สเปค Infinix NOTE 40/ Infinix NOTE 40 Pro Series กล้อง 108MP แฟลช Active Halo ชาร์จอย่างไว เริ่มต้นไม่เกินหมื่น

สเปค Infinix NOTE 40/ Infinix NOTE 40 Pro Series กล้อง 108MP แฟลช Active Halo ชาร์จอย่างไว เริ่มต้นไม่เกินหมื่น

มีข่าวคราวกันมาตั้งแต่ปลายปี 2023 หลังจากที่รุ่น NOTE 40 Series ของ Infinix ที่ผ่านการรับรองจาก กสทช. ในบ้านเราไปแล้วในรุ่น NOTE 40 Pro รหัสรุ่น X6850 และล่าสุดนี้ก็ผ่านการรับรองไปอีกรุ่นคือ NOTE 40 Pro+ 5G ในรหัสรุ่น X6851B โดยมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมวางขายไปแล้วแบบ Global ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะเข้ามาวางขายเปิดตัวในบ้านเราในช่วงเดือนเมษายน 2024 ที่จะถึงนี้ด้วย ส่วนรุ่นในซีรีส์นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ NOTE 40, NOTE 40 Pro (4G), NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G ชูจุดเด่นเรื่องความเร็ว แรง และการชาร์จไว เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปให้ว่าสเปค Infinix NOTE 40/ Infinix NOTE 40 Pro Series แต่ละรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง

• สเปค Infinix NOTE 40/ NOTE 40 Pro (4G)/ NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G
  • สรุปสเปค Infinix NOTE 40/ NOTE 40 Pro (4G)/ NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G
• ราคาและวันวางจำหน่าย

Infinix NOTE 40/ NOTE 40 Pro (4G)/ NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G

สำหรับ Infinix NOTE 40 และ Infinix NOTE 40 Pro Series ทั้งหมด 4 รุ่นนี้จะมีทั้งจุดที่มีฟีเจอร์เหมือนกัน และจุดที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละรุ่น เริ่มกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลยที่ทุกรุ่นนั้นมาแบบสวยหรู โดยรุ่นปกติจะเป็นแบบขอบแบน เพราะหน้าจอแบน มีอยู่ 2 สีคือสีทองและสีดำ (มีลายพิเศษเป็น Racing Edition ด้วย)

นอกนั้นรุ่นโปรขึ้นไปทุกรุ่นจะเป็นแบบขอบบาง เพราะว่าเป็นจอโค้งนั่นเอง มีทั้งสีทอง, สีดำ และสีเขียวตามแต่ละรุ่นของตัวโปร ส่วนโมดูลกล้องจะมีกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีเลนส์กล้องด้านใน 3 ตัวกับไฟ Halo Light อีกหนึ่งตัว โดยรุ่นที่เป็น 4G สามารถกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 และรุ่นที่เป็น 5G กันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP53

ทางด้านหน้าจอของแต่ละรุ่นนั้นก็ได้หน้าจอแบบ AMOLED (LTPS) ความละเอียด FHD+ (1080 x 2436)  กว้าง 6.78 นิ้วiองรับ Refresh Rate 120Hz (60/120) ทำความสว่างได้สูงสุด 1,300nits หรี่แสง PWM 2160Hz และมีฟีเจอร์ถนอมสายตารับรองจาก TUV Rheinland สามารถสแกนเพื่อปลดล็อคได้จากหน้าจอ เหมือนกันทุกรุ่น

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือรุ่น Infinix NOTE 40 ตัวปกติจะเป็นหน้าจอแบน ส่วนรุ่น Infinix NOTE 40 Pro ขึ้นไปทั้งหมดจะใช้กระจกครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass เป็นจอโค้ง 55 องศาแบบ 3D นอกจากนี้ยังมีลำโพงที่ทำร่วมกับ JBL ที่ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทางเหมือนกันทุกรุ่นอีกด้วย

ในส่วนชองชิปประมวลผลแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยรุ่นปกติอย่าง Infinix NOTE 40 และ NOTE 40 Pro (4G) นั้นจะได้ชิปเป็นตัว Helio G99 Ultimate ส่วนในรุ่น Infinix NOTE 40 Pro 5G และ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G นั้นจะได้ใช้ชิป Dimensity 7020 ที่มี RAM 8GB/ 12GB และ ROM 256GB ขยายแรมเพิ่มได้สูงสุดอีก 12GB ต่างกันไปตามแต่ละรุ่น เล่นเกมได้สบายแบบลื่นๆ ด้วย XBOOST ระบายความร้อนด้วย VC ที่ครอบคลุมทั้งตัวเครื่องลดได้สูงสุด 7 องศา พร้อมทำงานบนระบบ XOS 14 พื้นฐาน Android 14

จุดเด่นหลักๆ ของ NOTE 40 และ NOTE 40 Pro Series ก็คือการชาร์จแบตที่มีเทคโนโลยี All-Round FastCharge 2.0 ขับเคลื่อนด้วยชิป Cheetah X1 ที่ช่วยจัดการเรื่องการชาร์จแบตได้ดีเยี่ยม โดยรุ่นปกติอย่าง Note 40 และ NOTE 40 Pro 5G จะรองรับการชาร์จไว 45W และรุ่น NOTE 40 Pro (4G) รองรับชาร์จไวได้ 45W ส่วนรุ่น NOTE 40 Pro+ 5G รองรับชาร์จไว 100W Multi-Speed FastCharge ชาร์จกลับมา 50% ใน 8 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการชาร์จไร้สาย Wireless MagCharge ได้ 20W รองรับ Bypass Charging 2.0 ที่จัดการเรื่องชาร์จตอนเล่นเกมหรือดูวิดีโอไม่ให้เครื่องร้อน รวมไปถึง Reverse Charging ได้ 10W อีกด้วย

ปิดท้ายด้วยเรื่องกล้องของ NOTE 40 และ NOTE 40 Pro Series ทุกรุ่นนั้นจะได้กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดหลัก 108MP มี AF และสามารถซูมแบบ Lossless Superzoom 3x ส่วนในรุ่นโปรขึ้นไปทุกรุ่นจะมีกันสั่น OIS ในตัว และมีกล้องที่เหลือ 2MP อีกสองตัวด้วย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP เหมือนกันทุกรุ่น สามารถถ่ายแบบ Dual Video และมีฟีเจอร์ Vlog Clipper สำหรับคนที่ชอบทำคอนเทนต์อย่าง Vlog หรือ reels ได้แบบง่ายๆ

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือไฟ Halo Light วงแหวนด้านหลังข้างๆ โมดูลกล้องหลัง ที่มีฟีเจอร์ Active Halo ทำงานร่วมกับ AI ที่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นในการใช้งานด้วยการเปลี่ยนไปตามการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น การรับสายโทรเข้า-ออก การแจ้งเตือน การเล่นเกมหรือฟังเพลง การชาร์จแบต หรือว่าการใช้ผู้ช่วยเสียงอย่าง Folax ก็จะมีแสงสีต่างกันไป รวมไปถึงการใช้งานเพื่อเป็นแฟลชสำหรับการถ่ายรูปได้ด้วย

สรุปสเปค Infinix NOTE 40

• ขนาดและน้ำหนัก:
  • 164.1 x 74.5 x 7.8 มม./ 190 กรัม
• หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ระดับ FHD+ (1080 x 2436) กว้าง 6.78 นิ้ว
  • Refresh Rate 120Hz
  • สว่างสูงสุด 1,300nits
  • ขอบเขตสี DCI-P3 100%
  • PWM 2160Hz
• ชิปประมวลผล: Mediatek Helio G99 Ultimate (6 nm)
  • GPU: Mali-G57
• RAM: 8GB (LPDDR4X)/ ขยายแรมสูงสุด 8GB
• ROM: 256GB (UFS 2.2)
• กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
  • เลนส์หลัก 108MP (f/1.89)/ PDAF
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
  • ไม่ทราบความละเอียด (f/2.0)
    • Halo Light
• กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.2)
• การเชื่อมต่อ: 4G, Wi-Fi 5, BT, NFC, USB-C
  • ซิม: Dual SIM
• เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ / Accelerometer / Gyro / Proximity / Compass / IR Blaster
• ระบบเสียง: ลำโพงสเตอริโอ Hi-Res Audio จาก JBL
• กันน้ำกันฝุ่น: IP54
• ระบบปฏิบัติการ: XOS 14 พื้นฐาน Android 14
• แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 45W/ Wireless Charge 20W/ Reverse Charge 10W
• ราคา: 180 EUR หรือประมาณ 7,000 บาท

สรุปสเปค Infinix NOTE 40 Pro (4G)

• ขนาดและน้ำหนัก:
  • 164.4 x 74.6 x 7.8 มม./ 190 กรัม
• หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ระดับ FHD+ (1080 x 2436) กว้าง 6.78 นิ้ว
  • Refresh Rate 120Hz
  • สว่างสูงสุด 1,300nits
  • ขอบเขตสี DCI-P3 100%
  • PWM 2160Hz
  • Corning Gorilla Glass
• ชิปประมวลผล: Mediatek Helio G99 Ultimate (6 nm)
  • GPU: Mali-G57
• RAM: 8GB/ 12GB (LPDDR4X)/ ขยายแรมสูงสุด 12GB
• ROM: 256GB (UFS 2.2)
• กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
  • เลนส์หลัก 108MP (f/1.75)/ PDAF, OIS
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
    • Halo Light
• กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.2)
• การเชื่อมต่อ: 4G, Wi-Fi 5, BT, NFC, USB-C
  • ซิม: Dual SIM
• เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ / Accelerometer / Gyro / Proximity / Compass / IR Blaster
• ระบบเสียง: ลำโพงสเตอริโอ Hi-Res Audio จาก JBL
• กันน้ำกันฝุ่น: IP54
• ระบบปฏิบัติการ: XOS 14 พื้นฐาน Android 14
• แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 70W/ Wireless Charge 20W/ Reverse Charge 10W
• ราคา: เริ่มต้น 240 EUR หรือประมาณ 9,400 บาท

สรุปสเปค Infinix NOTE 40 Pro 5G

• ขนาดและน้ำหนัก:
  • 164.3 x 74.5 x 8.1 มม./ 190-196 กรัม (แล้วแต่วัสดุแต่ละแบบ)
• หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ระดับ FHD+ (1080 x 2436) กว้าง 6.78 นิ้ว
  • Refresh Rate 120Hz
  • สว่างสูงสุด 1,300nits
  • ขอบเขตสี DCI-P3 100%
  • PWM 2160Hz
  • Corning Gorilla Glass
• ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 7020 (6 nm)
  • GPU: IMG BXM-8-256
• RAM: 8GB (LPDDR4X)/ ขยายแรมสูงสุด 8GB
• ROM: 256GB (UFS 2.2)
• กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
  • เลนส์หลัก 108MP (f/1.75)/ PDAF, OIS
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
    • Halo Light
• กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.2)
• การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 5, BT, NFC, USB-C
  • ซิม: Dual SIM
• เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ / Accelerometer / Gyro / Proximity / Compass / IR Blaster
• ระบบเสียง: ลำโพงสเตอริโอ Hi-Res Audio จาก JBL
• กันน้ำกันฝุ่น: IP53
• ระบบปฏิบัติการ: XOS 14 พื้นฐาน Android 14
• แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 45W/ Wireless Charge 20W/ Reverse Charge 10W
• ราคา: 270 EUR หรือประมาณ 10,600 บาท

สรุปสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

• ขนาดและน้ำหนัก:
  • 164.3 x 74.5 x 8.1 มม./ 190-196 กรัม (แล้วแต่วัสดุแต่ละแบบ)
• หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ระดับ FHD+ (1080 x 2436) กว้าง 6.78 นิ้ว
  • Refresh Rate 120Hz
  • สว่างสูงสุด 1,300nits
  • ขอบเขตสี DCI-P3 100%
  • PWM 2160Hz
  • Corning Gorilla Glass
• ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 7020 (6 nm)
  • GPU: IMG BXM-8-256
• RAM: 12GB (LPDDR4X)/ ขยายแรมสูงสุด 12GB
• ROM: 256GB (UFS 2.2)
• กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
  • เลนส์หลัก 108MP (f/1.75)/ PDAF, OIS
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
  • เลนส์ไม่ทราบชนิด 2MP (f/2.4)
    • Halo Light
• กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.2)
• การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 5, BT, NFC, USB-C
  • ซิม: Dual SIM
• เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ / Accelerometer / Gyro / Proximity / Compass / IR Blaster
• ระบบเสียง: ลำโพงสเตอริโอ Hi-Res Audio จาก JBL
• กันน้ำกันฝุ่น: IP53
• ระบบปฏิบัติการ: XOS 14 พื้นฐาน Android 14
• แบตเตอรี่ความจุ: 4,600 mAh/ ชาร์จไว 100W/ Wireless Charge 20W/ Reverse Charge 10W
• ราคา: 290 EUR หรือประมาณ 11,400 บาท

ราคาและวันวางจำหน่าย

สำหรับราคาของ NOTE 40, NOTE 40 Pro (4G), NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G แต่ละรุ่นในตอนนี้มีราคาที่วางขายแบบ Glabal ออกมาแล้วทุกรุ่นพร้อมวางขายในบางประเทศไปแล้ว ส่วนในบ้านเราประเทศไทยทาง Infinix ก็ได้ยืนยันว่าจะเปิดตัวพร้อมวางขายในช่วงเดือนเมษายนปี 2024 เร็วๆ นี้เช่นกัน ส่วนราคาของไทยต้องรอการเปิดตัวอีกที โดยมีราคาที่ขายจากต่างประเทศตามรุ่นได้แก่

• Infinix NOTE 40: ราคา 180 EUR หรือประมาณ 7,000 บาท
• Infinix NOTE 40 Pro (4G): ราคาเริ่มต้น 240 EUR หรือประมาณ 9,400 บาท
• Infinix NOTE 40 Pro 5G: ราคา 270 EUR หรือประมาณ 10,600 บาท
• Infinix NOTE 40 Pro+ 5G: ราคา 290 EUR หรือประมาณ 11,400 บาท

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ Infinix NOTE 40, NOTE 40 Pro (4G), NOTE 40 Pro 5G และ NOTE 40 Pro+ 5G ทั้งหมด 4 รุ่นที่เปิดตัวออกมาพร้อมวางขายแบบ Global ไปแล้วในตอนนี้ ที่เหลือก็แค่มารอลุ้นกันว่าจะเปิดตัวพร้อมวางขายรุ่นไหนบ้างในบ้านเรา ที่แน่ๆ ต้องมีรุ่น Pro และ Pro+ แน่นอน เพราะว่าผ่านการรับรองจาก กสทช. ไปแล้วทั้งสองรุ่น ส่วนรุ่นอื่นๆ พร้อมราคาของทุกรุ่นก็ต้องรอดูอีกทีตอนเปิดตัวในเดือนเมษายน 2024 โดยสเปคคร่าวๆ ของแต่ละรุ่นจะชูจุดเด่นในเรื่องความเร็วแรง เล่นเกมได้สบายๆ พร้อมชาร์จไวหายห่วง และยังมีไฟ Halo Light ที่สวยงามอีกด้วย ใครสนใจก็รอการเปิดตัวและติดตามได้ที่ Infinix Mobile

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Infinix BD 1, 2, yankodesign, Infinix Mobile, gsmarena