แนะนำสเปค iPhone 14 Plus จอใหญ่ 6.7 นิ้ว ชิป A15 พร้อมกล้องหน้าใหม่และกล้องหลังที่ถ่ายได้ถึง 4K วางขาย 7 ต.ค. 2022 นี้
หลังจากที่ iPhone 14 เปิดตัวออกมา และได้มีการวางขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเกือบทุกรุ่น เหลืออยู่เพียงรุ่นเดียวที่ยังไม่ได้วางขายและพร้อมจะวางขายในวันที่ 7 ต.ค. 2022 นี้แทน นั่นก็คือ iPhone 14 รุ่นหน้าจอใหญ่ที่มาแทนรุ่น mini และใช้ชื่อว่า Plus ซึ่งตัวพลัสรุ่นใหม่นี้ก็เคยมีอยู่แล้วในรุ่น iPhone 8 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้วที่เป็นรุ่นสุดท้ายก่อนรุ่นใหม่นี้ถึง 5 รุ่นเลยทีเดียว ทำให้หลายคนที่มองหา iPhone หน้าจอใหญ่ที่มีราคาไม่สูงมาก ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนชอบเล่นเกมบนจอใหญ่ๆ หรือดูหนังเล่นโซเชียลต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และก็เป็นรุ่นที่หลายคนจับตามองไม่แพ้รุ่นธรรมดาเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสเปคจะยังไม่ถึงรุ่นโปรแต่ก็ยังมีสเปคที่ใช้งานได้เร็วแรง ถ่ายรูปได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่สำคัญคือราคาเริ่มต้นก็ถือว่าไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับรุ่นโปรที่จอเท่ากันอย่าง iPhone 14 Pro Max เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำสเปคของ iPhone 14 Plus ที่มีหน้าจอใหญ่ 6.7 นิ้ว ชิป A15 พร้อมกล้องหน้าใหม่และกล้องหลังที่ถ่ายได้ถึง 4K ที่จะมีการวางขายในวันที่ 7 ต.ค. 2022 นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- รูปแบบการดีไซน์ตัวเครื่อง
- สเปคหน้าจอ
- ชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- ความจุแบตเตอรี่และราคา
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 14 Plus กับ iPhone 14 Series รุ่นอื่น
ดีไซน์เดิมเหมือนรุ่นก่อน แต่ขนาดใหญ่กว่าเยอะ
มาเริ่มกันที่การดีไซน์ตัวเครื่องของ iPhone 14 Plus กันก่อนเลย ที่ดูภายนอกก็รู้แล้วว่าต่างจากรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นอื่นๆ ตรงไหน นั่นก็คือขนาดของตัวเครื่อง ที่ถึงแม้ว่าดีไซน์ตัวเครื่องจะมีขอบแบน พร้อมกับวัสดุตัวเครื่องแบบอะลูมิเนียม และมีด้านหลังเป็นกระจกเงา ด้านหน้าเป็น Ceramic Shield ที่มีความแข็งแรงเหมือนเดิม โดยขนาดของตัวเครื่องนั้นมีความใกล้เคียงกับ iPhone 14 Pro Max มากเลยทีเดียว จะต่างกันที่น้ำหนักตัวเครื่องของรุ่นนี้จะพอๆ กับรุ่นโปรเพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นธรรมดานั่นเอง ส่วนโมดูลกล้องหลังก็ยังคงเป็นกล้องคู่แบบแนวทแยง 45 องศากับรูกล้องหน้าแบบรอยบาก รวมไปถึงการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ ระดับ IP68 เหมือนกันอีกด้วย ส่วนสีของรุ่นนี้มีให้เลือก 5 สีคือ มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, แดง และฟ้า
หน้าจอใหญ่เท่ารุ่นโปร แมกซ์
จุดเด่นของ iPhone 14 Plus รุ่นใหม่นี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของหน้าจอ ที่ทำออกมากว้างใหญ่ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น ถึงแม้ว่ารูกล้องหน้ารุ่นนี้ยังคงเป็นแบบรอยบากเหมือนเดิม โดยหน้าจอรุ่นนี้จะเป็นจอภาพ Super Retina XDR แบบ OLED กว้างมากถึง 6.7 นิ้วเท่ากับรุ่นโปร แมกซ์ และมีความคมชัดสมจริง ให้ความละเอียดในเรื่องสีสันหน้าจอได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีความสว่างทั่วไป 800 นิต และสว่างแบบ HDR ได้สูงสุด 1200 นิต และมีการแสดงผลแบบ True Tone ที่ช่วยปรับหน้าจอให้เข้ากับสภาพแสงรอบตัวเล่นได้สบายตามากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับ iOS 16 ที่สามารถปรับแต่งหน้าจอได้แล้วก็ยิ่งทำให้หน้าจอดูสวยงามมากขึ้นตามไปด้วย
ชิปตัวเดิมปรับปรุงใหม่ พร้อมฟีเจอร์ใหม่
มาดูที่เรื่องการทำงานและประสิทธิภาพของ iPhone 14 Plus กันบ้างที่รุ่นนี้ยังคงใช้ชิปตัวเดียวกับรุ่น iPhone 13 Pro ที่เป็น Apple A15 Bionic ที่มี CPU แบบ 6-core กับ GPU แบบ 5-core และมี Neural Engine แบบ 16-core เหมือนเดิม แต่ว่าชิปของรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงดีไซน์ภายในใหม่ ทำให้มีการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น และยังประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น เล่นเกมต่อเนื่องได้สบายๆ ที่สำคัญรุ่นนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามานั่นก็คือ Car Crash Detection หรือการตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง และจะมีการติดต่อฉุกเฉินให้ในทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยมีการทำงานจากไจโรช่วงไดนามิกสูง และตรวจจับแรง g สูงพร้อมกับบารอมิเตอร์และระดับของเสียงที่ทำงานร่วมกัน ส่วนการเชื่อมต่อยังคงใช้ 5G, WiFi 6, Bluetooth 5.3 และรองรับ Dolby Atmos เหมือนเดิม
กล้องหน้าใหม่ กับกล้องหลังโหมดใหม่ถ่ายได้ถึง 4K
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างของ iPhone 14 Plus ก็คือเรื่องของกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่ตัวกล้องหน้านั้นมีการปรับปรุงใหม่เป็นกล้องหน้า TrueDepth 12MP ที่มีออโต้โฟกัสถ่ายได้ทั้งเดี่ยวหรือหลายคน และมีรูรับแสงที่กว้างขึ้นเป็น ƒ/1.9 (จากเดิม ƒ/2.2) ทำให้รุ่นนี้สามารถเซลฟี่หรือถ่ายด้วยกล้องหน้าในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นมากถึง 2 เท่า ช่วยลดนอยซ์และได้รายละเอียดมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังปลดล็อคด้วย Face ID ได้ปลอดภัยมากขึ้น ส่วนกล้องหลังเป็นกล้องคู่ตัวหลักและอัลตร้าไวด์ 12MP เท่ากัน แต่ก็ได้ปรับรูรับแสงให้กว้างกว่าเดิม ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นเปิดรับแสงในโหมดกลางคืนเร็วขึ้น 2 เท่า พร้อมทั้งมี Photonic Engine ใหม่ที่ช่วยรวมพิกเซลทำให้ภาพมีสีสันสมจริง และยังปรับปรุงแฟลช True Tone ที่สว่างยิ่งขึ้นให้แสงสม่ำเสมอ และถ่ายภาพบุคคลที่เบลอได้ทั้งฉากหน้าและฉากหลังอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือโหมดแอ็คชั่นที่ถ่ายวิดีได้นิ่งๆ พร้อมกับโหมดภาพยนตร์ที่ถ่ายได้ถึงระดับ 4K ได้แล้ว
แบตอึดใช้งานได้ยาวนาน กับราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่และการใช้งานของ iPhone 14 Plus ที่รุ่นนี้สามารถใช้ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง สูงสุด 26 ชั่วโมง หรือดูผ่านสตรีมมิ่งได้สูงสุด 20 ชั่วโมง และยังฟังเพลงได้ต่อเนื่องยาวๆ สูงสุดถึง 100 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนพอร์ตของรุ่นนี้ก็ยังคงใช้แบบ Lightning รองรับชาร์จเร็ว 20W ชาร์จได้ 50% ใน 35 นาที และรองรับ MagSafe 15W ได้เหมือนเดิม ส่วนราคาของแต่ละความจุมีราคาเครื่องเปล่าและติดโปรเริ่มต้นจากค่ายต่างๆ ดังนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ Apple และจะมีการวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ต.ค. 2022 นี้
เครื่องเปล่า
- 128GB : 37,900 บาท
- 256GB : 41,900 บาท
- 512GB : 50,900 บาท
ติดโปร
- AIS เริ่มต้น 29,100 บาท
- TrueMove H เริ่มต้น 20,400 บาท
- dtac เริ่มต้น 21,500 บาท
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 14 Plus กับ iPhone 14 Series รุ่นอื่น
สเปค\ รุ่น | iPhone 14 Plus | iPhone 14 | iPhone 14 Pro | iPhone 14 Pro Max |
หน้าจอ | Super Retina XDR OLED กว้าง 6.7 นิ้ว | Super Retina XDR OLED กว้าง 6.1 นิ้ว | Super Retina XDR OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ProMotion 120Hz | Super Retina XDR OLED กว้าง 6.7 นิ้ว ProMotion 120Hz |
ชิป | A15 Bionic (ปรับปรุงใหม่) | A15 Bionic (ปรับปรุงใหม่) | A16 Bionic | A16 Bionic |
กล้องหน้า | TrueDepth 12MP ใหม่ | TrueDepth 12MP ใหม่ | TrueDepth 12MP ใหม่ | TrueDepth 12MP ใหม่ |
กล้องหลัง | 12MP +12MP โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์ | 12MP +12MP โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์ | 48MP +12MP +12MP โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์ สแกนเนอร์ LiDAR | 48MP +12MP +12MP โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์ สแกนเนอร์ LiDAR |
ROM | 128GB, 256GB, 512GB | 128GB, 256GB, 512GB | 128GB, 256GB, 512GB, 1TB | 128GB, 256GB, 512GB, 1TB |
แบต | ดูวิดีโอสูงสุด 26 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 20 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 23 ชม. | ดูวิดีโอสูงสุด 29 ชม. |
ราคาเริ่มต้น | 37,900 บาท | 32,900 บาท | 41,900 บาท | 44,900 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลและสเปคของ iPhone 14 Plus ที่เราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้ก่อนจะมีการวางขายจริงในวันที่ 7 ต.ค. 2022 ที่กำลังจะถึงเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าดูจากการเปรียบเทียบสเปครุ่นพลัสกับรุ่นปกติแล้ว กวามแตกต่างกันที่ขนาดหน้าจอและการใช้งานของแบตเตอรี่เท่านั้น ส่วนถ้าเทียบกับรุ่นโปรแล้วก็ยังเทียบไม่ได้เท่าไหร่นัก รุ่นนี้จึงเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแบบทั่วไป หรือไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปและใช้งานในระดับโปรเป็นหลัก และยังเหมาะกับคนที่ต้องการใช้ iPhone หน้าจอใหญ่ในราคาที่ไม่แรงมาก แต่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อไว้ก่อนล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการนำมาวางขายปกติเลย
ขอบคุณข้อมูลและรุปภาพทั้งหมดจาก Apple