แนะนำสเปค Redmi Note 10 5G มือถือตัวแรงราคาประหยัด พร้อมอัพเดท Redmi รุ่นปัจจุบันในปี 2022

แนะนำสเปค Redmi Note 10 5G มือถือตัวแรงราคาประหยัด พร้อมอัพเดท Redmi รุ่นปัจจุบันในปี 2022

หลังจากปี 2021 ที่ผ่านมาทาง Redmi ก็ได้มีมือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวออกมาและวางขายในบ้านเราอยู่พอสมควร แต่ก็มีอีกหลายรุ่นที่ไม่ได้นำเข้ามาขายด้วย ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับต้นๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Redmi Note Series ที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี แน่นอนว่าในปีนี้ก็มีรุ่นใหม่ออกมาเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ว่ารุ่นเก่าก่อนหน้านี้ที่เปิดตัวออกมาในปีที่แล้วอย่าง Note 10 5G นั้นก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ยังใช้งานได้ดี เพราะมีสเปคที่ค่อนข้างแรง เล่นเกมได้ และถ่ายรูปได้ดีอยู่แล้วด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แรงเท่ารุ่นใหม่ล่าสุดก็ตาม แต่ก็ยังพอให้ซื้อมาใช้งานได้ดีตามปกติ ที่สำคัญคือมีราคาที่ไม่แรงมาก ถ้าเทียบกันแบบรุ่นต่อรุ่นของซีรีส์นั้นๆ ด้วย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำสเปคมือถือ Redmi Note 10 5G มือถือตัวแรงราคาประหยัด ที่ใช้งานทั่วไปหรือเอาไว้เล่นเกมได้ดีเลย พร้อมทั้งอัพเดท Redmi รุ่นปัจจุบันในปี 2022 ว่ามีรุ่นไหนเปิดตัวออกมาใหม่แล้วบ้างในตอนนี้ (ดูอัพเดท Xiaomi ทุกรุ่นในปี 2022 ที่นี่)

สเปค Redmi Note 10 5G

• ดีไซน์ตัวเครื่อง และสเปคหน้าจอ
• ชิปประมวลผล กล้องหน้า และกล้องหลัง
• แบตเตอรี่และราคาของ Redmi Note 10 5G

Redmi รุ่นปัจจุบันในปี 2022 มีรุ่นอะไรบ้าง

• Redmi 10 5G
• Redmi Note 11, Pro Series
• Redmi 10 Series

ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 10 5G กับ Redmi Note 11 Series ทุกรุ่น

ดีไซน์เบาบาง หน้าจอไหลลื่น 90Hz

มาเริ่มกันที่การดีไซน์ตัวเครื่องกับหน้าจอของ Redmi Note 10 5G กันก่อนเลย ที่รุ่นนี้ได้ทำฝาหลังมาให้โค้งแบบ 3D กับขอบข้างและมุมที่เป็นแบบโค้งมนเช่นกัน เพื่อให้สามารถถือหรือจับได้ถนัดมือ อีกทั้งยังเน้นที่เรื่องของความเบาบาง ถือได้นานโดยไม่เมื่อยมือมากนักอีกด้วย แต่ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันก็ถือว่าหนักไปหน่อยนึง มีสีสันตัวเครื่องจะทำออกมาแบบเรียบๆ สะท้อนแสงที่ฝาหลัง และยังมีช่องเสียบหูฟังที่ด้านบนด้วย

ในส่วนของหน้าจอรุ่นนี้จะเป็น Punch-Hole สำหรับกล้องหน้าและมีจอแบบ IPS LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วที่มาพร้อมกับอัตรา Refresh Rate 90Hz สีสันสวยงามเล่นได้แบบลื่นๆ และยังมี AdaptiveSync ที่ช่วยปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งาน ช่วยทั้งประหยัดพลังงาน และปรับความลื่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสง 360 องศา ที่ช่วยปรับความสว่างหน้าจอให้เป็นธรรมชาติ เข้ากับสายตาของเรามากที่สุด พร้อมกับฟีเจอร์ช่วยถนอมสายตา และการอ่านหนังสืออีกด้วย

ชิปยังแรงอยู่ พร้อมกล้องหน้า และกล้องหลังถ่ายรูปได้สวยๆ

มาต่อกันที่ตัวชิปของ Redmi Note 10 5G กันบ้างที่แน่นอนว่ารุ่นนี้สามารถใช้งาน 5G แบบซิมคู่ได้ด้วย และก็ยังสามารถเอามาเล่นเกมแบบลื่นๆ เลย แต่ก็อาจจะไม่ได้ถึงขั้นปรับกราฟิกสุดมากนัก ถ้าแบบ HD หรือทั่วไปก็ไหลลื่นแน่นอน ด้วยพลังจากชิป Dimensity 700 5G และ GPU Mali-G57 ที่มีความจำแบบ LPDDR4X และความจุ UFS2.2 ให้เลือกสามรุ่นคือ RAM 4GB/8GB และ ROM 128GB ในราคาต่างกัน 1,000 บาท ซึ่งในตอนนี้ก็มีการลดราคาลงมาแล้วด้วย แนะนำว่าให้ซื้อรุ่นตัวท็อปไปเลยจะดีที่สุด

กล้องหน้าของรุ่นนี้มีความละเอียด 8MP (ƒ/2.0) เซลฟี่แบบทั่วไปพอไหว ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องถ่ายรูปด้วยกล้องหน้ามากนัก ส่วนกล้องหลังรุ่นนี้มีอยู่ 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP (ƒ/1.79) มาโคร 2MP (ƒ/2.4) และชัดลึก 2MP (ƒ/2.4) สามารถถ่ายได้คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าไม่ได้มืดมากเกินไป อีกทั้งยังมี AI คอยช่วยปรับแสงและสีให้กับรูปที่ถ่ายออกมาได้ดีทีเดียว ซึ่งเลนส์มาโครก็ถ่ายได้ใกล้สุดถึง 4 ซม. หรือจะถ่ายภาพบุคคลก็โฟกัสพร้อมกับเบลอพื้นหลังอย่างเป็นธรรมชาติ

แบตอึดชาร์จไว ราคาเบาๆ เข้าถึงได้ง่าย

ปิดท้ายกันด้วยความจุแบตเตอรี่ของ Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ที่มีความอึดใช้งานได้อย่างเต็มวันแน่นอน ด้วยความจุแบตขนาด 5,000 mAh สามารถเช่นเกมต่อเนื่องได้ 16 ชม. ดูวิดีได้ 22 ชม. และฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวๆ ถึง 178 ชม. เลยทีเดียว ถึงแบตใกล้หมดก็ชาร์จกลับมาได้รวดเร็วเพราะรองรับ Fast Charge 18W หายห่วงเรื่องแบตไปเลย ส่วนราคาของรุ่นนี้มีให้เลือกอยู่สองรุ่นคือ ดูรายละเอียดสเปคเพิ่มเติมที่นี่ หรือดูรีวิวที่นี่

• Redmi Note 10 5G รุ่น RAM 4GB/128GB ราคา 5,999 บาท
• Redmi Note 10 5G รุ่น RAM 8GB/128GB ราคา 6,999 บาท

**ราคาทั้งหมดเป็นราคาตอนเปิดตัว ซึ่งราคาในปัจจุบันรุ่นท็อปสุดมีราคาอยู่ที่ 5,000 ปลายๆ ถึง 6,000 ต้นๆ เท่านั้น**

Redmi รุ่นปัจจุบันในปี 2022 มีรุ่นอะไรบ้าง

1. Redmi 10 5G

Redmi รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในไทย และเป็นรุ่นราคาเบาๆ พร้อมจัดเต็มเรื่องกล้องมาให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นรุ่นสเปคคุ้มมากในตอนนี้เลย รุ่นนี้ดีไซน์มาแบบโค้งมนจับเข้ามือ และมีหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.58 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz แบบ AdaptiveSync เล่นได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังได้ความแรงจากชิป Dimensity 700 5G ที่ใช้งาน 5G ได้ด้วย รุ่นนี้มีให้เลือก 2 แบบคือ RAM 4GB/ 6GB แบบ LPRRD4X และ 64GB/ 128GB แบบ UFS 2.2 เร็วแรงแน่นอน ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP ถ่ายได้ทั้ง Night Mode และ Portrait Mode ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5MP ถ่ายทั่วไปพอไหว มาพร้อมแบตอึด 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 18W ถือว่ามีสเปคเทียบพอๆ กับ Redmi Note 10 5G เลยแต่กล้องดีกว่ามีราคาคือ

• Redmi 10 5G RAM 4GB/ 64GB ราคา 5,999 บาท
• Redmi 10 5G RAM 6GB/ 128GB ราคา 7,299 บาท

**ขายผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างเดียวเท่านั้น**

2. Redmi Note 11 Series

มาอัพเดทมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Redmi กันบ้างที่ปี 2022 นี้ก็ได้ปล่อย Redmi Note 11 Series รวมรุ่นโปรด้วยถึง 4 รุ่น แต่ในรุ่นปกติจะมี Redmi Note 11 4G และ Redmi Note 11S ที่เน้นเรื่องการถ่ายรูปแบบเทพๆ และยังเล่นเกมได้ไหลลื่นอีกด้วย ซึ่งดีไซน์รุ่นใหม่นี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นขอบแบน และเบากว่าเดิมเยอะทีเดียว โดยทั้งสองรุ่นมีหน้าจอเป็น AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.43 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้ลื่น ระบายความร้อนแบบ LiquidCool เหมือนกัน รวมไปถึงความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Fast charge 33W เหมือนกันด้วย

จุดที่ต่างกันจะเป็นชิปที่รุ่น Note 11 4G จะเป็น Snapdragon 680 และรุ่น Note 11S เป็นชิป Helio G96 ที่เล่นเกมได้ดีทั้งคู่ นอกจากนี้กล้องหลังทั้งสองรุ่นจะมี 4 ตัวเหมือนกันแต่มีความละเอียดต่างกันที่รุ่นปกติเป็น 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กล้องหน้า 13MP ส่วนรุ่น 11S เป็นกล้องระดับเรือธง 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กล้องหน้า 16MP มีราคาเริ่มต้นทั้งสองรุ่นคือ

• Redmi Note 11 4G: ราคาเริ่มต้น 6,299 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
• Redmi Note 11S: ราคาเริ่มต้น 8,299 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

3. Redmi Note 11 Pro Series

อีกสองรุ่นโปรของ Redmi Note 11 Pro Series ที่ปล่อยออกมาล่าสุดในปีนี้เช่นกัน นั่นก็คือ Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G ที่มีราคาเบาๆ เข้าถึงง่ายอีกเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นตัว 5G ก็มีราคาไม่เกินหมื่น ซึ่งทั้งสองรุ่นก็นเน้นเรื่องการถ่ายรูปและเล่นเกมได้ดีอีกเช่นกัน โดยมีหน้าจอเป็น AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz และระบายความร้อนด้วย LiquidCool กับความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Turbo Charge 67W เหมือนกัน

ส่วนที่ต่างจะเป็นเรื่องของชิปที่รุ่น Pro ปกติจะใช้ชิปตัวเดียวกับรุ่น 11S ที่เป็นชิป Helio G96 แต่ว่ารุ่น Pro 5G จะใช้ชิป Snapdragon 695 5G ที่ใช้งาน 5G ได้ด้วย รวมไปถึงเรื่องของกล้องที่รุ่นโปรปกตินั้นมีถึง 4 ตัวที่ความละเอียดระดับเรือธง 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP กล้องหน้า 16MP ส่วนรุ่น 5G จะมีกล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP กล้องหน้า 16MP มีราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัวคือ

• Redmi Note 11 Pro: ราคา 8,999 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
• Redmi Note 11 Pro 5G: ราคา 10,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

4. Redmi 10 Series

นอกจาก Redmi Note 11 Series แล้วก็ยังมีมือถือราคาประหยัดกับสเปคใช้งานทั่วไปได้กับ Redmi 10 Series อีกสามรุ่นคือ 1.) Redmi 10C รุ่นกลางๆ หน้าจอ PS LCD กว้าง 6.71 นิ้วดูหนัง HD ได้ มาพร้อมชิป Snapdragon 680 และมีกล้องหลัง 50MP ชัดลึก 2MP กล้องหน้า 5MP แบตอึด 5,000 mAh 2.) Redmi 10 (2022) รุ่นพี่ใหญ่มีหน้าจอเป็น LCD กว้าง 6.5 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 90Hz ไหลลื่นเล่นเกมได้ด้วยชิป Helio G88 และกล้อง 4 ตัวความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กล้องหน้า 8MP กับแบต 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W เหมือนกันทั้งสองรุ่น 3.) Redmi 10A รุ่นน้องเล็กสเปคใช้งานทั่วไป มีหน้าจอเป็น LCD กว้าง 6.53 นิ้วพร้อมชิป Helio G25 มีกล้องหลังคู่ความละเอียด 13MP กับชัดลึก 2MP กล้องหน้า 5MP และแบต 5,000 mAh ทั้งสามรุ่นมีราคาเริ่มต้นดังนี้

• Redmi 10A: ราคา 3,999 บาท
• Redmi 10C: ราคา 4,299 บาท
• Redmi 10 (2022): ราคา 5,699 บาท

ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 10 5G กับ Redmi Note 11 Series ทุกรุ่น

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ Redmi Note 10 5G รุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงกลางปีที่แล้ว แต่ว่าก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ ทั้งในเรื่องของการเล่นเกม ใช้งาน 5G ได้ และสามารถถ่ายรูปได้ดีอยู่ ที่สำคัญคือมีราคาที่ไม่แรงมากนัก ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาแล้ว สำหรับคนที่มองหามือถือใช้งาน 5G ได้ในราคาประหยัด ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวสำหรับ Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ แต่ถ้าใครอยากใช้รุ่นใหม่กว่าที่เน้นเรื่องถ่ายรูปมาด้วย ก็แนะนำว่าให้ซื้อรุ่น Redmi Note 11 Series ไปเลยดีกว่า แต่ก็ต้องเพิ่มราคาอีกนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนรุ่นเล็กๆ อีกสามรุ่นจะเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานทั่วไปมากกว่า แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ Redmi Note 10 5G ทั้งหมดจาก Redmi Thailand