นอกจากสมาร์ทโฟนสุดรักแล้ว ยังจำต้องมี Powerbank หรือก็คือแบตเตอรี่สำรอง ดีๆติดไว้ด้วย เพราะว่ามือถือ สมาร์ทโฟนสมัยนี้มันกินไฟเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะรุ่นที่บางๆเบาๆมักจะให้แบตเตอรี่ที่ความจุไม่สูงมากนัก หรือต่อให้มีความจุสูงระดับหนึ่ง แต่ด้วยการใช้งานเราที่เล่นบ่อยๆ ไหนจะต่อ Wifi 3G อีก แบตเท่าไรก็คงไม่พอ Powerbank จึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัวกันไว้ตลอดๆเพื่อให้สามารถใช้งาน มือถือได้ทั้งวัน
โดยหลักๆการเลือกซื้อ Powerbank จะเน้นที่ความจุของ mAh (milli Amp-hour) หรือก็คือปริมาตรความจุของแบตเตอรี่ ยิ่งเยอะยิ่งสามารถชาร์ตมือถือได้หลายครั้ง แต่ก็ยิ่งทำให้ตัว Powerbank มีขนาดใหญ่ไปด้วย ซึ่งปรกติการซื้อ Powerbank ต้องดูมือถือ สมาร์ทโฟน รวมไปถึงแท็บเล็ตที่เราใช้งานอยู่ด้วยครับว่าแบตเตอรี่มีความจุเท่าไร เช่น
- iPhone 5 มีแบตความจุ 1440 mAh
- iPhone 5s มีแบตความจุ 1570 mAh
- iPad 4 มีแบตความจุ 11560 mAh
- iPad Air มีแบตความจุ 8827 mAh
- Samsung Galaxy S4 มีแบตความจุ 2600 mAh
- Samsung Galaxy Note 3 มีแบตความจุ 3100 mAh
- แท็บเล็ต Android มีแบตความจุ 3500 ? 7500 mAh
- มือถือ Android มีแบตความจุ 2000 ? 3500 mAh
- มือถือ Windows Phone มีแบตความจุ 1430 – 3400 mAh
ซึ่งการซื้อ Powerbank สักอันต้องดูหลายประการ ได้แก่
mAh
- ตามปกติ Powerbank แต่ละตัวจะมีอัตราการสูญเสียพลังงานในการชาร์จอยู่ ซึ่งโดยมากมักจะไม่เกิน 30% ทำให้เราสามารถใช้ชาร์จไฟให้มือถือแท็บเล็ตได้อย่างต่ำที่สุดก็ราวๆ 70% ของความจุไฟที่ระบุไว้
- สมมุติ Note 3 แบตความจุ 3100 mAh Powerbank ที่ควรซื้อจึงไม่ควรน้อยกว่า 4030 mAh เพื่อที่จะชาร์ตแบตเตอรี่ได้เต็ม 1 รอบ ชาร์ต
- ยกตัวอย่าง Powerbank 8000 mAh จะสามารถชาร์ต Note 3 ได้ราวๆ 1.8 รอบ?
พอร์ต USB
- ค่าปรกติของ USB จะใช้จ่ายกำลังไฟที่ 5V อยู่แล้ว แต่จะมีอีกตัวเลขหนึ่งที่ต้องดูคือเลขกระแสไฟ (A) โดยปกติจะมีพื้นฐานอยู่ที่ 1A เปรียบได้กับขนาดท่อน้ำ
- ถ้าค่า A นี้น้อยเกินไปไม่สัมพันธ์กับมือถือ แท็บเล็ต ทำให้ให้แบตลดไวกว่าชาร์ต หรือชาร์ตไม่เข้า โดยมักจะมีปัญหาในกลุ่มของแท็บเล็ตที่ต้องการไฟฟ้ามากกว่ามือถือสมาร์ทโฟน
- สำหรับการชาร์จมือถือสมาร์ทโฟน ใช้ 1 ? 1.5 A ก็เพียงพอ?แต่ถ้ามากกว่านั้น แนะนำ 2A ขึ้นไปจะดีกว่า ถ้าจะเลือกมาชาร์ตแท็บเล็ต ต้องเลือก Powerbank ที่จ่ายไฟ 2A ได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าชาร์ตไฟไม่เข้า หรือกลับเป็นว่าเราเอาไฟออกจากแท็บเล็ตไปชาร์ตให้ Powerbank แทนซะ
อื่นๆ
- จำนวน port usb ส่วนใหญ่จะมีให้ 1-2 port ซึ่งทำให้ชาร์ตพร้อมกันได้หลายเครื่อง และแต่ละพอร์ตมักจ่ายแรงดันไฟต่างกันทำให้เลือกได้ตามต้องการ
- วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติก แม้จะแข็งแรงน้อย แต่ก็ทำให้ไม่มีไฟฟ้าสถิตหรือไฟดูขณะชาร์ต และน้ำหนักเบา
- Powerbank บางตัวจะมีไฟฉายแถมมาให้ด้วย
Brand
- แนะนำยี่ห้อซึ่งเป็นที่รู้จัก มีการรับประกันที่แน่นอน เพราะ Powerbank ก็เหมือนระเบิดถ้ายี่ห้อโนเนมก็มักจะใช้เซลล์แบตราคาถูกทำให้มีโอกาสที่จะเสียหรือเสื่อมเร็ว หรือที่ร้ายกว่านั้นก็อาจจะจะมีโอกาสระเบิดระหว่างใช้งานได้ เพราะฉะนั้นซื้อของมียี่ห้อ แพงหน่อยแต่ก็อุ่นใจนะครับ
วิธีการรักษา Power Bank
- ควรนำ Powerbank ออกมาชาร์จไฟให้เต็มทุก ๆ 3-6 เดือน หากไม่ได้ใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
- ควรเก็บ Powerbank ไว้ในที่แห้งไม่เปียกชื้น
- อย่าทำ Powerbank หล่น
- อย่าให้ Powerbank ถูกความร้อน
- ปรกติ Powerbank จะมีอายุการใช้งานราวๆ 1-2 ปี หลังจากนั้นเซลล์แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อม
สุดท้าย Powerbank ที่เหมาะสมที่สุด จะขึ้นอยู่กับการใช้งาน บางท่านขอแค่ชาร์ตวันต่อวัน แค่ชาร์ตได้ 1-2 รอบก็คงพอ แต่บางท่าน ต้องการสำหรับเดินทาง หรือชาร์ตหลายอุปกรณ์ อาจจะต้องการ Powerbank ที่ชาร์ตได้ 3-4 รอบขึ้นไป เพราะฉะนั้นเลือกให้เหมาะกับตัวท่านที่สุดครับ เพราะยิ่งความจุเยอะยิ่งขนาดใหญ่จะทำให้พกพาไม่สะดวกนะครับ