แนะนำสมาร์ทโฟน OPPO A53 ราคาล่าสุดเพียง 6,499 บาทจอใหญ่ไหลลื่น 90Hz เล่นเกมได้พร้อมแบตอึด

แนะนำสมาร์ทโฟน OPPO A53 ราคาล่าสุดเพียง 6,499 บาทตัวท็อป จอใหญ่ไหลลื่น 90Hz เล่นเกมได้สบาย พร้อมแบตอึด

หลังจากที่เราได้แนะนำมือถือในราคากลางๆ ที่สามารถจับต้องได้ในราคาไม่เกินหมื่นกันไปสองสามรุ่น ซึ่งมีทั้งรุ่นเก่าที่ออกมาหลายปี และรุ่นใหม่ที่ออกมาช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ก็เชื่อว่าหลายๆ คนก็อาจจะยังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กว่านั้นอีก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าใครๆ ก็ต้องอยากได้มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ดูไม่ตกรุ่นกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่มีราคาไม่แพง แถมยังได้สเปคแบบจัดหนักจัดเต็ม ก็ยิ่งทำให้รุ่นนั้นดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ซึ่งสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งแบรนด์ที่เพิ่งปล่อยรุ่นใหม่ออกมาหมาดๆ ในเดือนนี้ก็คือ OPPO ที่ปล่อยตัว A53 รุ่นสเปคใหม่ออกมาเพียงไม่นาน โดยสเปคเดิมได้เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งรุ่นใหม่นี้ก็ได้มีการวางขายอย่างเป็นทางการ บนเว็บร้านค้าออนไลน์หลักของ OPPO อยู่ด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือ OPPO รุ่นใหม่ ที่มีราคาไม่แรง มีหน้าจอใหญ่ เล่นเกมได้ พร้อมสเปคที่ใช้งานได้ดีมาก วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำสมาร์ทโฟน OPPO A53 รุ่นใหม่ในราคาล่าสุดเพียง 6,499 บาทเท่านั้นในรุ่นใหม่นี้ พร้อมกับสเปคเครื่องต่างๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างกับรุ่นใหม่นี้ ไปดูกันเลย

• การดีไซน์
• หน้าจอ
• ชิปประมวลผล
• กล้องหน้าและกล้องหลัง
• แบตเตอรี่ และราคาล่าสุด
• ตารางเปรียบเทียบ OPPO A53 กับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน

ดีไซน์เบาบาง พร้อมสีสันที่สวยดั่งคลื่นทะเล

เริ่มต้นกันที่การดีไซน์อันสวยงามของ OPPO A53 ตามหัวข้อที่บอกก็ไม่ได้เกินความจริงไปเท่าไหร่นัก เพราะว่ารุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้ตัวเครื่องนั้นมีความเบาบาง โดยใช้วัสดุเป็นพลาสติกและมีหน้าจอเป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 ให้ความแข็งแรง พร้อมกับน้ำหนักที่เบาเพียง 186 กรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีการออกแบบมาให้เราสามารถถือได้แบบพอดีมือ ไม่ได้ดูใหญ่เทอะทะจนเกินไป ส่วนฝาหลังของตัวนี้จะเป็นแบบมันวาว และได้ออกแบบลวดลายฝาหลังตามแสงประกายของลูกคลื่น ที่มีแสงสะท้อนแวววาวออกมา กับโมดูลกล้องขนาดกำลังดีไม่ได้นูนออกมาจนเกินไป และมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ฝาหลัง ช่วยให้สามารถสแกนเพื่อปลดล็อคได้ง่ายขึ้น เพียงแค่แตะที่ฝาหลังเมื่อหยิบขึ้นมาใช้งาน รุ่นนี้จะมีสีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ สีน้ำเงิน (Fancy Blue), สีดำ (Electric Black), สีเขียวมิ้นต์ (Mint Cream) แต่รุ่นใหม่นี้จะมีแค่สองสีคือสีดำ และสีเขียวมิ้นต์ รับรองว่าสวยทุกเฉดสีเลยถ้าได้ลองสัมผัสตัวจริง

หน้าจอไหลลื่น ไม่มีสะดุด

ใครที่ชอบหน้าจอแบบไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบทั่วไป เล่น Social Media หรือว่าจะเป็นการเล่นเกม รุ่นนี้ก็ได้ทำออกมาตอบโจทย์การใช้งานตรงนี้และเป็นจุดเด่นของตัวนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้วขนาดกำลังดี ซึ่งหน้าจอจะมีรูสำหรับกล้องหน้าอยู่ที่มุมซ้ายบน (ไม่ได้อยู่ตรงกลาง) ช่วยให้ไม่รบกวนการมองเห็นขณะใช้งาน หรือว่าเล่นเกมได้ดีเลย ที่สำคัญก็คือรุ่นนี้มีอัตรา Refresh Rate ถึง 90Hz พร้อมกับมี Touch-Sensing สูงถึง 120Hz หายห่วงเรื่องควาหน่วงตอนปัดหน้าจอไปมา ช่วยให้หน้าจอลื่นขึ้นกว่าปกติเยอะมาก จะดูวิดีโอ เล่นเกม หรือเล่นโซเชียลก็เล่นได้ลื่นๆ ไม่มีสะดุดแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ไอคอน Pull-Down Gesture ที่ช่วยให้การใช้งานแบบมือเดียวสะดวกได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถือว่าน่าสนใจมากๆ กับมือถือที่ราคากลางๆ แต่ได้สเปคโหดขนาดนี้

ชิปประมวลผลก็มาแรงไม่แพ้กัน

มาที่เรื่องของหัวใจของตัว OPPO A53 ที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน ด้วยความเร็วแรงของขุมพลังชิป Snapdragon 460 Octa Core ความเร็ว 1.8 GHz และเสริมด้วยกราฟิก Adreno 610 บนระบบการปฏิบัติการ ColorOS 7.2 บนพื้นฐานของ Android 10 จึงทำให้เราสามารถเล่นเกม ดูหนัง หรือสนุกไปกับการใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด หมดปัญหาเรื่องอาการค้างเมื่อใช้งานไปได้เลย แถมยังช่วยประหยัดพลังงานได้ดีอีกด้วย

ซึ่งรุ่นนี้จะมีสองสเปคให้เลือกคือ RAM 4GB กับความจุสองขนาดคือ 64GB และรุ่นใหม่ที่ออกมาจะเป็น ROM 128GB โดยรุ่น 64GB ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะขาดตลาดไปแล้ว และเราก็แนะนำว่าให้ซื้อรุ่นใหม่ไปเลยดีกว่า เพราะว่าจะได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอนนี้ก็มีราคาที่ไม่ได้แรงมากด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่อัพสเปคขึ้นมาก็ตาม นอกจากนี้ก็ยังมีลำโพงสเตอริโอคู่ ที่ให้พลังเสียง 3D รอบทิศทางและระบบเสียงอัตโนมัติอย่าง Dirac ที่ช่วยให้การฟังเพลงได้ดีมากขึ้นไปอีก

กล้องหน้าและกล้องหลัง

มาที่เรื่องกล้องของ OPPO A53 กันบ้าง ที่ต้องบอกตามตรงว่ารุ่นนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เน้นกล้องมากเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะถ่ายได้ไม่สวยนะ เพียงแต่ว่ายังไม่ได้ทำออกมาเพื่อการถ่ายรูปเท่านั้นเอง โดยกล้องหน้าของรุ่นนี้จะมีความละเอียด 16MP (ƒ/2.0) ที่มาพร้อมกับเลนส์แบบ 5P และยังมี AI beautification ที่ช่วยให้การเซลฟี่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ หรือใครที่ชอบหน้าชัดหลังเบลอก็มี portrait bokeh effect มารองรับการใช้งานด้วยเช่นกัน

ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้จะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียดเลนส์หลัก 13MP (ƒ/2.2) ที่เป็นเลนส์แบบ เลนส์แบบ 5P สามารถซูมแบบดิจิตอลได้มากถึง 6 เท่าเลยทีเดียว และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (ƒ/2.4)กับเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP (ƒ/2.4) ที่สามารถถ่ายได้ใกล้สุดเพียง 4 ซม. หรือใครเป็นสายธรรมชาติก็มี Dazzle Color mode ที่ให้สีสันสวยงาม หรือจะใช้ฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบเพื่อถ่ายบุคคลหรือถ่ายวิวก็ทำออกมาได้ดีอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เน้นมาเป็นหลัก แต่ก็สามารถถ่ายได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกันเลย

แบตเตอรี่ และราคาล่าสุด

ปิดท้ายกันด้วยความจุของแบตเตอรี่ที่มีมากถึง 5,000 mAh ที่มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน โดยจะเป็นการช่วยยืดระยะและเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อแบตใกล้หมดด้วยโหมด Sleep Standby ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและนานมากขึ้น หรือถ้าแบตใกล้หมดแล้วอยากจะชาร์จในเวลาเร่งรีบก็หายห่วง ด้วยการรองรับ Fast Charging 18W ช่วยประหยัดเวลาไปได้อีกเยอะ ซึ่งพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ก็รองรับ USB OTG เพื่อการเชื่อมต่อและย้ายข้อมูลได้เร็วไวอีกด้วย ส่วนราคาของรุ่นนี้จะมีราคาให้เลือกอยู่สองรุ่น โดยรุ่นเก่าที่เปิดตัวมาปลายปีที่แล้วและฮิตมากๆ ก็ต้องหาซื้อจากร้านค้าออนไลน์ ที่อาจจะยังมีขายอยู่บ้าง ส่วนรุ่นใหม่จะยังมีวางขายอยู่บนร้านค้าออนไลน์ของ OPPO มีราคาแบ่งตามรุ่นดังนี้ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่นี่

• รุ่น RAM 4GB ROM 64GB ราคา 5,499 บาท
• รุ่น RAM 4GB ROM 128GB ราคา 6,499 บาท (ใหม่)

ตารางเปรียบเทียบ OPPO A53 กับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคทั้งหมดของ OPPO A53 ราคาล่าสุด และสเปคการใช้งานต่างๆ ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ด้วยความใหม่ของตัวเครื่อง และรูปแบบการดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมกับสเปคที่จัดมาให้แบบเต็มๆ ในราคาที่ไม่แรงมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นท็อปก็ยังมีราคาเพียงครึ่งหมื่นเท่านั้น ใครที่กำลังมองหามือถือของ OPPO อยู่ในงบที่ไม่เกิน 7,000 บาทแนะนำว่ารุ่นนี้เหมาะมากกับการใช้งานแบบทั่วไป หรือจะเน้นเล่นเกม ดูหนังฟังเพลงก็ทำได้ลื่นๆ ด้วยหน้าจอ 90Hz ส่วนการถ่ายรูปก็อย่างที่บอกไปเลยว่ารุ่นนี้จะยังไม่ได้เน้นการถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถถ่ายออกมาได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายมุมกว้าง หรือมุมใกล้ๆ ก็ทำได้ดีเหมือนกัน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่านใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ

ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก OPPO