สเปค Infinix ZERO 30 5G มือถือสาย Vlog กล้องหน้า 50MP ถ่ายวิดีโอ 4K จอโค้ง 144Hz พร้อมวางขายวันที่ 14 ก.ย. 2023 นี้
หลังจากที่มีการเปิดตัว Infinix รุ่นใหม่ล่าสุดรุ่น ZERO 30 5G ไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมาในประเทศอิตาลี ตอนนี้ก็มีข่าวว่าของประเทศไทยเราก็จะมีการเปิดตัวตามมาติดๆ พร้อมกันในวันที่ 14 ก.ย. 2023 นี้ และวางขายในวันเดียวกันนี้เลย (ดู Live และข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่) โดยมีราคาคาดเดาเอาไว้ที่ไม่น่าจะเกิน 13,000 บาท โดยรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่จัดเต็มมาให้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความแรงของชิป เล่นเกมได้สบายๆ เครื่องไม่ร้อน มีหน้าจอแบบโค้งและไหลลื่นทุกการใช้งาน แบตอึดชาร์จไวได้ และทีเด็ดเลยก็คือกล้องหน้า และกล้องหลังที่ทำมาเพื่อสาย Vlog โดยเฉพาะ สามารถถ่ายวิดีโอได้ระดับ 4K เลยทีเดียว ซึ่งสเปคข้อมูลต่างๆ ในวตอนนี้ก็มีครบหมดแล้ว เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค Infinix ZERO 30 5G กับมือถือสาย Vlog ที่ถ่ายวิดีโอได้คมชัดทั้งกล้องหน้าและหลัง กับสเปคข้อมูลอื่นๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
ตารางเปรียบเทียบสเปค Infinix ZERO 30 5G กับรุ่นอื่นๆ ของ Infinix
Infinix ZERO 30 5G
สำหรับ Infinix ZERO 30 5G รุ่นนี้มีดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำออกมาได้สวยมาก มีความพรีเมียมสวยหรูขอบโค้ง และมีความบางของตัวเครื่องเพียง 7.9 มม. น้ำหนัก 185 กรัม โดยแต่ละสีจะมีลูกเล่นที่แตกต่างกันไปด้วยกัน 3 สีคือ Rome Green หรือสีเขียวจะมีวัสดุเป็นหนังวีแกน, Fantasy Purple หรือสีม่วงที่ปรับเปลี่ยนความเข้มตามแสงที่กระทบ และ Golden Hour หรือสีทองที่มีลวดลายแสงที่ครอบทับด้วยกระจก เปลี่ยนสีเมื่อกระทบแสงเป็น Pink Rose ได้ด้วย ส่วนโมดูลกล้องหลังมีกรอบเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และมีเลนส์กล้องวงแหวนคู่กับอีกหนึ่งเลนส์ที่อยู่แถวเดียวกับแฟลช LED มีรูกล้องหน้าแบบ Punch Hole เล่นได้เต็มที่มากขึ้น สามารถกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP53
ทางด้านหน้าจอของ Infinix ZERO 30 5G ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะมีหน้าจอโค้ง 3D เป็นแบบ AMOLED 10-bits ความละเอียด FHD+ (2400×1080) ให้สีสันที่คมชัดสดใสกว่า 10 ล้านสีระดับ DCI-P3 100% มีขนาดกว้าง 6.78 นิ้วขนาดใหญ่มาก มาพร้อมอัตรา Refresh Rate 144Hz และ Touch Sampling Rate 360Hz ที่มีความไหลลื่นตอบสนองไวเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี 2160 PWM Dimming และสามารถทำความสว่างได้สูงสุดถึง 950nits โดยมีการครอบทับหน้าจอ (และด้านหลัง) ด้วย Corning Gorilla Glass 5
มาดูในส่วนของชิปประมวลผลกันบ้าง ซึ่ง Infinix ZERO 30 5G ก็ได้ใช้ชิปเป็นตัว Dimensity 8020 (6 nm) ที่อยู่ในระดับกลางแต่ใช้งานได้ดี โดยมีความจำ RAM 8GB/12GB กับความจุ ROM 256GB พร้อมรองรับ Extended RAM สามารถขยายแรมเพิ่มได้สูงสุด 21GB เล่นเกมได้ทุกเกมแน่นอน และบางเกมก็ปรับกราฟิกสูงสุดได้เลย สามารถเล่นเกมหรือใช้งานนานๆ ได้ไม่ร้อนด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ครอบคลุมทั้งตัวเครื่อง และยังมีลำโพงคู่รองรับ Hi-res/ DTS ให้เสียงกระหึ่ม ทำงานบนระบบ XOS 13 บนพื้นฐาน Android 13 เชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth, OTG และ NFC
จุดที่เป็นจุดเด่นชูโรงของรุ่นนี้เลยก็คือตัวกล้องที่เน้นมาให้เป็นหลัก อัพเกรดสเปคให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าให้เหมาะกับการถ่าย Vlog ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังด้วยความละเอียดสูง โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียดหลัก 108MP (f/1.65) มีกันสั่น OIS และเซ็นเซอร์ ISOCELL HM6 ขนาด 1/1.67” จับโฟกัสด้วย PDAF กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 13MP กว้างได้ 120 องศา และอีกหนึ่งเลนส์ชัดลึก 2MP ซึ่งด้านหลังมีแฟลช LED 4 ตัวที่เรียกว่า Aura Light
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 50MP มีเซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 โฟกัสแบบ PDAF และมีแฟลชเล็กๆ ที่เหนือหน้าจอด้วย ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้คมชัดสูงสุด 4K@60fps เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเอาไว้ถ่ายทำ Vlog ได้สะดวกสบาย รุ่นนี้มาพร้อมความจุแบต 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 68W ด้วย USB-C ซึ่งราคาเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้งหลังการเปิดตัวที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2023 เวลา 16.00 น. สามารถกดดูและติดตามข้อมูลได้ที่ Infinix Mobile
สรุปสเปค Infinix ZERO 30 5G
- หน้าจอ: AMOLED Full HD+ (2400×1080) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 144Hz/ สว่าง 950nits
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 8020 Octa Core
- RAM: 8/12GB (LPDDR4x)
- ROM: 256GB (UFS 3.1)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 108MP (ƒ/1.65)/ ISOCELL HM6 ขนาด 1/1.67”/ OIS/ PDAF
- เลนส์ Ultra-Wide 13MP/ 120 องศา
- เลนส์ Depth 2MP
- วิดีโอ 4K@60fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 50MP/ ISOCELL JN1/ PDAF/ 4K@60fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth, NFC, OTG
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ XOS 13
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 68W
- ราคา: รอเปิดตัว
ตารางเปรียบเทียบสเปค Infinix ZERO 30 5G กับรุ่นอื่นๆ ของ Infinix
Infinix ZERO 30 5G | Infinix Zero 20 | Infinix Zero 5G 2023 | Infinix Note 30 VIP | |
หน้าจอ | AMOLED, 144Hz 6.78 นิ้ว | AMOLED, 90Hz 6.7 นิ้ว | IPS-LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | AMOLED, 120Hz 6.67 นิ้ว |
ชิปประมวลผล | Dimensity 8020 | Helio G99 | Dimensity 1080 | Dimensity 8050 |
กล้องหน้า | 50MP | 60MP | 16MP | 32MP |
กล้องหลัง | 108MP + 13MP + 2MP | 108MP + 13MP + 2MP | 50MP + 2MP + 2MP | 108MP + 2MP + 2MP |
RAM/ ROM | 8-12/256GB | 8/256GB | 8/256GB | 12/256GB |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh, 68W | 4,500 mAh, 45W | 5,000 mAh, 33W | 5,000 mAh, 68W |
ราคา | รอเปิดตัว | 8,999 บาท | 9,499 บาท | 10,999 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการสรุปสเปคของ Infinix ZERO 30 5G รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวพร้อมวางขายเร็วๆ นี้ ใครที่ชอบการถ่ายรูป หรือว่าอยากจะได้มือถือเอาไว้ถ่ายทำ Vlog แบบง่ายๆ ในราคาที่ไม่สูงมาก รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้านเลย ทั้งการถ่ายรูปและวิดีโอที่คมชัด หรือถ้าใครอยากจะเอาไว้เล่นเกมด้วยก็หายห่วง เพราะมีสเปคภายในที่ทำออกมาได้ดีเลย ทั้งชิปและการระบายความร้อน ตัวเครื่องมีความพรีเมียมสวยหรูพร้อมจอโค้ง ทำให้ดูพรีเมียมไปอีกระดับ รวมไปถึงการใช้งาน 5G และอื่นๆ ได้แบบสบายๆ มารอดูกันว่าจะเปิดตัวออกมาที่ราคาเท่าไหร่ และก็รอติดตามการรีวิวของรุ่นนี้ได้เลยเร็วๆ นี้ และถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Infinix Mobile/ gsmarena