แนะนำมือถือสมาร์ทโฟน Redmi Note 10 สเปคแรงเล่นเกมลื่นๆ หน้าจอใหญ่ กล้องสวยแถมได้แบตอึดจัด
ตั้งแต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เรามักจะได้ยินยี่ห้อมือถือชื่อใหม่ๆ ที่เป็น Smart Phone ขึ้นมากันอย่างคับคั่ง รวมไปถึงพวกยี่ห้อเก่าๆ ที่ได้รีแบรนด์หรือแตกแบรนด์ออกมาเป็นแบรนด์ย่อย แล้วเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่กันมากขึ้น อย่างยี่ห้อที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือ Xiaomi ที่ได้ทำแบรนด์ย่อยออกมาอยู่หลายอย่าง รวมไปถึงของตัวเองที่ได้ย่อลงเหลือแค่ Mi ด้วย แน่นอนว่าอีกแบรนด์ย่อยที่หลายคนรู้จักกันดี และได้ทำ Smart Phone ออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งสเปคที่เร็วแรง เล่นเกมได้ลื่นๆ กับหน้าจอที่ใหญ่และถ่ายรูปได้สวยๆ แถมยังมีราคาไม่แพงมากนั่นก็คือ Xiaomi Redmi ที่มีหลายรุ่นมากๆ ที่มีสเปคดีเทพ กับราคาที่พอจับต้องได้ง่าย ซึ่งรุ่นที่ฮอตฮิตมากที่สุดรุ่นหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น Redmi Note 10 Series ที่มีทั้งรุ่นหลัก และรุ่นย่อยในเรทราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4,999 ถึงรุ่นแพงสุดก็ยังไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทด้วยซ้ำ วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำมือถือสมาร์ทโฟน Redmi Note 10 กับสเปคที่เร็วแรงและสามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น หน้าจอกว้าง พร้อมกล้องถ่ายรูปได้สวยๆ และยังมีแบตที่อึดจัด ในราคาที่ไม่แพงมาก ไปดูกันเลยว่ามีรายละเอียดสเปคตรงไหนน่าสนใจบ้าง
- ภายนอกตัวเครื่อง
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผล
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- แบตเตอรี่ และราคาทั้งสองสเปค
- ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 10 กับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน
ดีไซน์ภายนอกตัวเครื่อง
เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ Redmi รุ่น Note 10 กันก่อนเลย ที่รุ่นนี้จะทำออกมาให้เป็นแบบเรียบหรู กรอบข้างจะเป็นวัสดุพลาสติก กับหน้าจอกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 มาพร้อมรูปแบบโค้งมนตรงปลายแบน และมีความเรียวบางที่ขอบของตัวเครื่อง ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีน้ำหนักเบามากเพียง 178.8 กรัมเท่านั้น ช่วยให้การพกพาหรือถือเล่นนานๆ จะไม่เมื่อยหรือปวดมือนั่นเอง นอกจากนี้โทนสีที่ใช้ก็จะเป็นโทนสีธรรมชาติเหลือบๆ เล่นกับสีได้อย่างลงตัว โดยมีมาให้เลือกถึง 3 สีคือ Lake Green, Pebble White และ Onyx Gray นอกจากนี้ยังสามารถปลดล็อคหน้าจอได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือจากด้านข้างตัวเครื่องแบบ Arc ที่ช่วยให้ปลดล็อคได้ง่ายขึ้น เพียงแค่หยิบขึ้นมามือเดียว แล้วแตะไปที่ข้างตัวเครื่องก็ปลดล็อคได้แล้ว ส่วนโมดูลกล้องหลังก็ไม่ได้ใหญ่มาก แถมออกแบบมาได้อย่างลงตัวของจริง
หน้าจอใหญ่ แถมยังสบายตา
หน้าจอของ Redmi รุ่น Note 10 จะทำออกมามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ใช้ได้เลย โดยหน้าจอจะเป็นแบบ DotDisplay ที่มีรูกล้องหน้าเพียงจุดเดียวเท่านั้น ไม่ทำให้รบกวนสายตาขณะใช้งาน และยังมีเซ็นเซอร์แสงที่ช่วยปรับความสว่างให้หน้า พร้อมกับโหมดอ่านสำหรับการอ่านหนังสือ และยังออกแบบมาเพื่อลดแสงสีฟ้าทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายตามากขึ้นนั่นเอง ส่วนการแสดงผลของหน้าจอจะเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+กว้าง 6.43 นิ้วและขอบเขตสีกว้างระดับ DCI-P3 ที่ช่วยให้หน้าจอมีสีสันหลากหลาย และสมจริงมากขึ้นตอนใช้งานอีกด้วย ที่สำคัญคือตัวนี้สามารถป้องกันฝุ่น และละอองน้ำได้ในระดับ IP53 ด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้ทุกอย่างแล้วในรุ่นเดียว
ชิปประมวลผลที่เร็วแรง
สำหรับชิปประมวลผลของ Redmi Note 10 ตัวนี้ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย ด้วยพลังของ Snapdragon 678 ความเร็ว 2.2 MHz บวกกับ GPU Adreno 612 จึงทำให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และยังช่วยปรับปรุง หรือจัดการการเล่นเกม ถ่ายรูป และอื่นๆ ด้วยความเร็วแรงพอตัวไม่แพ้รุ่นใหญ่เลย จุดที่น่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือเอฟเฟกต์การสั่นสะเทือนบนตัวเครื่องแบบแม่นยำ ที่จะทำให้การเล่นเกม หรือการใช้งานอื่นๆ ที่มีการสั่นจะสมจริงมากยิ่งขึ้นตามรูปแบบการใช้งานของเราเอง พร้อมกับลำโพงคู่และเสียงระดับ Hi-Res ที่ทำให้การดูหนังหรือเล่นเกมสมจริงด้วย ส่วนหน่วยความจำ (RAM) และความจุ (ROM) ของรุ่นนี้จะมีมาให้เลือกสองรุ่นคือ RAM 4GB/ 6GB และ ROM 64GB/ 128GB โดยทั้งสองรุ่นจะมีราคาต่างกันแค่เพียงหลักพันเท่านั้น
กล้องหน้าและกล้องหลัง
ส่วนสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้น่าใช้งานอีกอย่างนึงก็คือเรื่องของกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่เอาจริงๆ จะหาสมาร์ทโฟนในราคาไม่แพงมาก แต่ได้สเปคที่ครบตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบรุ่นนี้ก็คงจะมีให้เลือกน้อยแน่นอน โดยกล้องหน้าของตัวนี้จะมีความละเอียด 13MP (ƒ/2.45) ที่มี AI Beautify และโหมดแนวตั้ง AI พร้อมโบเก้และการควบคุมระยะชัดลึก ทำให้เราสามารถถ่ายเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอได้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และยังถ่ายแบบ Time Lapse ด้วยกล้องหน้าในระดับ HD ได้อีกด้วย
ส่วนกล้องหลังก็จัดหนักมาให้ถึง 4 ตัวที่ความละเอียดเลนส์หลัก 48MP (ƒ/1.79) เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) มาโคร 2MP (ƒ/2.4) และเลนส์ระยะชัดลึกอีก 2MP (ƒ/2.4) พร้อมแฟลช LED จะถ่ายระยะใกล้ หรือจะถ่ายมุมกว้างก็ทำได้ทั้งหมด หรือถ้าอยากจะหยิบมาถ่ายตอนกลางคืนก็แค่เปิดโหลดกลางคืน ก็สามารถเก็บแสงและรายละเอียดต่างๆ ได้ครบหมดแล้ว นอกจากนี้ยังมีโหมดแนวตั้ง AI ที่โฟกัสหน้าบุคคลและจัดการกับพื้นได้สวยๆ หรือว่าใครเป็นสายทำคอนเทนต์จะถ่ายทำก็ทำได้ถึงระดับ 4K กันเลยทีเดียว แถมเลนส์มาโครก็ยังสามารถ่ายโหมดวีดีโอได้อีก อย่างที่บอกไปเลยว่าจะมีรุ่นไหนที่จัดเต็มมาให้ขนาดนี้ กับราคาที่ไม่แพงมากได้เท่ากับรุ่นนี้ก็คงน้อย
แบตเตอรี่ และราคาทั้งสองสเปค
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องสำคัญในการใช้งานอย่างแบตเตอรี่ ที่รุ่นนี้มีความจุมาแบบเต็มๆ 5,000 mAh พร้อมกับพลังของ Mi TURBO CHARGE ที่ช่วยให้การชาร์จแบตนั้นกลับมามีพลังได้ในเวลาอันสั้น โดยใช้เวลาเพียง 25 นาที ก็สามารถชาร์จกลับมาได้มากถึง 50% แล้ว และยังรองรับ Fast Charge ได้สูงสุดถึง 33W ซึ่งความจริงแบตกับชิปที่ช่วยประหยัดพลังงานก็ช่วยให้เราใช้งานได้เต็มวันอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้งานหนักๆ จนแบตหมดไปก่อนก็ไม่ต้องกังวล เพราะยังมี Fast Charge ที่ช่วยให้เราสามารถกลับมาใช้งานได้ในเวลาไม่กี่นาที ไม่ต้องเสียเวลารอกันนานอีกต่อไป ส่วนราคาของรุ่นนี้จะมีอยู่ 2 รุ่นย่อยที่มี RAM กับ ROM ต่างกันสองสเปค มีราคาดังนี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่) หรือถ้าซื้อจากร้านค้าออนไลน์ก็อาจจะมีราคาที่ถูกลงไปกว่านี้นิดหน่อย
- รุ่น RAM 4GB ROM 64GB ราคา 4,999 บาท
- รุ่น RAM 6GB ROM 128GB ราคา 5,999 บาท
ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 10 กับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน
รุ่น\ ข้อมูล | หน้าจอ | ชิปประมวลผล | กล้องหน้า | กล้องหลัง | RAM/ ROM* | แบตเตอรี่ | ราคา* |
Redmi Note 10 | AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว | Snapdragon 678 | 13MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4GB/ 64GB | 5,000 mAh | 4,999 บาท |
Redmi Note 10 5G | IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้ว | Dimensity 700 5G | 8MP | 48MP + 2MP + 2MP | 4GB/ 128GB | 5,000 mAh | 5,999 บาท |
Redmi 10 | IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้ว | Helio G88 | 8MP | 50MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4GB/ 64GB | 5,000 mAh | 4,999 บาท |
Redmi 9T | IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว | Snapdragon 662 | 8MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4GB/ 64GB | 6,000 mAh | 4,499 บาท |
โดยรวมแล้ว Redmi Note 10 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่สามารถซื้อมาใช้งานได้ทุกรูปแบบของจริง ไม่ว่าจะซื้อมาเล่นเกม เน้นถ่ายรูป หรือว่าจะใช้งานแบบทั่วไปก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญคือราคาที่ไม่แพงมาก แต่ได้สเปคขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แล้ว ส่วนใครที่อยากจะอัพเกรดขึ้นไปจากรุ่นนี้ก็ยังมีตัวอื่นใน Series ของ Note 10 อยู่ด้วยเช่น Note 10 Pro, Note 10 5G และ Note 10s ที่ได้ปล่อยออกมาให้เห็นกันแล้ว โดยแต่ละรุ่นก็จะมีสเปคที่แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สำหรับใครที่มองหามือถือมาใช้งานแบบสเปคแรงๆ เล่นเกมได้สบายๆ พกพาได้สะดวกเล่นได้ต่อเนื่องยาวๆ และมีราคาไม่เกินหนึ่งหมื่น แนะนำว่ารุ่นนี้คุ้มค่ากับการใช้งานมากที่สุดรุ่นนึงเลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก mi.com