Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»[Special] NB-IoT คืออะไร แล้วจะมีบทบาทอะไรในชีวิตประจำวันของเรา
    Editorial

    [Special] NB-IoT คืออะไร แล้วจะมีบทบาทอะไรในชีวิตประจำวันของเรา

    MasuoBy Masuo23 กันยายน 2018
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    smart-home-3395994_1280

    กระแสของอุปกรณ์ IoT (Internet of Thing) กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เช่น การใช้งาน Smart Watch หรือ หลอดไฟอัจฉริยะ เป็นต้น แน่นนอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้ต้องการอินเทอร์เน็ตในการทำงาน และ ใช้งานความสามารถของมัน ถ้าอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ในบ้านของเราก็อาจจะใช้ Wi-Fi ได้ แต่ถ้าไปอยู่กลางแแจ้ง เช่น Smart Farm พื้นที่ใหญ่ๆ การลงทุนติด Access Point จำนวนมหาสารคงจะดูลำบากเกินไป จึงทำให้ต้องหาวิธีใหม่ๆ มาจัดการ หรือเป็นต้นกำเนิดของ Narrow Band IoT (NB-IoT) ที่เราจะคุยกันในวันนี้

    เนื่องจากอุปกรณ์ IoT นั้นมีขนาดเล็ก และ ต้องการรับ-ส่งข้อมูลที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้ไม่ได้ต้องการความเร็วที่มากมาย จึงทำให้เหมือนว่าถ้าหากไปใช้เทคโนโลยี 4G LTE จะทำให้เปลืองพลังงานมากเกินไป เนื่องจากทำให้แบตเตอรี่ขนาดเล็กในตัวมันอาจจะหมดในเวลาอันสั้น โจทย์ของการออกแบบในครั้งนี้คือทำอย่างไรให้อุปกรณ์ใช้งานคลื่นวิทยุอย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้นจึงหันไปใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่บน LTE เดิมอยู่แล้ว ผู้ให้บริการจะได้ไม่ต้องวางโครงสร้างใหม่

    tower-820001_1280

    แล้วทีนี้โจทย์ต่อไปคือ ในเรื่องของความต้องการด้านความเร็วในการส่งข้อมูล อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า อุปกรณ์ IoT ไม่ได้ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลอะไรมากมาย แลวจะพัฒนาอย่างไรให้มีต้นทุนที่ต่ำ จึงทำให้ใช้งานได้บนคลื่นความถี่ที่มีอยู่เดิมได้ แต่เป็นคลื่นความถี่ที่เป็นช่วงสั้นๆ หรือเป็น Bandwidth เล็กๆ ที่มีอยู่บนระบบ 4G อยู่แล้ว เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ IoT กับระบบ Cellular แล้วทำให้ใช้พลังงานที่ต่ำที่สุดในการทำงาน จึงเป็นที่มาของ NB-IoT นั่นเอง

    nb-iot_0

    NB-IoT (Narrow Band IoT) คือ เทคโนโลยีที่ใช้เทคโนโลยี 4G LTE ในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ IoT กับระบบ Cellular ที่ใช้ความเร็วในการรับ-ส่งต่ำมากๆ  เช่น 200 Kbps , 1 Mbps หรือต่ำกว่านั้น ทำให้เป็นการประหยัด Bandwidth ในการส่งข้อมูลในระบบ และสามารถติดตั้ง NB-IoT ซ้อนลงไปบนระบบ LTE เดิมได้ เพราะอุปกรณ์ IoT มีขนาดเล็ก และ ไม่ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูล แต่ต้องการสเถียรภาพในการส่งข้อมูลมากกว่า จึงทำให้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำได้ และ ที่สำคัญคือใช้พลังงานต่ำ กินไฟน้อย อุปกรณ์มีราคาถูก อุปกรณ์จึงมีอายุการใช้งานมากกว่าการใช้ 4G LTE เพียวๆ

    NB-IoT_applications_blog_post_0_0

    สรุปข้อดีของ NB-IoT

    • อุปกรณ์ราคาถูก เพราะไม่ต้องออกแบบให้มีประสิทธิภาพมาก คือ ไม่ต้องแรงมากก็ได้
    • ใช้พลังงานต่ำ ชาร์จแบตครั้งนึง ใช้ได้นานนับ 10 ปี หรือถ้าใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็จะใช้พื้นที่น้อยกว่าเดิมมาก
    • ใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตน้อย ทำให้ประหยัด Bandwidth
    • สามารถใช้ได้ทั้งในอาคาร และ นอกอาคาร
    • เริ่มต้นใช้งานง่าย ทำงานผ่านเครือข่ายเดิมได้ ไม่ต้องติดตั้งเสาสัญญาณใหม่
    • สามารถส่งสัญญาณได้ไกลนับ 10 กิโลเมตร จาก Cell Site ที่ใกล้ที่สุด

    ตัวอย่างของการใช้ NB-IoT

    หลายคนอาจจะมีคำถามต่อไปว่า แล้วมันจะเข้ามามีบทบาทอะไรในชีวิตประจำวันของเรา จริงๆ แล้วชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า Internet of Thing หรือ Internet of Everything อุปกรณ์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เช่น ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ การทำเกษตรแบบใหม่ Smart Farming หรือการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น ไม่แน่อีกหน่อยเราสามารถเช็คค่าน้ำแบบ Real-Time บนสมาร์ทโฟนได้เลย

    Apple Watch LTE

    ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ Apple Watch Series 3 Cellular รุ่นที่รองรับ E-Sim ตัว Apple Watch รุ่น LTE ได้มาตรฐาน LTE Cat.1 ที่ความเร็ว 1 Mbps จึงกลายเป็นว่าเข้าเงื่อนไขของ NB-IoT ด้วย นี่จึงทำให้เป็นหนึ่งในตัวอย่างการใช้ NB-IoT ที่เห็นได้ชัดในตอนนี้ ส่วนในอานคตจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ NB-IoT ออกมามากขึ้นกว่านี้ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นเราได้ลองยกตัวอย่างมาให้ชมกันแล้วในหลายๆ แง่มุม

    Lifestyle & Heath Care

    • Smart Watch สำหรับผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องการฟังก์ชันการทำงานเยอะ ทำให้ไม่ต้องใช้ความเร็วมาก
    • เซ็นเซอร์ในบ้าน เช่น ระบบเปิด-ปิด หน้าต่าง, ระบบระบายอากาศในอาคาร, ระบบเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศผ่านอินเทอร์เน็ต

    paprika-2345580_1280

    Smart Farm 

    ให้ลองนึกถึงว่าการทำเกษตรแบบใหม่ ที่เราไม่ต้องไปรดน้ำเอง การดูแลพืชทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน มันก็ต้องเกิดขึ้นจากการใช้เซ็นเซอร์นับร้อยตัว เช่น เซ็นเซอร์วัดความชื่นในดิน สำหรับรดน้ำอัตโนมัติ เซ็นเซอร์วัดแสง สำหรับการเปิด-ปิดโรงเรือน เซ็นเซอร์วัดค่า E.C สำหรับวัดธาตุอาหาร เพื่อเตือนให้เราไปเติมธาตุอาหาร

    แน่นอนว่าการใช้งานลักษณะนี้พื้นจะกว้าง และ อุปกรณ์มีจำนวนเยอะ แต่อุปกรณ์เปล่านี้ก็ไม่ได้มีการส่งข้อมูลอะไรมากมาย ทำให้เหมาะที่จะใช้ NB-IoT ในการรับ-ส่งข้อมูล

    Infrastructure ระบบโครงสร้างพื้นฐาน 

    ระบบมิเตอร์น้ำประปา-ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ให้เราดูการใช้น้ำประปา-ไฟฟ้าแบบ Real Time ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้เลย

    Smart City  

    ระบบที่จอดรถอัจฉริยะที่เราสามารถจองที่จอดรถได้ผ่านแอปพลิเคชัน และ เมื่อขับไปถึงตัวไม้กั้นก็จะเปิดที่จอดรถให้เราแบบอัตโนมัติด้วย

    smart-home-2005993_1280

    แน่นอนว่าระบบทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้ ต้องใช้การทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ และ ในยุคที่ที่อย่างทำงานแบบไร้สาย การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับเราจำเป็นที่จะต้องอาศัยตัวกลางอย่างอินเทอร์เน็ตที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายในการรับส่งข้อมูล อย่างอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าเซ็นเซอร์หรืออุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ได้ต้องการรับ-ส่งข้อมูลในปริมาณมาก เช่น ส่งข้อมูลความชื้นในดิน ซึ่งข้อมูลมันก็ไม่ได้มีขนาดข้อมูลที่ใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่ด้วยปริมาณอุปกรณ์ที่เยอะ ทำให้หากนำไปใช้บน LTE จะเป็นการกินทรัพยากรมากจนเกินไป จึงหันไปใช้ NB-IoT แทน

    ในตอนนี้บ้านเรามีใครให้บริการแล้วบ้าง

    ตอนนี้ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการ NB-IoT แล้ว โดยเป็นของ true และ AIS โดยเป็นการวางระบบ NB-IoT ซ้อนอยู่บนระบบ LTE เดิม ทำให้กลายเป็นว่าในตอนนี้มีระบบออกมารองรับก่อน ส่วนอุปกรณ์จะตามมาในภายหลัง ส่วนรายละเอียดการขอใช้บริการให้ลองไปติดต่อที่ผู้ให้บริการของแต่ละค่ายดูละกันครับ

    hero

    ในอนาคตอุปกรณ์ IoT จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น และ ทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสะบายมากขึ้น ไม่แน่ว่าอีกหน่อยการทำเกษตรอาจจะเป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้ ทำที่ไหนก็ได้ และ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก แน่นอนว่าเบื้องหลังของสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจาก เทคโนโลยีต่างๆ มากมาย เช่น ตัวอย่างที่เราพูดถึงกันในวันนี้อย่าง NB-IoT ที่ผมเชื่อว่าช่วงประมาณต้นปี 2019 เราจะได้เริ่มมีสินค้าใช้กันมากขึ้น และตอนนี้ก็เริ่มมีอุปกรณ์ที่ใช้ NB-IoT เข้ามาแล้วอย่าง Apple Watch รุ่น LTE ที่ใช้ E-Sim แทนการใส่ซิมการ์ด และหลังจากนี้คงจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ออกมามากมายแน่นอนครับ

    ที่มา ais wikipedia u-blox gsma

    ภาพ Apple Pixabay

    4G LTE
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Masuo

    Related Posts

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    Samsung Galaxy S25 Edge มาแล้ว เปิดราคา 36,xxx บาง 5.8mm แต่แรงด้วย SD 8 Elite for Galaxy

    13 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจใช้ AI ช่วยประหยัดพลังงาน คาดใส่เข้ามาใน iOS 19

    13 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X