แนะนำแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S7 LTE ใส่ซิมได้ สเปคแน่นๆ แบตอึดตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ถ้าให้พูดถึงวงการตลาดแท็บเล็ต หลายคนก็คงจะต้องนึกถึงแบรนด์ที่มีแท็บเล็ตปล่อยออกมาอยู่ไม่กี่แบรนด์ และเชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมี Samsung อยู่ในตัวเลือกกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนที่หาแท็บเล็ตไว้ใช้งานทั่วไป ใช้ทำงานออกแบบ หรือใช้เพื่อการเรียนต่างๆ ก็ตาม เนื่องจาก Samsung นั้นมีแท็บเล็ตออกมาให้เลือกอยู่เยอะพอสมควร ตั้งแต่ช่วงปี 2020 จนมาถึงปี 2021 นี้ก็ยังมีออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ ทั้งรุ่นเริ่มต้นราคาประหยัด ไปจนถึงรุ่นตัวท็อปๆ ที่มีฟังก์ชัน และฟีเจอร์การใช้งานครบถ้วน และแท็บเล็ตอีกหนึ่งตัวของ Samsung ที่หลายคนให้ความสนใจกันเยอะมากรุ่นหนึ่งเลยนั่นก็คือ Samsung Galaxy Tab S7 LTE รุ่นรองท็อปที่เปิดตัวออกมาเมื่อต้นปี แถมยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์เหล่าสาวก หรือคนที่ต้องการใช้งานแท็บเล็ตทุกรูปแบบในราคาไม่สูงมากอีกด้วย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S7 LTE ตัวนี้กัน ว่ามีอะไรน่าสนใจ และมีสเปคเป็นอย่างไรบ้าง จะน่าใช้งานและคุ้มค่าต่อการใช้งานมากแค่ไหน ตามไปดูกันเลย
- รูปแบบการดีไซน์ตัวเครื่อง
- หน้าจอ 11 นิ้ว
- ชิปประมวลผล และการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้า และกล้องหลัง
- แบตเตอรี่ และราคา
- ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S7 LTE กับ Samsung Galaxy Tab รุ่นอื่นๆ
ดีไซน์บางเบา แต่แข็งแรงดูเรียบหรู
เริ่มกันที่การดีไซน์ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy Tab S7 LTE ที่ต้องบอกว่าทำออกมาได้สวยงามเหมือนเดิม ด้วยรูปทรงแบบเหลี่ยมและมีความโค้งมนที่ขอบตัวเครื่อง พร้อมลวดลายเล็กน้อยเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น มีความเบาบางด้วยวัสดุที่ใช้งานจะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด อีกทั้งยังใช้เทคนิคการทำสีอะโนไดซ์ที่ทำให้สีตัวเครื่องติดทนนาน จบด้วยการพ่นทรายระดับไมโครทำให้ได้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียนหรูหรามากยิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังจะเป็นโมดูลกล้องพร้อมกับแถบแม่เหล้กไว้สำหรับติดปากกา S-Pen กับกระจกหน้ากระจกแข็งพร้อมใช้งานทั้งนิ้วสัมผัสหรือ S-Pen ที่วาดเขียนลงไปได้อย่างอิสระ และด้วยหน้าจอที่ไม่ได้มีปุ่ม Home จึงทำให้เราได้ใช้งานกันอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น เอาจริงๆ ตัวเครื่องก็จะคล้ายๆ กับตัว S7+ เลย ต่างกันแค่ขนาดหน้าจอเท่านั้น รุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีคือ Mystic Navy, Mystic Black และ Mystic Bronze
หน้าจอกว้าง แถมยังไหลลื่นไม่มีสะดุด
เรื่องหน้าจอของ Samsung Galaxy Tab S7 LTE รุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ จะเป็นรองก็คงแค่รุ่น S7+ เรื่องขนาดกับสเปคจอ ที่รุ่นนี้มีจอแสดงผลเป็น LTPS LCD (TFT) แสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10+ พร้อมกับให้ความสว่างได้สูงสุด 500 nit บนขอบเขตสี DCI-P3 และยังมีการกระจายแสงสีฟ้าที่ต่ำอีกด้วย ทำให้เวลาใช้งานจะรู้สึกสบายตามากขึ้น แถมยังให้สีสันที่คมชัดสมจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะใช้ดูหนัง หรือว่าจะเป็นการออกแบบที่ต้องใช้สีสันที่ชัดเจน
นอกจากนี้หน้าจอยังมีอัตรา Refresh Rate ถึง 120Hz ช่วยให้การทำงานต่างๆ ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย เนื่องจากหน้าจอจะปรับให้ตามการใช้งานของเราเองเลย ถ้าใช้งานน้อยหน้าจอก็จะปรับให้การรีเฟรชน้อยลงตามไปด้วย ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นนั่นเอง ยิ่งถ้าใช้งานร่วมกับ S-Pen ปากกาอัจฉริยะของ Samsung ก็จะยิ่งรู้สึกได้ถึงความลื่นมากขึ้น ใช้ออกแบบผลงานได้อย่างไม่มีสะดุดไม่มีความหน่วง หรือจะใช้งานแบบ Air Actions ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งตัวปากกานี้ก็จะมีมาให้พร้อมเครื่องเลย ไม่จำเป็นต้องไปซื้อแยกให้วุ่นวาย จะมีที่จำเป็นต้องซื้อแยกเพื่อให้ใช้งานได้ดีมากขึ้นก็เพียง Book Cover Keyboard หรือเคสป้องกันเครื่องเท่านั้น
ชิปประมวลผลที่เร็วแรง และการเชื่อมต่อที่พร้อมใช้งานทุกเวลา
สำหรับชิปประมวลของรุ่นนี้ ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาให้เร็วแรงเหลือเชื่อด้วยพลังของ Snapdragon 865+ Octa Core บนความเร็ว 3.09 GHz และเสริมพลังด้วย GPU Adreno 650 จึงทำให้แท็บเล็ตตัวนี้เร็วกว่าเดิมถึง 25% ประมวลผลด้านกราฟิกเร็วขึ้น 36% ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหน ก็ต้องบอกได้เลยว่าเร็วแรงพร้อมรองรับทุกการใช้งานของจริง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ต้องใช้กราฟิกหนักๆ หรือว่าจะเกมที่ที่กินสเปคหนักแค่ไหน ตัวนี้ก็เอาอยู่ทั้งหมด แถมยังใช้งานได้พร้อมกันหลายๆ แอพได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหน่วงหรือช้าเลย
ยิ่งถ้ามองภาพรวมทั้งความไหลลื่นของหน้าจอ บวกกับความเร็วแรงของชิป และประสิทธิภาพด้านเสียงด้วยลำโพงสี่ตัว กับระบบเสียง Dolby Atmos บนมาตรฐานของ AKG ที่จะทำให้ทุกการดูหนังหรือเล่นเกมเหมือนอยู่ในโรงหนังใหญ่ๆ เลยก็เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตเทพๆ ตัวนึงเลยแหละ ส่วนความจำและความจุของรุ่นนี้จะมีมาให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่น RAM 8GB/ ROM 128GB และ RAM 8GB/ ROM 256GB ในราคาที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย หรือถ้าคิดว่ายังไม่พอก็สามารถเพิ่มความจุด้วย microSD Card สูงสุดถึง 1 TB จัดหนักจัดเต็มกันไปเลย
ส่วนการเชื่อมต่อของรุ่นนี้จะยังไม่สามารถใช้งาน 5G ได้ (ต้องเป็นตัว S7+ 5G เท่านั้น) แต่รุ่นนี้ก็สามารถใส่ซิม Nano-SIM ที่โทรเข้าออกและเล่นเน็ตบนความเร็ว 4G ได้ปกติ หรือจะเชื่อมต่อกับ WiFi ก็ทำได้หมด ที่น่าสนใจก็คือการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ของ Samsung ด้วยกันเอง ที่เราสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายๆ แถมยังสามารถส่งต่อข้อมูลกันได้อย่างรวดเร็วผ่าน Samsung Account ไม่ว่าจะจดบันทึกหรือแก้ไขไฟล์ต่างๆ บนแท็บเล็ตและส่งไปยังมือถือ หรือจากมือถือมาแท็บเล็ตก็ทำได้สบายๆ ไม่ขาดช่วง ที่สำคัญคือการเชื่อมต่อกับตัว Galaxy Buds Pro ที่มีเทคโนโลยี Dolby Head Tracking การติดตามการเคลื่อนไหวของเรา มาว่าเคลื่อนไหวแบบไหน เสียงก็จะตามไปด้วยเหมือนอยู่ในโรงหนัง ให้ความสมจริงเหนือขึ้นไปอีก
กล้องหน้า และกล้องหลัง
มาที่เรื่องของกล้องในตัว Samsung Galaxy Tab S7 LTE กันบ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นแท็บเล็ตแต่กล้องก็เป็นสิ่งสำคัญในการไม่ใช่น้อยเหมือนกัน โดยกล้องหลังของรุ่นนี้จะเป็นกล้อง 2 ตัวที่ความละเอียดเลนส์หลัก 13MP (ƒ/2.0) และเลนส์อัลตร้าไวด์ 5MP (ƒ/2.2) สามารถถ่ายได้ทั้งมุมแคบและมุมกว้าง พร้อมกับโหมดกลางคืนที่ช่วยเก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น และยังถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดที่ 8MP (ƒ/2.0) จะเอาไว้ประชุมงาน หรือนำเสนอเนื้อหาก็หายห่วง และยังสามารถสลับกล้องหลัง และกล้องหน้าได้ทันทีขณะบันทึกวิดีโอได้อีกด้วย
แบตเตอรี่ที่อึดจัด กับราคาที่คุ้มค่า
ปิดท้ายกันด้วยความจุแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Tab S7 LTE ที่ต้องบอกว่าอึดจริงจัง ด้วยความจุขนาด 8,000 mAh ที่สามารถอยู่ได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน ดูเนื้อหาวิดีโอได้ต่อเนื่องถึง 15 ชม. หรือถ้าแบตใกล้หมดก็เติมพลังต่อได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการรองรับ Super Fast Charging 45W ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอให้นาน ชาร์จเพียงไม่นานก็กลับมาสนุกต่อเนื่องได้แล้ว ถ้าใช้งานจริงๆ ก็สามารถอยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นอยู่แล้วด้วยความจุขนาดนี้ ส่วนราคาของรุ่นนี้จะมีให้เลือกสองรุ่นสองความจุได้แก่ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ที่นี่)
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 128GB ราคา 26,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 256GB ราคา 30,900 บาท
ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S7 LTE กับ Samsung Galaxy Tab รุ่นอื่นๆ
ข้อมูล\ รุ่น | Samsung Galaxy Tab S7 LTE | Samsung Galaxy Tab S6 Lite LTE | Samsung Galaxy Tab S7 FE LTE | Samsung Galaxy Tab S7 Plus LTE |
หน้าจอ | TFT กว้าง 11 นิ้ว | TFT กว้าง 10.4 นิ้ว | TFT กว้าง 12.4 นิ้ว | Super AMOLED กว้าง 12.4 นิ้ว |
ขนาด | 253.8 × 165.3 × 6.3 มม. | 244.5 × 154.3 × 7 มม. | 284.8 × 185 × 6.3 มม. | 285 × 185 × 5.7 มม. |
น้ำหนัก | 498 กรัม | 467 กรัม | 608 กรัม | 575 กรัม |
ชิปฯ | Snapdragon 865+ | Exynos 9611 | Snapdragon 750G | Snapdragon 865+ |
RAM | 8GB | 4GB | 4GB | 6GB |
ROM | 128GB/ 256GB | 64GB | 64GB | 128GB |
กล้องหน้า | 8MP | 5MP | 5MP | 8MP |
กล้องหลัง | 13MP + 5MP | 8MP | 8MP | 13MP + 5MP |
การเชื่อมต่อ | 3G, 4G, WiFi | 3G, 4G, WiFi | 3G, 4G, WiFi | 3G, 4G, WiFi |
แบตเตอรี่ | 8,000 mAh | 7,040 mAh | 10,090 mAh | 10,090 mAh |
ราคา | 30,900 บาท | 14,990 บาท | 19,990 บาท | 33,900 บาท |
และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคต่างๆ ของ Samsung Galaxy Tab S7 LTE ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งถ้าดูจากตารางการเปรียบเทียบแล้วจะเห็นได้ชัดเลย ว่ารุ่นนี้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะมากๆ หรือถ้าเทียบกับตัวที่มีสเปคใกล้เคียงกันอย่าง S7+ ก็จะเห็นได้ว่าจะมีส่วนที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครที่ต้องการใช้แท็บเล็ตที่หน้าจอไม่ได้ใหญ่มากเกินไป พกพาได้สะดวก และที่สำคัญคือฟังก์ชันที่มีให้ครบจบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะใช้เพื่อการเรียนแบบทั่วไป การจดบันทึกแก้ไขงาน หรือว่าจะใช้เพื่อออกแบบกราฟิกหนักๆ รุ่นนี้ก็ทำได้เป็นอย่างดีและเพียงพอต่อการใช้งานมากแล้ว ใครสนใจก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บหลักของ Samsung โดยตรงได้เลย หรือถ้าใครคิดว่าสเปคยังไม่หนักแน่นอนพอ ก็สามารถเพิ่มงบไปเป็นตัว S7+ รุ่น LTE หรือที่ใช้งาน 5G ได้กับหน้าที่ใหญ่กว่าก็ได้เหมือนกัน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก Samsung