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่ายังเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบในการใช้ประโยชน์จากแผนที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการหลายราย หากผู้ให้บริการรายหนึ่งมีแผนบริการการโทรออกที่ดีกว่า(หรือเอาง่ายๆ ก็คือค่าโทรต่อนาทีถูกกว่า) และอีกรายมีแผนบริการข้อมูลที่ดีกว่า(ค่าบริการในส่วนของ DATA สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตfud;jk) คุณก็สามารถเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ตลอดเวลา
ยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้นเพราะคุณยังเก็บหมายเลขเดิมไว้โดยไม่จำเป็นต้องย้ายไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการเครือข่ายบนอุปกรณ์ของคุณอีกด้วย
ความสามารถในการป้องกันฝุ่นและกันน้ำของอุปกรณ์เคลื่อนที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อ Apple เลิกใช้ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. บน iPhone ในปี 2559 ก็ได้รับคำวิจารณ์มากมาย ทว่าหลายปีต่อมาปรากฎว่าการทิ้งพอร์ตบางพอร์ตที่น้ำอาจเล็ดลอดเข้าไปในสมาร์ทโฟนของคุณนั้นเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับกันในวงกว้างมากขึ้นจนผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายๆ แบรนด์ดำเนินรอยตาม Apple งานนี้ต้องบอกว่าทาง Apple เองนั้นสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในการสร้างอุปกรณ์กันน้ำอย่างแท้จริงให้กับวงการสมาร์ทโฟนโลกก็ว่าได้
สมาร์ทโฟนที่ใช้งานเฉพาะ eSIM จะทำให้รูบนสมาร์ทโฟนของคุณน้อยลง นั่นหมายความว่าความสามารถในการป้องกันฝุ่นและความชื้นของตัวเครื่องจะดีขึ้น และอาจเป็นสาเหตุของการเสียบ่อยครั้งน้อยลง
ใช้พื้นที่ทางกายภาพบนสมาร์ทโฟนน้อยลง
บนสมาร์ทโฟนพื้นที่ทุกตารางนิ้วสร้างความแตกต่างได้ พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นหนึ่งนิ้วอาจเป็นความแตกต่างระหว่างผู้ผลิตที่ใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าและมีประสิทธิภาพดีกว่าหรือแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าที่มีความจุน้อยกว่า(สังเกตุได้จากสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่จะมีการใช้งานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มากกว่าปกติ)
eSIM นั้นถือว่าเป็นชิปขนาดเล็กมาก ซึ่งเล็กกว่า nano-SIM ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันทั่วไปเกินครึ่งซึ่งนั่นหมายความว่าจะใช้พื้นที่น้อยกว่า SIM CARD ดั้งเดิมที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันมาก แน่นอนว่าพื้นที่ที่เพิ่มนี้ถึงเราจะไม่รู้ว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะเอาไปใช้ประโยชน์ในด้านไหนแต่เชื่อเถอะว่าผู้ใช้งานอย่างเราๆ ท่านๆ จะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้อย่างแน่นอน
มีความสะดวกในการติดตามอุปกรณ์ของคุณมากขึ้นกว่าเดิม
เนื่องจาก eSIM ไม่เหมือน SIM CARD แบบดั้งเดิมที่คุณสามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นอาชญากรจะกำจัดซิมของคุณได้ยากขึ้นหากอุปกรณ์ของคุณถูกขโมย วิธีนี้อาจทำให้ติดตามสมาร์ทโฟนที่สูญหายสามารถทำได้ง่ายขึ้น แม้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นดาบสองคมเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะถูกนำไปใช้กับคุณ(คุณกลายเป็นฝ่ายที่โดนติดตามแทน) แต่มันก็เพิ่มการป้องกันอีกชั้นให้กับสมาร์ทโฟนของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย
จุดด้อยของ eSIM ที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
ใช่ว่า eSIM นั้นจะมีแต่ข้อดี เพราะในปัจจุบันนี้การใช้งาน eSIM ก็ยังพบจุดด้อยอยู่เหมือนกัน ตัวอย่างที่โหดร้ายที่สุดที่ต้องใช้ในการพิจารณาการใช้งาน eSIM เลยนั้นก็คือมีรายงานในเมืองไทยจากผู้ใช้หลายรายว่าว่าการย้ายข้อมูลจาก SIM CARD แบบเก่าเข้าสู่ eSIM นั้นยังมีขึ้นตอนที่วุ่นวาย นอกไปจากนั้นแล้วผู้ใช้บางรายก็ไม่สามารถที่จะทำการโอนย้ายข้อมูลได้สำเร็จด้วยตัวเองอีกด้วยต่างหาก
ที่หนักมากกว่านั้นก็คือในเมืองไทยเรานั้นมีรายงานว่าเมื่อใช้งาน SIM CARD แบบเดิมเทียบกับ eSIM ณ จุดเดียวกันพบว่าสัญญาณเครือข่ายที่ใช้งานจาก eSIM นั้นลดลงมากจดน่าตกใจ นอกไปจากนั้นแล้วมันยังส่งผลให้ความสามารถในการโอนถ่ายข้อมูลอินเทอร์เน็ตของตัวเครื่องช้าลงเมื่อเทียบกับการใช้งาน SIM CARD แบบเดิมด้วย(ผู้ให้บริการเครือข่ายเดียวกัน)
อีกทั้งในปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับ eSIM ส่วนใหญ่จะเป็นสมาร์ทโฟนจาก Apple ในขณะที่ผู้ผลิตแบรนด์อื่นๆ นั้นยังคงไม่ค่อยจะออกผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับ eSIM ออกมาให้เห็นกันมากเท่าไรนัก(เว้นเสียแต่สมาร์ทโฟนในระดับเรือธงของผู้ผลิตบางรายที่เริ่มจะมีการเปลี่ยนมาใช้งาน eSIM บนตัวเครื่องมากขึ้น) แน่นอนว่าด้วยสาเหตุข้อนี้นั้นทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกสมาร์ทโฟนที่ใช้ eSIM ในตลาดน้อยมากเกินไป
eSIM เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับช้าแต่ศักยภาพมหาศาล
eSIM ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดเพราะในความเป็นจริงแล้วมันมีออกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะมีประโยชน์ แต่การนำ eSIM มาใช้งานจริงเป็นไปได้ค่อนข้างช้าเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ตั้งแต่การขาดความตระหนักในหมู่ผู้บริโภคไปจนถึงความสนใจเพียงเล็กน้อยจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน
ด้วยการวางเดิมพันอย่างกล้าหาญของ Apple ในการนำ eSIM ไปใช้ ทำให้แบรนด์ Android จำนวนมากขึ้นเกือบจะวางเดิมพันในลักษณะเดียวกัน เช่นเดียวกับที่เราเคยเห็นปัญหาการทิ้งแจ็คหูฟัง 3.5 mm ที่เมื่อ Apple ทดสอบการตกน้ำแล้วพบว่า iPhone ยังอยู่รอดนั่นทำให้ผู้ผลิต Android เกือบจะเข้าร่วมกันจนเกือบหมด(ถึงแม้จะเป็นแบบช้าๆ ก็ตาม
รายชื่อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับ eSIM ในปัจจุบัน
- Apple iPhone SE (2020 และ 2022)
- Apple iPhone 11, XS, XR, 12, 13 และ 14 Series
- Google Pixel 2 จนถึง Pixel 7 Pro
- Samsung Galaxy S20, S21 และ S22 series
- Samsung Flip และ Fold series
- Samsung Galaxy Note 20 series
- Oppo Find X3, X3 Pro, X5 และ X5 Pro
- Sony Xperia 1 IV, Sony Xperia 5 IV, Sony Xperia 10 III Lite และ Sony Xperia 10 IV
หมายเหตุ – ยังมีสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นอีกที่รองรับ eSIM แต่ไม่ได้วางจำหน่ายในทุกโซนของโลก
ที่มา : makeuseof