ล่าสุด Vivo X6 และ Vivo X6 Plus ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งสองรุ่นนี้จะเป็นสองรุ่นแรกในตระกูล X ที่ต่อยอดขึ้นมาจากรุ่นก่อนๆ โดยทั้งคู่นั้นจะมาพร้อมดีไซน์แบบ Unibody ที่ทำจากโลหะถึง 98.3% และมาพร้อมกับ Android 5.1 Lollipop ครอบทับด้วย FunTouch OS 2.5 โดยก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมาว่าทั้งสองรุ่นนี้จะมาพร้อมเทคโนโลยีอย่าง 3D Touch และหน่วยความจำจีพียูแยกอีก 1 GB ล่าสุดจากการเปิดตัวเผยให้เห็นว่าข่าวลือที่ออกมานั้นไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด Vivo X6 นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว
ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ส่วน Vivo X6 Plus นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้วแบบ Super AMOLED เช่นเดียวกับ Vivo X6 ความละเอียดของหน้าจอนั้นจะเป็นแบบ Full HD ใช้กระจกขอบโค้งแบบ 2.5D Gorilla Glass ซีพียูนั้นจะใช้ MediaTek MT6752 octa-core 64bit ความเร็วt 1.7GHz ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 4GB แบบ LPDDR4 และเหมือนกับข่าวลือที่ออกมาว่า Vivo X6 นั้นสามารถใช้งานสองแอพได้พร้อมๆ กัน
ในเรื่องของเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้นก็มีอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่องซึ่งรองรับการวางนิ้วถึง 360 องศา โดยสามารถปลดล็อคหน้าจอภายใน 0.2 วินาทีเท่านั้น Vivo X6 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ส่วน Vivo X6 Plus มาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน 64 GB
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ Vivo X6 มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชแบบ dual tone LED พร้อมระบบโฟกัสเร็วแบบ PDAF ที่สามารถโฟกัสได้ภายใน 0.1 วินาทีเท่านั้น และใช้เวลาในการเปิดแอพกล้องเพียง 0.6 วินาทีเท่านั้น และมาพร้อมกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลแบบเลนส์มุมกว้างที่สามารถถ่าย Selfie ได้ดีมากขึ้นอีกด้วย เรื่องของระบบเสียง Vivo X6 นั้นจะเป็นแบบ Hi-Fi ที่ใช้ชิพเสียงจาก AKM4375 เป็นตัวขับเคลื่อนพลังด้านระบบเสียงเรื่องของแบตเตอรี่นั้น Vivo X6 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2,400 mAh ส่วนสำหรับรุ่น Vivo X6 Plus นั้นจะมีทั้งหมดสองรุ่นนั่นคือ3,000mAh และ 4,000mAh ตามลำดับ
และจะมีระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบ Dual Charge ที่จะทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น สีของตัวเครื่องนั้นได้แก่สีเงิน,สีทอง,และสี Rose Gold ทั้งสองรุ่นนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 7 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ราคาวางจำหน่ายของ Vivo X6 นั้นจะอยู่ที่ 2,498 หยวน (ประมาณ 2,340 บาท) และ 2,998 หยวน (ประมาณ 15,900 บาท) ซึ่งการวางจำหน่ายนั้นจะเริ่มที่ประเทศจีนเป็นประเทศแรก ส่วนในประเทศอื่นนั้นในขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเข้ามา และทางเราจะทำการอัพเดทกันต่อไปครับ
ที่มา Phoneradar